บทที่ 77 มีความแค้นข้าจะแก้แค้นทันที

พลิกชะตาหมอยา

พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว บทที่ 77 มีความแค้นข้าจะแก้แค้นทันที
หลังจากได้รับจดหมายจากหนานกงจี๋แล้ว เฟิ่งชิงหัวก็มาถึงด้านหลังภูเขา ยืนอยู่ที่นี่ มองลงไปที่กระโจมใต้เท้าของนาง นางรู้สึกเหงาโดยไร้เหตุผล
เสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลัง เฟิ่งชิงหัวไม่หันหลังกลับไป แต่พูดอย่างเย็นชา “เจ้าบอกว่าต่อจากนี้ไปจะอยู่กันคนละฝ่ายไม่ใช่หรือ?”
“ชิงหัว” เสียงของหนานกงจี๋มีความซับซ้อน
“อย่าเรียกข้าด้วยน้ำเสียงแบบนี้ อย่าบอกข้าว่าเจ้าคิดว่าข้าเป็นลูกสาวของเจ้าจริงๆ” เฟิ่งชิงหัวยิ้มอย่างเหยียดหองครักษ์
หนานกงจี๋ถอนหายใจและพูดว่า “ชิงหัว ช่วงนี้เจ้าอยู่ที่จวนอ๋องดีไหม?”
“เหตุใดถึงไม่ดีเล่า? เมื่อเทียบกับจวนเฉิงเซี่ยงโทรมๆ ของเจ้าแล้ว จวนอ๋องมีทุกอย่างที่ต้องการ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีคนหน้าซื่อใจคดและน่ารำคาญมากนัก”
“ชิงหัว ครั้งนี้ที่ข้ามาเพื่อบอกเจ้าว่าถ้าเจ้าไม่อยากอยู่ในจวนอ๋องอีกต่อไป ข้าจะหาทางส่งเจ้าจากไป นิสัยใจคอของเจ้าไม่เหมาะกับการอยู่ในจวนอ๋องเลย”
“ส่งข้าจากไป? เหตุใดข้าไม่รู้ว่าใต้เท้าเฉิงเซี่ยงมีความสามารถมากเช่นนี้? ตอนนี้เจ้าไม่กลัวความโทสะของท่านอ๋องเจ็ดอีกแล้วหรือ? อย่าลืมว่าตอนนี้ข้าเป็นพระชายาเจ็ด หากเจ้าจงใจจะลักพาตัวพระชายาเจ็ด ถ้าข้าบอกท่านอ๋อง เกรงว่าตำแหน่งของเจ้าจะรักษาไว้ไม่ได้แล้วนะ?”
หนานกงจี๋เพิกเฉยต่อคำเยาะเย้ยถากถางของนางและพูดต่อ “ชิงหัว ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า จ้านเป่ยเซียวไม่เหมาะกับเจ้า”
แม้เฟิ่งชิงหัวจะนิสัยดีแค่ไหนก็ทนไม่ได้อีกต่อไป นางหันศีรษะและตะโกนใส่เขาด้วยความโกรธ “ท่านมีสิทธิ์อะไรพูดเช่นนี้?”
จ้านเป่ยเซียวเห็นเฟิ่งชิงหัวเดินไปยังด้านหลังภูเขา หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตามนางไป
ก่อนที่จะเข้าไปใกล้ ก็เห็นเฟิ่งชิงหัวตะคอกใส่คนๆ หนึ่งด้วยความโกรธ คิดโดยสัญชาตญาณว่านางประสบปัญหาบางอย่าง ดังนั้นจึงไม่หยุดและก้าวไปข้างหน้าโดยตรง จากนั้นก็เห็นหนานกงจี๋ยืนอยู่ตรงข้ามกับหญิงคนนั้น
จ้านเป่ยเซียวไม่ได้จงใจซ่อนตนเอง หนานกงจี๋เห็นเขาโดยธรรมชาติแล้วรีบพูดว่า “ข้ามาหาเจ้ายังมีอีกเรื่องหนึ่ง โส่วกงซา(จุดแดงพรหมจรรย์)ของเยว่หลี เจ้าเป็นผู้ที่ทำใช่ไหม ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็เป็นพี่สาวของนาง เจ้าจะทำร้ายนางแบบนี้ได้อย่างไร เอายาแก้พิษให้พ่อ”
เฟิ่งชิงหัวฟังแล้วก็หัวเราะ “ช่างเป็นความรักระหว่างพ่อกับลูกสาวที่น่าซาบซึ้งใจจริงๆ ใต้เท้าเฉิงเซี่ยงมีความสามารถมากเช่นนี้ ก็ต้องคิดหาวิธีได้อยู่แล้ว เหตุใดต้องมาถามข้าด้วยเล่า?”
