บทที่64 ถูกเลิกจ้าง
“ฉันจำผิดเหรอ ฉันว่าคุณนั่นแหละที่บ้าไปแล้ว คุณถูกเลิกจ้างแล้ว ทำไมคุณถึงยังมาอีก มาให้คนเห็นใจหรือ” ผู้หญิงคนนั้นพูดอย่างเหยียดหยาม ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยเจียงหยุนเอ๋อ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจียงหยุนเอ๋อก็ตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง เลิกจ้างเหรอ เธอถูกเล็กจ้างเมื่อไหร่กัน ไม่มีเห็นมีใครแจ้งเธอเลย
เธอยิ้มอย่างไม่เต็มใจ เพื่อทำให้ตัวเองไม่ดูหดหู่ขนาดนั้น และถามเบาๆ “นี่เป็น … นี่เป็นข่าวที่มาจากไหนเหรอ ฉัน … ฉันไม่รู้เรื่องเลยด้วยซ้ำ”
“โอ้ ขนาดถูกเลิกจ้างยังไม่รู้เลย น่าสงสารจริงๆ” หญิงสาวยิ้มเยาะ แต่ก็ไม่ได้จะตอบคำถามของเธอ หันหน้ากลับไปทำงานต่อ
เจียงหยุนเอ๋อยืนอยู่ที่นั่นด้วยความอับอาย ไม่รู้จะรับมืออย่างไรไปชั่วขณะ และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ในสำนักงานมีสายตาของผู้คนมากมายมองมาที่เธอ ทั้งๆที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เธอรู้สึกว่าตนเองไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมองได้
ภายใต้การจ้องมองของทุกคน เจียงหยุนเอ๋อเดินออกจากสำนักงานอย่างอึดอัดใจ คิดไปคิดมาก็ตัดสินใจไปที่แผนกบุคคลเพื่อถามให้ชัดเจน
เมื่อมาถึงแผนกบุคคล คนในแผนกบุคคลดูเหมือนจะไม่แปลกใจที่ เจียงหยุนเอ๋อจะมา ยืนขึ้นพร้อมถามว่า “สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ช่วยคะ”
“สวัสดีค่ะ ฉันคือเจียงหยุนเอ๋อที่มาสมัครงานเมื่อไม่นานมานี้ ในเวลานั้นผู้สัมภาษณ์บอกฉันว่าฉันผ่าน และฉันก็ได้บัตรพนักงานแล้วด้วย ทำไมวันนี้ฉันมาทำงานแล้วมีคนมาบอกฉันว่าฉันถูกเลิกจ้างคะ “เจียงหยุนเอ๋อถาม
พนักงานยิ้มให้เจียงหยุนเอ๋ออย่างขออภัย และพูดว่า “อ่าคือ คุณเจียงคะ คืออย่างนี้คะ คนที่รับผิดชอบการสัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ถูกบริษัทตรวจสอบพบว่ามีการติดสินบนมากมาย เรื่องทั้งหมดที่เขาดูแลก็ถูกสั่งหยุดเช่นกัน ดังนั้นการสัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ก็เช่นกัน ฉันลืมแจ้งคุณ ต้องขอโทษจริงๆนะคะ”
“เอ่อค่ะ… เป็นอย่างนั้นเองเหรอคะ ฉันเข้าใจแล้วค่ะ รบกวนคุณแล้ว” แม้ว่าเจียงหยุนเอ๋อจะผิดหวังเล็กน้อย แต่เธอก็ขอบคุณคนนั้นอย่างสุภาพ แล้วหันหลังออกจากแผนกไป
เจียงหยุนเอ๋อเดินออกจากบริษัทอย่างหมดหวัง โดยไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงโชคร้ายแบบนี้ อุตส่าห์หางานทำได้แล้ว พอมาทำงาน ก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น …
