ตอนที่ 77 ฉันยังไม่ใช่ภรรยาของคุณสักหน่อย

รักครั้งแรกของคุณชายปีศาจ

บทที่77 ฉันยังไม่ใช่ภรรยาของคุณสักหน่อย

มู่เทียนซิงรู้สึกได้ถึงความเย็นที่รอบคอของเธอ เมื่อเธอกำลังจะเอนคอมองดูกลับมองไม่เห็นอะไร เนื่องจากสร้อยคอนั้นสั้นเกินไป จี้บนสร้อยแนบอยู่ที่ใกล้คางของเธออย่างพอดี

หลังจากนั้นต่อมา หลังคอของเธอก็ร้อนฉ่า!

เธอตัวแข็งทื่อ!

ริมฝีปากอันอบอุ่นของหลิงเล่แนบลงบนหลังคอขาวนุ่มของเธอ หลังจากหยุดอยู่อย่างนั้นสองวินาที ใบหน้าของมู่เทียนซิงก็กลายเป็นสีแดงก่ำ ทำให้หนีหย่าจูนต้องปิดตาของเขาอย่างไร้คำพูด “คุณปู่เคยสอนฉัน ในความเงียบ: “ปู่ของฉันสอนให้ฉัน ห้ามมองเรื่องผิดศีลธรรม!”

“คุณ คุณอา!”

มู่เทียนซิงได้ยินคำพูดของหนีหย่าจูนก็อยู่ไม่สุขขึ้นมา!

ในขณะที่เธอกำลังดิ้นรนเพื่อลงจากตัวของหลิงเล่ ผู้ชายคนนี้ยังคงคว้าโอกาสจูบเข้าที่แก้มของเธอเข้าให้อีกฟอด!

“แค่กแค่ก พี่หย่าจูน พวกคุณต้องการดื่มอะไร?”

เธอรีบจัดระเบียบกระโปรงตัวน้อยๆ จากนั้นจึงนั่งตัวตรง เมื่อเห็นว่าหนีหย่าจูนวางมือใหญ่ลงมา เธอก็พูดขึ้นอีกอย่างรวดเร็ว “ต้องการดื่มไวน์ไหม? ขาวหรือแดง? หรือเบียร์?”

หนีหย่าจูนยิ้มเบา ๆ

ไวน์ที่สามารถเข้าปากเขาได้ ต่อให้เป็นร้านหม้อไปที่โด่งดังที่สุดในเมืองก็ไม่มีทางมีได้

เขามองหลิงเล่ และพบว่าดวงตาของหลิงเล่กลับจ้องอยู่ที่มู่เทียนซิงเหมือนเสือที่ยังไม่ได้รับการเติมเต็มความปรารถนา

หนีหย่าจูนจู่ๆก็รู้สึกอยากจากไปที่นี่ขึ้นมาทันที อยู่ตรงนี้เขาคล้ายจะเป็นหลอดไฟ ยิ่งไปกว่านั้น หลิงเล่ก็เป็นพี่ของเขา ไม่ง่ายนักที่จะมีสิ่งที่ชอบขึ้นมาสักอย่าง อย่างไรเสียเขาก็ควรช่วยเหลือ

“แค่กแค่ก” เขาส่งสายตาไปให้หลิงเล่ คิดหาข้อแก้ตัวที่จะกลับไป

แต่หลิงเล่กลับส่งสายตาเอ่ยเตือนกลับมา ดังนั้นเขาจึงได้นั่งอย่างว่าง่าย

ลองคิดในทางกลับกันดู ก็ใช่ สาวน้อยคนนี้ความคิดเรียบง่าย เมื่อคิดที่จะขอบคุณตนเอง หากตัวเองไปจริงๆ สาวน้อยคงเป็นกังวลอย่างยิ่งแน่

ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มน้อยๆ และพูดว่า “เมื่อเทียบกับไวน์แล้ว ฉันสนใจสร้อยคอบนคอของเธอมากกว่า นั่นเป็นไพลินจากศรีลังกา อันที่อยู่บนคอของซือซ่าว น่าจะมีหนึ่งกะรัต ส่วนที่อยู่บนคอของคุณน่าจะมีประมาณ 0.8กะรัต?”

ตระกูลหนีเริ่มต้นจากการผลิตเครื่องประดับ หนีหย่าจูนได้ฟังมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นจึงเป็นผู้เชี่ยวชาญโดยธรรมชาติ

มู่เทียนซิงรู้สึกประหลาดใจในตอนแรก ก่อนจะหัวเราะ “พี่หย่าจูน! พี่ช่างเก่งมาก! นี่เป็นไพลินศรีลังกาจริงๆ เป็น”

กล่าวไปได้ครึ่งหนึ่ง มู่เทียนซิงก็หยุดกึก!

ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเธอถูกปกคลุมไปด้วยเมฆดำในทันที เธอขมวดคิ้วแล้วมองหลิงเล่ด้วยสีหน้าโกรธแค้น “ปลอกคอที่ฉันซื้อให้เจินเจิน! คุณเอามาสวมให้ฉันได้ยังไง?”

