บทที่ 59 ดาราใหญ่มาโรงพยาบาล

หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า

บทที่ 59 ดาราใหญ่มาโรงพยาบาล

บทที่ 59 ดาราใหญ่มาโรงพยาบาล

ในบรรดาโรคทั้งหมดที่พบในปัจจุบัน โรคหลอดเลือดสมองไม่ใช่โรคที่รักษาได้ยาก

โรคนี้เป็นโรคที่พบได้บ่อยและสามารถรักษาได้ด้วยยาจีนที่ไม่ได้ออกฤทธิ์แรงมาก

โจวอี้ไม่เข้าใจว่าทำไมหมอคังถึงต้องพาตัวคนไข้มาหาเขาเพียงเพราะโรคแค่นี้? หรือเป็นไปได้ว่าจะมีโรคแทรกซ้อนอย่างอื่นด้วย?

ถ้าใช่…แล้วทำไมหมอคังถึงได้พูดถึงแต่โรคหลอดเลือดสมองเท่านั้นล่ะ?

“หมอโจว ผมได้ยินมาว่าทักษะทางการแพทย์ของคุณดีมาก และผมอยากเห็นกับตา” คังเฟิงกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

“ด้วยเรื่องแค่นี้คุณถึงกับต้องพาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองมาหาผมเนี่ยนะ?” โจวอี้รู้สึกว่าชายคนนี้อาจมีเจตนาร้ายบางอย่าง หรือเขาเคยสร้างความขุ่นเคืองให้อีกฝ่ายกัน?

“ใช่!” คังเฟิงพยักหน้า

“คุณปิดบังอะไรอยู่หรือเปล่า?” โจวอี้ต้องการจะยุติเรื่องนี้ แต่เขาเห็นผู้ป่วยนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างร้อนใจ จรรยาบรรณของแพทย์ทำให้เขาไม่สามารถขับไล่คนไข้ออกไปได้ หรือแม้กระทั่งทะเลาะวิวาทกับหมอด้วยกันต่อหน้าผู้ป่วย แม้ว่าจะเป็นอีกฝ่ายที่หาเรื่องเขาก่อนก็ตาม

ลืมไปเถอะ!

ในเมื่อคนผู้นี้ต้องการเห็นก็ปล่อยให้เขาได้เห็น

โจวอี้เริ่มจับชีพจรของผู้ป่วย จากนั้นก็เริ่มสังเกตใบหน้าของเธอ ถามครอบครัวของอีกฝ่ายเกี่ยวกับอาการของผู้ป่วย และถามว่ามีอาการอย่างไรบ้าง?

การวินิจฉัยล่าสุดคืออีกฝ่ายเป็นโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของพลังปราณและเลือด รวมถึงการอุดตันของชีพจรในสมอง

และบางทีผู้ป่วยอาจมีอาการอัมพาตครึ่งซีก ชาตามแขน ขา หรือลิ้นแข็ง แต่อาการของผู้ป่วยยังไม่ถือว่าหนักจนไม่อาจรักษาได้ มันยังพอมีทาง!

โจวอี้มั่นใจว่าเมื่อได้รับการรักษาแล้วเธอจะต้องหายเป็นปกติ

“ญาติผู้ป่วยทั้งสองคน ผมอยากขอความร่วมมือช่วยให้ผู้ป่วยนอนราบบนเตียงด้วยครับ” โจวอี้สั่ง

“ได้!”

ญาติผู้ป่วยตอบรับอย่างเร่งรีบ ก่อนจะกุลีกุจอช่วยกันประคองร่างของหญิงผู้ป่วยให้นอนราบบนเตียงเพื่อรอการรักษาจากเขา

ประมาณแปดนาทีต่อมา…

หลังจากฝังเข็มเรียบร้อยแล้ว โจวอี้ก็วางเข็มเงินลงแล้วค่อย ๆ ยกร่างของหญิงชราขึ้น เขาปล่อยให้เธอนอนบนเตียงแล้วค่อย ๆ กดลงไปตามใบหน้าอันเหี่ยวย่นของเธอ

กดเบา ๆ และหยิก

พลังปราณแผ่ซ่านออกจากฝ่ามือให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวของเธอ และปรับสภาพกล้ามเนื้อใบหน้าของเธอด้วย

ผ่านไปประมาณสิบนาที เขาก็ละมืออกจากแก้มของหญิงชราและถามด้วยรอยยิ้มว่า “ตอนนี้คุณรู้สึกยังไงบ้างครับ?”

