ตอนที่ 110 เบื่อชีวิต!

หลายคนต่างก็รู้ดีว่า มะเร็งเป็นโรคที่ยากจะรักษาหายได้ และทั้งโลกก็ยังไม่มีผู้ใดคิดค้นยารักษามะเร็งได้ แม้กระทั่งการรักษาที่มีอยู่ในปัจจุบัน ก็ยังไม่สามารถรักษาโรคมะเร็งให้หายขาดได้

การรักษาโรคมะเร็งในทุกวันนี้ ยังคงอาศัยการผ่าตัดเพื่อตัดก้อนเนื้อร้ายทิ้งไป หรือไม่ก็ทําเคมีบําบัดเพื่อฆ่าเซลมะเร็ง แต่ความสําเร็จหรือโอกาสที่จะหายขาดนั้นก็มีน้อยมาก

แต่จากคําพูดของหลี่เฉวียนยู่ในเวลานี้ กลับมีใครบางคนที่สามารถคิดค้น และพัฒนาตัวยาที่สามารถรักษาโรคมะเร็งได้แล้ว อีกทั้งยังสามารถรักษาโรคมะเร็งได้ทุกชนิดอีกด้วย!

หากเป็นเช่นนี้ย่อมหมายความว่า โรคที่เคยเป็นปัญหาใหญ่ของมวลมนุษยชาติอย่างโรคมะเร็งก็จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปแล้วสินะ?

เวลานี้ ภายในห้องจัดเลี้ยงมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นอื้ออึง หลายคนต่างก็มีปฏิกิริยาแตกต่างกันออกไป และมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เชื่อคําพูดของหลี่เฉวียนยู่ ที่เหลือส่วนใหญ่นั้นยังไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่นัก

นั่นเพราะ.. การประกาศว่าสามารถรักษาโรคมะเร็งทุกชนิดได้นั้น ดูเหมือนจะเป็นการอวดอ้างจนเกินไป!

“คุณชายหลี่ ผมอยากจะถามว่า ยารักษาโรคมะเร็งที่คุณพูดถึง มันวิเศษขนาดนั้น จริงๆน่ะรึ?”

หลิวจื่อหยานหรี่ตาลงเล็กน้อย พร้อมกับถามต่อว่า “หรือความจริงแล้ว มันก็แค่ยับยั้งเซลมะเร็งได้เพียงบางชนิดแต่ไม่ใช่ทั้งหมด?”

“จากข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการรักษาโรคมะเร็งด้วยยาตัวนี้ที่ผมได้อ่านมา มีอัตราการรักษาโรคมะเร็งทุกชนิดให้หายได้ถึง 99% เลยทีเดียว มิสเตอร์ริชาร์ดซึ่งเป็นผู้ค้นพบ ก็ได้ทําการจดสิทธิบัตรยาและได้เริ่มผลิตออกมาขายในประเทศแถบยุโรปกับสหรัฐอเมริกาแล้วซึ่งสามารถช่วยผู้ป่วยโรคมะเร็งได้แล้วนับหมื่นๆคนที่เดียว..”

หลี่เฉวียนยู่ไม่รอช้า และรีบประกาศต่อทันที “หลังจากที่ได้รับประโยชน์จากยานี้ด้วยตัวเองผมจึงได้ตกลงขอเป็นหุ้นส่วนกับมิสเตอร์ริชาร์ด และในที่สุดก็ได้เป็นตัวแทนจําหน่ายยารักษาโรคมะเร็งนี้ในประเทศจีนแต่เพียงผู้เดียว!”

นี่นับเป็นระเบิดอีกหนึ่งลูกที่หลี่เฉวียนอู่ทิ้งไว้กลางห้องจัดเลี้ยง!

หลายคนที่อยู่ในห้องนี้ ล้วนแล้วแต่อยู่ในแวดวงธุรกิจมานาน มีหรือที่จะไม่ได้กลิ่นอายของโอกาสที่จะทําเงินมหาศาลจากธุรกิจนี้ได้ เพราะจํานวนผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งในประเทศจีนนั้นก็มีอยู่อย่างมากมาย จึงนับเป็นตลาดที่ใหญ่มากทีเดียว

อีกทั้งเวลานี้ ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในประเทศก็ดีขึ้น มีใครบ้างที่ไม่ต้องการจะมีชีวิตนยาว? โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ร่ํารวยมีเงินมีทอง ยิ่งกลัวตายมากกว่าคนอื่นๆ

