ตอนที่ 72 หวังแย่งลูกค้า

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่ 72 หวังแย่งลูกค้า

พ่อต้าเป่าได้ยินเข้าก็หน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย

เขาเหลือบมองไปทางภรรยาที่ทั้งอ้วนทั้งตัวใหญ่ของตัวเองอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แล้วหันไปกระซิบกับหลินม่าย “ภรรยาของผมเขาก็เป็นแบบนี้แหละ คุณอย่าได้ถือสาหล่อนเลย”

หลินม่ายส่ายหน้า จงใจพูดเสียงดัง “ช่างเถอะค่ะ ฉันมาที่นี่เพื่อหาเงินเข้ากระเป๋า ไม่ได้มาเล่นละครลิง ไม่อยากเสียเวลาต่อปากต่อคำกับหล่อนมากนักหรอก หล่อนจะพูดอะไรก็ปล่อยให้หล่อนพูดไป”

ในที่สุด หลินม่ายก็ไม่ให้ความสนใจแม่ต้าเป่าอีกต่อไป

แม่ต้าเป่ายังด่าทอต่อไปอีกสองสามประโยค พอเห็นว่าหลินม่ายไม่โต้ตอบก็ได้ใจ ยอมปิดปากเงียบแล้วก้มหน้าก้มตาทำเกี๊ยวต่อ รอเวลาให้ผู้โดยสารจากเรือข้ามฟากลำแรกมาซื้อของของตัวเอง

พ่อต้าเป่าฉวยโอกาสหลบหน้าออกไป

เขาเดินจากไปได้ไม่นาน โต้วโต้วก็วิ่งสวนเขามาที่นี่ คว้าชายเสื้อของหลินม่ายเอาไว้ทันทีที่มาถึง

หลินม่ายประหลาดใจ “ลูกมาที่นี่ทำไม?”

เมื่อเห็นว่าโต้วโต้วติดกระดุมเสื้อผิด ก็ก้มลงไปจัดการติดกระดุมให้หล่อนเสียใหม่ แล้วหวีผมถักเปียให้หล่อนอย่างรวดเร็ว

โต้วโต้วมองผู้เป็นแม่อย่างน่าสงสาร “หนูไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว หนูกลัว ก็เลยวิ่งมาหาแม่ที่นี่ค่ะ”

เวลาประมาณหกโมงครึ่งในช่วงเดือนแรก ท้องฟ้าข้างนอกยังคงมืดสลัว บรรยากาศภายในบ้านคงมืดยิ่งกว่า เป็นเรื่องปกติที่โต้วโต้วจะรู้สึกกลัวเมื่อต้องอยู่ที่บ้านตามลำพัง

หลินม่ายถามหล่อนว่าตอนออกมาปิดประตูบ้านดีแล้วหรือยัง โต้วโต้วพยักหน้า “ปิดดีแล้วค่ะ”

หลินม่ายปล่อยให้หล่อนนั่งพัก รีบหันไปทำเกี๊ยวสองชามอย่างไม่รอช้า สำหรับโต้วโต้วชามหนึ่ง และของตัวเองอีกชามหนึ่ง

วันนี้เธออาจจะต้องเปิดร้านจนถึงแปดโมงครึ่ง กว่าจะกลับถึงบ้านก็ปาเข้าไปเก้าโมงแล้ว

กว่าจะถึงตอนนั้นเธอกับโต้วโต้วคงต้องอดทนหิวโหยเป็นเวลานาน

พอสองแม่ลูกเพิ่งจะกินอาหารมื้อเช้ากันเสร็จ ผู้โดยสารกลุ่มแรกก็ก้าวลงจากเรือข้ามฟากเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เหตุการณ์ยังคงวุ่นวายเหมือนเมื่อวานไม่มีผิด พ่อค้าแม่ค้าต่างตะโกนโหวกเหวกร้องเรียกลูกค้าแข่งกัน

โต้วโต้วรีบมายืนอยู่ข้างร้าน แล้วส่งเสียงเชื้อเชิญลูกค้าทันที

เสียงเล็ก ๆ น่ารักน่าเอ็นดูของหล่อนยังคงดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้ตามเคย หลายคนที่ได้ลองซื้อเกี๊ยวของหลินม่ายและชอบใจในรสชาติต่างก็เข้ามาอุดหนุน

ยิ่งเมื่อวันนี้ที่ร้านของเธอมีซุปกระดูกหมูด้วย ลูกค้าที่อยากกินเกี๊ยวพร้อมกับซดน้ำซุปร้อน ๆ ก็เต็มใจอุดหนุนเกี๊ยวจากร้านของหลินม่ายมากขึ้น

