บทที่ 61 อยู่ด้วยกัน

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

บทที่ 61 อยู่ด้วยกัน

เจียงหยุนเอ๋อก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และพูดอีกครั้ง “ฉันหาบ้านได้ด้วยตัวเองคุณไม่จำเป็นต้องจัดให้ฉัน”

ถ้าให้ลี่จุนถิงจัดการ ก็คงเป็นบ้านที่เธอจ่ายไม่ไหวอีกครั้งแน่ แม้เธอจะรู้ว่าลี่จุนถิงจะไม่ยอมให้เธอจ่ายเงินเอง แต่เธอก็เกรงใจเกินกว่าที่จะติดค้างอะไรเขาอีกครั้ง

“เรื่องที่ฉันตัดสินใจแล้ว ไม่มีสิทธิ์มาโต้แย้งได้” ลี่จุนถิงเหลือบมองเธอ จับไหล่ของเธอ และผลักเธอไปที่ห้อง “พอแล้ว เธอไปจัดของของเธอเถอะ สถานการณ์ในตอนนี้ เธอก็คงไม่อยากอยู่ที่นี้อีกต่อไปแล้วใช่ไหม”

คำพูดของลี่จุนถิงกระทบความคิดที่แท้จริงของ เจียงหยุนเอ๋อ เมื่อเธอนึกถึงตอนที่บ้านถูกติดตั้งกล้องโดยไม่รู้เรื่อง เธอก็รู้สึกขนลุกไปทั้งตัว

ในเวลานี้ เสี่ยวถวนจื่อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวข้างนอก ก็เดินออกมาจากห้อง “พ่อครับ พ่อกลับมาแล้ว แต่ทำไมมีคนมากมายมาด้วยครับ”

“ถวนจื่อ” เขาก็มองเห็นเสี่ยวถวนจื่อวิ่งมายังเขา ลี่จุนถิงยืนมือไปลูบหัวของลูก “ผมมาช่วยพ่อและแม่ย้ายบ้านเองครับ”

แม้จะไม่รู้สาเหตุ แต่เสี่ยวถวนจื่อก็รู้ได้ว่าลี่จุนถิงพูดแบบนี้ต้องมีเหตุผลแน่ เลยพยักหน้าอย่างไม่ลังเล “ได้ครับ”

“ถ้าอย่างนั้นถวนจื่อก็รีบมาช่วยเก็บของเถอะนะ อย่าให้แม่ต้องลำบาก” ลี่จุนถิงพูดเสียวเขา

“ครับผม” เสี่ยวถวนจื่อรีบตอบตกลงทันที “ของของถวนจื่อก็เก็บด้วยตนเองนะคะ อย่าไปรบกวนแม่”

เมื่อเห็น เสี่ยวถวนจื่อเข้าไปในห้องแล้ว ลี่จุนถิงก็หันไปมอง เจียงหยุนเอ๋ออีกครั้ง “ดูสิ ถวนจื่อไปเก็บของแล้ว ทำไมคุณถึงยังยืนอยู่”

ในที่สุด เจียงหยุนเอ๋อก็เอากระเป๋าเดินทาง1ใบเดินเข้าไปในรถของลี่จุนถิงพร้อมกับเสี่ยวถวนจื่อ

หลังจากขึ้นรถแล้ว เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกประหม่าเล็กน้อย และเธอไม่รู้ว่า ลี่จุนถิงจะพาเธอและเสี่ยวถวนจื่อไปที่ไหน แต่ว่า …

รถค่อยๆจอดลงที่หน้าคฤหาสน์หลังหนึ่ง ลี่จุนถิงเปิดประตูรถให้เจียงหยุนเอ๋อ และพูดว่า “ต่อไปคุณก็อาศัยอยู่ที่นี่”

เมื่อมองไปที่คฤหาสน์อันงดงามที่อยู่ตรงหน้า เจียงหยุนเอ๋อก็ตกตะลึง นี่มันหรูหรากว่าคฤหาสน์ตระกูลเจียงที่เธอเคยอาศัยอยู่มาก่อนอย่างมาก นี่ไม่ใช่ที่ ลี่จุนถิงอาศัยอยู่หรือ

