ตอนที่ 79 ปัญหาที่ถูกมองข้าม

ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi

79 ปัญหาที่ถูกมองข้าม

 

—————————————————————

【–มุมมอง บุคคลที่สาม/เทรีย–】

 

อาณาจักรเทรีย เมืองหลวงทริสเนีย

 

การประชุมที่ถูกจัดในวังอยู่ในความระส่ำระส่าย ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในเวลานี้ ถูกจำกัดอยู่กับแค่พลเมืองในบริเวณตะวันออก; มันถูกรายงานว่าเป็นการปะทะที่ไร้ความหมาย และนอกจากคนที่บอกว่าตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญ แพล่มอย่างไม่จบไม่สิ้นเกี่ยวกับความรู้ที่มากมายของเขาบนมุมถนน ไม่มีอะไรมีค่ามากพอให้พูด อย่างไรก็ตาบ ข้อสรุปของความขัดแย้ง ทำความเสียหายมากกับเจ้าหน้าที่ทหาร และพวกคนเหล่านั้นในวัง

 

「กองทัพหลวงถูกกำจัดโดยลอร์ดศักดินาชนบน คนเดียว สองครั้ง」

 

ความจริงนี้ทำให้ศักดิ์ศรีของกองทัพตกลงไป สำหรับกบฏที่จะรวมกำลัง ประเทศที่ล้อมอาจจะเข้าใจผิด เพิ่มเติมจากนั้น มากกว่าอะไรทั้งสิ้น มันจะเชิญชวนขุนนางเจ้าหน้าที่พลเรือนให้แทรกแซงการบริหารทหาร

 

มันแค่ถูกบอกกับพวกเขาไม่ได้ แต่จำนวนผู้เสียชีวิตจริงที่เกิดขึ้นก็ไม่สามารถที่จะซ่อนได้ด้วย รูปแบบที่กองทัพของเทรียอยู่ ด้วยกันกับบุคลากร จะถูกคว้าโดยวัง มันเป็นไปไม่ได้ที่จะซ่อนจำนวนของคนตาย และอุปกรณ์ที่พวกเขาเสียไป

 

นั่นทำไมกองทัพตัดสินใจที่จะหลอกพวกเขาด้วยจำนวนของกองทัพศัตรู ด้วยประจักษ์พยานของคนที่เกี่ยวข้อง มันถูกรู้ว่าวาเลร่าพ่ายแพ้ เนื่องจากอะไรที่ดูเหมือน ทหารม้า 2000 คน แต่รายงานทำให้มันดูเหมือนการรุกรานได้เกิดขึ้นโดยกองทัพจำนวน 6000 ประกอบไปด้วยทหารม้า 2000 คนและทหารราบ 4000 คน ถ้าพวกเขาไม่ทำให้กองทัพที่กำจัดพวกเขาอย่างน้อยขนาดเดียวกัน พวกเขาจะอ้างอะไรไม่ได้ นี่ นำไมสู่การประเมินที่ผิดพลาด ของความจริงที่ว่าศัตรูถูกอนุญาติให้รุกรานมาตลอดทางถึงบริเวณกลาง และความจริง ที่ว่าพวกเขามีความเร็วการเดินทัพที่เป็นปรากฏการณ์ได้หายไป

 

「โกลโดเนียเป็นศัตรูของเรา! เราต้องรุกรานเค้าคืน!!」

 

「ไม่ เราควรจะจัดการกับชาวนาที่ไม่ภักดีก่อน!」

 

「สำหรับเหตุผลนั้น ไม่ใช่ว่าเราควรจะเลี่ยงการเผชิญหน้า และให้กองทัพพักก่อนเหรอ?」

 

ขุนนางส่งเสียงและเสนอความคิดเห็น

 

ด้วยขุนนาง ที่มีแค่จุดยืนที่สูง เห่าใส่กันเกี่ยวกับการดูแลกองทัพ ที่พวกเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลยการประชุมถูกโยนไปในนความวุ่นวาย อย่างไรก็ตาม ยังคงมีขุนนางที่มีเหตุผลและมีตรรกะ จับหัวของพวกเขาด้วยมือ ทำเหมือนกันกับราชา

 

「เงียบลง! ที่นี่เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับนโยบายของอนาคตประเทศนี้ ไม่ใช่บาร์ที่อยู่บนชานเมืองที่สกปรก」

 