“เฮ้อ … ” เจียงหยุนเอ๋อถอนหายใจออกมา กำลังจะเดินไปที่ข้างถนนเพื่อโบกแท็กซี่กลับบ้าน ก็เห็นร่างที่คุ้นเคยอยู่ไม่ไกลกำลังเดินเข้าไปหาตัวเอง เธอเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ และถามว่า “ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่คะ”
ลี่จุนถิงเหลือบมองเธออย่างเฉยๆ แล้วถามว่า “คุณไม่ได้บอกว่าจะไปทำงานเหรอ ทำไมคุณถึงออกมาหละครับ”
หลังจากส่งเสี่ยวถวนจื่อไปโรงเรียนอนุบาลแล้ว ลี่จุนถิงคิดไปคิดมาก็ยังรู้สึกกังวลเกี่ยวกับเจียงหยุนเอ๋อเล็กน้อย เขาจึงตามมา มาถึงก็เห็นเจียงหยุนเอ๋อเดินออกจากบริษัทด้วยท่าทางหดหู่พอดี
เขาเดาได้ทันทีว่าต้องเกิดอะไรขึ้นแน่ๆ เขาจึงเดินไปอย่างรวดเร็ว
เจียงหยุนเอ๋อก้มศีรษะลง ปกปิดเรื่องที่เกิดขึ้นและพูดว่า “ไม่มีอะไร ก็แค่หัวหน้าที่รับผิดชอบการสมัครงานของฉันไม่อยู่ ดังนั้นฉันจะมาใหม่ในวันพรุ่งนี้”
“หัวหน้าไม่อยู่เหรอ แม้ว่าหัวหน้าจะไม่อยู่ แต่ในเมื่อก่อนหน้านี้คุณถูกรับเข้าทำงานแล้ว ก็ไม่ส่งผลกระทบต่องานของคุณไม่ใช่เหรอครับ” เห็นได้ชัดว่าลี่จุนถิงไม่เชื่อคำพูดของเจียงหยุนเอ๋อ จึงถามตรงๆ“ เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
ในใจของเจียงหยุนเอ๋อเดิมที่ก็มีความน้อยใจซ่อนอยู่แล้ว พอตอนนี้ ลี่จุนถิงก็มาถามอย่างไม่ลดละ มันจึงทำลายการปกป้องตนเองเส้นบางๆสุดท้ายในใจของเธออย่างสิ้นเชิง จึงบอกลี่จุนถิงไปตามความจริง “มันเป็นแบบนี้ … ตอนที่ฉันเข้าไปที่นั่น พวกเขาบอกฉันว่าหัวหน้าที่สัมภาษณ์ฉันก่อนหน้านี้มีปัญหา ถูกบริษัทตรวจสอบ ดังนั้นทุกอย่างก่อนหน้านั้นจึงถูกยกเลิกทั้งหมด…”
ลี่จุนถิงที่ทุ่มเททำงานในบริษัทมาหลายปี พอได้ฟังก็รู้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ก็ยังพูดด้วยใบหน้าที่เย็นชา “คุณมองไม่ออกเหรอ พวกเขากำลังเล่นงานคุณอยู่ชัดๆ”
“ฉัน … แต่ว่า … ” ตอนแรกเจียงหยุนเอ๋อก็ใช่ว่าจะไม่คิดความเป็นไปได้นี้ แต่เธอรู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่จำเป็นต้องต่อกรอะไรกับเธอเลย ดังนั้นเธอจึงปัดความคิดนี้ทิ้ง เธอไม่คาดคิดเลยว่า ลี่จุนถิงจะพูดออกมาอย่างมั่นใจอย่างนี้
“ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ ไป เข้าไปถามให้ชัดเจนพร้อมผม” ลี่จุนถิงคว้าข้อมือของเจียงหยุนเอ๋อแล้วพาเธอเดินเข้าไปในบริษัท
เจียงหยุนเอ๋อจ้องไปที่ ลี่จุนถิงอย่างว่างเปล่า จนกระทั่งตอนที่เข้าไปในบริษัทถึงจะรู้สึกตัว เธอลองพยายามดิ้น”ช่างวันเถอะค่ะ … ยังไงฉันก็สามารถหางานอื่นทำได้”
ลี่จุนถิงถลึงตาด้วยความไม่พอใจ เป็นคนก็สามารถรู้ได้ว่าตอนนี้เขาอารมณ์ไม่ดีมาก เมื่อเห็นลี่จุนถิงเป็นเช่นนี้ เจียงหยุนเอ๋อก็กลืนน้ำลายอย่างประหม่า แม้เธอจะรู้ว่าเขาทำเพื่อตัวเอง แต่เธอยังคงกลัวที่เห็นเขาโกรธแบบนี้
