บทที่93 พูดอะไรแบบนี้
มู่เทียนซิงมีความรู้สึกเหมือนกำลังฟ้าแลบฟ้าร้องเลย
เธอมองดูจุดที่เธอกำลังชี้ จึงเห็นว่าบนหน้าอกเธอมีรอยจ้ำแดงเสมือนดอกเหมยที่กำลังปริบาน เพราะหลังจากอาบน้ำทำให้รอยแดงดูเข้มขึ้น!
นี่เป็นรอยที่คุณอาทิ้งไว้ให้เธอ
มันเกี่ยวอะไรกับเมิ่งเสี่ยวหลง?
มู่เทียนซิงไม่รู้จะอธิบายยังไง และเธอก็ไม่อยากอธิบายด้วย
เพราะนี่เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างเธอกับคุณอา
ก้าวออกมาจากน้ำ ร่างกายเธอส่งกลิ่นหอมฟุ้งกระจาย ผิวของเธอที่เพิ่งใช้น้ำมันหอมระเหยแช่เสร็จก็แลดูขาวเนียนเรียบ งดงามจริงๆ!
“เทียนซิง เธอเก็บใจมาเถอะ เพียงแต่มาเป็นพี่สะใภ้ฉันดีๆ คนทั้งครอบครัวฉันก็จะดีกับเธอสุดๆเลย จริงๆนะ!”
เมื่อเสี่ยวหวีพยายามเกลี้ยกล่อมเธออีกครั้ง แต่มู่เทียนซิงเธอก็ไม่เข้าหูอยู่ดี
อนาคตเธอจะเลือกใช้ชีวิตยังไง เกี่ยวอะไรกับคนตระกูลมู่ล่ะ?
เธอพันผ้าขนหนูและเดินเข้าห้อง เธอเช็ดตัวอย่างไม่เขินอายไม่ปกปิด และสวมเสื้อผ้า เพราะเธอกับเมิ่งเสี่ยวหวีเป็นเพื่อนที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ไม่มีใครไม่เคยเห็นใครอยู่
พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ก็เริ่มเช็ดผม
เมื่อเสี่ยวหวีช่วยเธอเสียบสายชาร์จไดร์เป่าผม และส่งให้เธออย่างอ่อนโยนพร้อมพูดกับเธอว่า:”เทียนซิง พี่ชายฉันคงคิดถึงเธอแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว ฉันสาบานได้ว่า เธอคือผู้หญิงคนแรกที่พี่ชายฉันแตะเนื้อต้องตัวอ่ะ เทียนซิง หยุดเพ้อเจ้อได้แล้ว นายพิการคนนั้นเขามีดีอะไรกัน เธออยู่กับเขา ขนาดลูกยังมีไม่ได้เลย!”
พอเทียนซิงรับไดร์เป่าผมมา ไม่พูดอะไร ก็เป่าผมอย่างเดียว
เส้นผมพอแห้งได้ประมาณครึ่งนึง เธอจึงปิดไดร์เป่าผมและมองหน้าเมิ่งเสี่ยวหวี :”ที่เธอมาหาฉันมีธุระอะไรหรือเปล่า!”
เธออยากบอกว่า ถ้ามาหาเพราะเรื่องนี้ งั้นก็ออกไปได้เลย
เมิ่งเสี่ยวหวีเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า:”คุณพ่อกับน้าซินนั่งรอเธออยู่ข้างล่าง รอเธอไปชิมรสชาติของไวน์ข้าวกับขนมบัวลอย”
มู่เทียนซิงเข้าใจเลย
เธอลูบผม และปล่อยผมทับอก หันหลังเดินออกอาจห้อง
เมิ่งเสี่ยวหวียืนอยู่ที่เดิม และเอ่ยนินทาเธอ ดูร่างกายเธอช่างดีสมบูรณ์แบบมาก ร่างที่เซ็กซี่ยิ่งกว่านางปีศาจ ใบหน้าเล็กที่สวยราวกับนางฟ้า ถึงว่าพี่ชายฉันถึงไม่ยอมปล่อยเธอหลุดให้มือไป!
