ตอนที่ 81 ปล่อยข่าว
แต่ป้าหวงที่มองดูอยู่นั้นรู้สึกหมดความอดทน ในหมู่บ้านไม่ควรจะมีผู้หญิงไร้ยางอายเช่นนี้!
“เจียวเจียว เจ้ากลับไปเถิด! พวกเราจะได้สร้างบ้านให้เสร็จเร็ว ๆ ผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างเถียนเถียนลําบากนัก จะได้รีบย้ายออกมาและหลุดพ้นจากหลินชวนฮวาสักที!”
แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรืออยู่นอกบ้าน เฉินเจียวเจียวมักจะเอาแต่ใจตัวเองอยู่เสมอ!
เมื่อได้ยินเช่นนี้จึงกลอกตาไปมาอย่างไม่สบอารมณ์
“ท่านป้า หาใช่ธุระอันใดของท่านไม่ พ่อของนางไม่สนใจก็ย่อมต้องลําบากอยู่แล้ว จะทําเยี่ยงไรได้นอกเสียจากต้องอดทน!”
คนส่วนใหญ่ที่มาช่วยต่างก็เป็นคนที่ปรารถนาดีจริง ๆ เงินแค่ยี่สิบตําลึงสําหรับสร้างบ้านนั้นน้อยนิด แม้ว่าหัวหน้าหมู่บ้านจะจัดสรรงบประมาณอย่างระมัดระวังก็ยังถือว่าแย่ ดังนั้นค่าจ้างของทุกคนจึงได้ไม่สูงนัก!
ในตอนนี้เป็นช่วงต้นฤดูทํานาที่แสนจะวุ่นวาย แต่ละครอบครัวต่างก็งานยุ่ง การมาช่วยสร้างบ้านหลังนี้ ไม่ใช่เพราะหัวหน้าหมู่บ้านขอร้องให้มาช่วย แต่พวกเขามาด้วยใจที่ปรารถนาดีอย่างแท้จริง
ทุกคนตรงนี้ล้วนเป็นคนจิตใจดี แต่เมื่อได้ยินคําพูดของ เฉินเจียวเจียว ทั้งหมดพลันรู้สึกรังเกียจนางอยู่ในใจ!
“เจียวเจียว หากเจ้าไม่ได้มาเพื่อช่วยก็รีบกลับไปซะ ถึงอย่างไรเจ้าก็มิได้ชอบเถียนเถียนนัก ต่อไปก็ไม่ต้องมาที่นี่ให้เสียเวลา!”
เฉินผิงเหอไม่แม้แต่จะกล่าวถึงเรื่องค่าจ้างเลยด้วยซ้ำ เขามาช่วยที่นี่ด้วยตัวเอง แม้แต่ลูกชายของเขายังมาร่วมด้วย จึงถือได้ว่าเป็นคนที่มีสิทธิ์พูดมากที่สุด!
หากเป็นหญิงสาวที่ยังรักษาหน้าตัวเองอยู่บ้าง เมื่อได้ยินถ้อยคําเช่นนี้คงจะรีบกลับไป!
แต่เฉินเจียวเจียวก็ยังคงทําหูทวนลมและยังคงรบกวนหยุนเคอไม่หยุดหย่อน
ส่วนหยุนเคอเป็นคนขี้รําคาญ แม้ว่าเขาจะเมินเฉยต่อเฉินเจียวเจียวได้ แต่ความอดทนของเขาก็ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว ราวกับได้ยินแมลงวันบินอยู่ใกล้ ๆ หูอย่างไรอย่างนั้น!
ถ้าเป็นแต่ก่อน เขาคงยื่นมือไปคว้าคอผู้หญิงคนนี้แล้วจับโยนไปให้ไกล แต่ตอนนี้เขาเพิ่งจะเข้ามาอยู่ในหมู่บ้าน หากทําให้คนในหมู่บ้านขุ่นเคืองคงจะไม่ดีนัก แม้ว่าเขาจะไม่สนใจเท่าไหร่ก็ตามที
“พี่ชายหยุน ท่านดูนังบ้าเฉินเถียนเถียนนั่น นางไม่เห็นจะสนใจใยดีสร้างบ้านของตัวเองเลยแม้แต่น้อย ท่านจะกังวลอันใดนัก!”