เจียงหยุนเอ๋อยื่นมือออกมาดึงแขนเสื้อของลี่จุนถิง แล้วกระซิบ “คุณอย่าโกรธเลยนะคะ”
ลี่จุนถิงหันกลับมาและจ้องมองไปที่เธอ พูดว่า “ถ้าคุณไม่ได้เก็บความคับแค้นใจทั้งหมดไว้ในใจ ผมจะเป็นแบบนี้เหรอครับ”
เมื่อได้ยันคำพูดนี้ของเขา หัวใจของเจียงหยุนเอ๋อก็เต้นเบาๆ ใบหน้าของเธอแดงเล็กน้อย แล้วเธอก็ไม่กล้าที่จะพูดอีกต่อไป เดินตามหลังลี่จุนถิงอย่างเงียบๆอยู่แบบนั้น
ลี่จุนถิงเดินไปพบผู้จัดการทั่วไปของบริษัทหมิงยิ่งโดยตรง ทันทีที่เขากำลังจะเข้าไป ก็มีใครบางคนหยุดอยู่ไว้
“ขออภัยค่ะ ห้องทำงานของผู้จัดการเข้าไปไม่ได้ค่ะ”
ลี่จุนถิงไม่แม้แต่สนใจ เปิดประตูด้วยท่าทีที่แกร่งกร้าว เจียงหยุนเอ๋อเห็นแบบนั้น ก็เริ่มพูดอย่างกังวลว่า “คุณคะ … เขาก็บอกแล้วว่าไม่สามารถเข้าไปได้นะคะ”
ลี่จุนถิงในขณะนี้ดูเหมือนจะไม่ได้ยินอะไรเลย หลังจากเปิดประตูเขาก็เดินตรงเข้าไปทันที ผู้จัดการกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขา ได้ยินเสียงเอะอะข้างนอกก็ขมวดคิ้ว แต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นเพื่อจะถามก็ต้องตกตะลึงทันที
ผู้จัดการลุกขึ้นจากที่นั่งอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มของเขามาพร้อมคำพูดอ้ำอึ้ง เขาเดินเข้ามาอยู่ที่ด้านหน้าของลี่จุนถิงและพูดอย่างเคารพว่า “คุณชายลี่ ทำไมคุณถึงมาที่นี่ได้หละครับ เชิญครับ เชิญนั่งครับ”
” ไม่จำเป็น ฉันมาที่นี่เพราะมีเรื่องสำคัญ “ลี่จุนถิงพูดอย่างเย็นชา
ผู้จัดการรู้กดดันในใจ พยายามคิดว่าตนเองไปทำอะไรให้ลี่จุนถิงขุ่นเคืองใจหรือเปล่า แล้วถามอย่างรวดเร็ว “หือ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ”
ลี่จุนถิงเลิกคิ้วเบาๆ ในดวงตาของเขาประกายแสงเย็น “ฉินเจิ้ง บริษัทของคุณไร้กฎระเบียบจริงๆ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เหงื่อเย็นของผู้จัดการกำลังจะหลั่งออกมา ถามด้วยความกังวลว่า “ไม่รู้ … ไม่รู้ว่าเหตุใดคุณชายลี่ถึงพูดแบบนี้ครับ”
“คุณเจียง คนที่นั่งข้างๆผมคนนี้ได้ผ่านการสัมภาษณ์กับบริษัทของคุณมาก่อนแท้ๆ ผลคือมาทำงานวันนี้แต่ถูกบอกว่าตนเองถูกเลิกจ้าง คุณว่าพวกคุณกำลังเล่นตลกอยู่หรือเปล่า”ลี่จุนถิงถามอย่างเผ็ดร้อน
ผู้จัดการตกตะลึง แล้วพูดอย่างรวดเร็ว “คุณชายลี่ครับ มันเป็นความเข้าใจผิดครับ เรื่องนี้ผมจะรับจัดการให้อย่างแน่นอนครับ”
“ฉันกลับอยากดูว่าคุณจะแก้ปัญหาอย่างไร” ลี่จุนถิงยืนอยู่ตรงนั้น แล้วพูดออกมา
ผู้จัดการรีบขอโทษอีกครั้ง “ขอประทานโทษครับ คุณชายลี่ เป็นเพราะผมประมาทในการจัดการ เอาแบบนี้ ผมจะไปสั่งประชุมเดี๋ยวนี้เลยครับ