บทที่ 93 หนึ่งเรื่องราวกับเหล้าหนึ่งแก้ว

คิงดราก้อน

เย่หยุนซูหมดคำพูด อ่างเก็บน้ำหมู่บ้านพวกนายมันเทียบกับมหาสมุทรแปซิฟิกได้เหรอ

เซียวหยางพูดประโยคนี้ออกไป ก็เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมได้ทันที

จากนั้น เซียวหยางและชายผมแสกกลางได้กระโดดลงไปในน้ำ สิ่งที่ทำให้เย่หยุนซูรู้สึกเซอร์ไพรส์ก็คือ ท่ากระโดดน้ำของเซียวหยางดูเป็นมาตรฐานมาก

ผ่านไปประมาณห้านาที ชายผมแสกกลางได้โผล่ขึ้นมาจากใต้น้ำ พูดตามตรงว่าสามารถกลั้นหายใจอยู่ใต้น้ำได้นานขนาดนี้ก็สุดยอดมากแล้ว

ผลปรากฏว่าเมื่อชายผมแสกกลางโผล่ขึ้นมา ก็คิดไม่ถึงว่าเซียวหยางยังไม่ได้ขึ้นมาอีก

“เป็นไปไม่ได้ เขาไม่มีทางดำน้ำได้นานกว่าฉัน!” ชายผมแสกกลางตะโกนออกมาว่าเป็นไปไม่ได้

สำหรับเขา กลั้นหายใจใต้น้ำห้านาทีโดยไม่สูดอากาศเข้าไปอีกก็ถึงขีดจำกัดแล้ว กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดได้บันทึกไว้ว่าคนที่กลั้นหายใจดำน้ำได้นานที่สุดทำได้เพียงสิบนาทีเท่านั้น

ทันใดนั้นได้มีคนเอ่ยขึ้นมาว่า “เขาจะจมน้ำตายหรือเปล่า?”

“เป็นไปได้ ไม่อย่างนั้นไม่มีทางที่จะไม่ขึ้นมาหรอก!”

“ต้องจมน้ำตายแล้วแน่นอน เฮ้อ ยังหนุ่มยังแน่นอยู่แท้ ๆ ……”

ได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์พวกนี้ หัวใจของเย่หยุนซูก็สะดุดกึก แอบอธิษฐานในใจให้เซียวหยางปลอดภัย

ผ่านไปอีกสิบนาที……

เซียวหยางก็ยังไม่ขึ้นมา

“แยกย้าย ๆ จมน้ำตายแล้วแน่ ๆ……”

“คนหนุ่มเอ้ยอย่าอวดเก่งเชียวนะ!”

“ต้องเรียกหน่วยกู้ภัยไหม?”

“ผ่านไปตั้งนานแล้ว น่าจะจมน้ำตายนานแล้วล่ะ เรียกหน่วยกู้ภัยมาแล้วจะมีประโยชน์อะไร……”

ขณะนั้นเอง ก็มีเสียงจ๋อมดังขึ้น ศีรษะคนคนหนึ่งโผล่พ้นน้ำขึ้นมา เห็นรอยยิ้มที่ร้ายกาจนั่น ถ้าไม่ใช่เซียวหยางแล้วจะเป็นใครได้อีกล่ะ?

“ใต้น้ำสบายมากจริง ๆ ฉันไม่อยากขึ้นมาเลย!”

เซียวหยางแสร้งทำเป็นพูดออกมา

เย่หยุนซูเห็นเซียวหยางโผล่ขึ้นมา ก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจทันที ขณะเดียวกันก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง อยู่ใต้น้ำยี่สิบนาทีโดยไม่หายใจ ชาติที่แล้วเขาเป็นปลาเหรอ?

