ตอนที่ 140 เหยื่อ

ความตื่นตระหนกของทุกคนมาจากวอร์ดที่อยู่ด้านในสุด

“ขออนุญาตครับ!”

“ออกไปให้พ้นทาง!”

ทางเดินนั้นวุ่นวายมาก แต่คนส่วนใหญ่ก็หลีกทางเมื่อเห็นตํารวจกําลังมา

เจ้าหน้าที่เพียงรีบไปที่ประตูวอร์ดพร้อมกับคนของเขา

ในวอร์ด ซูฟ่านดูเฉยเมยมาก แต่เมื่อมองไปที่ฉินเสี่ยวหยางนั้นก็เห็นเขากําลังนอนบิดตัวเหมือนหนอนอยู่บนเตียง

บอดี้การ์ดทั้งห้ายังคงเล็งปืนไปที่ซูฟ่านเพราะพวกเขาไม่แน่ใจว่าซูฟ่านจะทําอะไรต่อหรือไม่

เมื่อเผชิญหน้ากับชายผู้น่ากลัวคนนี้ พวกเขาไม่กล้าที่จะผ่อนคลายการระแวดระวัง

ผู้ช่วยถือเครื่องส่งรับวิทยุและตะโกนอย่างบ้าคลั่ง บอกให้หมอมาช่วยฉินเสี่ยวหยาง

เนื่องจากเดิมที่ฉินเสี่ยวหยางมีเพียงรอยบาดเจ็บที่ผิวหนัง จึงไม่มีแพทย์มาดูแลเขาตลอด24 ชั่วโมง

และตอนนี้ก็ถึงเวลาเลิกงานแล้ว หมอส่วนใหญ่จึงไม่อยู่ที่นั่น

ผู้ช่วยของฉินเสี่ยวหยางแทบจะบ้าไปแล้ว

เขาต้องการให้เจ้านายได้หาหมอโดยเร็วที่สุด แต่คําตอบที่เขาได้รับก็คือหมอยังมาไม่ถึง

เรื่องเพิ่งเกิดไม่ถึงนาทีตั้งแต่ที่ฉินเสี่ยวหยางได้รับบาดเจ็บ และเป็นไปไม่ได้เลยที่แพทย์จะมาถึงอย่างรวดเร็ว

แต่แพทย์และพยาบาลที่ทางเดินเมื่อได้ยินเสียงปืนก็ไม่มีใครกล้าเข้าไป!

“วางอาวุธลง!”

เจ้าหน้าที่เจียงตะโกนที่ประตูและเตะประตูเปิดอย่างระมัดระวัง!

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้บอดี้การ์ดที่ลั่นไกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ยังคงถือปืนของเขาและตัวแข็งที่ออยู่ตรงนั้น

เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่เจียงและพรรคพวกเข้ามา เขาก็ตกใจ

เขาหันกลับไปและชี้ปืนไปที่ประตู

แม้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะยิง แต่พฤติกรรมของเขาก็ยังเป็นจงใจทําร้ายตํารวจ!

เจ้าหน้าที่เจียงตอบสนองอย่างรวดเร็วและเหนี่ยวไกทันที!

กระสุนทะลุผ่านหน้าผากของบอดี้การ์ด

เลือดสาดกระเซ็นบนผนังสีขาวในวอร์ด

บอดี้การ์ดคนอื่น ๆ ตกใจมากจนขว้างปืนทั้งหมดลงบนพื้นทันทีและเอามือจับศีรษะไว้

ใบหน้าของทุกคนต่างหวาดกลัว

เจ้าหน้าที่เพียงชี้ปืนไปที่บอดี้การ์ดเหล่านี้

จากนั้นเขาก็สั่งให้คนในห้องจับศีรษะด้วยมือทั้งสองและหมอบพิงกําแพง

เมื่อเผชิญหน้ากับบอดี้การ์ดของฉินเสี่ยวหยาง เจ้าหน้าที่เจียงก็รู้จักเป็นอย่างดี

บอดี้การ์ดเหล่านี้เป็นบุคคลที่ทรงพลังในอุตสาหกรรมสายนี้ และส่วนใหญ่เป็นหน่วยรบพิเศษที่ปลดประจําการแล้ว

แต่ละคนล้วนมีฝีมือดี

ถ้าในกรณีต้องสู้ ตํารวจอาจจะสู้ไม่ได้

แต่คนของฉันเสียวหยางก็ไม่กล้าทําอะไรกับตํารวจหรอก

เจ้าหน้าที่เจียงยังคงระแวดระวัง

แต่คนเหล่านี้ไม่ได้ตั้งใจจะต่อต้าน

เจ้าหน้าที่เพียงฉวยโอกาสสั่งให้คนของเขาใส่กุญแจมือ

จากนั้นเขาก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย เขาวางปืนลงและเดินไปข้างหน้าซูฟ่าน

