ตอนที่ 107 โหมโรงสู่สงคราม
รูปแบบอาคมเคลื่อนย้าย ห้าสิบไมล์ ทิศตะวันออกของเมืองลกเอี้ยง
รูปแบบอาคมเคลื่อนย้ายที่ทํางานตั้งแต่ภารกิจพิเศษเริ่มต้นขึ้นก็หยุดลง
ไม่กี่นาทีต่อมา รูปแบบอาคมเคลื่อนย้ายก็สว่างขึ้นอีกครั้ง
จากนั้นก็ปรากฎทหารนับไม่ถ้วน เดินออกมากจากรูปแบบอาคมเคลื่อนย้ายอย่างต่อเนื่อง
หนึ่งหมื่น สองหมื่น สามหมื่น…
จํานวนทหารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและไม่นานก็เพิ่มจนถึงหนึ่งล้าน
อุปกรณ์ของพวกเขามีหลากหลายและบางคนถึงกับพกหอกไม้
อย่างไรก็ตาม ด้วยเสียงลมหายใจที่ออกมาจากพวกเขาสามารถตัดสินได้ชัดเจนว่าพวกเขาเป็นทหาร ทหารที่เป็นของผู้เล่นลอร์ด
เมื่อทหารทั้งหมดรวมตัวกันจนเสร็จสิ้นพวกเขาก็ลุกขึ้นแยกจากกัน มีผู้คนกลุ่มหนึ่งก็เดินออกจากรูปแบบอาคมเคลื่อนย้าย
ถ้าเย่เฉินอยู่ที่นี่ เขาจะรับรู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้เป็นผู้นําของกลุ่มผู้เล่นที่เข้าร่วมการประมูลที่โรงเตี้ยมหยูเล่ย
“แน่ใจนะว่าเย่เฉียจะผ่านทางนี้?” ชายคนหนึ่งขมวดคิ้วและถาม
“เมื่อไม่นานมานี้ มีคนเห็นทหารม้าเหล่านั้นในเมืองปักเป้ง และตอนนี้สามารถยืนยันได้ว่าเมืองหลุนฮุยของเยู่เฉินตั้งอยู่ในแคว้นอิวจิ๋ว และตอนนี้เย่เฉินยังไม่สามารถใช้รูปแบบอาคมเคลื่อนย้ายได้ หากเขาต้องการที่จะกลับไปที่แคว้นอิวจิ๋วเขาต้องผ่ารเส้นทางนี้” คนผู้หนึ่งพยักหน้าแล้วกล่าว
“คราวนี้ ข้าต้องเก็บเขาไว้ ไม่ใช่แค่เพื่อฆ่าเขา แต่ยังต้องจับกุมเขาและทรมานเขาด้วย! ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะคายความลับของเกมออก” อีกคนพูดออกมาอย่างชั่วร้าย
“แล้วถ้าสิ่งที่คนเหล่านั้นในช่องแชทโลกพูดเป็นความจริงล่ะ? นอกจากนี้ ทหารม้าของเย่เฉินนั้นก็ไม่ง่ายที่จะรับมือว่ากันว่าพวกเขาสามารถกลายเป็นพยัคฆ์ขาวและฆ่าผู้เล่นไปหลายล้านคน…” คนผู้หนึ่งขมวดคิ้วขณะที่ถามออกมา
“ถึงทหารม้าจะมีความสามารถเชิงรุกที่แข็งแกร่ง เป็นไปไม่ได้เลยที่จะหยุดพวกเขา แต่อย่าลืมว่าเราก็ไม่ใช่จะเตรียมการอะไรมา ตราบใดที่เยู่เฉินปรากฏขึ้น ลูกธนูนับหมื่นจะถูกยิงออกไป และเขาจะถูกยิงจนตาย!”