เมิ่งเสี่ยวหวีต้องใช้ชีวิตภายใต้เงาของมู่เทียนซิง ที่ไหนมีหมู่เทียนซิง ไม่ว่าเรื่องการเรียน ความสามารถ หรือรูปลักษณ์ก็ตามแต่ เธอก็เป็นได้แค่ที่สองรองจากเธอ แม้แต่ในใจของพี่ชายตนเองก็เช่นกัน เธอเป็นได้แค่ที่สอง
แต่เธอคิดว่า ถึงแม้หมู่เทียนซิงจะดียังไง ก็เป็นหญิงสาวที่พี่ชายเธอแอบชอบ และอยากให้เป็นสะใภ้ของตระกูลมู่ พอเธอคิดแบบนี้เธอก็สบายใจขึ้นเยอะเลย
จริงๆแล้วเมิ่งเสี่ยวหวีก็ไม่รู้หรอกว่าพี่ชายเธอชอบมู่เทียนซิง
เธอรู้ หลังจากพี่ชายบอกรักมู่เทียนซิง เหตุผลนี้เอง ทำเธอภาคภูมิใจเอามากๆ เพราะรู้สึกว่าพี่ชายเธอดูแลปกป้องมู่เทียนซิงได้ดีสุดๆ เขาเห็นค่าในตัวเธอมากๆ
พอมู่เทียนซิงถึงหน้าประตู ก็หยุดเดินและหันกลับมา จ้องหน้าเธอพร้อมถามว่า:”เธอยังยืนอยู่ห้องฉันทำไมอีก?”
เมิ่งเสี่ยวหวีหัวเราะ มองเธอ และพูดทำคะแนนให้พี่ชายเธอ:”เทียนซิง ถึงแม้พี่ชายฉันจะเห็นร่างกายเปลือยเปล่าของเธอหมดแล้ว เขารักเธอขนาดนี้ เขาคงไม่ทำขั้นตอนสุดท้ายหรอกกับเธอหรอก! เขาอยากรักษาดูแลเธอจริงๆนะ เมื่อเขารู้ว่าเธอชอบไอ้พิ… อแห้มๆ! ซือซ่าว และถูกเธอทำร้ายจิตใจเขามาก เขาถึงอารมณ์ร้อนเลยเป็นแบบนี้ เธอให้อภัยเขาเถอะนะ!”
มู่เทียนซิงมองตาเธอ กล่าวอย่างผิดหวังว่า:”เสี่ยวหวี มันอาจจะเป็นอย่างที่เธอพูด เขาจะถอดฉันจนหมดเปลือกเขาก็คงไม่กล้าข้ามเขตสุดท้าย แต่เธอเคยคิดมั้ยว่า ทำไมฉันต้องให้เขาถอดจนหมดเปลือยเปล่า? และด้วยเหตุผลอะไรที่ฉันต้องให้เขาดูร่างกายของฉันจนหมดเปลือก?”
เมิ่งเสี่ยวหวี่:”…..”
มู่เทียนซิงกล่าวอีก:”เพราะเขาเป็นพี่ชายเธอไง ถึงเขาจะทำกับฉันแบบนี้ แต่เธอก็ยังรู้สึกว่ามันไม่มีอะไร แต่ฉันเป็นผู้หญิงนะ จะให้ผู้ชายมาถอดหมดเปลือก มามองหมดเปลือก มาจับต้องลูบคลำแบบนั้นมันก็ไม่เหมาะสม ใช่มั้ยล่ะ?”
เมิ่งเสี่ยวหวี:”…..”
“เธอก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน หรือว่า ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเธอ เธอก็จะคิดเพียงว่า ผู้ชายคนไหนที่ชอบเธอ เขาก็มีสิทธิ์มาถอดมาดูร่างกายเธอจนหมดเปลือกและให้เขาทำเรื่องแบบนี้กับเธองั้นเหรอ?”
เมิ่งเสี่ยวหวีตะลึง และพูดขึ้นว่า:” เธอ! เธอพูดอะไรแบบนี้ได้ไง?”
มู่เทียนซิงตอบกลับอย่างไม่เกรงใจ:”แล้วเธอล่ะ พูดอะไรแบบนี้ได้ไง?”
“เทียนซิง~! เทียนซิง~! เสี่ยวหวี?”
เสียงเรียกของเจี่ยงซินดังมาจากชั้นล่าง พวกเขารอนานไม่ไหวแล้ว
เมิ่งเสี่ยวหวีโกรธจนหน้าแดงพูดอะไรไม่ถูก และขาก็เดินก้าวใหญ่ๆเดินตัดหน้ามู่เทียนซิงไป มู่เทียนซิงหายใจเข้าลึกๆ เพราะตอนนี้เธอก็ของขึ้นเหมือนกัน หลังจากปิดประตูเสร็จแล้ว ถึงเดินตามหลังเมิ่งเสี่ยวหวีไปข้างล่าง!
ฝีมือรสชาติเหล้าตุ๋นยฺเหวียนเซียวของคุณหญิงหนี กลิ่นหอมแบบนั้น มู่เทียนซิงจำได้ไม่เคยลืมเลย
ไวน์ข้าวมากมายที่วางตรงหน้า พอเธอได้ชิมก็ขมวดคิ้ว:”เหมือนขาดอะไรบางอย่าง กลิ่นยังหอมไม่พอ”
เจี่ยงซินกลับมองหน้าลูกสาวเธออย่างประหลาดใจ:”แต่แม่คิดว่าลูกหอมมากๆเลย”
มู่เทียนซิงคิดในใจว่า เธออาบน้ำแช่ตัวด้วยกรีบดอกไม้และน้ำมันหอมระเหยตั้งชั่วโมงกว่า จะไม่หอมได้ไงเล่า?