แม่ต้าเป่าโกรธมากกว่าเมื่อวานเสียอีก

วันนี้หล่อนตั้งใจพาลูกชายอย่างต้าเป่ามาที่ร้านเป็นกรณีพิเศษ

หล่อนจ้างเขาด้วยนั่วหมี่จี(1)กับเสี่ยวหลงเปา(2) เพราะหวังว่าถ้าลากเขามาช่วยขายของด้วย เขาอาจช่วยเรียกลูกค้าเข้าร้านได้เหมือนกับหลินม่ายและลูกสาวของเธอ

แต่หลังจากที่ลูกชายของเธอกินดื่มจนอิ่มหนำสำราญ เขากลับวิ่งเล่นซุกซนไปทั่ว แถมยังลักขโมยคีมคีบอาหารจากพ่อค้าร้านหนึ่ง ขโมยเครื่องปรุงรสจากแม่ค้าอีกร้านหนึ่ง ทำให้พวกเขาวุ่นวายเป็นอย่างมาก

เจ้าของแผงลอยทั้งหลายพากันดุด่าที่เด็กคนนี้มาก่อกวนในขณะที่พวกเขากำลังค้าขาย ไม่มีใครชอบหน้าเขาเลยสักคน

บางคนถึงกับบอกแม่ต้าเป่าให้หัดสั่งสอนลูกชายตัวเองเสียบ้าง แต่แม่ต้าเป่าสวนกลับไปว่าเด็กวัยนี้ก็เล่นซนแบบนี้กันทั้งนั้นแหละ ทำให้พ่อค้าแม่ขายเหล่านั้นโกรธจัด

แม่ต้าเป่าจีบปากจีบคอเรียกหาต้าเป่าอย่างอดไม่ได้ “แม่บอกแล้วไม่ใช่เหรอ? ที่แม่พาแกมาก็เพราะให้แกช่วยแม่ขายของ ถ้าแกไม่ยอมช่วยแม่ มื้อเที่ยงแม่จะไม่ทำหมูตุ๋นให้แกกิน!”

ต้าเป่าหยุดเล่นซนทันที วิ่งกลับไปยืนอยู่หน้าแผงลอยของตัวเอง แล้วโก่งคอตะโกนเรียกลูกค้าเสียงดัง

แต่ต้าเป่าก็มีสภาพไม่ต่างไปจากแม่ของเขา ตัวอ้วน หูกาง หน้าตาซื่อบื้อ เมื่อกี้นี้เขาก็เอาแต่วิ่งเล่นก่อกวนร้านของคนอื่นตลอดทั้งช่วงเช้า ทำให้เสื้อผ้าหน้าผมของเขาสกปรกมอมแมมไปทั้งตัว

ไม่เหมือนกับโต้วโต้วที่สวมเสื้อผ้าตัวใหม่ ถักเปียอย่างเรียบร้อย น้ำเสียงหรือก็อ่อนหวานละมุนชวนฟัง ลูกค้าคนไหนบ้างจะไม่ชอบเด็กหญิงตัวน้อยหน้าตาน่ารักแบบหล่อน!

ต่อให้ต้าเป่าแหกปากตะโกนจนคอแทบแตก ก็มีลูกค้าแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สนใจอุดหนุนเกี๊ยวจากร้านของเขา ในเมื่อของก็ขายเหมือนกัน ทุกคนเห็นตรงกันว่าร้านของหลินม่ายยังน่าซื้อกว่า

คลื่นผู้โดยสารระลอกแรกผ่านพ้นไป คลื่นผู้โดยสารระลอกที่สองก็ยังคงให้ผลลัพธ์แบบเดิม

ต้าเป่ารู้สึกผิดหวังมาก จนไม่อยากร้องตะโกนให้เจ็บคออีกต่อไป

แม่ต้าเป่าเองก็อารมณ์ไม่ดีที่เกี๊ยวร้านตัวเองขายไม่ออก หันไปขู่ต้าเป่าว่าถ้าวันนี้เขาไม่ยอมเรียกลูกค้า มื้อเที่ยงก็อย่าหวังว่าจะได้กินหมูตุ๋น

ต้าเป่าไม่อยากตะโกนแล้ว แต่ยังอยากกินหมูตุ๋น จึงวิ่งไปหาโต้วโต้วเพื่อห้ามไม่ให้หล่อนตะโกนเรียกลูกค้า

โต้วโต้วไม่สนใจเขา ยังคงตั้งใจร้องเรียกลูกค้าต่อไป

ต้าเป่าตั้งท่าจะทุบกำปั้นใส่หล่อน “ถ้าเธอยังตะโกนอีก ฉันจะทุบเธอซะ!”