ในที่สุด หยุนเคอก็สุดจะทน เขาจ้องมองไปที่เฉินเจียวเจียวด้วยใบหน้ามืดครึมพร้อมปลดปล่อยออร่าเย็นเยียบออกมา!
เฉินเจียวเจียวนั้นรู้สึกตัวช้า เมื่อนางรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้มีบางอย่างผิดปกติก็รีบถอยออกมาด้วยความกลัว!
“อยู่ห่างจากข้า เข้าใจหรือไม่? ข้าเกลียดผู้หญิงที่เอาแต่พูดพล่ามอย่างเจ้า น่ารําคาญยิ่งนัก!”
เฉินเจียวเจียวที่คิดเพ้อฝันมากมาย แต่ไม่คิดมาก่อนว่าหยุนเคอจะเอ่ยคําว่าเกลียดต่อหน้านางตรง ๆ ทั้งยังมองนางด้วยสายตารําคาญยิ่ง!
ในคราแรก นางรู้สึกกลัวจนเย็นวาบไปทั้งร่างหยุนเคอน่ากลัวเกินไปแล้ว! แต่จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นความโกรธและอับอาย ทั้งที่นางเอาใจใส่อย่างดี แต่หยุนเคอกลับปฏิบัติต่อนางอย่างไร้ความเมตตา
เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ป่าหวงก็ยิ้มอย่างมีความสุข “น้องชายหยุน ทําเช่นนี้แหละดีแล้ว หญิงผู้นี้หน้าด้านไร้ยางอาย หากเข้าไปพัวพันกับนาง เจ้าคงรําคาญจนตาย! เดิมที่ตอนที่เจ้ายังไม่ลงมาจากภูเขา นางไม่เคยชายตาแลทั้งยังดูถูกเจ้ามาโดยตลอด ตอนนี้นางเข้าหาเจ้าคงเพราะถูกใจบ้านของเจ้านางไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีนักสมควรแล้วที่ต้องขู่ให้กลัวเช่นนี้!”
เมื่อหยุนเคอเห็นคนน่ารําคาญจากไปแล้วพลันถอนหายใจอย่างโล่งอก!
แม้ว่าเขาจะไม่กล่าวอันใดออกมา แต่ก็พยักหน้าให้ป้าหวงอย่างเห็นด้วย
แต่ในทางกลับกัน เฉินผิงเหอไม่คิดอย่างนั้น เขาขมวดคิ้วพร้อมกล่าวคํา “ภรรยาของเฉินฉู่เกินนั้นเป็นคนที่วุ่นวายที่สุดในหมู่บ้าน เจ้าทําให้เจียวเจียวของนางต้องหลั่งน้ำตา เกรงว่าผู้หญิงหน้าไม่อายคนนั้นจะต้องมาสร้างปัญหาให้เจ้าแน่ ”
อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากนัก หยุนเคอไม่คิดเกรงกลัวอยู่แล้ว หากพวกนางมาจริง ๆ ก็แค่จับโยนออกไปซะก็สิ้นเรื่อง!
เพียงแต่ว่าบ้านของเฉินเถียนเถียนเพิ่งสร้างเสร็จแค่ครึ่งเดียว ก็เกิดเรื่อง… นับว่าเป็นโชคร้ายหรือไม่? เมื่อคิดถึงเรื่องนี้หยุนเคอก็ขมวดคิ้วแน่นด้วยความกังวล
ส่วนฝั่งของเฉินเถียนเถียน หลังจากนางดูแลเด็กน้อยเฉินเฉินเสร็จก็รีบวิ่งลงมาจากภูเขาทันที
ตอนนี้เป็นช่วงที่ร้อนที่สุดของปี หลายคนกําลังสร้างบ้านให้นาง แน่นอนว่านางไม่สามารถอยู่เฉยได้ ด้วยการแนะนําของจําชื่อ นางจึงเตรียมหม้อชาใบใหญ่และนําไปยังบริเวณที่สร้างบ้าน
บ้านค่อย ๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา แม้จะมีเพียงแค่สามห้อง แต่นี่ก็เป็นบ้านของเธอจริง ๆ เฉินเถียนเถียนมองดูคนเหล่านี้ที่ยังคงทํางานอย่างหนักเพื่อช่วยเหลือแม้ว่าจะได้เงินเพียงเล็กน้อยด้วยสายตาที่ปลาบปลื้มและตื้นตันใจ!
