บทที่ 91 นอนห้องเดียวกัน

คิงดราก้อน

เครื่องบินลงจอดที่ซานย่า เซียวหยางหิ้วกระเป๋าเดินทาง ส่วนเย่หยุนซูก็สวมหมวกกันแดดเดินอยู่ด้านหน้า

ท้องฟ้าที่ซานย่ามีสีครามสวยเหมือนสีของไพลิน ดูสดใสไร้ที่ติ

แต่มีจุดหนึ่งที่ทำให้เย่หยุนซูรู้สึกหมดคำพูด ก็คืออุณหภูมิสูงเกินไปนั่นเอง

ไม่นาน เย่หยุนซูก็รู้สึกอึดอัดจนทนใส่เสื้อคลุมต่อไปไม่ไหวแล้ว

เธอเห็นเซียวหยางเอาเสื้อเชิ้ตมาผูกไว้ที่เอว สวมเพียงเสื้อแขนสั้นบาง ๆ เท่านั้น เผยให้เห็นแขนสองข้างที่ดูแข็งแรงของเขา

ดังนั้นตัวเองจึงถอดเสื้อคลุมออก แล้วพาดไว้ที่ข้อพับ แต่ไม่นานเธอก็รู้สึกทะแม่ง ๆ เพราะที่หน้าอกมีตัวหนังสืออยู่นั่นเอง!

เซียวหยางยิ้มอย่างทะเล้นออกมา เพราะเห็นสีหน้าที่บึ้งตึงของเย่หยุนซู ก็รู้ทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่

“หยุนซู ไม่เป็นไรหรอกน่า ยังไงก็ไม่ได้คุ้นเคยกับที่นี่ อีกทั้งไม่มีใครรู้จักพวกเรา ไม่ต้องแคร์หรอก”

“ต้องโทษนายนั่นแหละ น่าอายชะมัด”

เมื่อนึกถึงคำว่า ฝ่ายรุกแข็งแกร่ง ฝ่ายรับแข็งนอกอ่อนใน เย่หยุนซูก็รู้สึกร้อนผ่าว ๆ ที่หน้าขึ้นมา

เธอหยิบเอาแว่นตากันแดดมงต์บลองค์จากในกระเป๋า LV ออกมาสวม ถึงได้รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย

เมื่อเดินมาถึงถนนสายหลักของซานย่า ก็มีแต่ขาขาว ๆ ละลานตาไปหมด จนแทบจะตาลายเลยทีเดียว

ซานย่าอยู่ในเขตร้อนชื้น ในฤดูนี้ สาวสวยตามท้องถนนล้วนสวมใส่เสื้อสายเดี่ยวกระโปรงสั้นจู๋ทั้งนั้น ต้นไม้รายทางที่อยู่ข้างถนนเป็นต้นมะพร้าวทั้งหมด บรรยากาศร้อนชื้นได้พัดโหมเข้ามา

เมื่อเรียกรถแท็กซี่มาคันหนึ่ง ไม่นาน ทั้งสองคนก็มาถึงยังโรงแรมที่พัก

โรงแรม Atlantis เป็นโรงแรมห้าดาวสุดหรูในซานย่า มีห้องพักซีวิวที่ไม่มีอะไรมาบดบังทัศนียภาพ สิ่งที่เห็นก็คือทิวทัศน์อันสวยงามที่ท้องฟ้าและทะเลมาบรรจบกัน เมื่อออกมาจากโรงแรมก็เป็นหาดทรายเลย และมีบัตเลอร์คอยดูและให้บริการตลอดทริป

มีสระว่ายน้ำส่วนตัว แคมป์ไฟ สปีดโบ๊ทให้บริการฟรี……

เมื่อเดินเข้ามาในโถงของโรงแรม เซียวหยางได้แจ้งชื่อ แล้วมีพนักงานพาทั้งสองคนไปยังห้องพักของโรงแรม

พื้นที่ของโรงแรมกว้างขวางมาก มีพนักงานขับรถบักกี้พาขับชมทั่วโรงแรมหนึ่งรอบ แล้วแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและจุดเด่นต่าง ๆ

ใบหน้าของเย่หยุนซูมีรอยยิ้มบาง ๆ อยู่ตลอด เธอมองทิวทัศน์รอบ ๆ เหมือนพอใจกับการท่องเที่ยวครั้งนี้มาก

“คุณลูกค้าที่เคารพ ที่นี่คือห้องพักของคุณค่ะ ถ้าหากต้องการอะไร สามารถใช้โทรศัพท์ภายในห้องพักติดต่อพวกเราได้เลยนะคะ”

“ครับ ขอบคุณ”

เซียวหยางพูดออกมาประโยคหนึ่ง บ่งบอกว่าเธอสามารถกลับได้เลย จากนั้นก็หิ้วกระเป๋าเดินทางพลางเปิดประตูเข้าไป