คนที่ตะโกนคือนายกรัฐมนตรีของอาณาจักรเทรียมาร์เควสดูนอยส์ เขาไม่ใช่ปราชญ์ของทหารที่มีความรู้มากมาย แต่ความสามารถการปกครองของเขานั้นพึ่งพาได้ และเขานำพาความมั่นคงมาสู้ประเทศ เขายังคงเป็นคนที่ต่อต้านการเข้าร่วมสงครามอาร์คแลนด์ก่อนหน้า ทุกอย่างกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี ดังนั้นไม่มีความจำเป็นที่ต้องจงใจกระโดดเข้าไปในพายุของความวุ่นวาย ผลสุดท้าย คือความเห็นของเขาถูกยกเลิกเนื่องจากการกระทำของราชา ที่โฟกัสบนเจ้าหน้าที่ทหาร และแรงกดดันจากอิทธิพลของพวกเขา แต่ความไม่เป็นระเบียบ ที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นข้อพิสูจน์ต้นตอของลางสังหรของเขาในแง่หนึ่ง

 

「มาร์เควสดูนอยส์! งั้นความคิดอะไรที่ท่านมี?!!」

 

「นั่นใช่แล้ว ผมอยากจะได้ยินความคิดที่ยอดเยี่ยมของท่าน」

 

ราชา……ทริสเนียที่ III มองด้วยหน้าที่กังวลขณะที่เขาพยักหน้าและรับรู้นายกรัฐมนตรี มอบการอนุญาติให้เขาก้าวเข้ามาข้างหน้า ตั้งแต่ทีแรก เขาเป็นคนที่มีระดับสูงที่สุดยกเว้นราชา; เมื่อเขาก้าวไปข้างหน้า เขาทำให้ความวุ่นวายเงียบลง

 

「ก่อนอื่น มันชัดเจนที่ว่าความทะเยอทะยานของโกลโดเนีย นั้นเพื่อชิงดินแดนของเรา และแม้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ มีการปะทะกับลอร์ดศักดินาคนหนึ่ง พวกเขาดูเชิงกองกำลังของเรา และมีเส้นความคิดที่ว่า ราชาของโกลโดเนีย มีแผนที่จะโยนเราเข้าสู่ความวุ่นวายผมไม่สงสัยว่าเค้ามีคนหนุนหลัง」

 

「นั่นใช่แล้ว!」

 

「เราควรจะกำจัดโกลโดเนีย!」

 

นายกรัฐมนตรีเมินการโห่ร้อง

 

「แต่การโจมตีโกลโดเนียเป็นงานคนโง่ และนั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาหวัง เพราะเรามีกองกำลังทหารที่ด้อยกว่า เราจะถูกดันกลับทันที และประเทศที่รายล้อมที่เห็นเราโจมตีก่อน จะไม่มาช่วยเหลือเรา」

 

ขุนนางที่โห่แทรกมองลงไปข้างล่าง และในท้ายที่สุดก็เงียบไป

 

「และตอนนี้ เราอยู่ในการตกลงกัน ที่จะเฝ้าดูการหยุดโจมตี มันเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องทำความสะอาดกองทัพกบฏก่อน ……เคานต์เวอร์ดอท ได้โปรดบอกเราอีกครั้งเรื่องเงื่อนไขการหยุดโจมตี ที่ท่านชนะมาผ่านการเจรจากับโกลโดเนีย」

 

นายกรัฐมนตรี ยกคางชี้ด้วยตาที่ดูถูก เวอร์ดอท ที่ซ่อนอยู่มุมห้องจนถึงตอนนี้ ตอบด้วยการสะดุ้งไหล่ของเขา และเขาก้าวไปข้างหน้าอย่างขลาดๆ เมื่อเขาเดินผ่านขุนนาง พวกเขาเริ่มพูดเสียๆหายกับเขาเบาๆ

 

「…………อย่างแรก โกลโดเนียจะถอนกำลังของพวกเขาจากดินแดนของเรา และมันได้สำเร็จไปแล้ว」

 

เวอร์ดอทพูดเกี่ยวกับเงื่อนไขเดียวที่เรียกได้ว่าเป็นความสำเร็จในเสียงที่เบา อย่างไรก็ตาม ไม่มีขุนนางซักคนมอบคำชมให้พวกเขา น้อยกว่านั้นคือเปิดปากของพวกเขาเพื่อพูดอะไรบางอย่าง

 

「นั่นถูกยืนยันแล้ว บอกเราเกี่ยวกับเงื่อนไขอื่น」

 

「เพื่อที่จะเลี่ยงความขัดแย้งที่เป็นอุบัติเหตุในอนาคต เขตกันชนจะถูกสร้างในเส้นชายแดนที่ทั้งสองกองทัพสามารถจะเข้าไปได้……」

 

「เขตกันชนแม้ว่าหลังจากพวกเค้าโจมตีพวกเรางั้นเหรอ?!」

 

「ไม่ใช่ว่ามันเหมือนกันกับการพูดว่าส่วนหนึ่งของดินแดนของเราจะถูกตัดออกเหรอ?!」

 

