มันเป็นห้าวันตั้งแต่ลิตตี้เริ่มฝึกสู้กับอิลิซิส หลายครั้งที่อาวุธลิตตี้บินไป

ไม่สำคัญว่าลิตตี้ลองทำอะไร อิลิซิสดีกว่าเธอเสมอ เหล่าอัศวินก็วิเคราะห์การต่อสู้ของพวกเธอด้วย

ทางร่างกายลิตตี้นั้นเหนือกว่า แต่เธอยังเทียบไม่ได้เลยกับอิลิซิส

“ลิตตี้ เธอทำได้ดี ในที่สุดเธอก็ทนได้ห้าวินาทีในการฝึกสู้”

“แต่อิลิซิสซังไม่ได้ใช้ทักษะเลยด้วยซ้ำ นั่นหมายความว่าพี่ไม่ได้จริงจังเลยสักนิด”

“ถ้าพี่ใช้ทักษะ เธอจะถูกฆ่า ตอนนี้เธอควรรู้ดีกว่าแล้วนี่”

อิลิซิสเก็บดาบโดยไม่มีเหงื่อไหล มันเป็นสัญญาณว่าเธอไม่อยากจะทำต่อไปแล้ว

มันไม่ใช่เธอยอมแพ้กับลิตตี้แล้ว มันตรงกันข้าม

“ความสามารถของร่างกายเธอทำให้ฉันทึ่ง แม้ว่ามันแค่ไม่กี่วินาที เธอทำนี่ได้”

“เส้นผม…

อิลิซิสหยิบกองผมเธอที่ตกลงไปบนพื้นด้วยสองนิ้วแล้วเอาให้ลิตตี้ดู ระหว่างเหล่าอัศวินหายใจเฮือกตกใจเมื่อได้รู้เรื่องนี้

ไม่มีใครในหน่วยเฟนริสีเงินผู้สามารถฝึกสู้กับอิลิซิสไหวไม่ต้องพูดถึงการโดนตัวเธอ

และแม้ว่าลิตตี้สู้ได้แค่ห้าวินาที เธอสามารถนำดาบไปโดนอิลิซิสได้

“แม้ว่ามันเป็นแค่เส้นผมของฉัน ฉันไม่ได้มีแผนให้เธอเฉี่ยวฉันเลยลิตตี้ ฉันไม่รู้ว่าเธอรู้สึกยังไง แต่ฉันนั่นแหละเป็นคนที่ควรหดหู่กับนี่”

“แต่หนูยังคิดว่ามีบางอย่างที่หนูขาดไป อิลิซิสซัง… พี่รู้มั้ย การอ่านการเคลื่อนไหวพี่ หืมมม…”

“นี่เป็นเพียงแคผลลัพธ์ของความต่างระหว่างประสบการณ์ของเรา”

ประสบการณ์ที่ต่างกันหาในเวลาสั้นๆไม่ได้ ดังนั้นลิตตตี้ทำได้แค่ทำดีที่สุดเท่านั้น

เหล่าอัศวินก็อารมณ์เสียโดยหน้าตามีปัญหาของลิตตี้ 

พอคือพอ พวกเขาคิดไม่มีใครหมู่พวกเขาพยายามเอาชนะอิลิซิสเลยสักคน

“เราสู้อีกครั้งได้มั้ย ได้โปรดเถอะ!”

“นั่นพอแล้ว เธอผ่านแล้ว เธอพิสูจน์ตัวเองมากกว่าพอแล้วว่าผ่านการทดสอบและได้ชื่ออาชีพอัศวิน”

“แต่อย่างน้อยหนูอยากลองอีกครั้ง!”

“สู้กับฉันอย่างเดียวเท่านั้นมันไม่จำเป็น เธอต้องสู้คู่ต่อสู้หลายๆคนและลับสัญชาตญาณให้คม ถ้าเธอทำนั่นได้…”

อิลิซิสหยุดตอนท้ายเพราะเธอคิดไม่ได้เลยว่าลิตตี้จะแข็งแกร่งแค่ไหนเมื่อปลดศักยภาพเต็มที่

แม้ว่าเทียบกับเมื่ออัลดิสเพิ่งเริ่ม อิลิซิสเชื่อว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทนแม้แต่ห้าวินาทีในการฝึกต่อสู้กับลิตตี้หลังเธอฝึกมา 5 วัน

ร่างกายเก่งเหมือนสัตว์ประหลาดไม่เคยทิ้งร่องรอยพวกเขาไว้บนประวัติศาสตร์ พลังพวกเขาเหนือกว่ามากจนทุกคนทิ้งร่องรอยของพวกเขาไว้ในความมืดมิด

อิลิซิสรู้เหตุผลว่าทำไมเป็นอย่างนี้ด้วยตัวเอง

เธอเข้าใจสัญชาตญาณที่อยากขังบางอย่างที่เหนือความเข้าใจของมนุษย์ปรกติ

ผู้หญิงหน้าเธอเพียงแค่เหนือความเข้าใจ ไม่ว่ากี่ครั้งที่เธอยามอ่านว่าลิตตี้ทำอะไรได้ เธอรู้สึกว่าเธอจ้องความลึกไร้ที่สิ้นสุด

“อิลิซิสซัง?”