ทันทีที่เย่หยุนซูเข้ามาในห้อง ก็รู้สึกว่าการตกแต่งภายในห้องมีเสน่ห์ดึงดูดใจ ห้องพักห้องนี้มีขนาดอย่างน้อยหนึ่งร้อยตารางเมตร หน้าต่างแบบพาโนรามาขนาดใหญ่ ห้องรับแขกที่กว้างขวาง ตั้งแต่ประตูห้องจนถึงหน้าต่างพาโนรามาไม่มีอะไรบังไว้เลย เมื่อมองออกไปก็สามารถเห็นเกาะกลางทะเลได้ทันที

ด้านนอกหน้าต่าง มีอ่างอาบน้ำส่วนตัว ในน้ำมีกลีบกุหลาบโปรยอยู่เต็มไปหมด สามารถเพลิดเพลินกับการอาบน้ำ และตากลมทะเลที่พัดโชยมาไปพร้อมกันได้

เย่หยุนซูยืนอยู่ตรงด้านหน้าของหน้าต่างพาโนรามา เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วค่อย ๆ คลายลมหายใจออกมา ตอนนี้ จิตใจของเธอเหมือนกับได้ถูกชำระล้าง

มลพิษทางเสียงและทางอากาศในเมือง รวมถึงความสัมพันธ์ของผู้คนที่ซับซ้อนวุ่นวายต่างมลายหายไปจนหมด ในดวงตาตอนนี้มีเพียงมีคำว่าประทับใจ

เธอหันตัวเดินกลับมาที่หัวเตียง นี่เป็นเตียงนอนรูปหัวใจที่มีขนาดใหญ่มาก เธอพึงพอใจกับเตียงนอนนี้มากเช่นกัน

แต่เพียงเสี้ยววินาที เย่หยุนซูก็รู้สึกว่าฟุ่มเฟือยเกินไปหน่อย

เธอนอนคนเดียว ไม่จำเป็นต้องนอนเตียงใหญ่ขนาดนี้ก็ได้

เมื่อดูเวลา เย่หยุนซูก็บิดขี้เกียจ แล้วเริ่มรู้สึกง่วงขึ้นมา

“ฉันอยากนอนกลางวันสักหน่อย นายกลับไปที่ห้องพักของนายเถอะ”

เซียวหยางชะงักไปเล็กน้อย แล้วแกล้งพูดอย่างไร้เดียงสาว่า “ห้องพักของฉัน?”

“ใช่ไง” เย่หยุนซูเอ่ยขึ้น “นายไม่กลับห้องของนาย หรือว่านายต้องการนอนห้องเดียวกับฉัน?”

เซียวหยางฉีกยิ้มกว้าง “หยุนซู เธอฉลาดจังเลย เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันก็นอนห้องนี้?”

เย่หยุนซูอึ้งไปเล็กน้อย “ทำไมนายถึงนอนห้องนี้ด้วยล่ะ นี่มันห้องของฉันนะ”

“นี่เป็นห้องของเธอ ก็เหมือนกับเป็นห้องของฉันนั่นแหละ”

เย่หยุนซูรู้สึกงุนงง ถูกเซียวหยางทำให้สับสนไปหมดแล้ว

“ห้องของนายห้องของฉันอะไรกัน นายอยากพูดอะไรกันแน่?”

เซียวหยางกระแอมสองครั้ง แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “หยุนซู ห้องนี้เป็นของเธอ และเป็นของฉัน หมายความว่า ฉันจองห้องพักไว้เพียงห้องเดียว”

“อะไรนะ?”

เย่หยุนซูลุกพรวดขึ้นทันที “นี่นายจองห้องพักไว้แค่ห้องเดียวเหรอ? ในนี้มีเพียงเตียงเดียว นายไม่เห็นหรือยังไง?”

เซียวหยางผายมือออก แล้วเอ่ยพูด “ฉันก็เห็นแล้วไง แต่นี่เป็นเตียงสำหรับนอนสองคน หรือเธอดูไม่ออกว่ามันใหญ่มาก?”

เย่หยุนซูเหงื่อตกรู้สึกจนปัญญา เธอตกหลุมพรางเซียวหยางอีกแล้ว

ตอนที่เพิ่งออกจากบ้าน ก็ถูกหลอกให้สวมเสื้อคู่ พอมาถึงซานย่าก็ถูกหลอกให้นอนเตียงเดียวกัน ไม่แน่ว่าต่อไปอาจจะมีแผนชั่วอะไรอีก

“ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด!”