แม้จํานวนผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งจะสูง แต่อัตราการรักษาหายกลับต่ํา

ต่อให้ไปรักษาในโรงพยาบาลที่ดีที่สุด รักษากับแพทย์ที่เก่งที่สุด และรักษาด้วยเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยที่สุด แต่ก็ไม่มีหมอคนไหนสามารถยืนยันได้เต็มปากเต็มคําว่าจะสามารถรักษาโรคมะเร็งให้หายขาดได้

ทุกวันนี้ หลายคนจึงหันมาเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิต ในแบบที่เรียกว่าเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติให้มากขึ้นและเลือกกินอาหารเพื่อสุขภาพกันเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ตนเองต้องเป็นโรคมะเร็ง

หากมียาที่สามารถรักษาโรคมะเร็งได้จริงๆอย่างที่หลี่เฉวียนยู่พูด นี่จะไม่นับเป็นข่าวดีสําหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งงั้นหรือ?

หลี่เฉวียนยู่ยกมือขึ้นโบกเรียกพนักงานเสริฟสาวให้นํากล่องใบหนึ่งเข้ามา จากนั้น เขาจึงเปิดกล่องใบนั้นออก และหยิบเอกสารกองใหญ่ออกมา

“ทุกท่านสามารถตรวจดูได้ นี่คือสําเนาเอกสารเกี่ยวกับผู้ป่วยมะเร็ง ซึ่งได้รับการรักษาด้วยยาของมิสเตอร์ริชาร์ด รูปทุกรูปล้วนเป็นผู้ป่วยมะเร็งจริง และรักษาหายขาดได้แล้วจริงๆ”

จากนั้น หลี่เฉวียนยู่ก็ได้สั่งให้นําเอกสารในกล่อง ไปแจกจ่ายให้กับทุกคนในห้อง และเพียงไม่นาน ทุกคนต่างก็ได้รับสําเนา Test Report ของยารักษาโรคมะเร็งนี้ และประวัติการรักษาของคนไข้รายต่างๆ

หลินหนานกับหลิวหยิงหยิงเองก็ได้รับเอกสารเหล่านั้นเช่นกัน

หลังจากที่ได้รับมา หลิวหยิงหญิงก็เปิดเอกสารเหล่านั้นอ่านดู ในขณะที่หลินหนานกลับวางไว้ข้างกายอย่างไม่แยแส

หลังจากที่ได้อ่านเอกสารเหล่านั้นแล้ว หลายคนต่างก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เพื่อตรวจสอบข้อมูลต่างๆในเอกสาร ผ่านทางอินเทอร์เน็ตว่าเป็นข้อมูลจริงหรือไม่? ไม่ว่าจะเป็นหมายเลขการจดสิทธิบัตรยา หรือแม้แต่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคนไข้รายนั้นๆ

แต่แล้วพวกเขากลับพบว่า มีการจดสิทธิบัตรยาจริง และมีภาพของการตีแผ่เรื่องนี้ในข่าว ต่างๆด้วย..

หลังจากที่ได้ตรวจสอบการจดสิทธิบัตรยา และพิสูจน์ว่าเคสคนไข้ต่างๆนั้นเป็นของจริงแล้ว ผู้คนภายในห้องกว่า 60-70% ต่างก็เริ่มเชื่อเช่นกัน

ทันทีที่อ่านเอกสารทั้งหมดจบ ถึงจินซึ่งจึงเอ่ยถามหลี่เฉวียนยู่ทันที “คุณชายหลี่ คิดไม่ถึงว่าคุณจะสามารถค้นพบยาวิเศษแบบนี้ได้ น่าอิจฉาจริงๆ!”

“นี่นับเป็นความโชคดีของผมมากกว่า!”

หลีเฉวียนยู่ตอบกลับยิ้มๆ พร้อมกับพูดต่อว่า “คุณชายถัง คุณสนใจที่จะเป็นหุ้นส่วน และเปิดตลาดยานี้กับผมมั้ยล่ะ?”

“แน่นอน!! ขอให้คุณชายหลี่บอกตัวเลขมาได้เลย ผมจะรีบโอนให้ทันที!”

