90 ลูกสาวคนที่สองของตระกูลซิลเวอร์ ริเคลวิต้า
“ฮี่ฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ!!!!”
เสียงกรีดร้องอันตึงเครียดดังก้องไปทั่วท้องฟ้าเหนือดินแดนซิลเวอร์
เป็นเสียงกรีดร้องของหญิงสาวที่สัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณของการฉีกผ้าไหมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แผดเสียงขึ้นฟ้ากรอกตาขึ้นจนเห็นแต่ตาขาว เป็นการแสดงออกที่ค่อนข้างน่ากลัวแปลก ๆ ล่ะ
พี่ชาย ลิลิมิ และริโนกิสที่อยู่ใกล้ ๆ เรเลียเรดและสาวใช้ส่วนตัวที่รีดเหงื่ออยู่อีกที่ รวมทั้งเหล่าสาวใช้ของตระกูลซิลเวอร์ต่างรีบมารวมตัวกัน
จากนั้น ทุกคนยกเว้นพี่ชายกับริโนกิสต่างทำหน้าค่อนข้างอึดอัดกัน ขณะกำลังมองไปที่ผู้หญิงผมแดงที่ตัวสั่น กุมศีรษะและหมอบตัว ส่งเสียงกรีดร้อง
ใบหน้าที่ดูคล้ายกับวิกซอน・ซิลเวอร์ปรากฎออกมาตอนที่พี่ชายเรียกชื่อสาวใช้คนหนึ่งในตอนที่มาถึงตระกูลซิลเวอร์
เหล่าพี่สาวน้องสาวต่างช่วยกันจำกัดการปรากฎตัวของเธอ
ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายกว่ากันที่ คนพ่อและพี่สาวคนโตออกไปทำงาน
………..
ฉันทำผิดพลาดไปงั้นเหรอ
ฉันควรทักทายไม่ใช่เหรอ
หรือว่าฉันควรจะใช้ดาบมือจัดการเธอให้ร่วงก่อนที่จะกรีดร้อง
แต่ว่า ฉันลังเลที่จะจัดการลงมือกับคนที่ยังไม่สามารถระบุตัวตนได้ชัดเจน โดยเฉพาะกับผู้หญิง
เหล่าคนรับใช้พูดอะไรไม่ออก ฉันแน่ใจว่าพวกเขาเข้าใจสถานการณ์ดี
ผู้หญิงที่กรีดร้องกำลังตัวสั่นหันก้นมาทางนี้
และ ฉันเป็นคนนอกที่ไม่รู้สถานการณ์ ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถแตะต้องเธอได้
ท่ามกลางบรรยากาศชุลมุนที่ทุกคนทำอะไรไม่ถูก พูดอะไรไม่ออก และขยับตัวไม่ได้――
“――แยกย้าย! ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น แยกย้ายกันไปซะ!”
ลิลิมิผู้กล้าหาญออกคำสั่ง
“เนียจัง นีลคุง ไม่เห็นอะไรทั้งนั้นใช่ไหมจ๊ะ?”
พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพยักหน้า
อันที่จริงฉันก็คิดอยู่เหมือนกันว่าเธอต้องเป็นคนที่ค่อนข้างขี้อายที่อาจจะแค่พยายามอยากคุยด้วย ฉันเลยลองเรียกเธอก่อน
ทว่าการเรียกเธอกลับกลายเป็นเรื่องใหญ่แทน แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจที่ก่อปัญหาขึ้น
“ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้วก็คงต้องให้ทักทายกันอย่างเหมาะสม ฉันขอเวลาสักแป๊บ”
――ม๊า ฉันเองก็รู้ดีว่าหากคุณไปกรีดร้องและปฎิเสธในระหว่างการทักทายแขก สิ่งนี้ก็ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากจะเป็นจุดด่างพร้อยของขุนนาง
นั่นเป็นเหตุผลที่ลิลิมิบอกเหล่าคนรับใช้ว่า「ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น」และหันมายืนยันกับพวกเราว่า 「ไม่เห็นอะไรทั้งนั้นใช่ไหมจ๊ะ? 」
“เนีย ถึงจะยังเร็วไปหน่อย แต่พวกเราขึ้นไปอาบน้ำด้วยกันเถอะ”
เรเลียเรดดึงมือของฉันอย่างแรง 「ยังเร็วเกินไปที่จะเลิก พึ่งเริ่มฝึกกันเอง ฉันยังอยากริโนกิสชุ่มเหงื่อมากกว่านี้」……ฉันคิดในใจ แต่ในจุด ๆ นี้ ฉันคิดว่าตามใจเธอไปจะดีกว่า
“งั้นพี่จะขึ้นไปด้วยดีไหมนะ”
ดูเหมือนพี่ชายก็ตัดสินใจที่จะเลิกแล้วเหมือนกัน บางทีแบบนั้นก็น่าจะดีกว่าเหมือนกัน เรเลียเรดเปล่งเสียงอันร้อนแรงและหอบหายใจยาว 「เอ๊ะ、ด้วยกัน……?」ดูท่าแม่หนูนี้จะจินตนาการถึงฉากอาบน้ำด้วยกันไปซะแล้ว ――ไม่ไปหรอกนะ พี่ชายน่ะ ฤดูร้อนนี้ ฉันสอนเขาไปแล้วว่าถ้าไปทุกอย่างจะจบลงทันที
ด้วยเหตุนั้น
“―― ยินดีที่ได้รู้จักครับ ริเคลวิต้าโดโนะ ผม นีล・ลิสตันครับ”
“―― ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ริเคลวิต้าโดโนะ หนู เนีย・ลิสตันค่ะ”
พวกเราทั้งสองคนคือทายาทตระกูลลิสตัน ……เพียงแค่จิตวิญญาณด้านในแตกต่างกันนิดหน่อย
หลังจากอาบน้ำ และมานั่งที่โต๊ะในสวนเพื่อดื่มชา พวกเราก็ถูกเรียกไปที่ห้องที่ดูเหมือนจะเป็นห้องรับแขก――ซึ่งเหมือนพึ่งกำลังจัดเสร็จใหม่ ๆ
ฉันทักทายผู้หญิงผมแดงที่ตึงเครียดและประหม่าอีกครั้ง
“ริริ ระ ริริริ ริเคล เคอะ ขะ ขอโทษกับก่อนหน้านี้…….”
เธอเต็มไปด้วยความตึงเครียด ขณะที่นั่งเงียบ ๆ บนเก้าอี้ น้ำเสียงของเธอยิ่งแข็งทื่อขึ้นไปอีก
ดวงตาของเธอมีน้ำตาไหล เธอทำตัวกระสับกระส่าย และพฤติกรรมก็ยังน่าสงสัย แต่……อืม เธอเป็นหญิงสาวที่ตัวเล็กและน่ารัก ชุดเดรสสีขาวเรียบๆที่ดูเหมือนชุดวันพีชก็เข้ากับเธอดี
ลูกสาวคนที่สองของซิลเวอร์
พวกเธอทุกคนมีผมสีแดงและดวงตาสีเทา แม้ว่าจะมีเฉดสีที่แตกต่างกันอยู่บ้างก็ตาม วิกซอน・ซิลเวอร์ก็มีสีใกล้เคียงกับสีน้ำตาล แต่ก็ยังสามารถเรียกว่าผมสีแดงได้เช่นกัน
ในแง่ของอายุ เธอควรที่จะแก่กว่าลิลิมิที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอ แต่เนื่องจากรูปร่างที่เล็ก และหน้าตาที่ดูเด็ก เธอจึงดูอายุเท่ากันหรือน้อยกว่าด้วยซ้ำ
เธอคือริเคลวิต้าสินะ ……จะว่ายังไงดี ดูจะมีอาการโรควิตกกังวลทางสังคมระดับสูงสุดเลย ดูเหมือนเธอจะขี้อายมาก
“ต้องขอโทษด้วยนะที่เธอมาทักทายช้า อย่างที่เห็นกัน เธอค่อนข้าง……ค่อนข้างขี้อายมาก และไม่กล้าที่จะคุยกับคนแปลกหน้านะ”
ลิลิมิอธิบายตามสภาพที่ปรากฎ
“คนที่ไม่รู้จักสินะคะ แล้วกับคนในครอบครัวไม่เป็นไรเหรอคะ?”