「ไม่ใช่อย่างนั้น! ไม่มีหมู่บ้านหรือเมืองในเขตกันชน ดังนั้นมันไม่ได้ขัดขวางเราเป็นพิเศษ!!」

 

เวอร์ดอทพยายามจะมอบข้ออ้าง แต่หนึ่งในเจ้าหน้าที่ทหารหยุดมัน

 

「พูดอีกอย่าง เมื่อกองทัพกบฏหนีไปที่เขตกันชน ไม่มีอะไรที่เราทำได้?」

 

ความเงียบปกคลุมทั้งห้อง แต่นายกรัฐมนตรีไร้ความปราณี

 

「นั่นไม่ใช่ทั้งหมด ใช่มั้ย?」

 

「ใช่……เพื่อที่จะไม่สร้างแหล่งเพาะพันธ์สำหรับปัญหาในอนาคต ผู้เสียชีวิตระหว่างสงครามถูกมองข้าม」

 

ทันทีที่เวอร์ดอทพูดนั่นในเสียงที่กลัว การตะคอกบินมาหาเขา

 

 

「เจ้าคนทรยศ!!」

 

「ไอ้คนไร้ความสามารถ แกพูดพอแล้ว!」

 

「นายควรจะอายตัวเอง!」

 

เงื่อนไขของการหยุดโจมตีเป็นความรู้ทั่วไปแล้ว และไม่มีความหมายที่จะทะเลาะกันเรื่องนั้นตอนนี้ นายกรัฐมนตรี แค่ทำให้เวอร์ดอทเป็นแพะรับบาป และแค่นำเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อที่จะแขวนคอเขา เมื่อนั่นเสร็จแล้ว ความโกรธจะชี้ไปที่เขา และอารมณ์ที่คัดค้านนโยบายของเขาจะอ่อนแอลง

 

「นั่นควรจะพอแล้ว เคานต์เวอร์ดอทควรจะมีความสุขด้วย」

 

นายกรัฐมนตรีก้าวลงไปดั่งจะขับไล่เวอร์ดอทไป และเป็นอีกครั้งที่เขาเปิดปาก

 

「ในแบบนี้ เราพิจารณาแล้วว่าเราเสียเปรียบในการหยุดโจมตี แต่ไม่มีอะไรที่เราจะทำได้ แม้แต่จะเสียใจกับอดีต อย่างแรก เราควรจะใช้กองกำลังปัจจุบันเพื่อกวาดกบฏอย่างทั่วถึง และกวาดล้างการต่อต้าน หลังจากนั้น เพื่อที่จะจัดการกับโกลโดเนีย เราจะบังตับการเกณฑ์ทหารในประเทศบ้านเกิดของเรา」

 

เสียงของความสับสนและความสงสัยสามารถถูกได้ยิน ยกเว้นกองทัพส่วนตัวของแต่ละลอร์ดศักดินา เทรียในพื้นฐานแล้วมีทหารให้รับสมัตร มีหลายเวลาในอดีตระหว่างสงครามอาร์คแลนด์ เมื่อสภาพของการต่อสู้ย่ำแย่หลังจากเกณฑ์ทหาร

 

「ด้วยการเพิ่มเติมที่จะจ้างทหารรับจ้าง จำนวนทหารจะถูกรวบรวมทันที」

 

ขุนนางหนึ่งคนยกมือ

 

「ผมไม่มีคำคัดค้านที่จะรวมทหาร แต่ผมได้ยินมาว่ากองทัพกลางหรืออะไรก็เหอะของโกลโดเนียมีทหาร 40,000 คนแล้ว และมันใกล้จะไปถึง 50,000 คน หลังจากการเสริมกำลัง ไม่ว่าเราจะรวมพลเมืองมากเท่าไหร่ เราน่าจะแค่ได้ 30,000 เรายืนสู้กับเค้าด้วยตัวเองไม่ได้ ใช่มั้ย?」

 

พวกนั้นรอบๆเขากระซิบอย่างลับๆว่า ‘อ่อนแอจัง’ และ ‘ขี้ขลาด’ แต่ขุนนางไม่อารมณ์เสีย เทรียรวมได้สูงสุดแค่ 30,000 และพูดเรื่องการเงิน พวกเขาจ้างทหารรับจ้างไม่ได้เป็นเวลานาน ในทางตรงกันข้าม โกลโดเนียรวมประชากร 10,000 มาได้ง่ายๆ มันแทบไม่เป็นการแข่งขันเลย

 