“ท่านลุง ท่านป้า! อากาศร้อนเกินไป ทุกคนมาพักดื่มชาก่อนเถิด!”
ทันใดนั้นก็มีคนหันมามองหญิงสาวผู้น่าสงสารด้วยรอยยิ้ม “เถียนเถียนเอาน้ำชามาแล้ว! พวกเราลงไปพักดื่มน้ำชากันก่อนเถิด อย่าชักช้าเลย!”
ผู้คนจากด้านบนสองสามคนเริ่มพากันลงมา เฉินเถียนเถียนก็ช่วยรินน้ำให้อย่างขยันขันแข็งทันที
ป้าหวงขมวดคิ้วถาม “เถียนเถียน เหตุใดเจ้าไม่อยู่ดูบ้านที่นี่เล่า? พวกเราไม่รู้ว่าบ้านที่สร้างไปจะตรงตามที่เจ้าต้องการหรือไม่!”
เฉินเถียนเถียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “ข้าย่อมพอใจกับทุกสิ่งที่พวกท่านทําให้ อันที่จริงข้ามีเหตุผลที่ไม่ได้อยู่ดูบ้านหลังนี้ พวกท่านน่าจะรู้ว่าในครอบครัวของข้ามีน้องชายคนเล็กที่อายุเพียงเจ็ดขวบอยู่ด้วย”
“ตอนที่ข้าอยู่ในบ้านหลังนั้น ชีวิตข้าลําบากมาก ถึงตอนนี้ข้าหลุดพ้นแล้ว แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดในชีวิตคือน้องชายคนเล็ก ไม่รู้ว่าเขาไม่ได้กินข้าวที่บ้านมากี่วันแล้ว ข้าทนเห็นน้องชายของข้าเป็นแบบนี้ไม่ได้จริง ๆ ก็เลยแอบพาเขาไปหาอะไรกิน”
ทุกคนเต็มไปด้วยเครื่องหมายคําถาม เป็นครั้งแรกที่ได้ยินว่าเฉินเฉินมีชีวิตที่ยากลําบาก!
ป้าหวางขมวดคิ้วแน่นและถามขึ้น “เขาไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของหลินชวนฮวาหรอกหรือ? เหตุใดนางจึงปล่อยให้เขาอดอยาก?”
เฉินเถียนเถียนฝืนยิ้มอย่างลําบากใจ “ข้าไม่รู้ว่าเหตุใด ท่านแม่ถึงปฏิบัติต่อลูกชายตัวเองด้วยการทุบตีและด่าทอ นางบอกว่าที่ขายที่ดินไปเมื่อไม่กี่วันก่อนเพื่อจะส่งให้เขาไปเรียน แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ไปสองวันมานี้ก็ถูกตบจนหน้าบวม หากเด็กซนก็ควรจะสอนเขาให้ดีปล่อยให้อดข้าวได้อย่างไร?”
ความจริงแล้วเฉินเถียนเถียนจงใจปล่อยข่าว เพราะตั้งใจเอาคืนท่านผู้เฒ่าสี่
ไม่ใช่ว่าเขาบอกว่าเฉินเถียนเถียนเป็นตัวปัญหาหรอกหรือ? ในเมื่อตอนนี้กําจัดตัวปัญหาได้แล้ว แต่เด็กน้อยคนนี้กลับต้องอดทนอยู่
“เสือถึงร้ายไม่กินลูกของตัวเอง ครั้งนี้หลินชวนฮวาไม่นับว่าเป็นคนแล้ว แล้วพ่อของเจ้าล่ะ? เขาไม่สนใจเลยหรือ?”
เฉินเถียนเถียนยิ้มอย่างขมขื่น “ท่านแม่ปิดบังท่านพ่อมาตลอด พ่อของข้าไม่อยู่จึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่บ้านหลินชวนฮวามักจะบอกว่าเด็กไม่รู้จักเชื่อฟังต้องถูกสั่งสอน ท่านพ่อ…”
“บางทีท่านพ่อก็อาจจะมีปัญหาของตัวเอง! สงสารก็แต่เด็กน้อย ทําได้เพียงแอบออกมาหาข้าทุกวันเพื่อให้ข้าหาอะไรให้กิน!”