เย่หยุนซูโบกปัดมือ ถ้าตามใจเซียวหยางแบบนี้ เซียวหยางคงได้ขึ้นสวรรค์แน่ ๆ

เพราะตอนที่อยู่บ้าน เธอกับเซียวจะแยกกันนอนคนละห้อง คนหนึ่งอยู่ชั้นบน คนหนึ่งอยู่ชั้นล่าง

“นายไปเปิดห้องเพิ่มอีกห้อง!” เย่หยุนซูพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

เซียวหยางพูดเป็นตุเป็นตะว่า “ตอนนี้เป็นช่วงไฮซีซั่น จองห้องพักสักห้องได้ยากมาก ถ้าจะจองห้องตอนนี้คงจองไม่ได้แน่นอน”

พูดจบ ก็แอบมองสีหน้าของเย่หยุนซู เมื่อเห็นสีหน้าของเธอไม่เปลี่ยนแปลง ก็พูดต่ออีกว่า :

“อีกอย่างนะ มาอยู่ต่างที่ต่างถิ่น ฉันกับเธอพักห้องเดียวกัน ก็ปกป้องเธอได้อย่างสะดวก ตอนกลางคืนเธอนอนบนเตียง ฉันนอนที่โซฟา ยังไม่โอเคอีกหรือไง?”

เย่หยุนซูรู้สึกหมดคำพูดแล้ว

“งั้นก่อนมาที่นี่ ทำไมนายไม่จองห้องเพิ่มก่อนล่ะ ฉันล่ะยอมนายเลยจริง ๆ”

ถึงแม้ทั้งสองคนพักอาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังเดียวกัน แต่คนหนึ่งอยู่ชั้นบน ส่วนอีกคนอยู่ชั้นล่าง ไม่ได้ข้องแวะกัน

สถานการณ์ตรงหน้านี้ ก็ไม่ได้แตกต่างกับตอนที่พักอยู่คฤหาสน์เดียวกันกับเซียวหยางเลย

เซียวหยางอธิบายอย่างจำใจว่า “หยุนซู ทั้งหมดนี่ก็เพื่อความปลอดภัย เธอว่าจริงไหม”

“หรือเธอลืมเรื่องที่เกิดขึ้นที่เมืองหยินโจวไปแล้ว ฉันไม่แน่ใจว่าคนพวกนั้นแอบตามพวกเรามาที่ซานย่าหรือเปล่า ถ้าพวกเราแยกกันนอนคนละห้อง มีโอกาสเป็นไปได้ว่าคนร้ายจะแอบเข้ามาในห้องของเธอ แล้วจับตัวเธอไป”

“ถึงตอนนั้นฉันไม่มีทางรู้แน่นอน ส่วนเธอก็จะตกอยู่ในอันตราย เธอว่าไหมล่ะ?”

คิ้วเรียวสวยของเย่หยุนซูขมวดขึ้นเล็กน้อย ที่พูดมาก็ถูก อันตรายของเธอยังไม่จบแค่นี้ ใครจะไปรู้ว่านักฆ่าโรคจิตนั่นจะมาหาเรื่องตัวเองอีกไหม

เมื่อคิดถึงตรงจุดนี้ เธอกลับรู้สึกว่าการท่องเที่ยวครั้งนี้มีตัวแปรเพิ่มขึ้นมาแล้ว สู้อยู่ทำงานที่เมืองหยินโจวยังดีเสียกว่า

เห็นเย่หยุนซูทำปากมุ่ย ท่าทางเหมือนมีเรื่องให้คิดหนัก

เซียวหยางก็ตีขา แล้วแอบโวยวายในใจ ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป งั้นที่ตัวเองทำมาทั้งหมดก็สูญเปล่าน่ะสิ การเที่ยวครั้งนี้ก็ไม่มีความหมายอะไรแล้ว

เซียวหยางรีบเดินไปข้าง ๆ เย่หยุนซูแล้วเอ่ยพูด

“หยุนซู ฉันรู้ว่าเธอมีเรื่องให้หนักใจ แต่เธอต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับชีวิตตอนนี้”

“ปรับตัวให้เข้ากับชีวิตตอนนี้?”

เซียวหยางพยักหน้า แล้วเอ่ยพูด “ใช่ไง คือต้องปรับตัว ถ้าเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ ก็ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวไง”

“ไม่ต้องคิดมากเกินไป เธอแค่สนุกกับช่วงเวลานี้ก็พอแล้ว ไม่อย่างนั้นก็เสียดายทิวทัศน์สวย ๆ นี่แย่เลย”

เย่หยุนซูกลอกตาใส่ “ฉันเข้าใจเหตุผลดี แต่นายอยู่ที่นี่ ฉันไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ตอนนี้ได้”

เซียวหยางพ่นลมออกมา รู้สึกเหมือนถูกโจมตีอย่างหนัก

ที่จริงก็ไม่โทษเย่หยุนซูหรอกที่ไม่ชิน ห้องนี้มีเพียงเตียงเดียว ตอนค่ำจะนอนยังไงล่ะ

ต่อให้เซียวหยางนอนที่โซฟา แต่เวลาเธอเข้าห้องน้ำล่ะ อาบน้ำล่ะ?

ห้องน้ำของโรงแรมเป็นแบบกระจกใสโปร่งแสง ตอนที่เธอเข้ามาในห้องก็เห็นมันแล้ว!