「ชั้นไม่คุ้นเคยกับกิจการทางทหาร แต่แม้ว่าเราสู้อย่างดี แม้ว่าชั้นยังบอกได้ว่าเรามีโอกาสชนะเพียงเล็กน้อย เนื่องจากความต่างในอำนาจทางทหาร แต่ชั้นก็รู้ด้วยว่า มีวิธีที่จะปิดช่องว่างนั้น」

 

「ปราสาท?……」

 

นายกรัฐมนตรีพยักหน้าอย่างยิ่งใหญ่

 

「แน่นอน มาสร้างกลุ่มของป้อมปราการระหว่างส่วนเหนือของประเทศของเราและดินแดนที่ปรกครอง โชคดีที่ มีป้อมปราการที่มีอยู่แล้วที่อยู่ในเส้นป้องกันกับอาร์คแลนด์ตั้งแต่นมนานแล้ว เราจะเติมมันมากกว่าเดิมและเสริ่มกำลังของมัน」

 

「เข้าใจแล้ว…… ป้อมปราการนั้นได้เป็นโล่ที่ป้องกันประเทศของเราและกันอาร์คแลนด์ไปจากเรามาหลายปีแล้ว ถ้าเราเสริมความแข็งแกร่งมันมากกว่าเดิม โกลโดเนียจะไม่สามารถตีฝ่าไปได้」

 

「ยังไงดินแดนที่ถูกยึดครองก็ไม่ได้เป็นอะไร นอกจากภาระ และแม้ว่ามันถูกนำไปจากเรา มันไม่มีอิทธิพลกับอำนาจของชาติเรามาก」

 

「เพิ่มเติมจากนั้น เราต้องหามาตรการป้องกัน กับลอร์ดศักดินาทิศตะวันออก ฮาร์ดเลตต์ ที่ทำเราเสียหายหนัก ความแข็งแกร่งของกองทัพของเขา ดูเหมือนจะเป็นทีมทหารม้าที่ทรงพลัง เราก็ควรจะสร้างแค้มป์ป้องกันในทิสตะวันออก……แต่ มันจะเพียงพอแล้วที่จะขุดคูน้ำและตั้งรั้ว ถ้าอย่างน้อยเราหยุดทหารม้าได้ พวกเขาจะไม่เป็นภัยที่ใหญ่กับเรา」

 

「เข้าใจแล้ว……อย่างที่คาดกับนายกรัฐมนตรี」

 

「อุมุ ถ้ามันเป็นการต่อสู้ในป้อมปราการ งั้นเรามีความได้เปรียบ」

 

「ถ้าเรารั้งโกลโดเนียไว้ หยุดกองทัพของพวกเขา และประกาศว่าพวกเขาทำอะไรที่ไม่ยุติธรรม งั้น มากราโดและยูเรสจะอยู่ข้างเรา แบบนั้น โกลโดเนียไม่มีทางเลือกนอกจากถอยไป」

 

ดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ของโกลโดเนียถูกพิจารณาว่าเป็นเรื่องน้ำลายสอกับทุกประเทศ เหตุผลที่เหมาะสมมีตัวตนอยู่ และเนื่องจากการรวมกำลังมาที่ทิศใต้ ประเทศรายล้อมจะกระโดดใส่โอกาสนี้แน่

 

「เข้าใจแล้ว นายกรัฐมนตรีคิดได้อย่างชาญฉลาดแน่นอน แต่ถ้าเราอยากจะเสริมความแข็งแกร่งกองทัพป้อมปราการ และยังสร้างแค้มป์ป้องกันที่ฝั่งตะวันออก เราต้องการแรงงานจำนวนมหาศาล ผมไม่คิดว่ามันไม่สอดคล้องกับการเกณฑ์ทหาร」

 

ที่ต้องการที่สุดสำหรับทั้งการก่อสร้างสาธารณะและการเกณฑ์ทหาร ต้องการชายหนุ่ม อาณาจักรเทรียไม่มีหนุ่มเยอะพอที่จะแบ่งระหว่างสองตัวเลือกนี้

 

「ไม่ต้องกังวล เรามีแรงงานที่เราใช้ได้ ไม่เพียงแค่นั้น พวกเค้าใช้งานได้จนพวกเค้าพัง…… ในโอกาสที่การระงับกบฏเสร็จแล้วและเรารับรู้การยอมแพ้ของพวกเค้า เราจะให้การประหารถูกยกเลิก และเราจะใช้คนพวกนี้เป็นแรงงาน」

 

พวกนั้นที่เกณฑ์ทหารหรือสนับสนุนกบฏเข้ามารวมกับกองทัพไม่ได้ตั้งแต่ทีแรก แบบนี้ ไม่ต้องสงสัยว่าจะเป็นวิธีใช้งานพวกเขา

 

「แต่ไม่ใช่การลงโทษจะเบาไปกับกบฏถ้าเราทิ้งการประหารเหรอ?」

 