“ใช่แล้ว ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล เป็นเพียงมดปลวกตัวเล็กๆที่คิดว่ารู้ความลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเกมแล้วจะโอ้อวดพลังเป็นผู้แข็งแกร่งไร้ผู้ต้าน คราวนี้ต้องสั่งสอนให้เขารู้ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า เขาคิดจริงๆหรือว่าไม่มีใครสามารถต้านทานเขาได้” ผู้นําคนหนึ่งพยักหน้าและพูดอย่างเห็นด้วย
“แล้วหลังจากฆ่าเขา พวกเจ้าจะแบ่งทักษะระดับราชาที่ได้เป็นรางวัลอย่างไร” ผู้นําคนหนึ่งคิดอะไรบางอย่างแล้วถาม
“แน่นอน ใครมีทหารมากกว่าที่เป็นเจ้าของมัน!” ผู้นําอีกคนพูดโดยไม่ลังเล
“ผายลมเถอะ ถึงเจ้าจะพาทหารมามากมายที่นี่ เป็นไปได้ไหมที่เจ้าจะสามารถฆ่าเย่เฉินได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาพวกเรา” ผู้คนหนึ่งลืมตาขึ้นและกล่าวออกมาอย่างโกรธเคือง
“หุบปาก!” เสียงหนึ่งดังขึ้น จากนั้นทุกคนก็เงียบลงทันที
“เย่เฉินยังไม่ปรากฏตัว พวกเจ้าก็เริ่มจะทะเลาะกันเองแล้ว พวกเจ้ายังอยากฆ่าเขาหรือไม่?” ชายวัยกลางคนที่มีผมสีขาวกล่าวออกมาอย่างเย็นชา
“แล้วจะเอายังไง” ผู้นําคนหนึ่งถามขึ้น
“ง่ายมาก จับฉลากหากใครจับได้ จ่ายเป็นเครดิตให้คนอื่น พวกเจ้ามีความคิดเห็นอย่างไร” ชายวัยกลางคนกล่าวโดยไม่ลังเล
ทุกคนต่างมองหน้ากันจากนั้นก็พยักหน้า
“ดีมาก ให้นักธนูของเจ้าไปประจําตําแหน่ง ทันทีที่เย่เฉินมาถึงและเข้าสู่ระยะยิง ให้พลธนูทั้งหมดระดมยิงในทันที! ฆ่าเขาซะ!” ชายวัยกลางคนพยักหน้าอย่างพึงพอใจแล้วกล่าว
“ตกลง!” ผู้นําทุกคนพยักหน้าเป็นคําตอบ แล้วหันไปออกคําสั่งแก่ทหาร
“ตึก ตึก ตึก”
ม้าเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วทําให้แผ่นดินสั่นสะเทือน
หลังจากที่ทหารม้าวิ่งออกมาจากประตูทิศใต้ของลกเอี๋ยง เย่เฉินก็พากองทัพของเขาตรงไปทางทิศตะวันออก จากนั้นจึงเปลี่ยนทิศทาง วิ่งไปทาง ทางตะวันออกเฉียงเหนือ
เย่เฉินที่นําหน้ากองทําก็ขมวดคิ้วทันที จากนั้นก็หันศีรษะและตะโกนสั่งเตียนอุยที่กําลังควบม้าอยู่ข้างๆเขา
“เตียนอุยส่งผ่านคําสั่งข้า ให้ทหารทุกคนเปลี่ยนอาวุธเป็นธนูเขาสัตว์!”
“ครับท่านลอร์ด!” เตียนอุยตอบเสียงดังแล้วหันกลับไปตะโกนะ
“ท่านลอร์ดมีคําสั่ง! เปลี่ยนอาวุธเป็นธนูเขาสัตว์!”
ทหารม้าที่อยู่แถวหน้าของกองทัพหลุนฮุย เมื่อได้ยินดังนั้นก็หันไปด้านหลังและตะโกนว่า “ท่านลอร์ดมีคําสั่ง! เปลี่ยนอาวุธเป็นธนูเขาสัตว์!”
“ท่านลอร์ดมีคําสั่ง! เปลี่ยนอาวุธเป็นธนูเขาสัตว์!”
