ตอนที่ 95 นายท่าน
หลิวหยิงหยิงถึงกับนิ่งอึ้งไป..
เหตุผลที่เขาปฏิเสธข้อเสนอของเธอ ก็เพราะกลัวตายอย่างนั้นหรือ?!!
เธอไม่เคยพบเจอใคร ที่ตรงไปตรงมาจนน่าตกใจเหมือนเช่นหลินหนานมาก่อนเลยจริงๆ!
นี่น่ะเหรอคนที่มีกำลังภายในสูงส่งเข้าขั้นปรมาจารย์?!!
ทำไมถึงได้ขี้ขลาด แล้วก็อ่อนแอแบบนี้? ความหยิ่งผยองอย่างปรมาจารย์คนอื่นๆไปไหนหมด?
และในระหว่างที่หลิวหยิงหยิงกำลังนิ่งอึ้งไปด้วยความตกตะลึงอยู่นั้น หลินหนานก็ได้ก้าวเดินออกจากห้องไปแล้ว..
…………
ระหว่างที่หลินหนานเดินลงมาจนเกือบจะถึงหน้าประตูโรงแรมแล้วนั้น สายตาของเขาก็พลันเหลือบไปเห็นคนคุ้นเคยเข้าโดยบังเอิญ
และไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งคน แต่ถึงสองคนเลยทีเดียว!
หนึ่งในนั้นก็คือชายหนุ่มร่างอ้วนที่ชื่อว่าหวังชางหยาง..
หึ! หลังจากเหตุการณ์ที่อาบอบนวดใจกลางเมือง แกยังกล้ามาปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนที่นี่อีกงั้นเหรอ?
แต่ถึงอย่างนั้น ใบหน้าของหวังชางหยางกลับดูซีดเผือด เหงื่อไหลเปียกชุ่มไปทั่วทั้งตัว ในระหว่างที่เดินมานั้น สีหน้าของเขาบ่งบอกว่า สามารถจะตายได้ตลอดเวลา..
ส่วนอีกคนก็คือถังจินซ่ง..
ชายหนุ่มผู้นี้ก็ไม่ได้มีสภาพแตกต่างจากหวังชางหยางมากนัก เพราะตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนเช้า เขาก็ยังคงถ่ายไม่หยุดตลอดทั้งคืน เวลานี้นอกจากร่างกายที่ค่อนข้างไร้เรี่ยวแรง ใบหน้าของเขาก็ยังเคร่งเครียดเย็นชาอีกด้วย
หลินหนานรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย..
หลังจากเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ น่าจะทำให้ทั้งสองคนอับอายจนไม่อยากออกไปพบเจอผู้คน หรือไปปรากฏตัวตามงานเลี้ยงต่างๆนี่นา แต่ทำไมสองคนนั่นถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้นะ?
ระหว่างนั้น หลินหนานก็ได้เดินไปหลบอยู่ข้างทาง เพื่อไม่ให้ชายหนุ่มทั้งสองคนมองเห็นตนเอง
“นี่นายไปสืบข้อมูลของไอ้หมอนั่นมารึยัง? แล้วได้ความว่ายังไงบ้าง?” ถังจินซ่งกระซิบถามเสียงเบา
“คุณชายถัง.. ผมไปสืบมาเรียบร้อยแล้ว พบว่าในเมืองนี้มีคนชื่อหลินหนานอยู่ทั้งหมดหกสิบสองคน แต่ไม่มีใครที่มีคุณสมบัติตรงกับไอ้หมอนั่นเลย!” หวังชางหยางกัดฟันกรอดเมื่อพูดถึงหลินหนาน
“ไอ้เวรนั่นมันคลอดมาจากก้อนหินหรือยังไงกัน?” ถังจินซ่งสบถออกมาอย่างอารมณ์เสีย
เวลานี้ เขามีความคับแค้นใจอยู่เต็มอก ขืนไม่ได้แก้แค้นคืน เขาคงต้องอกแตกตายแน่ๆ!
