ตอนที่ 17

Silver Overlord

17 วิชาลับอันแข็งแกร่ง

เอี้ยนลี่เฉียงลงมือปฏิบัติตามวิธีการที่บันทึกไว้ในคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น พร้อมกับข้อกำหนดของท่าทางนี้ภายในจิตใจของเขา

ในตอนแรกเอี้ยนลี่เฉียงไม่มีความรู้สึกใดๆจากการฝึกฝน แต่เมื่อเขามาถึงสองสามกระบวนท่าสุดท้าย เขาค่อยๆรู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขากลายเป็นขวดเปล่า

ทันใดนั้นทั้งร่างกายของเขาก็รู้สึกเบาสบายราวกับว่าเขาเป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งรอบข้าง

คลื่นพลังงานแปลกๆหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างไม่หยุดยั้งดูเหมือนมาจากสวรรค์ ปฐพีและจากทุกทิศทาง

จากกระดูกก้นกบไหลเวียนไปทั่วลำตัวจนขึ้นสู่สมอง การได้รับการชำระล้างด้วยคลื่นพลังงานนั้นช่างน่ายินดีและสบายตัวอย่างสุดจะพรรณนาได้ ….

พลังทั้งสามของจักรวาลนี้แบ่งออกเป็นมนุษย์ปฐพีและสวรรค์ กระบวนท่าสิบสี่ของวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นนี้จะช่วยสร้างเส้นทางเชื่อมต่อกันระหว่างสวรรค์ปฐพีและมนุษย์

ความสุขนี้เป็นสิ่งที่เอี้ยนลี่เฉียงไม่เคยสัมผัสมาก่อน

โดยไม่รู้ตัวเอี้ยนลี่เฉียงได้เริ่มฝึกกระบวนท่าทั้ง 27 ในคัมภีร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนขึ้นใจ

เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงลืมตาขึ้นหลังจากเสร็จสิ้นการฝึกฝนกระบวนท่าสุดท้าย ร่างกายของเขาก็เหมือนกับไม่ใช่ตัวเขาเองมันมีพลังมากมายมหาศาลเกินกว่าที่จะจินตนาการได้

ทันใดนั้นเอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกราวกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังจะออกมาจากท้องของเขา เขารู้สึกขยะแขยงอย่างอธิบายไม่ได้เขาอ้าปากและไอออกมา ก้อนนุ่มๆสีดำหลุดออกมาพร้อมกับการไอของเขา ดูลักษณะแล้วน่าจะเป็นก้อนเลือดก้อนหนึ่ง

หลังจากไอ ‘ก้อนเลือด’ ออกมาบริเวณระหว่างหน้าอกเอี้ยนลี่เฉียงก็รู้สึกผ่อนคลายและโล่งขึ้นมาก ความรู้สึกหายใจไม่ออกที่มีอยู่ตอนแรกดูเหมือนจะหายไปแล้ว…

เอี้ยนลี่เฉียงตกตะลึงคัมภีร์เล่มนี้ดีกว่าที่เขาคิดไว้

เขานึกถึงแพทย์ในเมืองหลิวเหอที่วินิจฉัยอาการบาดเจ็บของเขา มันเป็นอาการอุดตันของเลือดเสียจากผลกระทบของวิชาฝ่ามือเหล็ก

ร่างกายของเขาจะฟื้นตัวเมื่อเลือดอุดตันนี้สลายไปแล้ว ความรู้สึกที่ไม่มีสิ่งกีดขวางระหว่างหน้าอกของเขาช่างเป็นความสุขสบายอย่างแท้จริง

เอี้ยนลี่เฉียงหายใจเข้าลึกและเหวี่ยงหมัดออก 2 3 ครั้งเพื่อทดสอบสุขภาพของตัวเอง เขาค้นพบว่าบริเวณระหว่างหน้าอกและท้องของเขาไม่มีความรู้สึกไม่สบายเลย ความเจ็บปวดที่เมื่อใดก็ตามที่เขาพยายามเคลื่อนไหวจากครั้งที่แล้วไม่ปรากฏอีกต่อไป

เมื่อมองไปที่ก้อนเลือดสีดำที่เขาไอออกมา ความคิดหนึ่งก็เข้ามาในจิตใจของเอี้ยนลี่เฉียง

ก้อนเลือดนี้อาจเป็นก้อนเลือดที่ถูกทิ้งไว้เมื่อเขาได้รับผลกระทบจากวิชาฝ่ามือเหล็กของหงต๋า? ถ้าเขาไอออกมาแบบนี้แล้วหมายความว่าเขาหายจากอาการบาดเจ็บจริงหรือ? นี่มันเหลือเชื่อเกินไปมันเหมือนกับความฝัน เขาจำได้ว่าแพทย์บอกเขาว่าอาการบาดเจ็บของเขาต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งหรือสองเดือนในการรักษาแล้วมันจะเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?

