“นี่นายน่ะ!!”
 

“ห—หะ–? / เเอ๋?”

 

เสียงเรียกของเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มที่กำลังเดินเข้ามาหาพวกนากาด้วยความรีบร้อนนั้นถึงกับทำให้นากาชะงักไปชั่วขณะด้วยความกังวลว่าอีกฝ่ายอาจจะเข้ามาต่อว่าเรื่องที่เขาเอาหุ่นซ้อมจากในโกดังมาใช้งานกันเองโดยที่ไม่ได้แจ้งใครก่อนหรือเปล่า แต่ว่าก่อนที่นากาจะได้พูดแก้ตัวอะไรออกไปพรีมูล่าที่ถูกเขายืนบังเอาไว้ก็ได้ชะโงกหัวออกมาจากด้านหลังนากาและร้องสั่งเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มเบื้องหน้าพวกเขาเข้าซะก่อน

 

“อ่ะ— เดี๋ยวก่อนๆ พี่ชายอยู่นิ่งๆ แป๊บนึงสิ”

 

“หือ? มีอะไรหรือเปล่า?”

 

เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มได้พูดถามขึ้นมาด้วยความสงสัยเมื่อเด็กสาวผมสีชมพูที่ร้องสั่งเขาเอาไว้นั้นได้เดินเข้ามาเอียงคอจ้องหน้าของเขาใกล้ๆ อีกทั้งยังเดินวนไปมารอบตัวเขาด้วยสีหน้าครุ่นคิดเหมือนกับว่ากำลังนึกถึงเรื่องอะไรบางอย่างอยู่อีกต่างหาก

 

“หืมมมมม~~~?”

 

พรีมูล่าที่เดินวนรอบตัวเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มไปได้สองสามรอบแล้วนั้นได้ส่งเสียงลากยาวออกมาเล็กน้อยก่อนที่เธอจะพูดขึ้นมาต่อด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนกับว่าไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่นัก

 

“เอ่~~ พี่ชายนี่หน้าตาคุ้นๆ เหมือนกับว่าหนูเคยเห็นจากที่ไหนมาก่อนเลยนะ…”

 

“อ–เอ่อ…”

 

“อ่ะๆๆๆ มุมนี้แหล่ะ!!”

 

พรีมูล่าที่กำลังเดินวนไปรอบๆ ตัวเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มอยู่นั้นได้ร้องขึ้นมาด้วยความดีใจเมื่อเธอเดินอ้อมไปที่ด้านหลังของเด็กหนุ่มอีกครั้งหนึ่งในจังหวะที่เขาได้พยายามที่จะหันกลับมาพูดถามเธอเข้าพอดีจนทำให้เด็กสาวผมชมพูนึกขึ้นมาได้ว่าเธอเคยเห็นเด็กหนุ่มคนนี้มาจากที่ไหนมาก่อน ซึ่งเมื่อพรีมูล่านึกขึ้นมาได้แบบนั้นแล้วเธอก็ได้รีบยื่นมือไปจับหัวของเด็กหนุ่มคนนั้นเอาไว้ให้อยู่นิ่งๆ และรีบร้องเรียกพี่ชายของเธอมาดูเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มในมุมเดียวกันในทันที

 

“นี่ไงๆ พี่นากามาดูนี่สิ พี่ชายคนนี้ที่ตะโกนคุยกับอัลเบิร์ตเมื่อเช้านี้ไง!”

 

“เธอก็อย่าไปจับหัวคนอื่นเขาเล่นแบบนั้นสิพรีมูล่า… ว่าแต่เธอรู้จักเขาด้วยหรอน่ะ”

 

“ก็พี่ชายคนนี้ที่นั่งอยู่แถวหน้าสุดในห้องเรียนที่พูดถามพี่–อาจารย์อลิซขึ้นมาเมื่อเช้านี้ไง คนเดียวกับที่อาจารย์เอริบอกว่าพี่เขาโดนอาจารย์อลิซ ยำ-ซะ-เละ ด้วยยูนิตในช่วงปิดเทอมแล้วพี่เขาก็หันไปตะโกนใส่พี่อัลเบิร์ตอ่ะ”

 

“เออ… จะว่าไปก็เหมือนจะคุ้นๆ เหมือนกันแฮะ…”

 

นากาที่ได้ยินแบบนั้นได้ลองนึกย้อนความไปยังช่วงก่อนที่จะเริ่มชั่วโมงเรียนแรกและนึกขึ้นมาได้ว่ามีเด็กหนุ่มคนหนึ่งได้พูดถามอลิซขึ้นมาก่อนที่เขาจะถูกเอริซาเบธเอ่ยปากหยอกล้อเข้าให้จริงๆ ด้วย ซึ่งเมื่อเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มได้ยินแบบนั้นเข้าเขาก็ปัดมือของพรีมูล่าที่จับใบหน้าของเขาอยู่ออกและเอ่ยปากพูดถามนากาขึ้นมา

 

“ถ้าพูดแบบนี้ก็น่าจะหมายความว่าพวกนายอยู่ห้องสามเหมือนกันงั้นสินะ พอดีว่าวันนี้ฉันค่อนข้างจะยุ่งๆ ก็เลยไม่ได้สังเกตดูเพื่อนร่วมชั้นสักเท่าไหร่น่ะ เอาเป็นว่าฉันชื่อว่า เนล เป็นคนที่พูดกับเจ้าอัลเบิร์ตในคาบเรียนเมื่อตอนเช้านี้แบบที่น้องสาวของนายบอกนั่นแหล่ะ”

 

“เห็นมั้ยล่ะ หนูจำไม่ผิดจริงๆ ด้วย~”

 

“อื้ม ฉันชื่อนากามูระ แต่นายเรียกฉันสั้นๆ ว่านากาก็พอแล้วล่ะ ส่วนยัยตัวแสบนี่น้องสาวของฉันเองชื่อว่าพรีมูล่า พวกเรานั่งอยู่แถวหลังสุดของห้องใกล้ๆ กับคอนแนลน่ะ”

 

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะพี่เนล~”

 

พรีมูล่าที่ถูกนากาเอ่ยปากแนะนำตัวให้เพื่อนใหม่ฟังนั้นได้เผยรอยยิ้มพร้อมกับโบกมือทักทายไปให้เนลทีหนึ่งก่อนที่ทางด้านนากาจะเอ่ยปากถามถึงเหตุผลที่เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลคนนี้เดินเข้ามามาเรียกเขาเมื่อสักครู่ขึ้นมา

 

“แล้วนี่นายมีธุระอะไรกับพวกฉันหรือเปล่าน่ะเนล?”