หนานกงจี๋หรี่ตาพร้อมพูดว่า “ถ้าเกิดเรื่องเสียหาย เจ้ารับผิดชอบเอง”
หลังจากนั้นเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะทักทายจ้านเป่ยเซียว เขาจึงออกไปจากอีกฝั่งโดยตรง
จ้านเป่ยเซียวจ้องมองไปที่เฟิ่งชิงหัว ตอนแรกเขาคิดว่าเฟิ่งชิงหัวจะไม่สนใจเขา แต่ได้ยินนางพูดอย่างเฉยเมย “ช่างน่าหัวเราะมากใช่หรือไม่? เดิมทีข้าคิดว่าเป็นผู้ใหญ่ที่รักข้า แต่เมื่อพบกับประโยชน์ที่สำคัญกับตน เขาก็ผลักเจ้าออกไปโดยไม่ลังเล ตอนนี้ยังมาพูดอะไรแปลก ๆ กับข้าด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรัก จริงหรือที่คนที่มีอำนาจนั้นใจร้ายและไร้ความรู้สึกเช่นนี้?”
จ้านเป่ยเซียวไม่คาดคิดว่าหญิงสาวที่มีบุคลิกวิปริตจะพูดประโยคเช่นนี้ บางทีอาจเป็นเพราะคืนนี้แสงจันทร์เยือกเย็นเกินไป เขารู้สึกว่านางน่าสงสารเล็กน้อย
บนภูเขาที่โดดเดี่ยวนี้ มีเพียงเขาและนางเท่านั้น แต่เขารู้สึกว่าพวกเขาสองคนถูกกั้นด้วยชั้นหมอกไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถสัมผัสได้
“ข้าเกือบลืมเรื่องสำคัญไป ข้าไม่เคยจำความแค้นมาก่อน ข้ามักจะแก้แค้นความแค้นนั้นทันที” เฟิ่งชิงหัวดูเหมือนจะจำเรื่องงที่สำคัญขึ้นมาได้ นางหันหลังกลับและเดินไปทางที่นางมา
จ้านเป่ยเซียวไม่ได้ตามไป แต่เรียกหลิวหยิ่งมาและสั่งการบางอย่างเป็นความลับ
ในสนามล่าสัตว์ของราชวงศ์ กระโจมตั้งเรียงกันบนเนินเขา เฟิ่งชิงหัวพึ่งแสงจันทร์นำทางไปยังกระโจมหนึ่ง ไม่มีใครเฝ้าประตู ดังนั้นนางจึงแอบเข้าไปด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว
ขณะนี้ หนานกงจี๋ยังไม่กลับมา มีเพียงฮูหยินเฉิงเซี่ยงและสาวใช้คนหนึ่งอยู่ในกระโจมเท่านั้น
เฟิ่งชิงหัวตบสาวใช้ให้หมดสติด้วยฝ่ามือ จากนั้นตรงไปหาฮูหยินเฉิงเซี่ยงซึ่งนอนอยู่บนเตียง
ในขณะนี้ ฮูหยินเฉิงเซี่ยงกำลังหลับสนิทอยู่ จู่ๆ นางก็รู้สึกว่ามีอะไรเย็นๆ มาแตะที่คอ นางสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที
นางอ้าปากจะกรีดร้อง แต่นางรู้สึกเจ็บแปลบที่คออย่างชัดเจน
หลังจากเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้าคือใคร ฮูหยินเฉิงเซี่ยงก็ตกใจจนหนังศีรษะชา
“หนานกงเยว่ลั่ว เจ้าจะทำอะไร!” ฮูหยินเฉิงเซี่ยงถามเสียงสั่น
“ทำอะไร? ข้าได้ยินมาว่าฮูหยินเฉิงเซี่ยงใช้เงินจำนวนมากในการหานักฆ่าเพื่อจะฆ่าข้า ดังนั้นข้าจึงต้องมาถามและแสดงความเสียใจ” เฟิ่งชิงหัวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ฮูหยินเฉิงเซี่ยงตกใจมาก ไม่คิดว่าจะมีคนรู้เรื่องที่นางจ้างนักฆ่าฆ่าคน แต่ต่อหน้านางปฏิเสธอย่างหนักแน่น “เป็นไปได้อย่างไร เจ้าฟังผู้ใดพูดเรื่องไร้สาระกัน เจ้าเป็นลูกสาวของข้า ข้าจะจ้างนักฆ่าฆ่าเจ้าได้อย่างไรกัน?”