ถังจินซึ่งตอบกลับเสียงดัง พร้อมกับยกมือขึ้นตบหน้าอกตัวเองอย่างมั่นใจ เขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่า ต้องการที่จะเป็นหุ้นส่วนในการจําหน่ายยาต้านมะเร็งนี้มาก

“คุณชายหลี่ เมื่อไหร่ที่คุณเริ่มเปิดตลาดยาตัวนี้จริงๆ ก็อย่าลืมผมด้วยล่ะ!” หลิวจื่อหยานรีบเสนอตัวทันทีเช่นกัน

“นั่นน่ะสิคุณชายหลี่ หากคุณเปิดตลาดยาตัวนี้ในประเทศเราจริงๆ นับว่าได้บุญมากทีเดียว!” จางเฉิงร้องบอกด้วยน้ําเสียงตื่นเต้น

“นั่นสินะ! ไม่เพียงคุณชายหลี่จะสามารถทําเงินได้อย่างมหาศาล แต่ยังสามารถช่วยผู้ป่วยโรคมะเร็งได้อีกด้วย นี่เท่ากับยิงปืนนัดเดียว แต่ได้นกถึงสองตัว!”

เวลานี้ ดูเหมือนหลายคนต่างก็พยายามที่จะหาช่องทาง เพื่อขอแบ่งเค้กก้อนโตนี้กับหลี่เฉวียนยู่อยู่

ยาต้านมะเร็ง แน่นอนว่าจะสามารถทําเงินให้กับผู้จําหน่ายได้อย่างมากมายมหาศาล!!

และเวลานี้ ในสายตาของพวกเขา หลี่เฉวียนยู่ก็ไม่แตกต่างจากเทพเจ้าแห่งโชคลาภ!

หลี่เฉวียนยู่ได้เห็นท่าที่กระตือรือร้นของหลายๆคนในห้อง เขาถึงกับหัวเราะออกมาด้วยตื่นเต้นดีใจ และมีความสุขอย่างที่สุด!

คําพูดที่ว่า.. เงินคือบ่อเกิดของบาป ดูเหมือนจะเป็นความจริง

เป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติอย่างนั้นหรือ?

ผลประโยชน์จํานวนมหาศาลต่างหาก ที่ทําให้แมงเม่าเหล่านี้พร้อมใจกันบินเข้าไป ภายในใจของทุกคนล้วนแล้วแต่มีความโลภโมโทสันไม่น้อยไปกว่ากัน

และนี่คือเหตุผลที่แท้จริง ที่หลี่เฉวียนยู่มางานเลี้ยงสมาคมเมิ่งหลานในคืนนี้

หลินหนานเห็นหลิวหยิงหยิงวางเอกสารในมือลง และสีหน้าท่าทางของเธอก็ดูเหมือนจะไม่สนใจใยดีนัก

“เถ้าแก่หลิว คุณไม่สนใจบ้างเหรอ?” หลินหนานเห็นท่าทางของหลิวหยิงหยิง จึงอดที่จะเอ่ยถามออกไปไม่ได้

“มันไม่ใช่เรื่องสนใจหรือไม่สนใจ แต่ฉันไม่กล้าต่างหาก! มีคํากล่าวว่า บนโลกใบนี้ ที่ใดผลประโยชน์ยิ่งมาก ความเสี่ยงก็ย่อมมากขึ้นตามไปด้วย! ฉันก็เลยไม่อยากเป็นแมงเม่าบินเข้ากองไฟต่างหาก..” หลิวหยิ่งหยิงตอบยิ้มๆ

“อืมม… อย่างน้อยก็ยังมีคนเข้าใจเรื่องนี้เ” หลินหนานบอกกับหลิวหยิงหยิง พร้อมกับยกนิ้วโป้งชูให้กับเธอ

“นี่คุณชายหลิน หลังจากที่ได้ฟังเรื่องทั้งหมดของคุณชายหลี่แล้ว คุณคิดว่ายาต้านมะเร็งอะไรนี่เป็นเรื่องจริงมั้ย?” หลิวหยิงหยิงนั่งเท้าค้างมองหลินหนานพร้อมกับเอ่ยถามออกไป

หลินหนานพยักหน้า “ก็อาจจะจริง”

“ห้ะ?!” หลิวหยิงหยิงเลิกคิ้วสูง พร้อมกับอุทานออกด้วยความสงสัย เพราะไม่คิดว่าจะได้ยินคําตอบเช่นนี้จากปากหลินหนาน

แต่ผมไม่เชื่อว่า ยาเพียงแค่เม็ดเดียว จะสามารถรักษาโรคมะเร็งทุกชนิดได้? เรื่องนี้หลอกลวงอย่างแน่นอน!” หลินหนานพูดเสริมขึ้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

น่าขํา! แม้แต่อาจารย์ของเขาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหมอเทวดา ยังไม่กล้าพูดว่าการลงมือรักษาเพียงครั้งเดียว จะสามารถรักษาโรคทุกชนิดให้หายได้เลย!