ในขณะนี้ความตกตะลึงในหัวใจของเอี้ยนลี่เฉียงนั้นยากเกินกว่าที่จะพูดออกมาได้

ในขณะที่เอี้ยนลี่เฉียงยังคงงุนงงจู่ๆก็ได้ยินเสียงเคาะประตูลานบ้านของเขา

‘ดงดง…ดงดง…’

เอี้ยนลี่เฉียงขยับไปเปิดประตูอย่างตกใจ หลังจากนั้นเพียงสองก้าวเขาก็หันไปและเห็นก้อนเลือดที่เขาไอออกมาบนพื้น เขารีบใช้เท้าขุดลงไปบนพื้นเบาๆจากนั้นเขี่ยก้อนเลือดลงไปแล้วใช้ดินกลบ

หลังจากที่เขาทำทั้งหมดนี้เสร็จแล้วเขาก็หายใจเข้าลึกๆ พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ดูเหมือนเป็นปกติ จากนั้นเขาก็เดินไปที่ทางเข้าของลานเล็กๆและเปิดประตูออก สาวใช้หน้ากลมอายุประมาณสี่สิบปียืนอยู่นอกประตูพร้อมถือกล่องอาหารไว้ในมือ เอี้ยนลี่เฉียงเคยเห็นสาวใช้คนนี้เมื่อก่อน เธอเป็นหนึ่งในคนรับใช้ในย่านโรงตีเหล็กแห่งนี้

“ นายน้อยเอี้ยนข้านำอาหารเช้ามาให้ท่านแล้ว…” รอยยิ้มที่จริงใจปรากฏบนใบหน้ากลมของสาวใช้ขณะที่เธอยื่นกล่องอาหารให้เขา “นายน้อยเอี้ยนโปรดทิ้งกล่องอาหารไว้ข้างประตูเมื่อทานเสร็จแล้วข้าจะกลับมาเก็บมันทีหลัง!” “ขอบคุณท่านมาก!” เอี้ยนลี่เฉียงยิ้มเล็กน้อยและยอมรับกล่องอาหารไป “ใช่แล้วพรุ่งนี้เช้าไม่ต้องส่งของอะไรมาอีกนะ” ทันทีที่เอี้ยนลี่เฉียงพูดจบสาวใช้ก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าหวาดกลัวทันที “ นายน้อยไม่พอใจอาหารของข้าหรือ?” “ไม่ใช่อย่างนั้นพรุ่งนี้เช้าข้าจะไปทานอาหารกับคนอื่นที่โรงอาหารเองอย่าทำเหมือนข้าเป็นคนพิเศษไปเลย”

“ไม่ต้องห่วงข้าจะคุยกับลุงเฉียนเอง!”

“ เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ…”

แม้ว่าเขาจะสามารถอยู่ที่ลานได้ตลอดเวลาในขณะที่รอให้คนอื่นมารับใช้ แต่เอี้ยนลี่เฉียงไม่ต้องการถูกปฏิบัติเช่นนี้เพราะเขาไม่ใช่นายน้อยมาจากไหน จากประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมานิสัยแบบนี้จะทำให้ผู้อื่นรังเกียจไปเฉยๆ และนั่นไม่ใช่สิ่งที่ดี เขามาที่นี่ที่เมืองหวงหลงเพื่อหนีจากอันตราย แต่มันไม่ใช่ข้ออ้างให้ทำเรื่องไร้สาระเช่นนี้ แม้ว่าเขาจะอยู่ภายใต้การคุ้มครองของเฉียนซู แต่การคลุกคลีกับทุกคนในย่านโรงตีเหล็กเป็นทางเลือกที่ฉลาดที่สุด

หลังจากที่สาวใช้ออกไปแล้ว เอี้ยนลี่เฉียงก็เอากล่องอาหารไปที่โต๊ะหินใต้ต้นไม้ในลานบ้านและเปิดมันออก กลิ่นหอมแสนอร่อยลอยเข้าจมูกของเขาทันที

มีโจ๊กลูกเดือยพร้อมเนื้อไม่ติดมันในชามใหญ่ เต้าหู้แห้งผัดผักและไข่ไก่สองฟองในกล่องอาหาร ท้องของเอี้ยนลี่เฉียงคำรามทันทีเมื่อเห็นอาหาร