ในตอนนี้ เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกตกใจกับการถูกเอาใจ จึงพูดอย่างรวดเร็วว่า “คุณลี่คะ คุณไม่จำเป็นต้องจัดสถานที่ที่ดีเช่นนี้ให้ฉัน … ฉันและถวนจื่อหาที่อยู่อาศัยเองได้ค่ะ”

ลี่จุนถิงขมวดคิ้วเข้าหากัน แต่ในคำพูดของเขาก็มีความเผด็จการมาก “ไม่ได้ ผมก็พาพวกคุณมาถึงที่นี่แล้ว ก่อนหน้านี้ผมตั้งใจหาสถานที่ใหม่ให้พาดคุณ แต่ชุมชนนั้นมีสภาพแวดล้อมที่แย่มาก ถวนจื่อไปกันเถอะ พ่อพาลูกเข้าไป”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณพ่อ!” เสี่ยวถวนจื่อกลับตอบตกลงโดยไม่ลังเลอะไรเลย จูงมือของลี่จุนถิง แล้วเดินเข้าไปข้างใน เหลือแค่ เจียงหยุนเอ๋อที่ยังยืนอยู่ที่เดิม ตาก็มองไปยังกระเป๋าเดินทางที่ลี่จุนถิง ถืออยู่ ก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี

เธอรีบเดินตามลี่จุนถิง แล้วเจียงหยุนเอ๋อก็ได้ยินเสียงของเขาดังขึ้นอีกครั้ง

“ ผมได้จัดบอดี้การ์ดและพี่เลี้ยงเด็กแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร อาศัยอยู่ที่นี่กับเสี่ยวถวนจื่อให้สบายใจเถอะ ไม่มีอะไรที่คุณต้องกังวล ครั้งที่แล้วสมิทธ์ไม่ใช่ว่าเอารถยนต์ให้คุณคันหนึ่งเหรอ หากคุณยังขับไม่เป็นผมก็จะหาคนขับรถให้คุณ ต่อไปคุณจะออกไปไหนจะได้สะดวกมากขึ้น” ลี่จุนถิงกล่าวอย่างใจเย็น ราวกับว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องเล็กน้อยที่แสนจะธรรมดา

“นี่มัน…… ” เจียงหยุนเอ๋อขยับริมฝีปาก เธอไม่รู้จริงๆว่าเธอได้รับความช่วยเหลือมากมายจากลี่จุนถิงได้อย่างไร

เมื่อเทียบกับเจียงหยุนเอ๋อ แล้วเสี่ยวถวนจื่อสามารถแสดงออกได้อย่างเป็นธรรมชาติมาก เขาเข้ากับสถานะอย่างรวดเร็ว เขาไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นคนนอกเลย เขาแค่เดินไปรอบๆคฤหัสถ์ หลังจากพี่เธอเดินรอบแล้ว ก็เข้าใจโครงสร้างพื้นฐานของคฤหาสน์อย่างชัดเจน

ลี่จุนถิงเฝ้าดูท่าทางของเสี่ยวถวนจื่อด้วยความสนใจ และหัวใจของเขาก็เต้น เสี่ยวถวนจื่อนี้ … มีความเคยชินเหมือนกับเขาอย่างกับแกะ ทุกครั้งที่ตนเองไปสถานที่ไม่คุ้นชิน ก็จะทำความคุ้นเคยกับสิ่งรอบตัวก่อน

“คุณลี่ เราได้เตรียมอาหารเย็นตามคำแนะนำของท่านเสร็จแล้วค่ะ” ในตอนนี้ พี่เลี้ยงเด็กเดินมา และกล่าวกับลี่จุนถิงด้วยความเคารพ

“อืม ให้คุณลำบากแล้ว” ลี่จุนถิงพยักหน้าเบาๆ หันหน้าไปมองเจียงหยุนเอ๋อ “วุ่นวายมาทั้งวันคงหิวแล้ว ไปเถอะ เราไปกินข้าวเย็นด้วยกัน”

หลังจากนั้นลี่จุนถิงก็อุ้มถวนจื่อขึ้นมา และพูดว่า “ถวนจื่อพ่อขอให้ป้าเขาเตรียมซี่โครงหมูเปรี้ยวหวานให้ลูก ดีใจไหม”