และสำหรับชายหนุ่มที่หยิ่งยะโส และเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลอย่างถังจินซ่ง เขาย่อมไม่ยอมปล่อยให้ตนเองเป็นเช่นนั้นแน่!
แต่จนกระทั่งบัดนี้ เขายังอดที่จะประหลาดใจกับฐานะของหลินหนานไม่ได้!
จู่ๆ หมอนั่นกลายมาเป็นผู้มีพระคุณของท่านปู่ได้ยังไงกันนะ?
ระหว่างที่ถังจินซ่งกำลังครุ่นคิดเรื่องฐานะของหลินหนานอยู่นั้น หวังชางหยางก็ได้พูดขึ้นมาว่า
“แต่.. ปัญหาใหญ่ของเราตอนนี้ก็คือ หมอนั่นดันไปเป็นคนสำคัญของตระกูลถังแล้วน่ะสิ! ขืนพวกเราลงมือทำอะไรไป ผมเกรงว่า..”
“หึ.. นี่นายยังไม่รู้อีกเหรอว่าฉันเจ้าเล่ห์แค่ไหน?”
จู่ๆ ถังจินซ่งก็แสยะยิ้มออกมา และตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “นายไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น ฉันมีแผนอยู่ในหัวแล้ว..”
“โอ๊ะ?!!”
หวังชางหยางร้องอุทานออกมา ก่อนจะรีบกระซิบถามด้วยความสนอกสนใจ “คุณชายถังมีแผนอะไร ช่วยเล่าให้ผมฟังบ้างสิ!”
ถังจินซ่งหัวเราะอย่างมีเลศนัย ก่อนจะย้อนถามกลับไปว่า “บอกมา.. ตอนนี้พวกเราสองคนกำลังมางานเลี้ยงของใคร?”
“ก็มางานเลี้ยงของคุณชายหลี่น่ะสิ? ทำไมเหรอ?!” หวังชางหยางตอบกลับด้วยสีหน้างุนงง
“นายก็รู้ไม่ใช่เหรอว่า คุณชายหลี่ขอร้องให้ฉันช่วยอะไร?” ถังจินซ่งถามยิ้มๆ
“นี่คุณชายถังกำลังหมายถึงเรื่องที่คุณชายหลี่ขอให้คุณยกเลิกการส่งวัตถุดิบให้กับชิงเฉิงกรุ๊บอย่างนั้นเหรอ?”
หวังชางหยางถามต่อด้วยสีหน้างุนงงไม่เข้าใจ “แล้วเรื่องนั้นมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่พวกเราจะแก้แค้นไอ้ชั่วหลินหนานด้วยล่ะ?”
“ก็ถ้านายเป็นหนี้บุญคุณฉัน นายจะต้องตอบแทนคืนมั๊ยล่ะ?” ถึงจินซ่งไม่ตอบ แต่ย้อนถามหวังชางหยางกลับไปแทน
หวังชางหยางดีดนิ้วดังเปาะ พร้อมกับร้องตะโกนออกมาเมื่อนึกขึ้นได้ “ผมเข้าใจแล้ว! คุณชายถัง.. นี่คุณคิดจะยืมมือคุณชายหลี่ฆ่าคนสินะ!”

“ถูกต้อง!” และนี่คือเหตุผลที่ถังจินซ่งมีสีหน้าเคร่งขรึมเย็นชา

“แล้วถ้าเรื่องนี้เป็นฝีมือของคุณชายหลี่ ก็ตัดความกังวลเรื่องตระกูลถังของฉันไปได้เลย เพราะระหว่างหลินหนานกับตระกูลหลี่ ท่านปู่ต้องเลือกตระกูลหลี่มากกว่าไอ้หมอนั่นแน่!”

หวังชางหยางถึงกับยกนิ้วโป้งขึ้นพร้อมกับเอ่ยชมว่า “คุณชายถังนี่แผนสูงจริงๆ!”