 

“เออใช่ ถ้ายังไงก็ขอโทษที่มารบกวนเวลาฝึกของพวกนายด้วยละกันนะ แต่ว่าพวกนาย—”

 

ก๊องงงงงงงงงง—-

 

แต่แล้วในขณะที่เนลที่ได้โอกาสพูดกลับเข้าเรื่องกำลังจะเอ่ยปากถามนากาขึ้นมาเกี่ยวกับเรื่องที่เขารู้สึกติดใจอยู่นั้นก็ได้มีเสียงระฆังของทางโรงเรียนดังขึ้นมาครั้งหนึ่งบ่งบอกว่าใกล้จะหมดช่วงเวลาพักเที่ยงของเหล่านักเรียนกันแล้ว ซึ่งเสียงของระฆังนั้นก็ได้ทำให้พรีมูล่ารีบกระตุกแขนเสื้อของนากาและรีบพูดขึ้นมาในทันที

 

“อ่ะ— ใกล้จะหมดเวลาพักเที่ยงแล้วอ้ะพี่นากา”

 

“อื้ม โทษทีนะเนล พอดีว่าเดี๋ยวพวกฉันจะต้องขึ้นไปพบอาจารย์เอริเขาข้างบนห้องน่ะ เอาเป็นว่านายมีอะไรก็รีบพูดมาเลยละกัน”

 

“อืม… ถ้างั้นพวกนายก็ขึ้นไปหาอาจารย์เอริเขาให้เสร็จเรียบร้อยก่อนละกัน ส่วนเรื่องที่ฉันจะถามเอาเป็นว่าไว้หลังจากที่อาจารย์เอริปล่อยตัวแล้วพวกนายก็ค่อยแวะไปหาฉันที่ห้องชมรมอีกทีละกัน”

 

“ห้องชมรม…?”

 

นากาที่ถูกเนลพูดบอกมาแบบนั้นได้แต่เอ่ยปากถามกลับไปด้วยความสงสัย เพราะว่าถ้าเขาจำไม่ผิดแถวๆ ลานอเนกประสงค์ที่อยู่ใกล้ๆ กับตึกเรียนนั้นจะเต็มไปด้วยอาคารหลังเล็กๆ ของชมรมต่างๆ มากมาย ซึ่งท่าทีมึนๆ ของนากานั้นก็ทำให้เนลนึกขึ้นมาได้ว่าอีกฝ่ายที่เป็นเด็กนักเรียนใหม่คงจะไม่รู้จักชมรมของเขาแน่ๆ

 

“อ๋อ นายเป็นนักเรียนใหม่เพราะงั้นก็คงจะยังไม่รู้เรื่องสินะ ถ้าอย่างงั้นฉันก็ขอแนะนำตัวใหม่อีกครั้งนึงละกัน ฉัน เนล แบล็กล็อก เป็นประธานชมรมคนใหม่ของชมรมฝึกซ้อมการต่อสู้ในปีนี้ไงล่ะ”

 

“โหววว~~”

 

ท่าทางของเนลที่ยกนิ้วโป้งขึ้นมาทิ่มอกของตัวเองพร้อมกับเอ่ยปากพูดขึ้นมาด้วยความภาคภูมิใจนั้นถึงกับทำให้พรีมูล่าส่งเสียงร้องออกมาอย่างตื่นเต้นและยกมือขึ้นมาตบเปาะแปะประกอบการแนะนำตัวของเขาไปด้วยในขณะที่ทางด้านนากาที่กำลังหวั่นๆ เรื่องชมรมอยู่นั้นก็ได้แอบพูดขึ้นมาเบาๆ

 

“ประธานชมรมเลยงั้นหรอ…”

 

“ถ้างั้นก็เอาเป็นว่าฉันจะรอพวกนายอยู่ที่ห้องชมรมฝึกซ้อมการต่อสู้ก็แล้วกัน ส่วนตอนนี้พวกนายรีบขึ้นไปรออาจารย์เอริเขาบนห้องก่อนเถอะ เพราะถ้าเกิดว่าพวกนายไปสายขึ้นมาฉันเองก็บอกไม่ได้เหมือนกันนะว่าพวกนายจะโดนอาจารย์เอริเขาแกล้งด้วยวิธีไหนบ้างน่ะ”

 

“อื้ม ถ้างั้นเดี๋ยวเอาไว้อาจารย์เอริปล่อยตัวแล้วฉันจะไปหานายที่ห้องชมรมละกัน…”

 

“ไว้เจอกันใหม่นะพี่เนล~”

 

นากาและพรีมูล่าพูดตอบเนลกลับไปก่อนที่พวกเขาจะรีบช่วยกันยกหุ่นซ้อมไปหลบเอาไว้ที่ด้านข้างของโกดังเก็บของเอาไว้ก่อนแล้วจึงรีบวิ่งไปทางตึกเรียนก่อนที่เสียงระฆังจะดังขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งกัน ในขณะที่ทางด้านเนลนั้นก็ได้รอให้สองพี่น้องวิ่งจากไปกันก่อน แล้วจึงค่อยเดินเข้าไปใกล้ๆ หุ่นไม้ที่พวกนากาวางหลบเอาไว้เพื่อที่จะได้สำรวจดูมันให้มั่นใจอีกครั้งหนึ่ง

 

“วิซธาตุน้ำแข็งจริงๆ ด้วย… ท่าทางว่าสองคนนั้นคงจะน่าสนใจตามที่อาจารย์เอริบอกมาจริงๆ งั้นสินะเนี่ย…”

 