หลินม่ายอยากหันไปหยุดการกระทำของเขา แต่ในขณะนี้เธอยังยุ่งอยู่กับการขายเกี๊ยวให้ลูกค้าอีกหลายคน

ยังไม่ทันที่หมัดของเด็กชายร่างอ้วนจะทุบลงมาใส่หลังของโต้วโต้ว ก็ถูกใครบางคนเอื้อมมือมาคว้าคอของเขาไว้ แล้วเหวี่ยงออกไปด้านข้างอย่างทันเวลา

หลินม่ายที่ใจแทบหล่นลงไปอยู่ตรงตาตุ่ม พอเห็นว่าคนที่ยื่นมือมาช่วยในครั้งนี้คือฟางจั๋วหราน จึงหันไปขอบคุณเขาทันที

โต้วโต้วเงยหน้าขึ้น ทันทีที่เห็นหน้าเขาก็ร้องเรียกด้วยความตื่นเต้นดีใจ “คุณอา!”

ฟางจั๋วหรานยิ้มตอบ แล้วโน้มตัวลงไปอุ้มหล่อนขึ้นมา

เด็กหญิงตัวน้อยโผเข้าสู่อ้อมแขนของเขาทันทีอย่างไม่เคอะเขิน โอบแขนไว้รอบคอเขาแน่นอย่างไม่คิดจะปล่อย

ท่าทางอันสนิทสนมนั้น ทำให้ดูเหมือนว่าเขาเป็นพ่อแท้ ๆ ของหล่อนที่พลัดพรากจากกันมานาน

ถึงต้าเป่าจะมีหน้าตาซื่อบื้อ แต่ไม่ได้โง่เขลาเหมือนหน้าตา ความจริงแล้วเขาเป็นเด็กเจ้าเล่ห์คนหนึ่ง ได้ทีก็ล้มลงเกลือกกลิ้งไปมาบนพื้น แกล้งร้องไห้เหมือนหมูถูกเชือด “แม่ ผมโดนตี แม่ครับ ผมโดนตี”

ทุกครั้งที่ต้าเป่ากลั่นแกล้งหรือรังแกคนอื่น แม่ต้าเป่ามักจะทำตัวเหมือนหูหนวกตาบอดอยู่เสมอ

แต่เมื่อใดก็ตามที่ลูกชายของหล่อนโดนคนอื่นแกล้งบ้าง หล่อนจะโกรธจนตัวสั่นเหมือนเจ้าเข้า

หล่อนผละออกจากแผงลอยของตัวเองทันที ปรี่เข้าไปหาฟางจั๋วหรานหวังเอาเรื่อง “คุณทำอะไรลงไป เป็นผู้ใหญ่แท้ ๆ แต่กล้ารังแกเด็กเหรอ?!”

โชคดีที่ผู้คนในยุคสมัยนี้ยึดถือว่ายุติธรรมเป็นที่ตั้ง ลูกค้าหลายคนสวนกลับแม่ต้าเป่าทันควัน “ใคร ๆ เขาก็ดูออกกันทั้งนั้นว่าลูกชายป้าแกล้งทำเป็นร้องไห้ ยังกล้าโทษว่าเป็นความผิดของคนอื่นอีกเหรอ ทำไมไม่รู้จักสั่งสอนลูกตัวเองบ้าง? เป็นแม่คนประสาอะไร!”

เมื่อกี้นี้พวกเขารำคาญมากที่ต้าเป่าเอาแต่เสียงดังและหาเรื่องรังแกคนอื่น ทางด้านพ่อค้าแม่ค้าคนอื่น ๆ ที่โดนต้าเป่าก่อกวนก็รุมตำหนิแม่ต้าเป่าเช่นเดียวกัน

โดยเฉพาะป้ากู่ที่ตั้งแผงขายบะหมี่แห้งอยู่ข้างร้านแม่ต้าเป่า หล่อนคือคนที่ถูกต้าเป่าก่อกวนหนักข้อกว่าคนอื่น ๆ จึงคับแค้นใจเป็นพิเศษ คำพูดจากปากหล่อนถึงได้รุนแรงกว่าใคร

หล่อนแค่นเสียงเยาะเย้ย “แม่ของเขาก็แบบนี้แหละค่ะ ลูกตัวเองไปรังแกหรือสร้างปัญหาให้คนอื่น หล่อนกลับเลือกที่จะทำเป็นตาบอดเสียหนึ่งข้าง แต่พอคนอื่นแตะต้องลูกตัวเองบ้าง กลับทำท่าขึงขังจะเอาเรื่องเสียให้ได้!”

สีหน้าฟางจั๋วหรานเย็นชาลงมากกว่าเดิม เขาหันไปขู่แม่ต้าเป่าว่า “ถ้าคุณป้ายังไม่หยุดสร้างความวุ่นวายอีก ผมจะพาตัวคุณไปที่สถานีตำรวจ แล้วแจ้งความคุณข้อหาใส่ร้าย!”