“โอ้ อืม ใช่แล้ว ไม่ว่ายังไง ไปสมาคมอัศวินเถอะตอนนี้ ฉันจะแจ้งพวกเขาว่าเธอได้รับชื่ออาชีพอัศวินแล้ว”

“อัศวิน! ชื่ออาชีพระดับสูงใหม่!”

“เมียน”

ลืมเกี่ยวกับสิ่งที่เธอขอก่อนหน้าแล้ว ตอนนี้ลิตตี้มีความสุข กระโดดสูงอย่างไม่น่าเชื่อ อัศวินอดใจไม่มองขึ้นไปหาเธอไม่ได้

ความคิดที่จะเป็นศัตตรูกับเธอทำให้พวกเขาสะดุ้ง แม้คนอื่นๆยังรู้สึกหงุดหงิดอย่างไม่ถูกต้องกับอิลิซิสที่พาสัตว์ประหลาดเช่นนี้มาหาพวกเขา

พวกเขาจะไม่มีวันพูดออกไปดังๆเพราะพวกเขาเป็นอัศวิน แต่สำหรับช่วงเวลานั้น พวกเขาเข้าใจว่าพวกเขาเป็นแค่มนุษย์มากเพียงไร

***

การผ่านขั้นต่อนต่างๆที่สมาคมเป็นไปอย่างราบรื่น ลิตตี้คิดว่าเธอยังไม่สมควรได้รับชื่ออาชีพ พยายามเรียกร้องขอสอบสุดท้ายกับผู้จัดการสาขา แต่ผู้จัดการสาขาเพียงแค่ปฏิเสธที่เธอขอ

ความจริงว่าอิลิซิสที่เป็นอัศวินผู้ทรงพลังที่สุดในประเทศอยู่ข้างเธอแล้วได้รับการเห็นชอบจากเธอนั้นพิสูจน์ค่าของเธอมากกว่าพอแล้ว

ถ้าใครมาบอกว่าทำอย่างนี้มันผิด ผู้จัดการสาขาจะให้คนนั้นลองไปฝึกแบบหน่วยเฟนริสีเงินตอนนี้

จากวิธีที่อิลิซิสจัดฝึกต่อสู้ที่สาขาก่อนหน้า ไม่มีใครยินดีรับโอกาส

คนๆหนึ่งจะมีโอกาสผ่านการสอบสุดท้ายปรกติมากกว่าฝึกกับหน่วยเฟนริสีเงิน ผู้ไม่ทนเหมือนนักผจญภัยธรรมดาพวกเขาเหนือกว่ามาก

พูดอีกอย่าง ลิตตี้เข้าสอบการสอบที่โหดหินกว่ามากเพื่อได้ชื่ออาชีพเธอเมื่อเทียบกับคนอื่น อย่างไรก็ตาม มันเสียเวลาหรือไม่นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

“…อิลิซิสซัง… อ๊ะ ไม่ต้องแล้ว ฉันไม่ควรตั้งคำถามกับการตัดสินใจของคุณ”

“ฉันขอโทษที่เห็นแก่ตัว แต่เราเทียบเธอกับอัศวินปรกติไม่ได้ ฉันสอนเธออย่างน้อยสุด แต่เธอไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด”

“คุณพูดถึงในฐานะอัศวินเหรอ? ถ้าอย่างนั้นเธอยังขาดบางอย่างเหรอ?”