“ไม่ นี่มันเป็นไปไม่ได้……”

ชายผมแสกกลางไม่อยากเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ไอ้เซียวหยางคนนี้กลั้นหายใจอยู่ใต้น้ำได้นานกว่าที่กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดบันทึกไว้ถึงสองเท่า

“สุดยอดมาก สุดยอด!”

“เจ้าหนุ่มนี่อนาคตไกลไร้ขีดจำกัด!”

“คลื่นลูกใหม่ซัดมาแทนที่คลื่นลูกเก่าสินะ!”

ไม่นาน เสียงปรบมือในที่นั้นก็ดังกระหึ่มขึ้นมา

ระหว่างที่พูด เซียวหยางก็ได้ขึ้นมาบนพื้นเรือ คิดไม่ถึงว่ามือขวาของเขายังจับเต่าทะเลลายดำตัวหนึ่งไว้ด้วย!

ในนี้มีคนที่รู้จักสัตว์ทะเลอยู่ด้วย จึงรู้สึกเซอร์ไพรส์จนพูดอะไรไม่ออก ปกติเต่าทะเลลายดำจะอยู่ที่ก้นทะเลลึกเท่านั้น ส่วนเกาะหวูจือโจวที่อยู่ตรงหน้าแม้ว่าเป็นเขตน้ำตื้น แต่จุดที่ลึกสุดก็ลึกถึงแปดร้อยเมตรเลยทีเดียว หรือว่าเมื่อครู่นี้ไอ้หนุ่มนี่ดำน้ำลงไปยังก้นทะเลที่ลึกถึงแปดร้อยเมตรโดยปราศจากถังออกซิเจน?

ไม่! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!

หลังจากเซียวหยางเช็ดตัวเสร็จแล้ว ก็พูดกับเย่หยุนซูว่า “หยุนซู ฉายาเจ้าหนุ่มอ่างเก็บน้ำของฉันไม่ได้มีดีแค่ชื่อใช่ไหมล่ะ!”

เย่หยุนซูกลอกตาใส่เซียวหยาง “ทำไมไอบ้าอย่างนายไม่จมน้ำตายไปซะ!”

“ถ้าฉันจมน้ำตาย เธอก็กลายเป็นแม่หม้ายสิ” เซียวหยางยิ้มจนเห็นฟันขาวทั้งแถว

ตอนนี้ ชายผมแสกกลางเห็นท่าไม่ดี ก็คิดจะแอบหนีไป

“ครูฝึก คุณจะไปไหนเหรอ? !”

เซียวหยางเห็นชายผมแสกกลางท่าทางน่าสงสัย

“ลูกผู้ชายพูดออกมาแล้วห้ามคืนคำ มาเถอะ ดื่มซะ!” ขณะที่พูด เซียวหยางก็เอาน้ำถูพื้นถังนั้นมาวางตรงหน้าชายผมแสกกลาง

เดิมทีชายผมแสกกลางคิดจะบ่ายเบี่ยง แต่เมื่อเห็นสายตาของนักท่องเที่ยวรอบตัวที่คอยมองดูอยู่ ก็รู้ได้ว่าครั้งนี้คงหนีไม่พ้นแล้ว

เขาเลยเอามือบีบจมูก พ่นหายใจฮู่วฮู่วฮู่วแล้วยกถังน้ำขึ้นมาเทกรอกใส่ปาก

ต้องบอกว่าชายผมแสกกลางคนนี้เป็นครูสอนว่ายน้ำมาหลายปี ถึงแม้ดำน้ำไม่เก่งเท่าไหร่ แต่เรื่องดื่มน้ำนั้นเชี่ยวชาญมาก เพียงชั่วอึดใจเดียวก็ดื่มน้ำหมดเกลี้ยงทั้งถัง

“พี่ชายดื่มเก่งจริง ๆ!”

เซียวหยางเริ่มปรบมือก่อนใคร!