เนลยื่นมือออกไปลูบรอยถูกฟันที่นากาทิ้งเอาไว้บนหุ่นไม้เบาๆ ก่อนที่เขาจะแผ่วิซของตัวเองออกไปเพื่อตรวจสอบร่องรอยของกระแสพลังวิซที่กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับเอ่ยปากพูดพึมพำออกมา

 

“ถ้าเกิดว่าในปีนี้มีคนที่เก่งขนาดสามารถซ่อนพลังวิซในร่างกายจนไร้ร่องรอยได้แบบหมอนั่นล่ะก็แผนของคุณประธานนักเรียนก็อาจจะได้ผลจริงๆ ก็ได้งั้นสินะ…”

 

 

ในขณะเดียวกันทางด้านพวกนากาที่รีบวิ่งกลับขึ้นห้องเรียนที่อยู่บนชั้นสามนั้นได้ใช้เวลาสักพักหนึ่งในการนับประตูห้องเรียนที่เรียงรายกันไปตามโถงทางเดินก่อนที่เขาจะหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูบานหนึ่งและพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจสักเท่าไหร่นัก

 

“เอ… ห้องนี้หรือเปล่านะ…”

 

ครืดดดด

 

“ไม่น่าผิดหรอกล่ะมั้งนะพี่นากา อ่ะ! โมโกะจังนั่งอยู่นู่นไงพี่นากา~”

 

ในขณะที่นากากำลังยืนลังเลอยู่ที่หน้าประตูห้องนั้น ทางด้านพรีมูล่าที่แทบจะไม่เคยมีคำว่าใช้ความคิดอยู่ในหัวก็ได้ยื่นมือของเธอออกไปเลื่อนบานประตูให้เปิดออกและชะโงกหน้าเข้าไปมองดูภายในห้องเรียนในทันทีจนทำให้โมโกะที่นั่งรออยู่ด้านในก่อนอยู่แล้วได้แต่หันกลับมาพูดบอกสองพี่น้องที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูด้วยน้ำเสียงหน่ายๆ

 

“นี่พวกนายเล่นอะไรกันอยู่เนี่ย? รีบๆ เข้ามากันได้แล้วหน่า”

 

“เอ้า ฉันก็ต้องตรวจสอบดูก่อนสิว่ามันถูกห้องแน่หรือเปล่าน่ะ แล้วนี่ใครเขาเป็นคนคิดให้เอาประตูห้องเรียนที่หน้าตาเหมือนๆ กันมาติดเรียงกันเป็นแถวแบบนี้กันเนี่ย”

 

“ไม่ใช่ว่าด้านบนประตูก็มีป้ายติดบอกเอาไว้อยู่หรอว่าห้องไหนเป็นห้องไหนน่ะ…? เจ้าป้ายที่เขียนเอาไว้ว่าหนึ่งขีดสามนั่นน่ะ”

 

“ก็ฉันได้ยินมาว่าทางโรงเรียนมีระดับชั้นการศึกษาขั้นต้นกับขั้นปลายที่แบ่งเป็นชั้นปีหนึ่งสองสามเหมือนกันฉันก็เลยกลัวว่าป้ายหน้าห้องนั่นอาจจะเป็นของปีการศึกษาชั้นต้นก็ได้นี่!”

 

“อ่ะ— นั่นพี่รีซาน่านี่นา~”

 

ในระหว่างที่นากากำลังเถียงกับโมโกะและกำลังเดินกลับไปนั่งประจำที่ของตนนั้น ทางด้านพรีมูล่าที่เห็นคนรู้จักของเธออีกคนหนึ่งอยู่ในห้องด้วยก็ได้ละความสนใจไปจากทั้งสองคนและเดินเข้าไปทักทายรีซาน่าที่นั่งอยู่แถวๆ กลางห้องแทน ซึ่งนั่นก็ทำให้โมโกะได้รีบฉวยโอกาสนี้ยื่นหน้าเข้าไปสอบถามนากาเกี่ยวกับการฝึกซ้อมของเขาในทันที

 

“นายพายัยตัวแสบไปด้วยแบบนี้นี่สรุปว่าได้ฝึกอะไรตามที่ตั้งใจเอาไว้หรือเปล่าเนี่ย?”

 

“อ่า… นอกจากจะได้ฝึกเต็มที่แล้วก็ยังมีเรื่องประหลาดอย่างเรื่องที่ว่ายัยพรีมูล่าเกิดสนใจจะฝึกใช้ดาบขึ้นมาด้วยน่ะ…”

 

“หะ!? อย่างยัยนั่นเนี่ยนะบอกว่าจะฝึกดาบ!? ท่าทางว่าวันนี้จะมีพายุเข้าจริงๆ ซะแล้วล่ะมั้งเนี่ย…”

 

“ถ้าดูจากท้องฟ้าตอนนี้แล้วก็น่าจะเป็นไปได้อยู่นะ…”

 

นากายิ้มแห้งๆ ตอบโมโกะกลับไปก่อนที่เขาจะละสายตาไปมองดูเหล่าเด็กนักเรียนไร้ชมรมที่กำลังนั่งรอเอริซาเบธอยู่ในห้องเรียนนี้ด้วยกัน ซึ่งนากาก็ได้พบว่าคนคุ้นหน้าคุ้นตาของเขาที่มากระจุกกันอยู่ในห้องเรียนนี้เหลืออยู่เพียงแค่รีซาน่าเพียงคนเดียวเท่านั้นโดยไร้ซึ่งวี่แววของอัลเบิร์ต เนล ซิลเวส เซซิล พิเน๊ะ และซึบากิโดยสิ้นเชิง

 

“หายหน้าไปหลายคนอยู่เหมือนกันแฮะ… แล้วพวกที่เหลืออยู่ในห้องนี่คือพวกคนที่ยังไม่มีชมรมกันงั้นสินะ”

 

“ก็น่าจะเป็นอย่างงั้นล่ะมั้ง เพราะจากที่อาจารย์เอริฝากนายมาบอกฉันเขาก็บอกว่าจะมาแนะแนวเรื่องชมรมไม่ใช่หรอ?”