“ดีขึ้นมาก” หญิงชราพยักหน้าเล็กน้อย

“ตอนนี้คุณดีขึ้นมากแล้ว กลับบ้านไปพักผ่อนนะครับ ผมจะให้ยาจีนอีกชุดหนึ่ง กลับบ้านแล้วก็ต้มกิน”

“ค่ะ ขอบคุณนะคะหมอ” หญิงชรากล่าวอย่างซาบซึ้ง

“ด้วยความยินดีครับ”

คังเฟิงที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็รู้สึกอึ้งหลังจากมองดูเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างโง่งม

ก่อนหน้านี้หญิงชราผู้เป็นโรคหลอดเลือดสมองไม่สามารถเดินได้อย่างอิสระแถมยังมีปากและตาบิดเบี้ยว แต่หลังจากการฝังเข็มของโจวอี้ อาการเหล่านี้กลับหายไป!

เป็นไปได้ยังไง?!

แค่ฝังเข็มเพียงครั้งเดียวเนี่ยนะ?

ก่อนหน้านี้เขาไม่ค่อยจะถูกชะตากับชายหนุ่มคนนี้เท่าไหร่นัก และยังตั้งตนเป็นศัตรูกับโจวอี้ในใจ ถึงกับคิดว่าข่าวลือเกี่ยวกับการรักษาอันยอดเยี่ยมนั้นเป็นเพียงการโม้เกินจริง

สาเหตุที่เขาไม่ถูกชะตานั้นเป็นเพราะคู่หมั้นของเขา และแพทย์ในแผนกอื่น ๆ ของโรงพยาบาลต่างพากันยกย่องโจวอี้ ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกอิจฉา!

เขาจึงพาผู้ป่วยเคสนี้มาเพื่อท้าทายโจวอี้ และคิดจะทำให้โจวอี้กลายเป็นตัวตลก

แต่ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นกลับทำให้เขาต้องอับอายแทน!

ดวงตาของเหลียนซานพลันสว่างวาบ เธอรู้สึกว่าโจวอี้สามารถโด่งดังไปทั่วทั้งโรงพยาบาลได้ด้วยการรักษานี้

ผลการรักษานั้นยอดเยี่ยม!

แม้เธอจะเป็นคนที่ค่อนข้างอวดดี แต่เธอก็คงไม่สามารถรักษาผู้ป่วยได้เหมือนอย่างที่โจวอี้ทำแน่ ๆ

“หมอเหลียน ช่วยส่งคนไข้กับหมอคังด้วย” โจวอี้สั่งเดินไปที่อ่างน้ำด้านในและเตรียมล้างมือ

“ตกลง!”

เหลียนซานช่วยประคองหญิงชราออกจากห้องก่อนจะปล่อยมือและมองผู้ป่วยชราและญาติ ๆ เดินออกไป จากนั้นจึงหันไปหาคังเฟิง

“หมอคัง คุณเห็นแล้วใช่ไหม?” เหลียนซานหัวเราะ

“ผมเห็นแล้ว หมอโจว…มีความสามารถมาก” คังเฟิงรู้สึกว่าความอับอายนั้นทำให้เขาไม่อยากอยู่ที่นี่สักวินาทีเดียว

ภายในห้อง โจวอี้หยิบกระติกน้ำร้อนออกมาและกำลังดื่มด่ำอยู่กับชา

ครั้นได้ยินการสนทนาระหว่างเหลียนซานและคังเฟิงนอกห้อง ใบหน้าของเขาก็พลันสว่างขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

ถ้าหมอคังอยากดูเรื่องตลกจากเขา อีกฝ่ายก็จะเป็นคนที่กลายเป็นตัวตลกในที่สุด!

สิบเอ็ดโมงเช้า…

รถหรูคันหนึ่งปรากฏอยู่ในลานจอดรถของโรงพยาบาล

ถังหว่านสวมหมวกและแว่นกันแดดขนาดใหญ่อำพรางตัวเองขณะมองดูผู้คนที่กำลังเดินออกไปอย่างเงียบๆ

เวลานี้ประตูก็ถูกเปิดออกจากด้านนอก

“พี่หว่าน ฉันไปสังเกตที่แผนกผู้ป่วยนอกมาแล้ว… คุณโจวเขาสวมเสื้อกาวน์สีขาว” ซุนเหมิงกล่าว

นี่มันเป็นเรื่องจริงเหรอ?!