นายกรัฐมนตรี ถูกชี้ว่าเขาไม่เข้าใจเหตุผลและหัวเราะคิกคัก

 

「นายผิดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกรณีไหน ทุกคนจะตายหลังจากที่ทำงาน ชั้นคิดว่ามันมีประสิทธิภาพกว่าแขวนคอพวกเค้า」

 

ราชาของเทรียไม่คัดค้านความคิดเห็นของเขา; การเสริมความแข็งแกร่งป้อมปราการเหนือจากโรเลล การสร้างแค้มป์ป้องกันบริเวณตะวันออก และการเกณฑ์ทหารของพลเมืองทั่วไปถูกตัดสิน อาณาจักรเทรียเริ่มจะกระกำการด้วยการคะเนว่ามันเป็นสงครามเต็มรูปแบบกับอาณาจักรโกลโดเนีย

—————————————————————

【–มุมมอง เอเกอร์–】

 

ราเฟน

 

「ค่อนข้างน้อยที่ถูกรวมมา」

 

มีทหารเรียงกันอยู่ หลายคนใส่ชุดเกราะที่มั่วๆตรงหน้าเรา……..แม้ว่ามันน่าขันที่พวกเขาส่วนใหญ่มาจากอาณาจักรเทรีย เพราะผมแทรกแซงในเหตุของความขัดแย้ง – กบฏชาวนา – พวกเขาหลายคนรอดชีวิตและผมรับพวกเขาเข้ามาในดินแดน พวกเขาหลายคนโสดและเลือกที่จะเป็นทหารแทนที่จะเป็นชาวนา

 

「จำนวนนี้ มันพอที่จะท่วมท้นประชากรของเรา มีความกังวลเรื่องความปลอดภัยมั้ย?」

 

ซีเลียขมวดคิ้วและพูดอย่างกังวล ผมไม่ได้ดูชื่อที่อดอล์ฟใส่ลงไปในบันทึกพลเมืองของเขาซักนิด แต่แค่จากเหตุการณนี้ ควรจะมีใกล้กับ 4000 ที่ถูกเพิ่มเข้ามา ประชากรของดินแดนดั้งเดิมแล้วมี 2000 คน แต่เมื่อพิจารณาการอพยพมามากประมาณเดียวกับคนที่อพยพมา มันทำให้จำนวนพองขึ้นทันนที มันอาจจะดีกว่าที่จะรับพวกเขามาแบบนี้ แทนที่จะกลืนพวกเขาเข้าไป

 

คนจำนวนมากไหลเข้ามาในสิ่งแวดล้อมปิด ในภูมิภาคชายแดน แม้ว่าพวกเขาทางเทคนิคแล้วมาจากประเทศเดียวกัน มีความขัดแย้งระหว่างพวกเขา แม้ว่ามันจะเล็กน้อย ผมจะปล่อยให้การแก้ปัญหาเรื่องนั้นไว้กับอดอล์ฟ

 

「ชาติภูเขา พลเมืองดั้งเดิมตอนนี้อพยพมาเป็นชาวนา – สิ่งต่างๆได้วุ่นวาย」

 

「แต่พวกเขาเป็นกองกำลังที่สามารถจะสู้แม้ว่าจะมีความโน้มเอียงไปสู้ตระกูลที่ปกครอง เราควรคิดเกี่ยวกับการใช้พวกเค้าไปด้วยกันกับทหารม้าธนู เป็นกองกำลังหลักของเรา」

 

มันดูเหมือนลีโอโพลต์จะสร้างกองทัพดั้งเดิมเป็นกองทัพหลัก พูดถึงแล้ว สมาชิกใหม่ที่เขาสู่กองทัพส่วนตัวถูกแบ่งเป็นสาขาภายในกองทัพ ด้วยนิสัยของพวกเขาอยู่ในใจ และแยกคนจากหมู่บ้านเดียวกันมากเท่าที่จะเป็นไปได้ เมื่อถูกใส่เข้าไปในทีม จนกว่าพวกเขาจะคุ้นเคยกับดินแดน การแยกพวกเขาจากหน้าที่คุ้นเคยจะช่วยเลี่ยงการกบฏ เพราะทั้งหมดเกณฑ์การเกิดกบฏลดลงเนื่องจากพวกนั้นก่อกบฏไปแล้วครั้งหนึ่ง

 

「ถ้าเป็นไปได้ เราอยากให้พวกเค้าสร้างครอบครับและถ้าเราวางครอบครัวไว้ในเมืองหรือหมู่บ้าน เราจะไม่ต้องกังวลมาก」

 