 

“อื้ม…”

 

นากาพยักหน้าตอบโมโกะกลับไปก่อนที่เขาจะหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาตัวเพื่อนใหม่ของยัยตัวแสบดูอีกครั้งหนึ่ง แต่ว่าเมื่อนากาหาตัวเด็กสาวหูแมวผมสีฟ้าคนนั้นไม่พบเขาก็ได้แต่ต้องพูดถามโมโกะขึ้นมา

 

“ว่าแต่ซิลเวสก็ไม่อยู่ในห้องด้วยเหมือนกันนี่นา นี่อย่าบอกนะว่าซิลเวสเขาอยู่ชมรมปลูกดอกไม้หรือว่าอะไรแบบนั้นจริงๆ น่ะ”

 

“ชมรมนั้นเขามีชื่อเรียกดีๆ ว่าชมรมการเกษตรต่างหากล่ะ เห็นคอนแนลบอกว่าซิลเวสเขาอยู่ชมรมนั้นมาตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วน่ะ”

 

“อ่ะ— จะว่าไปแล้วนี่พี่คอนแนลไปไหนแล้วอ้ะโมโกะจัง?”

 

ในขณะที่โมโกะได้หันไปพูดแขวะนากาขึ้นมาพร้อมกับอธิบายให้เขาฟังอยู่นั้น อยู่ๆ พรีมูล่าที่เหมือนจะพูดคุยกับรีซาน่าเสร็จแล้วก็ได้โผล่พรวดเข้ามาที่ด้านหน้าของโมโกะและพูดถามขึ้นมาเสียงดังจนทำให้โมโกะต้องยกมือขึ้นมาดันหน้าของเด็กสาวผมชมพูให้ออกไปห่างๆ ก่อนเพื่อที่จะได้พูดอธิบายขึ้นมาให้เธอฟังสะดวกๆ

 

“พี่คอนแนลของเธอนั่นเขากลับไปตั้งแต่ก่อนจะหมดช่วงพักเที่ยงแล้วย่ะ เห็นตานั่นอวดว่าเขาสามารถออกจากเขตโรงเรียนได้ก่อนเวลาถ้าเกิดว่ามีคำสั่งมาจากทางวังหรือว่าอะไรสักอย่างเนี่ยแหล่ะ”

 

“เอ๋~~!? พี่คอนแนลกลับบ้านก่อนได้ด้วยหรอ!? ขี้โกงอ้ะ!!”

 

“เขาไม่ได้กลับบ้านแต่ว่าไปทำงานต่างหากล่ะ”

 

“ฟังดูท่าทางจะลำบากเหมือนกันนะนั่น…”

 

ในขณะที่พรีมูล่ากำลังร้องโวยวายออกมาใส่โมโกะอยู่นั้นทางด้านนากากลับพูดขึ้นมาเบาๆ ด้วยความเห็นใจ เพราะถึงแม้ว่าการที่คอนแนลได้รับบรรจุเข้าไปเป็นอัศวินไปแล้วนั้นจะทำให้เขาไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องของการหางานทำในอนาคตมากนักแต่ว่ามันก็ทำให้ตัวคอนแนลเองหมดโอกาสที่จะได้ไปเข้าร่วมชมรมต่างๆ เหมือนกับเด็กนักเรียนคนอื่นๆ ไปโดยปริยาย

 

“เอาหน่าๆ นายไม่ต้องไปคิดมากแทนคอนแนลเขาแบบนั้นก็ได้ อีกอย่างนึงเห็นเอริกะเขาบอกว่าคอนแนลจะถูกย้ายไปทำงานให้กับเอริกะแทนแล้วนี่ แบบนี้บางทีเอริกะเขาอาจจะหาทางให้คอนแนลได้มีโอกาสเข้าร่วมชมรมเหมือนกับคนอื่นๆ เขาได้ก็ได้นะ”

 

“ฮะฮะ นั่นสินะ ถึงทางวังเขาจะบอกว่าไม่อนุญาตก็เถอะแต่ว่าทางฝั่งนี้เองก็เป็นถึงเอริกะเล—-”

 

ครืดดดดด—

 

“…นี่ผมไม่ได้มาสายใช่มั้ยครับเนี่ย?”

 

“อ่ะ— พี่คอนแนลนี่นา!”

 

ในขณะที่กลุ่มของพวกนากากำลังพูดคุยเล่นกันอยู่นั้น อยู่ๆ ประตูหลังห้องก็ได้ถูกเลื่อนเปิดออกอีกครั้งหนึ่งก่อนที่คอนแนลจะโผล่หน้าเข้ามาด้านในห้องจนทำให้พรีมูล่าส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ ซึ่งการปรากฏตัวของคอนแนลนั้นก็ถึงกับทำให้โมโกะต้องรีบพูดถามอัศวินหนุ่มขึ้นมาในทันที

 

“เดี๋ยวสิ— ไหนนายบอกว่าจะต้องเข้าไปคุยกับคนข้างในวังก็เลยต้องรีบไปไม่ใช่หรือไงหะ ฉันก็เพิ่งจะบอกนากาไปเมื่อกี้นี้เองนะว่านายกลับบ้านไปแล้วน่ะ!”

 

“อ่ะ… อ๋อ มันก็ใช่นั่นแหล่ะครับ แต่ว่าผมก็ไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะต้องไปนานนี่นา เพราะคราวนี้ทางวังเขาก็แค่เรียกผมไปแจ้งแนวทางการปฏิบัติหน้าที่หลังจากที่ถูกย้ายไปทำงานกับคุณเอริกะแทนแล้วแค่นั้นเองน่ะครับ อีกอย่างนึงที่ตึกเรียนนี่ก็มีทางเชื่อมต่อเข้าไปด้านในวังด้วยเพราะงั้นก็เลยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมากน่ะครับ”

 

“ง–งั้นหรอ ว่าแต่แล้วนายจะมาที่นี่ทำไมล่ะ เดี๋ยวหลังจากนี้เขาจะมีการแนะนำเรื่องเกี่ยวกับชมรมต่างๆ ให้กับนักเรียนใหม่กันนะไม่ได้มีอาจารย์คนไหนจะมาสอนอะไรเพิ่มหรอก”

 

