ตอนที่ 155 ชารอน คาร์เตอร์
เมื่อมองไปยังร่างของอาร์คไลท์ที่อยู่บนพื้น ซู่เจินก็รู้แย่เล็กน้อย ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาฆ่าอาร์คไลท์ แต่เป็นเรื่องที่แม็กนีโตเจอตัวของเธอก่อนเขา เพราะถ้าเกิดว่าเขาเจอตัวของเธอก่อนแม็กนีโต เธอก็คงจะเป็นหนึ่งในลูกทีมของเขาอย่างแน่นอน และมันก็เป็นเรื่องยากมาก ๆ ด้วยที่จะหาคนที่มีคุณสมบัติที่เพียบพร้อมเหมือนกับเธอได้ง่าย ๆ
“ระบบ ภารกิจเสร็จแล้วหรือยัง ?”
ซู่เจินถามกับระบบขึ้นมาภายในจิตใจ
“ถ้าภารกิจเสร็จสิ้น จะมีข้อความแจ้งเตือนขึ้นมา” ระบบตอบกลับ
ซู่เจินพยักหน้าขึ้นมาเล็กน้อย เพราะว่าตอนนี้เขายังไม่ได้รับการแจ้งเตือนจากระบบ มันก็แสดงว่าภารกิจของเขามันยังไม่เสร็จสิ้น และเมื่อเขาลองมาคิดดูดี ๆ แล้วตอนแรกเขาจะต้องจัดการกับวินเทอร์โซลเจอร์ แต่ตอนนี้กับมีมนุษย์กลายพันธ์เข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยนั่นก็คือ อาร์คไลท์ และคัสลิสโตที่เข้ามาช่วยวินเทอร์โซลเจอร์เอาไว้ ดังนั้นตอนนี้มันก็ไม่น่าจะมีคนที่คอยจัดการกับนิคฟิวรี่แล้ว
“ดูเหมือนว่ามันจะเริ่มน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วสิ ทั้งที่ตอนแรกฉันคิดว่าภารกิจนี้มันจะง่าย ๆ ซะอีก แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้มันจะไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดแล้ว” ซู่เจินพิมพ์ขึ้นมากับตัวเองเบา ๆ หลักจากนั้นเขาก็มาร์คตําแหน่งของนิคฟิวรี่อย่างรวดเร็ว
สมแล้วกับการที่นิคฟิวรี่ได้รับตําแหน่งผู้อํานวยการของหน่วย SHIELD เพราะว่าหลังจากที่เขาแยกตัวออกมาจากซู่เจิน เขาก็สามารถหลบหนีออกมาได้อย่างง่ายดาย โดยหลังจากที่เขาขับรถหนีมาได้สักพักเขาก็จอดรถทิ้งเอาไว้ และรีบวิ่งหนีไปยังบ้านของกัปตันอเมริกาที่อยู่บริเวณใกล้เคียงในทันที
ไม่มีทาง
ไม่มีทางที่กัปตันอเมริกาจะทรยศเขาหรือทําร้ายเขาอย่างแน่นอน เพราะว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่กัปตันอเมริกาจะกลายเป็นคนของไฮดราไปได้!