「มีคนไม่ได้แต่งงานหลายคนในหมู่ผู้อพยพ ชายและหญิงในท้ายที่สุดจะเข้าหากัน นอกจากเรื่องนั้น ทักษะนั้นเป็นยังไง?」

 

「ไม่มีปัญหา แทนที่จะอย่างนั้น พวกเขามีทักษะมากกว่ากองทัพส่วนตัวที่เรามีมาจนถึงตอนนี้」

 

ผมเดาว่าเพราะมีหลายคนมาจากอาร์คแลนด์เก่า แต่แม้ว่าอุปกรณ์ของพวกเขาทั้งหมดต่างออกไป การเคลื่อนไหวสอดคล้องกัน ถ้าผมไม่ระวัง พวกเขาจะมีมากกว่ากองทัพอิสระตะวันออกซะอีก ซึ่งเป็นกองทัพที่ถูกต้อง

 

「นี่เป็นผลของความว่างเปล่าหนึ่งปี ถ้าอาร์คแลนด์อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์แบบเมื่อเราสู้ในสงครามก่อนหน้า มันจะเป็นการยากที่จะกำหนดผู้ชนะ」

 

「สิ่งต่างๆได้ดำเนินไปอย่างมั่นคง ถ้ากองทัพใหญ่ขึ้น อิริจิน่าอาจจะมีความรับผิดชอบบนไหล่เธอมากขึ้น คอยดูเธอมากๆ」

 

อิริจิน่าไม่ใช่อีโง่เมื่อมันเป็นเรื่องกิจการทางหาร แต่เธอไม่มีประสบการณ์บัญชาการทีมที่ขนาดใกล้กับ 1000 ดังนั้น ความสามารถของเธอไม่ไปถึงผู้บัญชาการแนวหน้าถ้าไม่มีลีโอโพลต์ เธอน่าจะไม่ไหว

 

「พลเมืองที่ไม่ใช่ทหารคุ้นเคยกันรึยัง?」

 

อดอล์ฟเรียกบนฝั่งตรงข้าม

 

「มันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะผสมมากขนาดนี้ ให้หมู่บ้านใหม่ถูกสร้างและให้พวกเขาอยู่แยกกัน กับพวกนั้นที่มีงานและอยู่ในราเฟน」

 

เขาดูเหมือนจะการรวมคนที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันของฝั่งเรามากเท่าที่จะเป็นไปได้ มันจะลำบากที่จะให้คนที่เพิ่งเจอกันทำบางอย่างเหมือนงานนา ซึ่งต้องการความสัมพันธ์ ธรรมชาติแล้ว พวกเขาจะไม่มีอาวุธแบบใดๆเลย

 

「การทิ้งอุปกรณ์ของช่างและช่างตีเหล็กทั่วไปไว้ในราเฟนจะขัดขวางวิถีชีวิตของพวกเค้าเหรอ?」

 

「ใช่ พวกเขาจะไม่สามารถที่จะมีอะไรได้เลย เหมือนจอบหรือถังน้ำ ยกเว้นของทั่วไป และยกเว้นว่าพวกเขาจะมาที่ราเฟน พวกเขาจะไม่ได้ของอะไรทั้งนั้น จะไม่มีการแลกเปลี่ยนของในหมู่บ้าน แต่แทนที่จะอย่างนั้น พวกเขาจะไม่ขายพืชผลหรือทำงานในราเฟน; การวนเวียนนี้จะถูกทำให้เยอะขึ้นและกระตุ้นธุรกิจ และในท้ายที่สุดสร้างบริเวณการค้าที่กว้างขึ้น~」

 

ผมไม่ได้ให้ความสนใจกับครึ่งหลัง แต่ประเด็นหลักคือถ้าพ่อค้าของแต่ละหมู่บ้านพึ่งพาตัวเองได้ งั้นมันจะไม่กลายเป็นธุรกิจ ด้วยราเฟนเป็นแกนกลาง คนจะมาซื้อและขายของ มันจะเชิญชวนพ่อค้ามา ถ้าพ่อค้ามาหลายคน ของจะถูกขายด้วยราคาที่สูงขึ้นและซื้อในราคาที่ถูกลง

 

「ชั้นไม่รู้มากเกี่ยวกับพ่อค้าและพวกนั้น ชั้นจะปล่อยมันให้กับนาย และมันจะเป็นการยากที่จะหาบ้านให้คนที่มากขนาดนี้」

 

「ครับ การก่อสร้างบ้านและกำแพงเมืองเป็นส่วนหนึ่งของแรงงานและดำเนินไป แต่เราไม่มีความช่วยเหลือมากพอ」

 