“ที่ผมมานี่ก็เพราะว่าเรื่องชมรมเนี่ยแหล่ะครับ ดูเหมือนว่าคุณเอริกะเขาจะไปบอกพวกคนในวังว่าอยากจะให้ผมได้ใช้เวลาในโรงเรียนให้มันคุ้มค่าหรืออะไรสักอย่างเนี่ยแหล่ะ พวกเขาก็เลยรีบส่งผมกลับมานี่แหล่ะครับ”

 

“อื้ม… ถ้าเป็นเอริกะก็คงจะไม่น่าแปลกใจสักเท่าไหร่ล่ะมั้ง…”

 

ถึงแม้ว่านากาจะได้ยินคอนแนลพูดออกมาแบบนั้นแต่ว่าเขาก็กลับไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรมากนัก เพราะว่าเมื่อสักครู่นี้พวกเขาเองก็ยังพูดคุยเล่นกันเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่เลยซะด้วยซ้ำ และเมื่อดูจากที่เอริกะเคยพูดบ่นๆ ให้เขาฟังเกี่ยวกับเรื่องของการต่อรองกับทางวังหลวงที่เธอแทบจะทำเป็นเหมือนกับการต่อรองราคาปลากับพ่อค้าแผงลอยหน้าตลาดสดแล้ว มันก็ยิ่งทำให้นากาไม่ค่อยจะรู้สึกตกใจอะไรเกี่ยวกับเรื่องของเอริกะและวังหลวงมากนัก

 

“ว่าแต่นายมานี่ก็ได้จังหวะพอดีเลยคอนแนล ฉันมีอะไรอยากจะถามนายอยู่พอดีเลย”

 

“หืม? เรื่องอะไรหรอครับ?”

 

“ก็… นายพอจะรู้จักกับคนที่ชื่อว่า เนล… อืม… เนล เดรดล็อก—หรืออะไรสักอย่างนี่หรือเปล่าน่ะ? เด็กผู้ชายผมสีน้ำตาลเข้มๆ ที่นั่งอยู่แถวหน้าที่ตะโกนเถียงกับอัลเบิร์ตเมื่อเช้านี้น่ะ”

 

“เดรด—-อ๋อ คงจะหมายถึงคุณเนล แบล็กล็อก ที่เป็นประธานชมรมคนใหม่ของชมรมฝึกซ้อมการต่อสู้สินะครับ ถ้าเป็นคนนั้นผมก็ต้องรู้จักอยู่แล้วสิครับ ถึงหลังๆ มานี่ผมจะไม่ค่อยได้มีโอกาสพูดคุยกับเขาสักเท่าไหร่แต่ว่าเขาเองก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นของผมมาตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วล่ะครับ”

 

คอนแนลพูดตอบนากากลับไปก่อนที่เขาจะหิ้วพรีมูล่าที่นอนหงายลงไปกับโต๊ะของเขาเพื่อแกล้งโมโกะที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ กันขึ้นมา ซึ่งนั่นก็ทำให้พรีมูล่าที่ถูกขัดขวางการเล่นสนุกได้หันมาก่อกวนคอนแนลแทนในทันที

 

“อ่ะ– พอพี่คอนแนลเรียกพี่เขาว่าคุณเนลแล้วชื่อของพี่ๆ ก็ฟังดูคล้ายๆ กันอยู่เหมือนกันนะ”

 

“มันก็ไม่ได้คล้ายอะไรกันขนาดนั้นสักหน่อยนะครับ… แต่เอาจริงๆ เมืองรีมินัสใหญ่ขนาดนี้จะมีคนชื่อคล้ายกันสักคนสองคนก็ไม่แปลกหรอกครับ ดูอย่างคุณเอริกะกับอาจารย์เอริซาเบธสิครับ สองคนนั้นเขาชื่อคล้ายกันมากกว่าชื่อของคุณเนลกับชื่อคอนแนลของผมอีกนะครับนั่น… ว่าแต่นี่นากาถามเรื่องของคุณเนลเขาทำไมหรอครับ?”

 

“อืม… ก็พอดีว่าตอนที่ฉันกับพรีมูล่ากำลังฝึกกันอยู่ อยู่ๆ เนลเขาก็โผล่มาพูดอะไรประหลาดๆ ยาวยืดใส่น่ะ แต่ว่ายังไม่ทันได้จะคุยอะไรกันมากนักมันก็หมดช่วงเวลาพักเที่ยงซะก่อนเนลเขาก็เลยนัดให้ฉันไปหาที่ชมรมฝึกซ้อมการต่อสู้หลังจากนี้น่ะ”

 

“อ๋อ นากาคงจะสงสัยเกี่ยวกับเรื่องของตัวชมรมนั้นสินะครับ ถ้าเป็นชมรมฝึกซ้อมการต่อสู้ล่ะก็ เมื่อปีที่ผ่านๆ มาชมรมนั้นจะเป็นชมรมที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาศิลปะการต่อสู้แขนงต่างๆ เพื่อค้นหาจุดเด่นหรือว่าจุดด้อยของวิชาการต่อสู้นั้นๆ เพื่อที่จะได้เอามันไปพัฒนาต่อยอดให้เหนือกว่าเดิมน่ะครับ”

 

“เมื่อปีที่ผ่านๆ มา? หมายความว่าตอนนี้มันไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้วหรือไงน่ะ?”