“ฉันก็แค่บริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ในมือให้เกิดประโยชน์ ก็เท่านั้นเอง!” ถังจินซ่งแสยะยิ้ม สีหน้าของเขาบ่งบอกว่าภูมิอกภูมิใจในความเฉลียวฉลาดของตนเองอย่างมาก
“ว่าแต่.. การยืมมือคุณชายหลี่จัดการกับคนกระจอกๆอย่างไอ้หมอนั่น มันจะไม่เป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตนไปหน่อยเหรอ?” หวังชางหยางทำสีหน้าลังเล
ถังจินซ่งหัวเราะหึๆ ก่อนจะตอบกลับไปทันที “เรื่องนั้นฉันไม่สนใจ! ขอแค่ฉันได้ฆ่ามันเป็นการแก้แค้น แค่นี้ฉันก็นอนหลับฝันดีแล้วล่ะ! ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้ไอ้หมอนั่นได้มีชีวิตอยู่บนโลกนี้ต่อแน่!”
หลังจากได้ฟังแผนการที่เฉียบแหลมของถังจินซ่ง หวังชางหยางถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น!
ทางด้านหลินหนานที่แอบฟังอยู่นั้น ถึงกับแสยะยิ้มมุมปาก ในที่สุดเขาก็ได้รู้เหตุผลที่แท้จริงว่า เพราะเหตุใดเย่ชิงเฉิงจึงได้ไปปรากฏตัวที่คฤหาสน์ตระกูลถังในวันนี้
ที่แท้ก็มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นนี่เอง!
ว่าแต่คุณชายหลี่ที่พูดถึงนี่เป็นใครกันนะ?
ทำไมหมอนั่นถึงต้องคิดเล่นงานเย่ชิงเฉิงด้วย?
และที่สำคัญ คุณชายหลี่อะไรนี่ ยังเป็นเจ้าภาพหลักในงานเลี้ยงคืนนี้ซะด้วยสิ?
หลินหนานอยากจะแอบฟังทั้งสองคนคุยกันต่ออีกสักหน่อย แต่ทั้งหวังชางหยางและถังจินซ่ง ก็ได้เดินมาถึงหน้าประตูโรงแรมเสียก่อน และหลังจากที่ทั้งคู่เดินผ่านประตูเข้าไปแล้ว หลินหนานก็รีบแอบเดินตามเข้าไปทันที
แต่เพื่อป้องกันไม่ให้ชายหนุ่มทั้งสองคนเห็นเข้า เขาจึงเลี่ยงไปเดินอยู่ทางด้านนอกของห้องจัดเลี้ยงแทน!
หลังจากที่หวังชางหยางและถังจินซ่งเดินเข้าไปภายในห้องจัดเลี้ยงแล้ว ทั้งคู่จึงรีบเดินเข้าไปทักทายหลิวหยิงหยิงทันที
หลิวหยิงหยิงเองก็ได้ทักทายชายหนุ่มทั้งสองคน ด้วยสีหน้าท่าทางยิ้มแย้มเหมือนปกติเช่นเคย พร้อมกับเชื้อคนทั้งคู่ไปนั่งด้วยตัวเอง เพราะด้วยฐานะของพวกเขาทั้งสองคน ทั้งคู่จึงนับเป็นแขกคนสำคัญเช่นกัน หลิวหยิงหยิงจึงต้องจัดให้พวกเขาไปนั่งร่วมกับโต๊ะของเหล่าประธานคนอื่นๆ
เพราะหากจัดให้ชายหนุ่มทั้งสองไปนั่งร่วมกับคนอื่น เกรงว่าทั้งคู่คงจะต้องไม่พอใจอย่างแน่นอน และดูจากสีหน้าของพวกเขาทั้งคู่ หลิวหยิงหยิงก็พอจะคาดเดาได้ว่า พวกเขาอารมณ์ไม่สู้ดีนัก!
หลิวหยิงหยิงไม่ต้องการให้เกิดเรื่อง เพราะแขกที่มาร่วมงานในคืนนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นคนมีหน้ามีตาในสังคมทั้งนั้น!