เราจะไม่คิดว่าใครจะมาโจมตีที่ไกลๆในภูมิภาคชนบท ไม่ต้องพูดถึงว่า มีกองทัพประจำการอยู่กองประจำการใกล้ๆ แต่กำแพงเมืองทำเป็นสิ่งก่อสร้างป้องกัน ด้วยกันกับสัญลักษณ์แห่งความปลอดภัย แล้วมันก็เป็นข้อพิสูจน์ศักดิ์ศรีของลอร์ดศักดินา ถ้าไม่มีมัน ประชากรจะประหม่าและพ่อค้าจะลังเลที่จะตั้งร้านค้า

 

「มีทีมในกองทัพที่ใช้ได้ ที่มีประสบการณ์ในการสร้างแค้มป์ ชั้นเลยจะให้นายใช้พวกเค้า」

 

ลีโอโพลต์ก็พยักหน้าด้วย เรามีคนเหลือ ดังนั้นเราชุบชีวิตเหล่าทหารช่าง กลุ่มเล็กๆซึ่งสร้างในรูปแบบของกองทัพกลางในอดีต การขุดคูเมืองและสร้างรั้วเป็นการฝึกที่ดีกับเหล่าทหารช่าง

 

「ปัญหาคือมันใช้เงินเยอะ……」

 

ตาของซีเลียมองบน แต่เมื่อผมจับตูดเธอ เธอใจเย็นลง

 

「ถ้าเราผ่านปีนี้ไปได้ ปีต่อไป เราจะสามารถเก็บภาษีได้ใช่มั้ย? ถ้ามันดูเหมือนเราจะหมดเงิน งั้นหยุด จนกว่าจะถึงตอนนั้น นายทำตามใจต้องการได้」

 

คิดเกี่ยวกับการเงินทำให้ผมนึกถึงบางอย่าง

 

「การปล้นสะดมที่เราทำ…………เราจะขายของที่ได้มายังไง?」

 

ไม่มีจุดหมายในการเก็บอัญมณี แม้ว่ามันดูเหมือนนนน่าสามารถที่จะได้สร้อยคอที่เธอจ้องอย่างไม่เต็มใจ

 

「ผมเรียกตระกูลพ่อค้าจากสตูร่ามาหลายคน ผมคิดว่าจะเรียกพวกเค้าในวันต่างๆกัน และเทียบราคาซื้อ และขายกับคนที่ให้ราคาสูงที่สุด」

 

「เข้าใจแล้ว งั้นมันดีที่ปล่อยไว้ให้นาย」

 

เพื่อที่การซื้อขายดำเนินไปอย่างราบรื่น เราจะให้พ่อค้ามาอย่างน้อยครั้งหนึ่ง ถ้าคนนั้นสวย เราควรจะตัดสินใจกับเธอ

 

「หัวหน้า! ปีปี้มีอะไรจะพูดด้วย!!」

 

ปีปี้กระโดดมาหาผมและกอดผม เธอใส่ชุดแบบวันพีช แต่ความรู้สึกที่หว่างขาของเธอโดนกับต้นขาผมนั้นนุ่ม เธอน่าจะไม่ได้ใส่กางเกงใน

 

「ว้า-! ปีปี้ ตูดของเธอ-!! อย่าทำบางอย่างที่หยาบคายสิได้โปรด!!」

 

ผมเห็นตูดที่ซีเลียพูดถึงด้วย ปีปี้พูดต่อระหว่างที่ซีเลียมองด้วยหน้าที่สงสัย

 

「ม้าของหัวหน้านั้นน่าทึ่ง! ม้าตัวเมียที่เพาะพันธุ์ก่อนฤดูร้อนทั้งหมดท้องหมดเลย」

 

「โอ้…………นั่น」

 

ชาติภูเขาได้ทำงานหนักในการเพาะพันธุ์ม้าและผลิตต่อไป แต่ชนิดและขนาดมันทำให้ความเร็วบนที่ราบด้อยกว่าม้าศึกของโกลโดเนีย พวกมันทดแทนด้วยความสามารถที่จะเลี้ยวได้คมและการเคลื่อนไหวที่เหนือกว่าบนดินแดนหยาบและป่า แต่หัวหน้าของชาติภูเขายังพูดว่าพวกเขาต้องการม้าใหญ่ไม่ว่าอย่างไร

 

ผมให้พวกม้าศึกที่แก่หรือบาดเจ็บ และให้ชวาร์ซพยายามจะทำให้พวกมันท้องในเวลาสั้นๆที่เรามีก่อนความขัดแย้ง หลังจากนั้น ม้าที่เต็มไปด้วยความใคร่ทำให้ม้ามากกว่าสิบท้องในวันแต่ แต่ปรกติแล้ว มันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะทำมันวันละครั้งนะ……มันดูเหมือนหลังจากเขาเสร็จ เขาเริ่มโจมตีม้าตัวเมียอื่น ในตอนจบของวัน เขาดูผอมลงและดูเหมือนน้ำหนักลด แต่แม้อย่างนั้น เขาผสมพันธุ์ต่อไป