“เอ๊ะ? อ้า ม๊า……หมายถึง คุยกับใครไม่ได้จริง ๆ นอกจากครอบครัวนะ เน๊ะ…….”
ฟุอึน
จ๊า แล้วนั่นล่ะ
“ริเคลวิต้าโดโนะ ได้มาชมการแสดงละครครั้งแรกของหนูใช่ไหมคะ? 『หญิงสาวในห้วงรัก』นะคะ”
ฉันจำได้ว่าเหมือนฉันจะได้ยินเรื่องนี้จากเรเลียเรดหลังจากที่เข้าสถาบัน
ถ้าจำไม่ผิด เป็นลูกสาวคนที่สองที่ไปโรงละครกับพ่อของเธอ หรืออะไรทำนองนั้น「ฉันไม่ไปหรอกนะ แต่!」หรืออะไรทำนองนั้น
ในตอนนั้น ฉันได้ยินชื่อของริเคลวิต้าแน่ ๆ ……เรื่องก็เป็นแบบนั้น
ถ้าบอกว่ากับคนในครอบครัวไม่เป็นไร ก็คงจะเป็นเรื่องจริงที่เธอไปดูละครได้
ในขณะนี้ ฉันยังคงติดหนี้บุญคุณของตระกูลลิสตันอยู่ ฉันจึงพยายามสวมบทบาทขุนนางในระดับขั้นต่ำสุดเอาไว้ ……แน่ใจแบบนั้น บางทีน่ะ
“ขอบพระคุณที่มานะคะ ไม่ทราบว่าสนุกไปกับการแสดงหรือเปล่าคะ?”
ฉันไม่รู้ว่าอะไรดึงดูดใจเธอ แต่ดูเหมือนเธอจะไปดูละครเรื่องนั้นจริง ๆ
ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ไปที่เมืองหลวงก็เป็นภาระใหญ่แล้ว
“อะ อะออ อืม……”
เธอแสดงออกอย่างค่อนข้างเงอะงะ แต่ความขี้อายยิ่งทำให้ริเคลวิต้ายิ่งดูเด็กกว่าวัย
“ดะ ได้เห็นเนียจังสด ๆ เป็นครั้งแรก อุเอ๊ะๆๆ ดีต่อใจ…… !”
…………
“วันนี้มาได้ขนาดนี้ มาทำกันเถอะ!”
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันรู้สึกเหมือนถูกจ้องมองอย่างหลงใหล ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกถึงความชั่วร้าย ลามก เร่าร้อน และแรงจูงใจแอบแฝงจากสายตาของริเคลวิต้า แต่ก็ถูกขัดจังหวะโดยลิลิมิซึ่งกระโดดเข้ามาขวางสายตาของพวกเรา ฉันอยากจะคิดว่าฉันคิดผิด ……ดวงตาของพวกเราสบกันจนเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจผิดหรือหลอกลวงได้
ม๊า อะไรสักอย่าง
ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าริเคลวิต้าเป็นผู้หญิงแบบไหน แต่ฉันคิดว่าเข้าใจได้อย่างถูกต้องแล้วว่า เหตุผลอะไรที่ทำให้คนในตระกูลซิลเวอร์ทั้งหมดทำหน้าตาบูดบึ้งกัน