จากนั้นเสียงปรบมือดังสนั่นก็ดังขึ้น

เย่หยุนซูเผยรอยยิ้มที่หาดูได้ยากออกมา

“หยุนซู เวลาที่เธอยิ้มดูดีมากเลยนะ ต่อไปต้องยิ้มเยอะ ๆ……” เซียวหยางแอบกระซิบที่ข้างหูเย่หยุนซู

“ไปให้พ้น!”

ทันใดนั้น ได้มีหนุ่มอ้วนคนหนึ่งเดินเข้ามา แล้วตบไหล่เซียวหยาง พลางพูดว่า “น้องชาย มีอะไรจะเจรจากับนายหน่อย เต่าตัวนั้นที่นายจับได้เมื่อครู่นี้ขายให้ฉันได้หรือเปล่า?”

เซียวหยางหันกลับไปมอง หนุ่มอ้วนคนนี้มีสองสาวสวยขนาบข้าง คงต้องการซื้อเต่ากลับไปบำรุงไต

เซียวหยางเลยพูดอย่างใจกว้างว่า “ขายอะไรกันล่ะ ได้พบกันถือว่ามีวาสนาต่อกัน ผมให้คุณเลยแล้วกัน!”

ขณะที่พูดเซียวหยางได้หาถุงมาหนึ่งใบ แล้วเอาเต่าทะเลลายดำใส่เข้าไป ยื่นให้หนุ่มอ้วน

หนุ่มอ้วนยิ้มแล้วยื่นมือออกมา “น้องชายมีน้ำใจเหลือเกิน ฉันชื่ออู่ส้วย เป็นคนหยินโจว มาเที่ยวพักผ่อนที่นี่ ร้านเครื่องประดับลาวเฟิงเซียงทั้งห้าร้านที่เมืองหยินโจว ล้วนเป็นของฉันทั้งนั้น”

เซียวหยางจับมือกับหนุ่มอ้วนแล้วพูดว่า “บังเอิญจริง ๆ ผมก็มาจากหยินโจว ผมชื่อเซียวหยาง เป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง”

“น้องชายพูดตลกแล้ว ผู้ชายธรรมดาจะจีบสาวสวยขนาดนี้ได้เหรอ?” อู่ส้วยชี้ไปทางเย่หยุนซูที่อยู่ข้างเซียวหยาง

เซียวหยางยิ้มพลางพูดว่า “คุณน่าจะรู้จักภรรยาของผม เธอชื่อเย่หยุนซู เป็นประธานบริษัทหยุนซูแห่งเมืองหยินโจว”

“what the f*ck! น้องชายแม่งสุดยอดว่ะ! แอบบอกฉันหน่อย ว่านายจีบสาวสวยเบอร์หนึ่งของเมืองหยินโจวได้ยังไง?” อู่ส้วยแทบจะก้มกราบเลยทีเดียว อดไม่ได้ที่จะทำความรู้จักเพื่อพูดคุยกันให้มากกว่านี้ พูดคุยเรื่องบนเตียงสามสิบสองกระบวนท่าอะไรทำนองนั้น

“เรื่องนี้น่ะ พูดแล้วยาว เอาแบบนี้ ไว้รอกลับเมืองหยินโจวคุณเลี้ยงข้าวผม ผมค่อย ๆ สอนคุณ” เซียวหยางพูดพลางยิ้มกว้าง

“แอดวีแชทหน่อย แอดวีแชท……”

“ผมแสกนคุณแล้วกัน……”

เย่หยุนซูฟังบทสนทนาที่ทั้งสองคนคุยกันไม่ชัดเท่าไหร่ แต่ได้กลอกตาใส่เซียวหยางไปทีหนึ่ง ไอ้หมอนี่ทำไมเจอใครครั้งแรกก็สนิทกับเขาไปหมด

หลังจากดำน้ำเสร็จ เซียวหยางและเย่หยุนซูก็กลับไปยังห้องพักที่โรงแรม เดิมทีเย่หยุนซูอยากแช่น้ำอาบให้สบายใจ แต่เมื่อเห็นไอ้ลามกอยู่ข้าง ๆ ก็ล้มเลิกความคิดนี้ไปทันที