 

นากาที่ได้ยินคำพูดที่ฟังดูแปลกๆ จากปากของคอนแนลนั้นได้พูดถามขึ้นมาด้วยความสงสัยจนทำให้คอนแนลจำเป็นต้องพูดอธิบายออกมาเพิ่มเติมให้เขาฟัง

 

“ก็อาจจะน่ะครับ เพราะเรื่องจุดมุ่งหมายหลักของชมรมแต่ละชมรมเนี่ยจริงๆ แล้วมันจะเป็นอะไรก็ขึ้นอยู่กับที่ประธานของชมรมในปีนั้นๆ จะเป็นคนกำหนดน่ะครับ แล้วถ้าเกิดว่าเป็นปีที่ผ่านๆ มามันก็เป็นชมรมแบบที่ผมว่ามานั่นแหล่ะครับ แต่ว่าในปีนี้ตำแหน่งประธานชมรมมันเปลี่ยนไปเป็นของคุณเนลเขาแล้วผมเองก็เลยไม่แน่ใจเหมือนกันว่าชมรมของเขาจะยังมีจุดหมายเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่าน่ะ”

 

ครืดดดดดด

 

ในขณะที่คอนแนลกำลังพูดอธิบายออกมาให้นากาฟังอยู่นั้น อยู่ๆ ประตูหน้าห้องเรียนก็ได้ถูกเลื่อนเปิดออกพร้อมๆ กับที่เอริซาเบธได้เดินกอดเอกสารจำนวนหนึ่งเข้ามาภายในห้องเรียนและพูดบอกเหล่าเด็กนักเรียนในห้องขึ้นมาด้วยท่าทางอารมณ์ดี

 

“เอาล่ะ ทุกคนกลับไปนั่งที่กันได้แล้วจ้า~ ขอบอกเอาไว้ก่อนเลยนะว่ายิ่งอาจารย์จัดการให้เสร็จเรื่องได้เร็วเท่าไหร่พวกเธอก็ยิ่งได้ออกไปเล่นกันไวขึ้นเท่านั้นน่ะ~ เพราะงั้นถ้าเกิดว่าพวกเธออยากจะออกไปเลือกชมรมกันไวๆ ก็ขอความร่วมมือหน่อยละกันนะจ๊ะ~”

 

“ถ้าอย่างงั้นเดี๋ยวเอาไว้หลังจากที่อาจารย์เอริเขาพูดเสร็จแล้วก็ค่อยมาคุยกันต่อละกันนะครับนากา”

 

“อ่า… ก็คงต้องเอาอย่างนั้นแหล่ะ”

 

“เอาล่ะ~ ในเมื่อพวกเธอนั่งประจำที่กันเรียบร้อยแล้วถ้างั้นก็เชิญลุกขึ้นมาจากเก้าอี้แล้วเดินมารับเอกสารนี่กันได้เลยจ้ะ~”

 

เอริซาเบธที่เห็นว่าเหล่าเด็กนักเรียนของเธอได้กลับไปนั่งประจำที่ของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้นได้ยิ้มแป้นพูดสั่งให้เหล่าเด็กนักเรียนลุกขึ้นจากที่นั่งอีกครั้งอย่างร่าเริงพร้อมๆ กับโบกแผ่นเอกสารจำนวนหนึ่งในมือของเธอไปมา ซึ่งนั่นก็ทำให้เหล่าเด็กนักเรียนห้องสามได้พูดบ่นกันขึ้นมาเบาๆ ก่อนที่พวกเขาจะทยอยเดินไปรับเอกสารมาจากเอริซาเบธและกลับไปนั่งประจำที่ของตนเองอีกครั้งหนึ่ง

 

และเมื่อเอริซาเบธได้แจกจ่ายเอกสารของเหล่าเด็กนักเรียนไปจนครบทุกคนแล้วเธอก็ได้พูดอธิบายสาเหตุของการเรียกตัวเหล่าเด็กนักเรียนที่ยังไม่มีชมรมประจำอย่างพวกเขาออกมาให้พวกเขาได้ฟังกัน

 

“ถ้างั้นอาจารย์ขอเข้าเรื่องเลยละกันเนอะ หลักๆ ที่เรียกพวกเธอมานี่ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่ว่าอาจารย์จะมาแจกใบรายชื่อชมรมให้พวกเธอดูกันน่ะ เอาเป็นว่าพวกเธอก็ลองดูรายชื่อพวกนี้ดูก่อนละกัน แล้วถ้าเกิดว่าพวกเธอสนใจชมรมไหนขึ้นมาก็ลองไปติดต่อสอบถามดูในสถานที่ที่ระบุไว้หลังชื่อชมรมได้เลย~ เอาล่ะ มีใครมีคำถามอะไรมั้ยเอ่ย~?”

 

“หืม…?”

 

คำพูดอธิบายของเอริซาเบธได้ทำให้นากาส่งเสียงร้องขึ้นมาเบาๆ ด้วยความสงสัย เพราะว่าในเอกสารรายชื่อชมรมที่เขาได้รับมานั้นมีเครื่องหมายสัญลักษณ์ต่างๆ สี่รูปแบบถูกเขียนนำหน้าชื่อของชมรมต่างๆ เอาไว้ด้วยแต่ว่าเอริซาเบธที่เพิ่งจะพูดอธิบายออกมาให้เหล่าเด็กนักเรียนฟังกลับไม่ได้เอ่ยปากพูดถึงมันเลยแม้แต่น้อย

 

โดยสัญลักษณ์ที่มีมากที่สุดนั้นเป็นสัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมที่ถูกระบุนำหน้าชื่อชมรมเกินกว่าครึ่งหนึ่งเอาไว้ ในขณะที่ชื่อชมรมเกือบทั้งหมดที่เหลือนั้นถูกขีดเอาไว้ด้วยสัญลักษณ์กากบาท ส่วนอีกสองสัญลักษณ์ที่เหลือที่เป็นวงกลมธรรมดาๆ กับวงกลมสองวงซ้อนกันนั้นกลับปรากฏอยู่นำหน้าชื่อชมรมเป็นจำนวนน้อยนิดที่ดูคร่าวๆ แล้วน่าจะมีไม่ถึงสิบชมรมซะด้วยซ้ำ

 

ซึ่งนากาที่เห็นแบบนั้นก็ได้ลองยื่นหน้าไปมองดูแผ่นเอกสารของพรีมูล่าที่นั่งอยู่ติดกันก่อนที่เขาจะพบว่าบนเอกสารของน้องสาวของเขานั้นไม่ได้ถูกขีดเขียนสัญลักษณ์จำนวนมากเอาไว้เหมือนกันกับของเขา จนทำให้นากาที่เห็นแบบนั้นได้ตัดสินใจที่จะลองไล่แบ่งรายชื่อชมรมที่ถูกขีดสัญลักษณ์แบบเดียวกันเอาไว้ให้เป็นหมวดหมู่ดูในทันที

 