หลังจากผ่านไปไม่กี่อึดใจ ทหารของกองทัพหลุนฮุยก็เก็บหอก จากนั้นก็ดึงคันธนูเขาสัตว์ที่สะพายอยู่ด้านหลังออกมาและควบม้าต่อไป
“นายท่าน หรือว่าข้างหน้ามีศัตรู?” เตียนอุยมองไปที่เยู่เฉินและถามออกมา
“อืม ยังมีบางส่วนที่ไม่ปรากฏตัวในเมืองลกเอี้ยง หากข้าเดาไม่ผิด พวกมันต้องดักรอพวกเราอยู่ข้างหน้าแล้ว” เย่เฉินพยักหน้าแล้วพูด
“ท่านลอร์ด ได้โปรดถอยไปด้านหลัง” เมื่อได้ยินเรื่องนี้เตียนอุยก็กล่าวออกมาโดยไม่ลังเล
“ไม่ต้องพูดอะไรอีก ข้ายังสวมเกราะอยู่ แม้ว่าข้าจะไม่สวมเกราะ ก็อย่าแม้แต่จะคิดที่จะทําร้ายข้าด้วยดาบธรรมดาได้” เย่เฉินยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าวออกมา
เย่เฉินมีเหตุผลที่พูดอย่างนั้น
ทักษะเก้าโคจรศักดิ์สิทธิ์เป็นเทคนิคระดับโกลาหล แม้ว่าเยู่เฉินจะฝึกได้เพียงเล็กน้อยในตอนนี้ แต่ก็ส่งเสริมความแข็งแกร่งทางร่างกายของเยู่เฉินเป็นอย่างมาก
ยิ่งไปกว่านั้น ในเขตพื้นที่มือใหม่นี้ไม่มีอาวุธที่น่ากลัวเลย
หากต้องการทําร้ายเย่เฉินในตอนนี้ พวกเขาต้องการอาวุธระดับศักดิ์สิทธิเป็นอย่างน้อย
หากระดับการบ่มเพาะของเยู่เฉินก้าวหน้าขึ้นอีก หากต้องการทําร้ายเย่เฉินอย่างน้อยต้องเป็นอาวุธระดับโลก
“ท่านลอร์ดของข้า กองทัพหลุนฮุยก็มีรูปแบบการต่อสู้สมรภูมิพยัคฆ์ขาว ไม่จําเป็นต้องให้ท่านลอร์ดบุกไปข้างหน้า!” เตียนอุยได้ยินดังนั้นก็หมดความอดทน
เขาไม่ต้องการให้เยู่เฉินเสี่ยงแม้ว่าร่างกายของเยเฉินจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม ในกรณีที่มีข้อผิดพลาด บาปร้ายแรงจะฝังลึกในใจของเขา
“รูปแบบการต่อสู้สมรภูมิพยัคฆ์ขาวจะอยู่ได้นานแค่ไหน?” เย่เฉินจ้องมองที่เตียนอุยก่อนที่จะถามออกมา
“นี่นี้” เตียนอุยไม่รู้จะตอบอย่างไรดี
เย่เฉินส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดว่า
“กองพันหลุนฮุยก่อตั้งขึ้นมาโดยข้า ข้าจะไม่รู้ความสามารถของกองทัพหลุนฮุยได้อย่างไรใน เมื่อข้าเป็นลอร์ดของเจ้า? รูปแบบการต่อสู้พยัคฆ์ขาวสามารถใช้ได้เพียงสามครั้ง และจากนั้น กองทัพหลุนฮุยทั้งหมดจะตกอยู่ในสภาพอ่อนแอทันที ความแข็งแกร่งจะลดลงเหลือน้อยกว่า 30% และจะต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟูอย่างน้อยหนึ่งวัน!”
“นายท่าน! ข้าไม่หวาดกลัวความตาย และไม่มีใครในกองทัพหลุนฮุยที่เกรงกลัวต่อความตาย!” เตียนอุยกล่าวเสียงดังลั่น
เย่เฉินจ้องไปที่เตียนอุยแล้วตะโกนะ
“หุบปาก! เป็นเรื่องดีที่ไม่กลัวความตาย หากจะดีกว่าไหมที่ไม่ตายแล้วสังหารศัตรูอีกนับล้านในสนามรบต่อๆไป จําไว้! ในอนาคต หากไม่ได้รับคําสั่งจากข้าไม่อนุญาติให้ใช้รูปแบบการต่อสู้พยัคฆ์ขาวเกินสามครั้ง มิฉะนั้น ข้าจะใช้กฎทางทหารจัดการกับเจ้า! ”
“ข้าเข้าใจแล้วท่านลอร์ด!” เตียนอุยลูบศีรษะของเขาเบา ๆ แล้วตอบกลับ
กองทหารม้ายังคงวิ่งต่อไปเรื่อยๆ
เมื่อแสงตะวันตกกระทบพื้นโลก ฝูงคนจํานวนนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเย่เฉินและกองทัพหลุนฮุย
พวกมันคือทหาร ทหารจํานวนนับไม่ถ้วน ทหารที่เป็นกองกําลังของผู้เล่นลอร์ด
“พวกมันดักรออยู่ที่นี่จริงๆ…” เย่เฉินมองไปยังทหารที่อยู่ในระยะไกล และหรี่ตาลง เกิดแสงเย็นยะเยือกวูบวาบในดวงตาของเขาทันที