หลิงเล่สบตาเธอด้วยสายตาอันอบอุ่น จากนั้นจึงเปิดปากอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว “เธอยังกล้าจะพูดถึงอีก? จับคู่ผู้ชายของตัวเองเข้ากับแม่แมว เธอยังสามารถทำมันได้จริงๆเลย!

“แค่ใส่สร้อยคอก็เป็นการจับคู่แล้ว? คุณอา สร้อยคนอันนี้บนโลกนี้ไม่ได้มีแค่คู่เดียวสักหน่อย ยังมีคนอีกมากมายที่จะซื้อมัน หรือว่าคนที่ซื้อมันทุกคนล้วนเป็นคู่กันหรือไงคะ คุณทำตัวเป็นนวนิยาย NPไปได้?”

“ขาฉันไม่ดี แต่ไม่ได้แปลว่าสมองจะแย่! เธอลองออกไปถามใครดูก็ได้ มีภรรยาที่ไหนกันที่จะออกไปซื้อสร้อยสองเส้นมาจากห้างแล้วเส้นหนึ่งส่งให้สามี ส่วนอีกเส้นส่งให้แม่แมวที่เลี้ยงเอาไว้ในบ้าน?”

“ฉันยังไม่ใช่ภรรยาของคุณสักหน่อย!”

“เร็วๆนี้เธอก็เป็นแล้ว!”

“แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่! ยังไม่ใช่ในตอนที่ฉันมอบสร้อยให้คุณ!”

“นั่นแหละ เป็น! เธอเป็น!”

ในขณะที่ทั้งสองคนทะเลาะกันไปมา น้ำเสียงทุ้มของชายหนุ่มก็สอดขึ้นมา “อะไรคือนวนิยาย NP?”

มู่เทียนซิงโพล่งออกมา “ก็นวนิยายรักโรแมนติกประเภทที่มีหญิงหนึ่งชายหลายคน ไม่ก็ชายหนึ่งหญิงหลายคนอะไรแบบนั้น!”

พอเธอตะโกนเสร็จ โลกก็เงียบสงบลง!

ใบหูของหนีหย่าจูนเป็นสีแดงระเรื่อ เขาทำตัวไม่ถูกแต่ก็อดหัวเราะเบาๆขึ้นมาไม่ได้

สีหน้าของหลิงเล่มืดคล้ำลงอย่างสมบูรณ์ แม้กระทั่งอากาศก็ดูเหมือนว่าจะมีเสียงกัดฟันดังขึ้นมา

กึก!

กึก!

กึก!

มู่เทียนซิงมองไปที่ต้นกำเนิดของเสียงเพื่อไปดูนิ้วที่กำแน่นของหลิงเล่อย่างอดไม่ได้ อีกทั้งยังสบเข้าให้กับดวงตาที่กำลังมีพายุฝนมืดครึ้มก่ออยู่ด้านใน แน่ใจว่าไม่ได้ตาฝาดไป!

“หญิงหนึ่ง ชายหลายคน?”

ราวกับหลิงเล่กำลังขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “เธอยังดูเรื่องราวไร้สาระอะไรแบบนี้อยู่อีก?”

“แค่กแค่ก เอ่อ ชีวิตนักเรียนน่าเบื่อเกินไป ดังนั้นก็เลยดูฆ่าเวลา เวลาว่างๆไม่มีอะไรทำ”

เสียงของมู่เทียนซิงยิ่งพูดยิ่งต่ำลง เห็นชัดว่ากำลังขาดความมั่นใจ

นั่นเพราะในนิยายที่เธออ่านนั้น มีหลายเรื่องที่เป็นสำหรับพวกผู้ใหญ่

อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ไม่ได้ทำลายเธอจากการเป็นเด็กดีและบริสุทธิ์นะ!

“ชีวิตน่าเบื่อเกินไป? ฆ่าเวลา? อืม?”

หลิงเล่จ้องเธอ สายตาของเขาแทบอยากจะกลืนเธอเข้าไปได้แล้ว!

ทุกวันไปเรียนในชั้นเรียน ชีวิตช่างยุ่งวุ่นวายและมีกฎระเบียบ แต่เธอก็ยังรู้สึกเบื่อและไปอ่านนวนิยายแบบนั้น นี่ไม่ได้แสดงออกว่า หลังจากแต่งงาน หากเขาทิ้งเธอไปทำงานที่อื่นสักสามวันห้าวัน เธอคงไปทำตัวเป็นดอกซิ่งแดงยื่นออกนอกกำแพงไปหาชายอื่นหรอกหรือไง?

ต้องบอกว่า โลกของหลิงเล่ เรื่องของชายหญิงนั้นเป็นเรื่องที่บริสุทธิ์อย่างยิ่ง อีกทั้งมุมมองความรักของเขายังแสนจะบริสุทธิ์ไร้ราคีใดๆอีกด้วย

ชายหญิงจับมือกันเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ ในสายตาของเขามันกลายเป็นเรื่องที่จริงจังอย่างมาก!