แล้วยาของหลี่เฉวียนยู่เพียงเม็ดเดียว จะสามารถรักษาโรคมะเร็งทุกชนิดได้อย่างไรกัน?

ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องหลอกลวงทั้งสิ้น!

ยาเฉพาะโรค.. ไม่ใช่ยาครอบจักรวาล!!

คนพวกนี้ลืมคําสั่งสอนของคนเก่าคนแก่ไปหมดแล้วจริงๆน่ะหรือ?

หรือเห็นแค่ผลประโยชน์มหาศาลตรงหน้า ความสามารถในการพิจารณาด้วยเหตุด้วยผลเบื้องต้น ก็พลันอันตรธานหายไป

และไม่รู้ว่าหลี่เฉวียนยู่เดินมาที่โต๊ะของหลินหนานตั้งแต่เมื่อไร่ เขายืนถือแก้วไว้ในมือ พร้อมกับเอ่ยถามหลินหนานยิ้มๆ

“ดูท่าคุณคงจะมีคําถามเกี่ยวกับยาของผมสินะ?”

ด้านข้างของหลี่เฉวียนยู่มีเฉินมู่เฉิงยืนอยู่ด้วย และกําลังจ้องมองหลินหนานด้วยสายตาดุดันและเย็นชาอย่างยิ่ง

เวลานี้ สายตาทุกคู่ภายในห้องจัดเลี้ยง ต่างก็จับจ้องอยู่ที่คนทั้งสาม..

ส่วนถังจินซ่งนั้น ถึงกับเอนกายพิงเก้าอี้ด้วยท่าทีสบายอกสบายใจ และเวลานี้เขาก็ต้องการจะรู้ว่าคนอย่างหลินหนานจะกระดูกแข็งแค่ไหน และต่อหน้าสุดยอดปรมาจารย์อย่างเฉินมู่เฉิง เขา ยังจะกล้ายะโสโอหังอีกหรือไม่..

ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่กําลังจ้องมองมานั้น หลินหนานส่ายศรีษะไปมาเล็กน้อยพร้อมตอบกลับเสียงเนิบ

“ฉันไม่มีคําถามอะไรทั้งนั้น เพราะฉันไม่เชื่อที่นายพูดทั้งหมด!”

“โอ้ว..”

หลังจากได้ฟังคําตอบของหลินหนาน เสียงร้องอุทานของผู้คนภายในห้องก็ดังขึ้นพร้อมกันหลายคนถึงกับส่ายหน้าไปมา

หมอนหัวหลุดจากบ่าแน่!

พ่อหนุ่มนี่คงจะเบื่อชีวิตเต็มทนแล้วสินะ!

***********

ฝากนิยายของทีมงานด้วยนะคะ

เรื่อง : เทพปีศาจผงาดฟ้า

เขาฟื้นสติตื่นขึ้นมาในร่างและพื้นพิภพแห่งใหม่ หลังจากที่ล่วงลับตายจากไปในโลกก่อนหน้า

หลงเฉินเริ่มออกเดินทางครั้งใหม่ในพื้นพิภพที่เต็มไปด้วยเทพเซียนและมารปีศาจ สิ่งมีชีวิตลึกลับมากมายหลายหลาก และมนุษย์ที่สามารถบ่มเพาะพลังจนขึ้นกลายเป็นยอดฝีมือผู้ไร้เทียมทาน พร้อมผงาดขึ้นสู่จุดสูงสุดแห่งผืนพิภพทั้งมวล

หนทางเบื้องหน้าของเขามิได้เรียบง่ายอย่างที่คิด จําต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเกินคณานับสังหารทุกคนที่เข้าขัดขวาง ยอดผู้ฝึกยุทธ์พเนจรท่องโลกาท้ายุทธภพสุดขอบฟ้าจนกลาย เป็นที่รู้จักในนามเทพปีศาจแห่งจักรวาล ปกครองความเป็นและความตาย

แม้กระทั้งสรวงสวรรค์ยังต้องก้มกราบต่อหน้าเขา!

เรื่อง : จักรพรรดิ์เทพมังกร

ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทําให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็ม ไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด

จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองที่ละขั้น ที่ละขั้น และไต่ลําดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..