สับสนโดยคำพูดของอิลิซิส ผู้จัดการสาขาดูรายการอาชีพบนบัตรนักผจญภัยของลิตตี้ มีความเชื่อทั่วไปว่ามันต้องใช้เป็นปีเพื่อเชี่ยวชาญหนึ่งอาชีพ แต่นั่นกลับกันเลยเมื่อเขาเห็นรายการบนบัตรลิตตี้

เหมือนโรม่ายังต้องการเป็นปีที่จะถูกเห็นชอบและได้รับการสอบสุดท้ายเพื่อรับชื่ออาชีพนักสู้ ซึ่งเป็นอาชีพระดับต่ำเมื่อเทียบกับอัศวิน

ผู้จัดการสาขาเทียบรูปลักษณ์ลิตตี้กับจำนวนชื่ออาชีพที่เธอได้

“ฉันไม่รู้ว่าฉันจะเจอบางคนเหมือนเธออีกครั้งมั้ยแม้ว่าฉันอายุยืน ฉันเทียบเธอกับนักผจญภัยชั้นหนึ่งที่ฉันรู้จักยังไม่ได้เลย”

“เธอควรดีใจ ถ้าเราไม่มีรุ่นต่อไปที่โดดเด่น มันจะไม่มีการพัฒนา”

“ถูกต้อง ผลกระทบที่เด็กคนนี้จะพามาในอนาคตจะมหาศาลจริง ยังไงก็ตาม ฉันจินตนาการยังไม่ได้ด้วยซ้ำว่าความอิจฉาจะไล่คนอื่นๆไปเพราะความสำเร็จของเธอ”

“นั่นส่วนหนึ่งของบททดสอบที่เธอต้องผ่าน ถ้าเธอจะไปทางนี้ต่อ”

ผู้จัดการสาขาเข้าหาลิตตี้ ผู้ยืนตัวตรงนิ่งและตีไหล่เบาๆหลายครั้ง ไม่มีร่องรอยของอัศวินเข้มงวดในสีหน้าเขาอีกแล้ว และแขนของเขาเหมือนกิ่งไม้แห้งแก่ๆกรอบๆ

ลิตตี้คิดเกี่ยวกับมอนสเตอร์ทั้งหลายแหล่ที่แขนแก่ๆนี้ฆ่าเมื่อเขายังหนุ่ม

“ความอิจฉา, ความเกลียด…… คนมากมายจะจ้องเธอด้วยตาแบบนั้นบางครั้ง และแม้แต่ลากเธอลงไประดับเขา มันเป็นชะตาของผู้ที่เกิดมาด้วยพรสวรรค์ แต่อย่าเกลียดพวกเขา ถ้าเธอเป็นพวกเขา เธออาจทำเหมือนกันด้วย”

“ค่ะ! แต่หนูจะไม่ปล่อยให้พวกเขาลากหนูลงไป!”

“ฟุ่ฟุ่ ในกรณีของลิตตี้ เธอน่าจะวิ่งตรงไปหาพวกเขาและไม่รู้ถึงความประสงค์ร้ายด้วยซ้ำ”

อิลิซิสและผู้จัดการสาขาหัวเราะคิกคักกันทั้งคู่ ระหว่างลิตตี้ไม่เข้าใจมุขของพวกเขา อย่างไรก็ตาม มันทำให้เธอนึกถึงนีลผู้โจมตีเธอในเมืองโทปาสเล็กน้อย

สำหรับลิตตี้ เขาไม่ใช่อะไรที่เหนือไปว่าอุปสรรคที่กีดกั้นเธอ เป็นแค่บางคนที่พยายามลากเธอลงไป

หน้าลิตตี้เปลี่ยนเป็นน่ากลัวทันทีเมื่อเธอได้รู้ว่าผู้คนเหมือซูลที่โจมตีมามุก็จะเอื้อมมือมาลากเธอลงห้วงลึกไร้ที่สิิ้นสุดด้วย

“ฉันจะไม่เป็นไร”

จู่ๆก็รู้สึกแรงกดดันแพร่ออกมาจากลิตตี้ ผู้จัดการสาขาไม่กล้าพูดอะไรต่อกับลิตตี้

***

ลิตตี้สงสัยว่าโรม่าเป็นอย่างไรและไปสมาคมนักเต้น เพลงมีชีวิตชีวาและเสียงแปลกๆออกมาจากข้างในอาคาร

ทุกอย่างข้างในใหม่สำหรับลิตตี้ เธอเกือบอยากลองรับชื่ออาชีพนี้ด้วย แต่เธอระงับใว้ เพราะเธอไม่อยากทำให้การเดินทางไปทาฮาราจาลช้ากว่านี้แล้ว

“ฮ้าย! หนึ่ง! สอง! สาม!

โลกของการเต้นเกิดขึ้นข้างใน หลายคนและหลากหลายเพศกำลังทำการเคลื่อนไหวที่ลิตตี้ไม่เข้าใจ

ลิตตี้คิดไม่ออกเลยว่านี่จะใช้ประโยชน์ในการต่อสู้ได้อย่างไร

“โรม่าซามะ! ยอดเยี่ยม!”