เขาเป็นหมอที่โรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจินหลิงจริง ๆ น่ะเหรอ?!

“แล้วไง?” ถังหว่านถาม

“แล้ว… ฉันก็ถามพยาบาลมา พวกเขารักคุณโจวมากจนเกือบยกย่องเขาว่าเป็นหมอเทวดา!” ซุนเหมิงเล่าอย่างมีความสุข

ถังหว่านขมวดคิ้ว ทำไมยิ่งฟังแล้วเธอก็ยิ่งรู้สึกไม่เชื่อ

จริงอยู่ที่โจวอี้มีทักษะทางการแพทย์ แต่เขาเหมาะที่จะถูกเรียกว่า ‘หมอเทวดา’ งั้นเหรอ?

หรือโจวอี้จะรู้ว่าวันนี้เธอมาที่นี่เพื่อแอบมาจับพิรุธ หรือว่าเขาจ้างพยาบาลคนนั้นไว้เพื่อโกหกใช่รึเปล่า?

เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและกำลังจะลงจากรถไปดูด้วยตาตัวเอง แต่เธอก็พบรถเมอร์เซเดสสุดหรูสองคันจอดอยู่ใกล้ ๆ

เมื่อประตูบานหนึ่งเปิดออก ชายหญิงที่แต่งตัวดีและดูทันสมัยประมาณหกเจ็ดคนก็ออกมาจากรถหรูสองคันนั้น แล้วพวกเขาก็ประคองชายชราคนหนึ่งออกมาจากรถ

“หลังจากขับรถมานานกว่าสี่ชั่วโมง ในที่สุดฉันก็มาถึงที่นี่ เหนื่อยจัง”

“เร็วเข้า เหลือเวลาทำการอีกแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น รีบขึ้นไปลงทะเบียนกันเถอะ จะได้พาพ่อไปรักษาไว ๆ”

“ใช่ ๆ อย่าช้า ว่ากันว่าหมอโจวเข้าคลินิกแค่สัปดาห์ละสองวันเอง เราควรรีบขึ้นไปก่อนที่เขาจะกลับ”

“พี่สามอยู่ที่ไหน เราไม่ได้โทรบอกเธอล่วงหน้าเหรอ?”

“พี่สาม…กำลังมา”

ภายในรถหรูคันข้าง ๆ

ถังหว่านเห็นแพทย์หญิงชุดขาววิ่งเข้ามา แพทย์คนนั้นควรจะเป็นพี่สามของพวกเขา แต่ทำไมพวกเขาพูดถึงหมอโจว?

โจวอี้เหรอ?

ขณะที่ครอบครัวนั้นรีบไปที่อาคารผู้ป่วยนอกพร้อมกับชายชราในอ้อมแขน ถังหว่านก็เดินออกไปพร้อมกับขมวดคิ้ว

“พี่หว่าน ฉันคิดว่าพวกเขากำลังพูดถึงคุณโจวอี้…” ซุนเหมิงกล่าวอย่างตื่นเต้น

“หมอที่นามสกุลโจวในแผนกผู้ป่วยนอกไม่ได้มีแค่โจวอี้” ถังหว่านตวัดสายตามองซุนเหมิงอย่างหยาบคาย

“คุณไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดอย่างชัดเจนเหรอ? พวกเขาพูดถึงคลินิกที่แผนกนั้น แล้วพี่เขยก็ทำงานอยู่ที่นั่น” ซุนเหมิงหัวเราะ

“นั่นคือโจวอี้ ไม่ใช่พี่เขยของเธอ!” ถังหว่านเน้น

“…” ซุนเหมิงแลบลิ้นและหันมามองด้วยรอยยิ้มขี้เล่น

คนเหล่านี้มาที่นี่เพราะโจวอี้งั้นเหรอ?

ก่อนหน้านี้เขาพูดว่าทำงานแค่สองวันต่อสัปดาห์ หรือว่าจริง ๆ แล้วเขาหางานทำในโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจินหลิง!

ทว่าอะไรก็ไม่สามารถพิสูจน์ความจริงได้เท่ากับการไปดูด้วยตาตัวเอง!

ถังหว่านจึงตัดสินใจที่จะตามไปดู