“วงกลมหนึ่งวงกับสองวง… ชมรมวรรณกรรม ชมรมทำความสะอาด ชมรมการเกษตร ชมรมวิจัยวัฒนธรรม ชมรมแกะสลัก ชมรมยิงธนู ชมรมศึกษาภาษาโบราณ… ชมรมออกกำลังกาย…? เรื่องแบบนั้นมันนับเป็นชมรมได้ด้วยหรอน่ะ… เอาเถอะ… ส่วนที่เป็นสามเหลี่ยมก็มีชมรมเดินป่า ชมรมทำอาหาร ชมรมชงชา ชมรมช่างไม้… พวกนี้มันเกี่ยวข้องกันตรงไหนเนี่ย…”

 

นากาที่เห็นรายชื่อของชมรมจำนวนมากที่ถูกเขียนสัญลักษณ์สามเหลี่ยมนำหน้าเอาไว้นั้นได้แต่พูดพึมพำขึ้นมาด้วยความสงสัย เพราะว่าอย่างรายชื่อของชมรมที่เขียนเอาไว้ด้วยสัญลักษณ์วงกลมทั้งสองแบบนั้นก็ยังพอจะเชื่อมโยงกันได้อยู่บ้างว่ามันเป็นชมรมที่ไม่ค่อยจะเกี่ยวข้องกับวิชาชีพโดยตรงหรือเป็นชมรมจำพวกที่ไม่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวันสักเท่าไหร่นัก

 

แต่ว่ารายชื่อชมรมที่ถูกเขียนสัญลักษณ์สามเหลี่ยมนำหน้าเอาไว้กลับครอบคลุมไปแทบจะทั่วทุกแขนงไม่ว่าจะเป็นการทำอาหาร การชงชา วิชางานฝีมืออย่างงานไม้อีกทั้งยังมีชมรมที่ควรจะเป็นชมรมใช้แรงอย่างการเดินป่าอยู่ในหมวดนี้อีกด้วย

 

ซึ่งนากาที่ไม่สามารถหาความเชื่อมโยงของชมรมพวกนี้ได้เลยนั้นก็ได้เงยหน้าขึ้นไปมองเอริซาเบธเพื่อที่จะได้ลองสอบถามเธอดูก่อนจะพบว่าอาจารย์สาวหูจิ้งจอกนั้นเหมือนว่าจะกำลังให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการตั้งชมรมใหม่ให้กับเด็กนักเรียนกลุ่มหนึ่งอยู่จนทำให้เขาได้แต่ปล่อยผ่านเรื่องชมรมสามเหลี่ยมพวกนี้ไปก่อนและหันไปไล่ดูรายชื่อของชมรมที่ถูกขีดไว้ด้วยเครื่องหมายกากบาทดูแทน

 

“เดี๋ยวเอาไว้ค่อยไปถามดูละกัน… ไหนดูพวกกากบาทนี่ก่อนสิ…ชมรมศึกษาและวิจัยสิ่งประดิษฐ์ ชมรมวิจัยและพัฒนาคริสตัลวิซ ชมรมศึกษาและวิจัยผลกระทบของวิซต่อสภาพแวดล้อมโดยไม่พึ่งพาสื่อกลาง… ชื่อยาวชะมัด… แต่พวกชมรมกากบาทนี่เป็นชมรมใช้สมองงั้นหรอ… ไม่ใช่สิตรงนี้มีชมรมฝึกซ้อมการต่อสู้ของเนลอยู่ด้วย แล้วตรงนี้ก็มีชมรมยิงปืนอีก… หืม…”

 

นากาที่ในตอนแรกคิดว่าเหล่าชมรมที่ถูกเครื่องหมายกากบาทกาทับนำหน้าเอาไว้เป็นชมรมที่ต้องใช้สมองนั้นได้หรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อเขาได้พบว่าชมรมฝึกซ้อมการต่อสู้ของเนลเองก็ถูกจัดเอาไว้ในหมวดเดียวกับชมรมท่าทางเข้าใจยากพวกนั้นด้วย ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาได้ลองไล่ดูรายชื่อชมรมต่างๆ ตั้งแต่แรกอีกครั้งหนึ่งเมื่อมีอะไรบางอย่างผุดเข้าในความคิดของเขาก่อนที่ทันใดนั้นเองเสียงของเอริซาเบธจะดังขึ้นมาให้เขาได้ยิน

 

“หลักๆ แล้วเรื่องการตั้งชมรมใหม่ก็เป็นประมาณที่อาจารย์บอกไปนั่นแหล่ะ แต่ถ้าเกิดพวกเธอคิดว่ามันยุ่งยากเกินไปแล้วก็ไม่มีชมรมไหนถูกใจจริงๆ จะไม่เข้าร่วมชมรมไหนเลยก็ได้นะทางโรงเรียนไม่ว่าอะไรหรอก~”

 

เอริซาเบธที่พูดอธิบายเรื่องของการยื่นเรื่องจัดตั้งชมรมใหม่ให้กับเด็กนักเรียนกลุ่มหนึ่งฟังเสร็จแล้วนั้นได้เดินส่ายหางฟูๆ ของเธอกลับไปนั่งที่โต๊ะอาจารย์ที่อยู่ด้านหน้าห้องด้วยท่าทางอารมณ์ดี ในขณะที่เหล่าเด็กนักเรียนเองก็ได้หันไปจับกลุ่มคุยปรึกษากันจนเกิดเสียงจอแจขึ้นมา ซึ่งนากาที่เห็นว่าเอริซาเบธกำลังว่างจนทำท่าเหมือนกับว่าจะหยิบขนมอัดแท่งมานั่งแทะเล่นแล้วนั้นก็ได้ตัดสินใจที่จะเดินเข้าไปถามเธอเกี่ยวกับเรื่องของแผ่นเอกสารของเขาในทันที

 

“เดี๋ยวพี่มาแป๊บนึงนะพรีมูล่า”

 

“อ่ะ— หนูไปด้วยสิพี่นากา~”

 

พรีมูล่าที่ถูกพี่ชายของตัวเองเอ่ยปากพูดขึ้นมาแบบนั้นได้รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้เพื่อเดินตามเขาไปหาเอริซาเบธที่นั่งอยู่ทางด้านหน้าห้องพร้อมกันด้วย ซึ่งเมื่อทั้งสองคนเดินเข้าไปถึงตัวเอริซาเบธแล้วนากาก็ได้เอ่ยปากถามอาจารย์สาวหูจิ้งจอกขึ้นมาเกี่ยวกับเรื่องของสัญลักษณ์ทั้งสี่แบบที่ติดใจเขาอยู่ในทันที

 

“อาจารย์เ—-”

 

“ว่าไงนากาคุง~ จะมาถามเรื่องของสัญลักษณ์พวกนั้นใช่มั้ยล่ะ?”