เธอหลงสายตาของเจี่ยงซิง ตั้งใจคิดอะไรบางอย่าง และกล่าวอีกว่า:”ไวน์ข้าวของคุณหญิงหนีเธอเป็นคนลงมือทำด้วยตนเอง ไม่ได้ไปซื้อมา อาจเป็นเพราะเธอมีสูตรลับโดยเฉพาะ ทำให้ไวน์ข้าวหอมเป็นพิเศษก็เป็นได้ เพียงแต่เราไม่รู้เท่านั้นเอง”
มู่อี้เจ๋อมีเสียงถอนหายใจเบาๆกล่าวว่า:”ต้มๆไปเถอะน่ะ ดูเองว่าอันไหนคู่กับอันไหนแล้วรสชาติดีกว่า ก็สั่งให้คนครัวไปทำ”
มู่เทียนซิงพยักหน้าตอบรับ และตั้งใจชิม
เจี่ยงซิงเหมือนคิดอะไรบางอย่างจึงจูงมู่อี้เจ๋อไปมุมๆห้อง และกระซิบเบาๆว่า:”คุณว่า วันนี้ลูกสาวเราดูแปลกไปมั้ย? ฤดูร้อนแบบนี้ก็ยังจะแช่ตัวจนตัวหอมฟุ้ง ไม่กลัวเป็นไข้หรือไง หรือว่าลูกเราจะชอบคุณชายหนีในตำนานเข้าแล้ว?”
มู่เจ๋ออี้เหล่ตา ใจเขารู้ดีว่า ที่ลูกสาวเป็นแบบนี้ไม่ใช่เพราะคุณชายหนี แต่เพราะซือซ่าวต่างหากเล่า!
เจี่ยงซินกล่าวอีกว่า:”ได้ยินมาว่าคุณชายหนีเป็นถึงหนุ่มชายหล่อสุดของเมืองHเชียวนะ
พอล่ะๆ เรื่องแบบนี้อย่าพูดมั่ว ระวังจะหาเรื่องใส่ตัว เรื่องตอนนี้นี้ยังวุ่นวายไม่พออีกหรือ?”
มู่อี้เจ๋อต่อว่าภรรยาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เขาใช้มือนวดบริเวณสมองเขา และบอกกับเมิ่งอี้หลั่งว่า:”เหล่าเมิ่ง ไป เราไปห้องสมุดกันเถอะ”
มู่อี้เจ๋อกับเมิ่งอี้หลั่งขึ้นไปชั้นบน เหลือเพียงเจี่ยงซินแม่ลูกกับเมิ่งเสี่ยวหวีนั่งอยู่บนโซฟา
แต่เรื่องที่เจี่ยงซิงพูดกับมู่อี้เจ๋อเมื่อกี้นี้ และเมิ่งเสี่ยวหวีก็ดันแอบไปได้ยินเข้าพอดี
ที่แท้คุณชายหนีก็จะมาด้วย?
ประชาชนชาวประเทศหนิงทั้งคน ใครจะไม่เคยไม่ยินคุณชายหนีในตำนานเล่า?
เมิ่งเสี่ยวหวีใจตื่นเต้นมาก เธอมองมู่เทียนซิง และรู้ดีว่าใจมู่เทียนซิงมีแต่ซือซ่าว เธอจึงลุกขึ้นทำเป็นหาว:“ง่วงจังเลย ไปพักผ่อนข้างบนก่อนดีกว่า เดี๋ยวถึงเวลาทานอาหารเย็นค่อยลงมาอีกที!”
เจี่ยงซินมองเธอ และสงสารเธอ:”ไปพักก่อนเถอะ! เรื่องพี่ชายเธอไม่ต้องคิดมากนะ ปล่อยให้มันเป็นไปตามกรรม อย่ากังวลไปเลย”
เมิ่งเสี่ยวหวีพยักหน้าตอบ เดินขึ้นชั้นบนพร้อมกับกวาดสายตามองไปที่มู่เทียนซิง
มู่เทียนซิงใส่เดรสคอบัวน่ารักๆสีฟ้าอ่อน ราวฟ้าท้องฟ้าหลังฝนที่ดูสบายตา
เธอกำลังคิด เดี๋ยวจะใส่ชุดสีอะไรดี ถึงจะทำให้คุณชายหนีมองข้ามมู่เทียนซิง หันมาเห็นปุ๊บจะได้เลือกมองเธอเป็นคนแรก