 

「ชวาร์ซนั้นน่าทึ่ง! ปีปี้ได้ดูม้าผสมพันธุ์หลายครั้ง แต่มันเป็นครั้งแรกที่หนูเห็นบางอย่างแบบนั้น อสุจิที่เล็ดออกมามากจนอ่างท่วม! แม้ว่าเค้าถูกเตะไล่โดยม้าตัวเมีย เค้าไม่สนใจ แม้ว่า…………」

 

ปีปี้ลังเล

 

 

「แม้ว่า กระดอชวาร์สนั้นใหญ่เกินไปและใส่เข้าไปในม้าตัวเมียที่ตัวเล็กไม่ได้ ไม่ใช่แค่นั้น การผสมพันธุ์มันเข้มข้นดังนั้น เมื่อเขาเสร็จม้าตัวเมียเหนื่อยและมันย่ำแย่」

 

「ควยใหญ่ของเขาไม่มีใครเท่าเทียมเหรอ? ช่างเป็นม้าที่ลามก」

 

「…………」

 

ซีเลียมองผมด้วยการหรี่ตา

 

「มีอะไร?」

 

「มันไม่มีอะไร หนูมั่นใจว่าพ่อจะสนิทดีกับเขาในสนามรบจากตอนนี้ไป」

 

「แล้วก็ ม้าตัวเมียทุกตัวที่ผสมพันธุ์ท้อง! หนูไม่เคยจะเห็นม้าพันธุ์ที่ยอดเยี่ยมเท่านี้มาก่อน! หนูมั่นใจว่าลูกม้าที่น่าทึ่งจะเกิดขึ้นมาด้วย」

 

มันจะเป็นหลายปีในอนาคตที่ม้าเกิดใหม่จะปีประโยชน์ แต่ปีปี้ตื่นเต้นจริงๆ ในที่สุดมันมีเวลาในอนาคตที่การผลิตม้าจะมีประโยชน์ด้วย

 

「ชวาร์ซเกือบเหมือนอหัวหน้าเลย! ตัวผู้ที่เหลือเชื่อ」

 

เรื่องไร้สาระอะไรที่เธอพูดน่ะ? อย่างที่คิด ปีปี้ยังเป็นแค่เด็ก

—————————————————————

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 20 ปี ฤดูใบไม้ร่วง

(วิธีนับอายุแบบดั้งเดิม)

สถานะ: วิสเคาน์อาณาจักรโกลโดเนีย ผู้บัญชาการกองทัพอิสระตะวันออก จำนวนทหาร: 2000

ลอร์ดศักดินาของบริเวณตะวันออกเฉียงใต้ กองทัพส่วนตัว: 1200

ชาติภูเขา: ประมาณ 1000

สินทรัพย์: 5400 ทอง (ค่าใช้จ่ายต่อเนื่องในการเตรียมการทหารและกิจการภายใน -500)

อาวุธ: แอ่งคู่ (ดาบใหญ่), หอกใหญ่

ครอบครัว: นนน่า (ภรรยา), คาร์ล่า (ภรรยาน้อยที่ท้อง), เมล (ภรรยาน้อยที่ท้อง), คู, รู, ริต้า (เลียนแบบแม่บ้าน), แคทเธอรีน (ลามก), เซบาสเตียน (พ่อบ้าน), โยกุริ (แขกของบ้าน)

ลูก: ซู (ลูกสาว), โรส (อุปถัมภ์), แอนโตนิโอ้ (ลูกชาย)

เมืองหลวง: (เมลิสซ่า X มาเรีย), มิทตี้, อัลม่า, ครอลล์

ลูกน้อง: ซีเลีย (ผู้ช่วย), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการกองทัพส่วนตัว), ปีปี้ (ผู้ติดตาม), ลีโอโพลต์ (รองผู้บัญชาการกองทัพอิสระ), อดอล์ฟ (เจ้าหน้าที่กิจการภายใน), ชวาร์ซ (ม้าบ้ากาม)

คู่นอน: 49, เด็กที่เกิดแล้ว: 7

—————————————————————

 

 

 

เป้าหมายเดือน 5/66

ค่าเน็ต 200/200

กาแฟ 300/300

ค่าไฟ 375/1000

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

 

แปลโดย: wayuwayu

ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ Facebook: “wayuwayu แปล” Line: @326jilhj

โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน แจ้งได้ที่ Facebook และ Line

pdfไว้อ่านตอนกลางคืน  สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook,Line และ Discord