หลังจากนั้น หลิวหยิงหยิงก็ได้ขอตัว และปรับอารมณ์ของตนเองให้พร้อม เพื่อที่จะออกไปรอต้อนรับแขกคนอื่นๆที่หน้าห้อง
แม้เธอจะรู้สึกผิดหวัง และเสียดายที่หลินหนานปฏิเสธไม่ยอมช่วย แต่แน่นอนว่า คนรอบคอบอย่างเธอ ย่อมไม่ได้วางแผนมาแค่แผนเดียวแน่!
เพียงแต่ผลลัพธ์ที่จะได้ ย่อมไม่ดีเท่ากับการมีหลินหนานช่วย!
แต่ในระหว่างที่กำลังเดินออกมา พร้อมกับครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ในหัวนั้น จู่ๆเสียงของใครบางคนก็ทำให้เธอต้องหยุดชะงัก!
“คุณสามารถทำตามข้อเสนอได้จริงๆเหรอ?”
หลิวหยิงหยิงหันกลับไปทันที และพบว่าหลินหนานกำลังยืนพิงกำแพงสูบบุหรี่อยู่ สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับร้องถามออกมาด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ
“คุณชายหลิน นี่คุณยังไม่กลับอีกเหรอ?”
“ผมก็ว่าจะกลับอยู่เหมือนกัน แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้!” หลินหนานยิ้มกว้าง
“ยังไม่กลับ.. แล้วคุณจะอยู่ทำอะไร?!” หลิวหยิงหยิงถามขึ้นด้วยสีหน้างุนงงระคนแปลกใจ
“นี่คุณกำลังคิดที่จะทำอะไรกันแน่คุณชายหลิน?” สีหน้าของหลิวหยิงหยิงบ่งบอกว่าประหลาดใจอย่างมาก
“ก็อยู่ให้คุณใช้งานยังไงล่ะ!” หลินหนานตอบกลับไปพร้อมกับยักไหล่
“ห๊ะ?! คุณชายหลิน นี่คุณพูดจริงเหรอคะ?” หลิวหยิงหยิงถามย้ำให้มั่นใจ
“จริงสิ!! แต่ก่อนอื่น ผมต้องมั่นใจก่อนว่าคุณจะยอมทำตามข้อเสนอจริงๆ!” หลินหนานหรี่ตามองในขณะที่ตอบกลับไป
และเมื่อได้เห็นสายตาของหลินหนาน หลิวหยิงหยิงก็เข้าใจได้ทันที!
ผู้ชายคนนี้เจ้าเล่ห์มากจริงๆ ไม่ยอมปล่อยให้ตนเองตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเลยสินะ!
ถ้าฉันไม่ปล่อยให้เขาได้ลิ้มรสหวานบ้าง ก็คงยากที่จะทำให้ผู้ชายแบบนี้ยอมเชื่อใจได้แน่!
หลิวหยิงหยิงเดินเข้าไปหาหลินหนานด้วยท่าทางเย้ายวน และเวลานี้ใบหน้าของเธอกับเขาก็อยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งนิ้ว!
เรียกได้ว่าแทบจะแนบชิดกันอยู่แล้ว!
จากนั้น หลิวหยิงหยิงก็โน้มศรีษะซบลงบนไหล่ของหลินหนาน กลิ่นกายหอมเย้ายวนโชยเข้าจมูกของหลินหนาน
หลิวหยิงหยิงยกปลายนิ้วเรียวงามขึ้นลูบไล้แผ่นอกของหลินหนาน พร้อมกับกระซิบถามข้างหูด้วยน้ำเสียงเย้ายวน
“นายท่านอยากให้ฉันพิสูจน์ยังไงคะ?”
หลินหนานถึงกับตาโต และรับรู้ได้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่ปะทุขึ้นภายใน เวลานี้ในร่างกายของหลินหนานราวกับมีเปลวไฟร้อนแรง กำลังลุกโชติช่วง และกำลังเผาผลาญจิตใจกับร่างกายของเขาอยู่..
และเปลวไฟที่ว่านี้ ก็คือไฟแห่งความปรารถนานั่นเอง!
เธอเรียกฉันว่านายท่านงั้นเหรอ?!!