อะไรที่ลิตตี้จับตามองที่สุดคือการเต้นที่สวยงามของโรม่า ลิตตี้หลงใหลกับการเต้นที่มีเสน่ห์อย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง

นักเต้นที่สมบูรณ์แบบเป็นภาพที่ทุกคนต้องมอง โรม่าตอนนี้ใกล้กับความสมบูรณ์แบบมากที่สุดเท่าที่เธอจะใกล้ได้ และความเร็วในการเรียนรู้ของเธอนั้นเกือบเท่าระดับของลิตตี้

“อื้ม! ได้เวลาพัก! โอ้เรามีอะไรล่ะเนี่ย คนดูน้อยเหรอ?”

ผู้ฝึกสอนสังเกตถึงลิตตี้และโรม่ายิ้มอย่างลังเลเล็กน้อย เธอค่อนข้างอายที่ลิตตี้มาเห็นเธอแบบนี้

โรม่ามีเป้าหมายเป็นนักสู้ตอนแรก เพราะการวาดภาพตัวเองว่าเธออยากไปถึงตรงไหน อย่างไรก็ตาม การวาดภาพตัวเองนั้นเปลี่ยนนิดหน่อยหลังจากอยู่ในโลกของการเต้น

หลังจากพัก ทุกคนผ่อนคลายเหมือนที่พวกเขาอยากทำ และโรม่าสบตาไม่ได้ระหว่างหันหน้าให้ลิตตี้

“โรม่าซัง เธอดูสวยอ่ะ”

“จะ, จริงเหรอ”

“ใช่ เธอสวย”

การชื่นชมเรียบง่ายของลิตตี้ทำให้โรม่ารู้สึกอาย จริงที่เธอจะแสดงการพัฒนาของเธอที่จุดหนึ่งของการเดินทาง อย่างไรก็ตามเธอยังอายที่จะแสดงผลงานเมื่อเธอไม่พร้อมทำ

เธอยังคงฝึกซ้อมอยู่ และเธอรู้สึกสบายใจไม่ได้ที่ต้องแสดงผลงานที่ยังไม่เสร็จ

“ฉันได้ชื่ออาชีพอัศวินแล้ว”

“ฉันว่าแล้ว ฉันคาดหวังให้เธอได้เร็ว… ฉันก็ได้สอบสุดท้าย ฉันตกใจความเร็วของการพัฒนาของฉัน…”

“นั่นเยี่ยมไปเลย! ว้าววว! มันทำให้ฉันก็อยากลองเป็นนักเต้นด้วย…”

“เราไม่มีเวลาเหลือมากและฉันกังวลเกี่ยวกับคูฟาจังกับผู้หญิงที่อยู่ข้างเธอด้วย… พูดถึงแล้วลิตตี้ เกิดอะไรอันตรายขึ้นกับเธอรึเปล่า?”

“อะไร? อันตรายไหน? เธอหมายถึงที่ฝึกสู้กับอิลิซิสซังน่ะเหรอ…?”

“เธออยู่กับอิลิซิสซังเหรอ?!”

โรม่าจับไหล่ลิตตี้เขย่า

“ใช่ฉันฝึกต่อสู้กับอิลิซิสซัง และเราอาบน้ำด้วยกันด้วยแหละ”

“อาบน้ำ!”

โรม่าเสียงแหลมสูงแต่การร้องไห้เสียอกเสียใจก้องทั่วทั้งสมาคม ภาพของโรม่าผู้นิ่งและทรุดลงไปคุกเข่าไม่ปรกติ

หลายคนกำลังดูสองคนวิ่งไปหาโรม่า คิดว่าเธอเป็นลม

“โรม่าซัง?!”

“เมียน!”

เมียนเดินบนตัวโรม่าในแบบที่เธอจำได้ มันเหมือนกันกับที่เธอทำในห้องน้ำ แต่ภาพที่เปลี่ยนเป็นความวุ่นวายอย่างสิ้นเชิง

อย่างที่คาด ลิตตี้เข้าใจอะไรที่เกิดขึ้นไม่ทัน และแค่กังวลเกี่ยวกับโรม่าอย่างจริงจังเพียงเท่านั้น

ชื่อ: ลิตตี้

เพศ: หญิง

อายุ: 15

ระดับ: 3

อาชีพหลัก: อัศวิน

อาชีพเชี่ยวชาญ: นักสู้

อาชีพหลัก: นักสู้, นักอัญเชิญ, นักธนู, นักสู้มือเปล่า, อัศวิน

แปลโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: ​http://linktr.ee/wayuwayu