เฟิ่งชิงหัวยิ้มและหยิบขวดเล็กๆ ออกมาจากแขนเสื้อ “ท่านแม่ ท่านรู้หรือไม่ว่ามีอะไรอยู่ข้างในนี้?”
ฮูหยินเฉิงเซี่ยงกลืนน้ำลาย ไม่พูดอะไร
เฟิ่งชิงหัวพูดด้วยรอยยิ้ม “นี่คือยาพิษที่ข้าคิดค้นและทำใหม่ ใช้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถูไว้บนบาดแผล และพิษจะซึมซาบไปทั่วร่างกายอย่างรวดเร็วจากบาดแผล จากนั้นเจ้าจะกลายเป็นกองเลือดภายในเวลาครึ่งชั่วโมง อยากลองดูไหม?”
“ไม่ ไม่เอา” ฮูหยินเฉิงเซี่ยงอุทานอย่างตกใจ “ลูกเอ๋ย ข้าผิดไปแล้ว ข้า ข้าแค่สับสนอยู่พักหนึ่ง ข้าเห็นว่าพี่สาวคนโตของเจ้าสูญเสียงานสมรสที่ดีไป ดังนั้นข้าจึงโกรธอยู่ชั่วขณะหนึ่ง”
“โกรธชั่วขณะหนึ่ง? วันนี้ข้ารู้มาว่าท่านแม่ส่งคนมาฆ่าข้า ข้าเองก็โมโหมากเลย” เฟิ่งชิงหัวเขย่าขวดในมือแล้วพูดเสียงเย็นเบาๆ
“ข้าผิดแล้ว ข้าผิดไปแล้วจริงๆ ปล่อยข้าเถอะ” ฮูหยินเฉิงเซี่ยงไม่รู้ว่าสิ่งที่เฟิ่งชิงหัวพูดนั้นจริงหรือไม่ แต่เนื่องจากเฟิ่งชิงหัวสามารถทำให้ โส่วกงซาของเยว่หลีหายตัวไปอย่างเงียบๆ ก็หมายความว่านางมีอะไรแปลกประหลาด เชื่อดีกว่าไม่เชื่อ
“เปลี่ยนวิธีอื่น? สมเหตุสมผล เพราะยังไงเจ้าก็คือแม่แท้ๆ ของข้า ข้าจะทำเรื่องโหดร้ายกับแม่ของข้าตนเองได้อย่างไรกัน? ถ้าอย่างนั้น ข้าจะเปลี่ยนเป็นวิธีอื่น” เฟิ่งชิงหัวกล่าวด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าของนางไร้เดียงสามาก แต่การกระทำในมือของนางนั้นไม่ชักช้าลังเลสักนิด
หลังจากที่เฟิ่งชิงหัวออกไป นางรู้สึกสดชื่นไปหมดทั้งตัว และอารมณ์ที่หดหู่ก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็ได้รับการปลดปล่อย
หลังจากที่เฟิ่งชิงหัวจากไป ฮูหยินเฉิงเซี่ยงใช้เวลานานมากกว่าจะส่งเสียงกรีดร้องเสียดแทงหัวใจออกมา
หลังจากที่เฟิ่งชิงหัวกลับมาที่กระโจม นางก็สั่งให้สาวใช้ไปตักน้ำมาอาบ
การเคลื่อนไหวของสาวใช้เป็นไปอย่างรวดเร็ว เฟิ่งชิงหัวถอนหายใจอย่างสบาย ๆ เพิ่งคลายกล้ามเนื้อมา และแช่น้ำอาบ ทำให้รู้สึกสดชื่นมาก
เฟิ่งชิงหัวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อคิดถึงวันพรุ่งนี้เช้าทุกคนจะต้องประทับใจกับผมหัวโล้นทรงใหม่ของฮูหยินเฉิงเซี่ยง
คาดไม่ถึงว่าฮูหยินเฉิงเซี่ยงจะหัวโล้นถึงขนาดนั้น หลังจากโกนหมดแล้วไม่ต้องจุดตะเกียงในตอนกลางคืนเลยด้วยซ้ำ
ทันใดนั้น มีเสียงดังมาจากระยะไกล “มีผู้ลอบสังหาร ปกป้องฝ่าบาท!”
เฟิ่งชิงหัวรีบกระโดดออกจากถัง เป่าตะเกียงบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว คว้าผ้าปูที่นอนมาคลุมร่าง