ซึ่งซู่เจินก็ยังไม่ได้ไล่ตามคัสลิสโตไปในตอนนี้ เพราะว่าสิ่งที่สําคัญเป็นอันดับแรกของเขาในตอนนี้ก็คือการทําภารกิจให้เสร็จสิ้นซะก่อน เพราะถึงอย่างไรแล้วการตามหาตัวของคัสลิสโตหรือวินเทอร์โซลเจอร์มันก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายเป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นเขาจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมมากกว่านี้ซะก่อน ก่อนที่เขาจะหาไปแม็กนีโต ทันใดนั้นร่างของซู่เจินก็ปรากฏตัวขึ้นที่ชั้นล่างของอพาร์ตเมนต์ของกัปตันอเมริกา
ซึ่งเขาก็อยากรู้เป็นอย่างมากว่าในตอนนี้ใครกันแน่ที่จะเป็นคนที่เข้ามาฆ่านิคฟิวรี่ เพราะถ้าอิงตามจากเนื้อเรื่องของวินเทอร์โซลเจอร์แล้ว นี่จะเป็นครั้งแรกที่วินเทอร์โซลเจอร์จะได้พบกับกัปตันอเมริกา และในขณะที่กัปตันอเมริกากําลังจะพยายามไล่ตามวินเทอร์โซลเจอร์ เขาก็ได้โยนโล่ออกไปเพื่อสกัดกั้นวินเทอร์โซลเจอร์เอาไว้ และในขณะนั้นเองวินเทอร์โซลเจอร์ก็หันหลังกลับมารับโล่ของกัปตันอเมริกาเอาไว้พร้อมกับถือเอาไว้ในมือ ซึ่งภาพนั้นมันก็ให้ความรู้สึกที่มีความหมายเป็นอย่างมาก มันเปรียบเสมือนกับว่าวินเทอร์โซลเจอร์ก็คือคนที่จะขึ้นมาแทนที่กัปตันอเมริกาในอนาคต
แต่ในตอนนี้มันจะไม่มีเหตุการณ์ที่วินเทอร์โซลเจอร์จะได้เจอกับกัปตันอเมริกาอีกต่อไป ดังนั้นแล้วมันจึงทําให้ซู่เจินรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมากว่าใครกันแน่ที่จะถูกส่งตัวมา ?
“เอ่อ… คุณมีปัญหาอะไรให้ฉันช่วยหรือเปล่า ?”
ทันใดนั้นซู่เจินก็ได้ยินเสียงพูดขึ้นมาจากด้านหลังของเขา ทําให้ซู่เจินที่ได้ยินเช่นนั้นก็เลิกคิดเรื่อยเปื่อย พร้อมกับหันหลังกลับมา ทําให้เขาเห็นว่าคนที่อยู่ด้านหลังของเขาเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่กําลังสวมใส่เสื้อยืดสีขาว โดยมือของเธอกําลังถือตะกร้าเสื้อผ้าเอาไว้อยู่ และเมื่อเธอเห็นซู่เจินหันกลับมามองที่เธอ เธอก็พูดขึ้นมาว่า “ฉันไม่เคยเห็นคนที่มีลักษณะแบบคุณมาก่อนเลย คุณมาจากประเทศไหนอย่างงั้นหรอ ? และที่คุณมาที่นี่ก็เพื่อมาตามหาใครบางคนใช่ไหม ?”
“ผมเป็นคนจีน” ซู่เจินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“คนจีนอย่างงั้นหรอ ? หนีห่าว สวัสดี” เธอพูดทักทายซู่เจินขึ้นมาเป็นภาษาจีน
“คุณพูดภาษาจีนได้ด้วย ?” ซู่เจินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เธอยิ้มขึ้นมาอย่างเขินอายเล็กน้อยและพูดว่า “ฉันพูดได้นิดหน่อย เพราะว่าฉันเพิ่งจะเรียนรู้มันไปได้ไม่กี่คําเอง ฉันชื่อชารอน คาร์เตอร์ และฉันก็อาศัยอยู่ที่นี่ คุณมีอะไรให้ฉันช่วยไหม ?”