“ดีใจครับ” เสี่ยวถวนจื่อปรบมืออย่างตื่นเต้น “เมื่อตะกี้ผมยังขอให้แม่ทำให้กินเลย ผมคิดว่าวันนี้ผมจะไม่ได้กินแล้ว ”

สายตาของเจียงหยุนเอ๋อไปมามองระหว่างเสี่ยวถวนจื่อและ ลี่จุนถิง สองคนนี้ … คุ้นเคยกับตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

เจียงหยุนเอ๋อนั่งลงตรงหน้าโต๊ะอาหารด้วยรู้สึกเกร็ง จนต้อง

เจียงหยุนเอ๋อนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเย็นอย่างประหม่า ดึงชายเสื้อผ้าของตนเองอย่างช่วยไม่ได้ แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอมาที่บ้านของลี่จุนถิงแต่เมื่อคิดว่าต่อไปเธอต้องอยู่ที่นี่ เธอก็ยังรู้สึกทำตัวไม่ถูก

นี่ … มันไม่เทียบเท่ากับการอยู่ร่วมกันเหรอ แต่เธอกับ ลี่จุนถิงไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบนั้น อา ไม่รู้ ลี่จุนถิงกำลังคิดอะไรกันแน่

“เป็นอะไร คิดว่าที่นี่ไม่ดีพอหรือ” เมื่อลี่จุนถิงมองใบหน้าของเจียงหยุนเอ๋อที่แสดงออกเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ลี่จุนถิงก็ถามขึ้น

เจียงหยุนเอ๋อโบกมือครั้งแล้วครั้งเล่าและพูดว่า “ไม่ … ไม่ใช่ … ดีมากเลยค่ะ”

ทันใดนั้น เธอก็เหลือบไปเห็นแสงเทียนที่ตั้งไว้บนโต๊ะ จากนั้นจึงจ้องมองอีกครั้ง อาหารมื้อค่ำนี้มีกลิ่นอายของอาหารค่ำใต้แสงเทียน ซึ่งเป็นบรรยากาศที่โรแมนติกเลยทีเดียว

เจียงหยุนเอ๋อตกตะลึง และเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นก็จ้องเข้ากับสายตาของลี่จุนถิง เธอจึงลดศีรษะลงอย่างรวดเร็วด้วยความตื่นตระหนก และใบหน้าของเธอก็เหมือนไหม้โดยไม่รู้ว่าทำไม

ทั้งหมดนี้ … ลี่จุนถิงขอให้ใครเตรียมกันแน่นะ หัวใจของเจียงหยุนเอ๋อเต้นแรง และมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของเธอ

หลังจากนั้นไม่นาน ลี่จุนถิงก็ขอให้คนมาเสิร์ฟไวน์แดง และรินให้ เจียงหยุนเอ๋อหนึ่งแก้ว

ผ่านไปสักพัก เจียงหยุนเอ๋อก็ค่อยๆผ่อนคลายลง หลังจากดื่มไวน์แดงกับ ลี่จุนถิง ไปสองสามแก้วเธอก็เริ่มเมาเล็กน้อย

หลังรับประทานอาหารเสร็จ หน้าของเจียงหยุนเอ๋อแดงก่ำ และพูดกับเสี่ยวถวนจื่อด้วยความเมาเล็กน้อย “ถวนจื่อ ดึกแล้ว ไปพักผ่อนได้แล้ว แล้วพรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนนะครับ”

ลี่จุนถิงเรียกพี่เลี้ยงมา และให้พี่เลี้ยงพาเสี่ยวถวนจื่อไปที่ห้องที่เขาจัดไว้ เหลือแค่ เจียงหยุนเอ๋อกับ ลี่จุนถิงอยู่ตามลำพังสองคน เธอก็เริ่มกังวลอีกครั้ง

ลี่จุนถิงมองไปที่ เจียงหยุนเอ๋ออย่างลึกซึ้ง พูดทันทีว่า “ไปตามฉันไปชั้นบน”

“หือ ขึ้นข้างบน ขึ้นไปชั้นบนทำอะไร” เจียงหยุนเอ๋อถามด้วยความสับสน

“ ผมจะพาคุณไปเยี่ยมห้องของผมหน่อย” พูดเสร็จ ลี่จุนถิงก็คว้าข้อมือเจียงหยุนเอ๋อและพาเธอขึ้นไปชั้นบน