เขาตรวจสอบร่างกายของซูฟ่านเพื่อหาอาการบาดเจ็บและถามซูฟ่านว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่

ในเวลาเดียวกัน เขายังพบฉินเสี่ยวหยางที่เต็มไปด้วยเลือดนอนอยู่บนเตียง

เขาเจ็บปวดมากจนขยับตัวไม่ได้ และร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว

เจ้าหน้าที่ตํารวจคนอื่น ๆ พยายามเรียกฉินเสี่ยวหยางแต่ไม่ตอบสนอง

ในจิตสํานึกของฉินเสี่ยวหยางไม่มีอะไรนอกจากความเจ็บปวด

ไม่มีทางที่จะตอบสนองสิ่งที่คนอื่นพูด

เจ้าหน้าที่เจียงเพียงชําเลืองมองเขาแต่ไม่พูดอะไร

เขาไม่เคยมีความประทับใจที่ดีต่อฉินเสี่ยวหยางคนนี้

เขาแค่สงสัยว่าทําไมลูกน้องของฉินเสี่ยวหยางถึงลงมือลั่นไก แต่สุดท้ายคนที่ได้รับบาดเจ็บกลับเป็นฉินเสี่ยวหยาง?

“ไม่ต้องห่วง ผมไม่เป็นไร ออกไปคุยกันดี ๆ ไหม”

ซฟานยิ้มพลางจัดเสื้อผ้าของเขาและพูด

เจ้าหน้าที่เพียงพยักหน้าและเดินตามซูฟ่านออกจากห้องของฉินเสี่ยวหยาง

ทั้งสองเดินไปที่มุมที่ค่อนข้างเงียบสงบ แม้ว่าจะมีผู้คนอยู่รอบ ๆ ตัว พวกเขาก็ไม่ได้อยู่ใกล้กันและไม่ได้ยินการสนทนาของพวกเขา

ซูฟ่านบอกเจ้าหน้าที่เจียงเกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้

เขาพูดทุกอย่างเกี่ยวกับฉินเสี่ยวหยางที่ข่มขู่เขาและขอให้เขาขายหุ้นที่ Pinfeng มิฉะนั้นเขาจะจัดการกับครอบครัวและเพื่อนของซูฟ่าน

ซูฟานไม่เห็นด้วย ฉินเสี่ยวหยางจึงให้คนของเขาขู่ซูฟ่านด้วยปืน

ด้วยเหตุนี้พระเจ้าจึงได้ลืมตาตื่นและทําให้ชายที่ถือปืนนั้น ”ยิง” โดยไม่ตั้งใจไปโดนฉินเสี่ยวหยาง

สิ่งที่ซูฟ่านพูดนั้นเป็นความจริง ไม่ว่าคุณจะสอบสวนหรือสอบถามด้วยวิธีใดก็จะไม่มีความคลาดเคลื่อน

เจ้าหน้าที่เจียงขมวดคิ้วเมื่อฟังกระบวนการทั้งหมด

ในขณะนี้เอง ชายวัยกลางคนที่ดูอ่อนโยนก็ออกมาจากวอร์ดทางด้านขวาของทางเดิน

เขายังได้ยินเสียงปืนเมื่อครู่นี้ จึงมาดูสถานการณ์หลังจากได้ยินว่าตํารวจมา

เขาเพิ่งเห็นเจ้าหน้าที่เจียงอยู่ที่มุมหนึ่ง

“เจ้าหน้าที่เจียง”

สุภาพบุรุษคนนั้นกล่าวทักทาย

เจ้าหน้าที่เพียงมองย้อนกลับไปและรีบกล่าวทักทาย

“เลขาเจิ้ง คุณอยู่ที่นี่ด้วยหรือครับ”

“ฉันจะมาเยี่ยมหัวหน้าเก่าน่ะ แต่ตอนนี้มีการยิงกันหรือเปล่า”

“ใช่ครับ เลขาเจ๋ง!”

“ใครมันกินดีหมีหัวใจเสือมาถึงได้กล้ายิงปืนในที่แบบนี้”

“นี่ยังไงก็ให้ผมแนะนําคุณก่อน นี่คือคุณซูฟ่านครับ”

หลังจากแนะนํา เลขานุการเจิ้งก็มองไปที่ซูฟ่าน

เขามองขึ้นลงที่ซูฟ่านด้วยความเร็วที่ไม่สามารถตรวจจับได้

เมื่อเห็นสินค้าแบรนด์หรูหราบนร่างของซูฟ่าน เขาก็รู้ว่าซูฟ่านไม่ใช่คนธรรมดา จึงได้ เอื้อมมือออกไป

“สวัสดีครับ คุณซูฟ่าน”