“ผมชื่อซู่เจิน เอ่อ… มันจะเป็นอะไรไหมถ้าเกิดว่าผมขอเข้าไปนั่งเล่นในห้องของคุณก่อนสักพักหนึ่ง เพราะว่าตอนนี้สตีฟเพื่อนของผมที่พักอาศัยอยู่ที่นี่ยังไม่กลับมาเลย” ซู่เจินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มพร้อมกับทําท่าทางลําบากใจเล็กน้อย
ชารอนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะพูดขึ้นมาว่า “คุณเป็นเพื่อนของสตีฟอย่างงั้นหรอ ? ได้สิ”
“ขอบคุณมาก”
ซู่เจินยิ้มขึ้นมาพร้อมกับเดินตามชารอนขึ้นไปด้านบน
ในขณะที่ซู่เจินกําลังเดินตามหลังชารอนขึ้นไปบนห้อง มุมปากของซู่เจินก็ขดขึ้นมาเล็กน้อย ชารอน คาร์เตอร์ หลานสาวของเพ็กกี้ คาร์เตอร์ ชารอนคือสายลับหมายเลข 13 ของหน่วย SHIELD หรือที่เรียกกันว่าตัวแทน 13 เธอได้รับคําสั่งมาว่าให้เฝ้าติดตามกัปตันอเมริกาตั้งแต่ที่กัปตันอเมริกาเพิ่งตื่นจากน้ําแข็ง ซึ่งเธอก็ถือว่าเป็น ตัวแทนชั้นยอดที่เชี่ยวชาญในทักษะการต่อสู้และการสื่อสาร เพราะว่าเธอสามารถพูดได้หลายภาษามาก
และสิ่งที่สําคัญที่สุดก็คือในหนังสือการ์ตูนคอมมิค เธอถูกสะกดจิตให้ไปฆ่ากัปตันอเมริกา ถึงแม้ว่าในตอนนั่นกัปตันอเมริกาจะไม่ตายก็ตาม ซึ่งในภายหลังเธอก็ถือว่ามีบทบาทสําคัญมากจริง ๆ
ซึ่งเมื่อซู่เงินได้เจอกับชารอนมันก็ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับการชําระล้างจิตใจให้กลับมาบริสุทธิ์อีกครั้ง หลังจากที่เขาได้ลงมือฆ่าอาร์คไลท์ไปก่อนหน้านี้
“บางทีนาตาชาอาจจะพูดถูก อาการชอบเก็บสะสมผู้หญิงสวย ๆ ของเรานี้มันร้ายแรงมากจริง ๆ … ” เมื่อรู้ถึงตัวตนของเธอ ซู่เจินก็อดคิดเรื่องอะไรบางอย่างขึ้นมาไม่ได้
“ทําไมเขาเอาแต่จ้องมาที่ฉัน ? เขารู้อย่างงั้นหรอว่าฉันเป็นใคร ?”
เมื่อชารอนเดินมาถึงห้องของเธอ เธอก็หยิบกุญแจออกมาพร้อมกับไขเปิดประตูห้องของเธอเข้าไป และเริ่มระวังตัวของเธอมากขึ้น เพราะว่าตอนนี้เธอสัมผัสได้ถึงสายตาที่ร้อนแรงกําลังจ้องมองมาที่เธอจากทางด้านหลัง
หลังจากนั้นเธอก็หันไปพูดกับซู่เจินว่า “เข้ามาก่อนสิ บ้านของฉันอาจจะรกไปหน่อยนะ เพราะว่าฉันไม่ค่อยจะมีเวลาดูแลมันสักเท่าไหร่ เพราะส่วนมากฉันจะอยู่แต่ที่ทํางานอย่างเดียว”
“ไม่เป็นไร เพราะว่ามันควรจะเป็นผมด้วยซ้ําที่จะต้องเกรงใจคุณที่คุณยอมให้ผมมานั่งเล่นอยู่ที่ห้องของคุณก่อนเป็นการชั่วคราว” ซู่เจินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
ห้องของเธอมันดูเรียบง่ายเป็นอย่างมาก และมันก็ไม่ได้รกอย่างที่เธอบอกเลยด้วย
“คุณจะนั่งพักตรงไหนก่อนก็ได้ เดี๋ยวฉันขอตัวเอาของไปเก็บก่อน” หลังจากชารอนพูดจบเธอก็เดินเอาของ เข้าไปเก็บในห้องนอนของเธอในทันที
ในขณะเดียวกันซู่เจินก็ค่อย ๆ นั่งลงบนโซฟา พร้อมกับเปิดใช้งานความสามารถสุดยอดการได้ยินขึ้นมา อย่างเงียบ ๆ ทําให้หลังจากนั้นไม่นาน … เขาก็ได้ยินเสียงการหายใจและการเต้นของหัวใจมาจากห้องข้าง ๆ ซึ่งมันก็คือห้องของสตีฟ
และเสียงที่เขาได้ยินมันก็น่าจะเป็นของ นิค ฟิวรี่