 

“เอ๋~ สัญลักษณ์อะไรอ่ะพี่นากา ขอหนูดูด้วยคนสิ”

 

พรีมูล่าที่ได้ยินเอริซาเบธพูดเหมือนกับว่าเอกสารของนากามีอะไรพิเศษกว่าคนอื่นนั้นได้เดินเข้าไปเบียดพี่ชายของตนเพื่อที่จะได้ยื่นหน้าไปมองดูเอกสารของเขาในทันที ซึ่งนากาก็ได้ยื่นเอกสารของเขาไปให้พรีมูล่าแต่โดยดีก่อนจะหันไปมองทางเอริซาเบธด้วยสายตาที่ต้องการคำตอบแบบจริงๆ จังๆ จนทำให้เอริซาเบธต้องรีบพูดตอบนากากลับมา

 

“สัญลักษณ์พวกนั้นฉันทำเอาไว้นายโดยเฉพาะเลยน่ะนากาคุง ถ้าเกิดว่านายสนใจจะเข้าชมรมที่มีสัญลักษณ์วงกลมล่ะก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอกยิ่งถ้าเป็นวงกลมสองวงก็ยิ่งไม่น่าจะมีปัญหาเลย ส่วนสัญลักษณ์สามเหลี่ยมนั่นอาจจะมีปัญหาอยู่บ้าง ส่วนที่เป็นกากบาทนั่นคือฉันคิดว่ามันคงจะไม่เหมาะกับนายสักเท่าไหร่น่ะ”

 

“มันเป็นสัญลักษณ์ที่บอกถึงความจำเป็นที่จะต้องใช้วิซในแต่ละชมรมงั้นสินะ…”

 

“อื้ม! ที่เป็นวงกลมทั้งสองแบบนั้นมันเป็นพวกชมรมที่แทบจะไม่ต้องใช้วิซเลย ส่วนพวกชมรมสามเหลี่ยมพวกนี้นี่ถึงจะจำเป็นต้องใช้วิซอยู่บ้างแต่ว่านายก็น่าจะพอหาวิธีอื่นมาแก้ขัดหรือว่าให้คนอื่นมาช่วยในระหว่างทำกิจกรรมชมรมได้อยู่ เพราะงั้นนายก็ลองเลือกๆ ดูจากในชมรมพวกนี้ดูละกันนะ”

 

“อ้าว~? แล้วที่เป็นกากบาทนี่ล่ะพี่เอริ?”

 

ในขณะที่เอริซาเบธกำลังพูดอธิบายขึ้นมาอยู่นั้นทางด้านพรีมูล่าที่นั่งมองเอกสารของนากาอยู่ก็ได้พูดถามขึ้นมาด้วยความสงสัยเมื่อเธอไม่ได้ยินเอริซาเบธพูดถึงเรื่องเครื่องหมายกากบาทที่มีเยอะพอๆ กับเครื่องหมายสามเหลี่ยมเลยซะด้วยซ้ำ

 

“อันนั้น… ฉันคิดว่ามันไม่น่าจะเหมาะกับนากาคุงสักเท่าไหร่เพราะว่ามันเป็นพวกชมรมที่อาจจะหาวิธีอื่นมาช่วยไม่ได้น่ะ อย่างพวกชมรมวิจัยอะไรต่างๆ ที่ต้องทดสอบผลการทดลองอยู่บ่อยๆ หรือไม่ก็พวกชมรมการต่อสู้ที่พวกนักเรียนค่อนข้างจะทุ่มเทกับมันมากเกินควรไปหน่อยนึงจนอาจจะเป็นอันตรายได้น่ะ”

 

“เอ๋~? แต่ถ้าอย่างงั้นชมรมที่พี่นากาเลือกได้มันก็หายไปเกินกว่าครึ่งนึงเลยไม่ใช่หรอพี่เอริ?”

 

“ก็เพราะว่ามันเป็นแบบนั้นฉันก็เลยเขียนเอกสารนี่มาให้นากาเขาใช้ในการตัดสินใจว่าจะเข้าชมรมไหนดียังไงล่ะ เขาจะได้รู้เอาไว้ก่อนจนไม่ต้องมาตกใจเอาทีหลังว่าชมรมนี้มันใช้วิซหนักหรือว่าอะไรแบบนั้นน่ะ~”

 

“…….”

 

“นากาคุง?”

 

เอริซาเบธที่พูดตอบพรีมูล่ากลับไปอย่างร่าเริงนั้นได้ชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะพูดเรียกนากาขึ้นมาด้วยความสงสัยเมื่อเธอหันกลับมามองนากาที่นิ่งเงียบไปสักพักหนึ่งแล้วจนพบว่าเด็กหนุ่มผมดำกำลังก้มหน้าลงต่ำและกำมือแน่นเหมือนกับว่าเขากำลังอดกลั้นอะไรสักอย่างอยู่

 

ซึ่งเสียงเรียกของเอริซาเบธนั้นก็เหมือนกับว่าจะทำให้นากาได้สติ เขาจึงได้รีบเงยหน้าขึ้นมาพูดตอบเอริซาเบธกลับไปและรีบเดินออกจากห้องเรียนไปในทันที

 

“เปล่า… ไม่มีอะไรหรอก… เอาเป็นว่าฉันขอตัวไปจัดการธุระก่อนละกันนะ ถ้ายังไงก็ขอบใจสำหรับเอกสารนะเอริ…”

 

“อ่ะ— ด–เดี๋ยวก่อนสิพี่นากา”