เธอเลยตัดสินใจไปเดินเล่นที่ห้างดิวตี้ฟรีของซานย่าในตอนบ่าย เพื่อซื้อกระเป๋าและเครื่องสำอาง

ระหว่างทางที่ไปเดินเล่น เย่หยุนซูอดสงสัยไม่ได้ เลยเอ่ยถาม “เซียวหยาง ทำไมนายถึงกลั้นหายใจอยู่ใต้น้ำได้นานขนาดนั้น? นายไม่ต้องหายใจเหรอ?”

“ฉันบอกแล้วไง ฉันฝึกในอ่างเก็บน้ำหน้าหมู่บ้านมาตั้งแต่เด็ก!”

แน่นอนว่าเซียวหยางไม่ได้ฝึกในอ่างเก็บน้ำหรอก เหตุผลที่เขาสามารถกลั้นหายใจได้นานขนาดนั้น เป็นเพราะวรยุทธ์อย่างหนึ่งที่บันทึกอยู่ในพลังเทพมังกร เรียกว่าวิชาปิดกั้นลมหายใจดอกฟ้า สามารถปิดกลั้นลมหายใจของตัวเองได้ภายในเวลาหนึ่งก้านธูป

แน่นอนว่าเรื่องพวกนี้บอกให้เย่หยุนซูรู้ไม่ได้

หลังจากเย่หยุนซูมาถึงห้างฯ ก็เหมือนแมวเห็นปลาไม่มีผิด เผยให้เห็นจิตใจของเด็กสาวจนหมดเปลือก เธอเริ่มซื้อ ซื้อ แล้วก็ซื้ออย่างบ้าระห่ำ เพียงช่วงบ่ายได้รูดบัตรไปหลายแสน ซื้อเครื่องสำอาง น้ำหอม กระเป๋าไปมากมาย

ส่วนเซียวหยางได้กลายเป็นพนักงานหิ้วของให้เย่หยุนซูอย่างเต็มตัว บนเต็มแขวนกระเป๋าและถุงเครื่องสำอางเต็มไปหมด

ไม่รู้ว่าทูตสวรรค์เสราฟิมทั้งสี่ท่านที่อยู่ไกลถึงยุโรปมาเห็นสภาพแบบนี้ของคิงดราก้อนของพวกเขา จะรู้สึกยังไง

หลังจากช้อปปิ้งเสร็จ กลับถึงห้องพักทั้งคู่ก็เหนื่อยกันแล้ว จึงได้แยกย้ายกันนอนเอนหลังที่บนเตียงและโซฟาเพื่อพักผ่อนกันสักครู่ จากนั้นผ่านไปชั่วพริบตาก็ถึงเวลามื้อค่ำแล้ว

บุฟเฟต์อาหารทะเลที่โรงแรมแห่งนี้มีชื่อเสียงมาก เย่หยุนซูอดใจรอไม่ไหวจนต้องลากเซียวหยางไปทานมื้อค่ำด้วยกัน

ทั้งสองคนสั่งไวน์มาขวดหนึ่งด้วย

เมื่อไวน์สองสามแก้วตกถึงท้อง ทั้งสองคนก็เริ่มพูดคุยกัน

เย่หยุนซูอดสงสัยไม่ได้ จึงเอ่ยถาม “เซียวหยาง เมื่อก่อนนายทำอะไรกันแน่? ดำน้ำ ซิ่งรถ ชกต่อย ทำอาหาร รวมถึงทักษะการแพทย์……ทำไมนายทำเป็นหมดทุกอย่าง?”

“อีกอย่าง นายบอกว่านายเป็นเด็กกำพร้า งั้นนายก็ไม่เคยเจอกับพ่อแม่ของนายเลยใช่ไหม?”