ซึ่งมันก็ถือว่านิคฟิวรี่สามารถเลือกได้ดีมากที่เขามาหาสตีฟ เพราะว่าตอนนี้มันมีคนอยู่จํานวนไม่มากที่สามารถไว้ใจได้ และซู่เจินก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะไปหานิคฟิวรี่ในตอนนี้ ซึ่งเขาก็ไม่ค่อยอยากไปหานิคฟิวรี่สักเท่าไหร่ ถ้าเกิดว่ามันไม่ได้มีเหตุการณ์ที่จําเป็นจริง ๆ
เพราะการที่เขาเข้าไปหานิคฟิวรี่ เขาจะต้องถามกับซู่เจินอย่างแน่นอนว่ามันเกิดอะไรขึ้น ซึ่งซู่เจินก็ไม่อยากที่จะอธิบายให้กับเขาฟัง ดังนั้นแล้วการที่เขาอยู่กับชารอนที่นี่มันจึงให้ความรู้สึกที่ดีกว่ามาก ถึงแม้ว่ามันจะมีคนที่มาตามฆ่าเขาก็ตาม
“เดี๋ยวฉันไปเทน้ําให้คุณดื่ม คุณรอแปปหนึ่ง” หลังจากชารอนพูดจบ เธอก็เทน้ําใส่แก้วพร้อมกับยื่นมันให้ซู่เจินและนั่งลงข้าง ๆ เขา
ซู่เจินยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยพร้อมกับพูดขอบคุณขึ้นมา หลังจากนั้นเขาก็หันไปถามกับชารอนอย่างเป็นกันเองว่า “ตอนนี้คุณทํางานอะไรอยู่ ? ปกติคุณยุ่งอยู่ตลอดเวลาเลยอย่างงั้นหรอ ?”
“ฉันเป็นพยาบาล”
นางฟ้าในชุดขาวอย่างงั้นหรอ” ซู่เจินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม หลังจากนั้นเขาก็ถามขึ้นมาต่อว่า “คุณเป็นคนที่สวยมาก มีคนมาตามจีบคุณเยอะไหม ?”
“ปกติแล้วฉันจะยุ่งอยู่กับงานตลอดเวลา ทําให้ฉันไม่ค่อยจะมีเวลาว่างสักเท่าไหร่ และฉันก็ไม่เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มาก่อน เพราะว่าสําหรับฉันแล้ว งานเป็นสิ่งที่สําคัญที่สุด” ชารอนส่ายหัวขึ้นมาเล็กน้อยพร้อมกับอธิบายขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“แน่นอนว่างานมันเป็นสิ่งที่สําคัญ แต่ถึงอย่างนั้นชีวิตและความสุขของคุณก็เป็นสิ่งที่สําคัญไม่แพ้กัน แล้วนับประสาอะไรกับอาชีพ พยาบาล สายลับ ฮีโร่ ฯลฯ ก็เคยผ่านประสบการณ์การมีความรักกันมาทั้งนั้น” ซู่เจิน ยิ้มขึ้นมาและพูดต่อว่า “แล้วคุณคิดว่าตัวผมในตอนนี้ดูเป็นยังไง เหมาะจะเป็นคนรักของคุณหรือเปล่า?
“คนรัก ? คุณอย่าล้อฉันเล่นแบบนี้สิ มันจะกะทันหันเกินไปไหมที่คุณจะพูดขึ้นมาแบบนี้กับฉัน” ชารอนรู้สึกตกใจกับคําพูดของซูเจินเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มที่เขินอายเล็กน้อย
“กะทันหัน ?”
“ใช่ พวกเราเพิ่งจะรู้จักกันเอง ดังนั้นแล้วฉันจึงคิดว่าพวกเราน่าจะทําความรู้จักกันก่อนดีกว่า”
ซู่เจินยิ้มขึ้นมาพร้อมกับส่ายหัวเล็กน้อย และค่อย ๆ มองไปที่ชารอนด้วยสายตาจริงจังและพูดว่า “แน่นอนว่านี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่พวกเราได้พบกัน แต่ถึงอย่างนั้นผมก็คิดว่าคุณน่าจะเคยได้ยินเรื่องของผมมาบ้างไม่มากก็น้อย เอ่อ … คุณไม่รู้อะไรเกี่ยวกับผมเลยอย่างงั้นหรอ ?”
ชารอนถึงกับตกตะลึงในทันที
ชารอนมองไปที่ซู่เจินด้วยความมึนงง เพราะเธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคําพูดของเขามันหมายถึงอะไร ?