เขามีพยานแวดล้อมหลายคนที่เห็นเหตุการณ์ จึงไม่กลัวที่จะแจ้งความแม่ต้าเป่า

ช่วงที่บ้านเมืองมีการบังคับใช้กฎหมายเข้มงวดแบบนี้ มีใครบ้างอยากขึ้นโรงพัก?

แม่ต้าเป่าจำใจกัดฟันข่มความโกรธ แล้วลากลูกชายร่างอ้วนของตัวเองกลับไปที่แผงของตัวเองเพื่อขายของต่อ

หลินม่ายรีบทำเกี๊ยวชามใหญ่แล้วยื่นให้ฟางจั๋วหราน “คุณคงยังไม่ได้กินข้าวมื้อเช้าใช่ไหมคะ? ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ โต้วโต้วคงโดนเด็กคนนั้นทำร้ายจนเจ็บตัวไปแล้ว ฉันไม่มีอะไรตอบแทนคุณเลย เพราะฉะนั้นกินเกี๊ยวสักชามรองท้องก่อนเถอะค่ะ”

เธอฉุกคิดขึ้นได้ว่าเขาเป็นหมอ อาจกังวลเกี่ยวกับเรื่องสุขอนามัย จึงพูดเสริมอีกสองประโยค “ชามใบนี้โต้วโต้วล้างด้วยน้ำสะอาดก่อนจะขายเกี๊ยวอีกค่ะ ไม่สกปรกแน่นอน”

ต่อให้ชามใบอื่นจะผ่านการล้างน้ำจนสะอาดแล้วก็ตาม ถึงอย่างนั้นในเรื่องของสุขอนามัยก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่ดี

ถึงอย่างนั้นวันนี้ก็มีลูกค้าแค่ไม่กี่รายที่ใช้ชามกับตะเกียบจากร้านของหลินม่าย

พอรู้ว่าเธอจะแถมเกี๊ยวอีกสองตัวให้ พวกเขาก็ยินดีพกชามกับตะเกียบมาเองอย่างเต็มใจ

โต้วโต้วก็พลอยเหนื่อยน้อยกว่าเมื่อวาน เพราะเมื่อวานนี้เธอต้องล้างชามหลายใบ จนมือน้อย ๆ แดงเถือกเพราะแช่น้ำเย็นเป็นเวลานาน

ฟางจั๋วหรานรับชามเกี๊ยวจากมือเธอด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินโดยที่มีโต้วโต้วยืนอยู่ด้านข้าง

โต้วโต้วเหลือบมองชามเกี๊ยวในมือเขา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสาว่า “ชามใบนี้ไม่ใช่ชามที่หนูเพิ่งกินไปเมื่อกี้นี่คะ เป็นชามของแม่หนูต่างหาก คุณอากินต่อจากแม่หนูเลย”

ใบหน้าหลินม่ายเปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีเพราะนั่นเป็นความจริง

ก่อนหน้านี้เธอเคยได้ยินมาบ้างว่าการใช้จานชามต่อจากคนอื่นถือเป็นการจูบทางอ้อม แต่เธอคิดเข้าข้างตัวเองว่าคนอย่างฟางจั๋วหรานคงไม่รู้เรื่องพรรค์นี้

แต่ทันทีที่ได้ยินฟางจั๋วหรานหัวเราะเบา ๆ ดังมาจากด้านข้าง ก็สะดุ้งตกใจขึ้นมาทันที เขาเองก็รู้เรื่องการจูบทางอ้อมด้วยหรือนี่…

โต้วโต้วใช้นิ้วจิ้มต้นขาของฟางจั๋วหราน “เกี๊ยวฝีมือแม่หนูอร่อยไหมคะ?”

ฟางจั๋วหรานพยักหน้าพร้อมตอบกลับ “อร่อยมาก! หนูกินข้าวเช้าหรือยัง? ถ้ายังไม่ได้กินอะไรเดี๋ยวอาเลี้ยงเอง”

……………………………………………………………………………………………………………

นั่วหมี่จี ก็คือข้าวเหนียวไก่ห่อใบบัว เป็นอาหารเช้าดั้งเดิมของมณฑลกวางตุ้ง ข้างในเป็นเนื้อไก่ เห็ด และส่วนผสมอื่น ๆ ห่อด้วยข้าวเหนียว และห่อด้วยใบบัวอีกทีหนึ่ง

เสี่ยวหลงเปา หนึ่งในเมนูติ่มซำยอดฮิต หน้าตากึ่งซาลาเปากึ่งขนมจีบ แต่มีจุดเด่นคือมีน้ำซุปอยู่ข้างใน

สารจากผู้แปล

เออ โดนสักทีนังป้านี่ ให้ท้ายลูกตัวเองเยอะแล้ว จงโดนสังคมถล่มบ้าง

พี่หมอมาแล้ว ค่าตัวแพงนะคะกว่าจะออก

ไหหม่า(海馬)