เขาไม่แน่ใจว่ามันเป็นเพราะการฝึกทั้งคืนที่เขาเพิ่งทำไปหรือเป็นความจริงที่ว่าอาหารที่สะอาดปราศจากการปรุงแต่งเหล่านี้ล้วนทำจากวัตถุดิบจากธรรมชาติแท้ๆที่ทำให้มันดูน่ารับประทาน อย่างไรอาหารมื้อนี้ก็นับว่าพิเศษจริงๆ ในช่วงเวลาสั้นๆเขาได้กินทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไปจนหมดสิ้นจากนั้นเขาจึงล้างกล่องอาหารแล้ววางไว้ที่ทางเข้าประตู

ในตอนแรก เอี้ยนลี่เฉียงกำลังวางแผนที่จะฝึกฝนคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นอีกครั้งหลังจากที่เขาทานอาหารเสร็จแล้ว อย่างไรก็ตามก็มีความคิดบางอย่างขึ้นมาในสมองของเขา เขาเป็นเพียงวัยรุ่นอายุสิบสี่ปี ธรรมชาติของวัยรุ่นในวัยนี้ควรจะกระตือรือร้นมากกว่าอยู่เงียบๆถ้าเขาหมกตัวอยู่ในลานด้านหลังตลอดเวลา ผู้คนจะคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเขาแทน

ด้วยประสบการณ์ชีวิตในชาติที่แล้ว เอี้ยนลี่เฉียงเข้าใจดีว่าการเป็นคนแปลกๆนั้นไม่ใช่เรื่องดีอย่างยิ่ง ผู้คนจะตีตัวออกห่างจากท่านหากคิดว่าท่านไม่ใช่คนปกติ

เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็เดินตรงไปยังภูเขาด้านหลังย่านโรงตีเหล็กและเดินมันไปเรื่อยๆเหนื่อยก็หยุดพักเล็กน้อย

อากาศในป่าภูเขาแห่งนี้สดชื่นมาก เอี้ยนลี่เฉียงเดินเล่นรอบ ๆ ป่าอย่างสบายๆ ในขณะที่สังเกตภูมิประเทศอย่างระมัดระวัง ประมาณยี่สิบนาทีต่อมาในที่สุดเขาก็มาถึงยอดเขา

สถานที่แห่งนี้ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมีพื้นที่เพียงสามสิบหรือสี่สิบตารางเมตร พื้นหญ้าเขียวชอุ่มเป็นเหมือนที่นอนนุ่มๆมีต้นไม้หนาทึบอยู่โดยรอบ ด้านหลังนี้เป็นกำแพงภูเขาที่ยาวไปจนถึงด้านล่างและมีลำธารอยู่ตรงหน้าเนินเขา ลานฝึกของย่านโรงตีเหล็กอยู่ใต้เนินเขานี้ จากที่นี่เอี้ยนลี่เฉียงสามารถประเมินสถานการณ์ที่เชิงเขาได้อย่างง่ายดาย เขาสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีใครกำลังทำอะไร

การขึ้นไปบนภูเขาช่วยเอี้ยนลี่เฉียงย่อยอาหารเกือบทั้งหมดแล้ว เขาออกกำลังกายที่นี่สักพักและตระหนักว่าความรู้สึกไม่พึงประสงค์ระหว่างหน้าอกและในท้องของเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย

สิ่งนี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เขามากขึ้น เมื่อรู้สึกว่าร่างกายของตนเองแข็งแรงเต็มที่แล้วเขาจึงเริ่มฝึกตามคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นอีกครั้ง

เอี้ยนลี่เฉียงฝึกฝนหมัดพยัคฆ์คำรามอย่างต่อเนื่อง

วิชาหมัดพยัคฆ์คำรามเป็นเป็นวิชาหมัดขั้นพื้นฐานประเภทหนึ่งที่แพร่หลายไปทั่วอาณาจักรฮั่นอันยิ่งใหญ่ ทุกคนที่ฝึกวิชาการต่อสู้สามารถใช้ออกได้

เอี้ยนลี่เฉียงสามารถใช้วิชานี้ออกก็เพราะ เอี้ยนเต๋อชางสอนให้เขาเป็นการส่วนตัว ลำดับการเคลื่อนไหวในวิชาหมัดนี้มีไม่กี่กระบวนท่าดังนั้นจึงง่ายมากที่จะเรียนรู้และฝึกฝน นอกจากนี้ยังสามารถช่วยให้ผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มือใหม่สามารถสร้างรากฐานได้อย่างง่ายดาย

แม้ว่าการเคลื่อนไหวในวิชาหมัดนี้จะมีไม่กี่กระบวนท่า แต่ก็มีข้อกำหนดที่เข้มงวดกว่าวิชาฝ่ามือในระดับเดียวกัน เด็กหนุ่มในเมืองหลิวเหอมีอย่างน้อย 9 ใน 10 คนที่ได้ฝึกวิชานี้ตั้งแต่เด็ก