ซูฟ่านก็รีบเอื้อมมือออกไปและเขย่ามือเลขานุการเจิ้ง

หลังจากการแนะนําตัว เจ้าหน้าที่เจียงก็ได้พูดคุยกับเลขานุการเจิ้งเกี่ยวกับสถานการณ์ด้วยเสียงเบา

ซูฟ่านยืนอยู่ข้าง ๆ อย่างเงียบ ๆ แต่เขาไม่สามารถยับยั้งรอยยิ้มที่พึงพอใจบนใบหน้าของเขาได้

สิ่งนี้อยู่ในความคาดหวังของซูฟ่านอย่างสมบูรณ์

ในโรงพยาบาลชั้นนําของเมืองเซี่ยงไฮ้ พื้นที่วอร์ด VIP นั้นเต็มไปด้วยคนใหญ่คนโตที่มีชื่อเสียงของเมืองเซี่ยงไฮ้นี้

(เนียนแปล :: Magic City หรือ เมืองเวทมนตร์ ผมเคยคิดว่ามันเป็นชื่อเมืองที่คนแต่งตั้งขึ้นมาใหม่แต่พอลองวนกลับไปอ่านใหม่ตั้งแต่ตอนแรกและศึกษาข้อทมูลดูแล้ว Magic city คื อชื่อเล่นของเซี่ยงไฮ้ครับหรือก็คือเข้าใจผิดมาเป็นร้อยตอน กราบขออภัยด้วยครับ ก็ว่าอยู่ทําไมมันแหม่งๆ)

มีทั้งคนที่เกษียณแล้วและยังไม่เกษียณ!

กระสุนปืนนัดนี้ทําให้เหล่าคนใหญ่คนโตต่างตกใจ

เรื่องนี้ไม่สามารถจัดการแก้ไขได้อย่างเงียบ ๆ

เลขานุการเจิ้งขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเจ้าหน้าที่ตํารวจเจียงพูดถึงเรื่องนี้ทั้งหมด

“ตระกูลฉินจากเจียงตู…มาที่เซี่ยงไฮ้ของเราเพื่อทําตัวหยิ่งยโสและขู่คนอื่นด้วยปืนงั้นหรือ…”

เลขานุการเจิ้งพูดอย่างรังเกียจ

“โอเค เจ้าหน้าที่เจียง ฉันรู้แล้วฉันจะขึ้นไปเดี๋ยวนี้”

หลังจากพูดจบ เลขานุการเจิ้งก็รีบออกไป

เห็นได้ชัดว่าเขาขึ้นไปชั้นบนเพื่อไปรายงานกับหัวหน้าของเขา

เจ้าหน้าที่เจียงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอีกครั้งแล้วโทรออก

หลังจากการพูดไม่กี่ครั้งก็มีเสียงไซเรนจากชั้นล่าง

ตํารวจพิเศษ แพทย์นิติเวช ฯลฯ อยู่ที่นี่แล้ว

มีบางคนได้รับบาดเจ็บและบางคนเสียชีวิตในครั้งนี้ มันจึงเป็นเรื่องร้ายแรงมากขึ้นมาก และเรื่องของฉินเสี่ยวหยางก็จะรุนแรงขึ้น

บอดี้การ์ดของเขาถือปืนอย่างผิดกฎหมาย ข่มขู่คนด้วยปืน และตั้งใจจะโจมตีตํารวจ แต่ฉินเสี่ยวหยางจะไม่ได้แบกรับข้อกล่าวหาเหล่านี้

เขามีความผิดฐานข่มขู่เพียงอย่างเดียว

นี่เป็นชิปต่อรองที่ซูฟ่านตั้งใจจะใช้

สิบโมงกว่าแล้ว

ในรถของเจ้าหน้าที่เจียง ซูฟ่านทําสําเนาบันทึกประจําวันและลงนาม

ครั้งนี้แตกต่างจากที่บาร์ ครั้งก่อนมันต้องถูกเก็บเป็นความลับ ดังนั้นเรื่องของซูฟ่านจึงไม่ถูกบันทึกเอาไว้

แต่คราวนี้เป็นเรื่องของซูฟ่านและทําให้เกิดปัญหามากมาย

แม้ว่าไม่จําเป็นต้องให้ซูฟ่านไปสอบสวนที่สถานีตํารวจ แต่ก็ยังต้องมีบันทึก

มิฉะนั้นจะไม่มีทางอธิบายกับเบื้องบนได้

แม้จากมุมมองทางกฎหมาย ปัญหาของฉินเสี่ยวหยางนั้นร้ายแรงมาก

แต่ซูฟ่านก็จะไม่เป็นอะไรเพราะเขาคือคนที่ตกเป็นเหยื่อของการขู่กรรโชกด้วยอาวุธปืน