ผู้หญิงที่เขารัก จะต้องเป็นของเขาตั้งแต่บนจรดล่าง เส้นผมทุกเส้นจรดขนนิ้วเท้า ไม่อนุญาตให้ชายคนไหนเข้ามาทำให้แปดเปื้อนได้!

และเขาก็ปฏิบัติตามขอเรียกร้องนี้ต่อตัวเองด้วยเช่นกัน เขาชอบมู่เทียนซิง ดังนั้นตั้งแต่บนจรดล่าง เส้นผมทุกเส้นจรดขนนิ้วเท้า ล้วนเป็นของมู่เทียนซิง ไม่มีผู้หญิงคนใดได้รับอนุญาตให้มาแปดเปื้อนได้!

ในพริบตา หลิงเล่ก็ได้ทำการตัดสินใจที่สำคัญมากในใจของเขา ยิ่งไปกว่านั้น เขายังบอกการตัดสินใจนี้กับมู่เทียนซิงอย่างตรงไปตรงมา “มู่เทียนซิง นับจากวันนี้ไป พวกเราจะต้องพบกันทุกวัน ถ้าฉันจะจากไหน เธอก็ต้องตามไปด้วย เป็นเงาของฉันไม่ห่าง ส่วนเรื่องทางกายภาพ หากเธอต้องการอะไร ให้รีบบอกฉัน ฉันจะทำมันให้เธอ! ดังนั้น พวกนิยายไร้สาระพวกนั้นจงเอามาให้ฉันกำจัดมันทิ้งไปซะ!”

ไม่ให้ดู!

ก็คือไม่ให้ดู!

ยังมีหญิงหนึ่งชายหลายคน? ต้องต่อต้านเธอ!

คำพูดนี้ของเขา ทำเอามู่เทียนซิงแปรเปลี่ยนเป็นแข็งนอกอ่อนใจขึ้นมา !

เธอก็แค่อ่านนิยายเองไม่ใช่หรอกเหรอ? เธอจะมีความต้องการทางกายภาพอะไรได้อย่างไร? ทำไมเธอจู่ๆเธอถึงได้กลายเป็นผู้หญิงหิวกระหายขึ้นมา?

จากนั้นเธอจึงเหลือบมองไปที่หนีหย่าจูนที่กำลังก้มหน้าหัวเราะ ทันใดนั้นเธอก็โมโหขึ้นมาทันที!

มือเล็กๆอันแสนอ่อนนุ่มของเธอทุบลงบนโต๊ะอย่างแรง จากนั้นร่างเล็กที่มีส่วนโค้งส่วนเว้างดงามก็ลุกขึ้นยืน “พี่สาวอย่างฉันไม่ได้หิวกระหายอะไรขนาดนั้น!หลิงเล่ สมองคุณมีปัญหาหรือเปล่า? บนโลกนี้มีคนหนุ่มสาวที่อ่านนิยายอยู่มากมายถมเถ ทุกคนล้วนมีความต้องการทางกายภาพหรือยังไงกัน? ทำไมความคิดของคุณถึงได้ซับซ้อนขนาดนั้น?”

หลิงเล่ทำแค่มองเธออย่างเย็นชา “เธอดูนิยายหนึ่งหญิงหลายชาย ยังมาบอกว่าฉันซับซ้อน นี่มันคนผิดชิงตัดหน้าแก้ต่างชัดๆ กลับขาวเป็นดำ ไม่รู้จักละอาย ก็คือท่าทางของเธอเองนั่นแหละ!”

เธอโกรธแล้วจริงๆ “ฉันไม่ได้ดูหนังAสักหน่อย! ที่ฉันอ่านคือนิยายรัก สูงส่ง บริสุทธิ์ และยิ่งใหญ่! ก็มันเหมือนนิยายที่เขียนโดย โล่ซินเฉิน!”

คราวนี้ ถึงตาของหลิงเล่ที่เริ่มสับสน เขาเริ่มถามตาปริบขึ้นมา “หนังA คืออะไร?”

มู่เทียนซิง “.”

ทันใดนั้นหนีหย่าจูนที่นั่งนิ่งก็กระโจนขึ้นมา แต่เขาก็ยังเอ่ยปากเบาๆ เพื่อช่วยอธิบาย “ภาพยนตร์ที่เรียกว่าหนังA หมายถึงภาพยนตร์เพื่อการศึกษาของคนวัยหนุ่มสาว เป็นการสอนเรื่องความสมดุลของหยินและหยางระหว่างผู้ชายและผู้หญิงโดยเฉพาะ”

เวลานี้ ใบหน้าของหลิงเล่ดำคล้ำมากขึ้น “มู่เทียนซิง! อธิบายให้ฉันฟังหน่อยสิ ว่าทำไมเธอถึงรู้เรื่องแบบนี้?”