ศาสตราเซียนระดับนภา!

“ต้วนหลิงเทียน?”

ได้ยินคำแนะนำของฟ่านเฉียน สายตาป๋ายลี่หงพลันเบนไปตกที่ร่างต้วนหลิงเทียนทั้งมองพินิจทันที “เจ้าน่ะหรือศิษย์ฝ่ายนอกที่สร้างวีรกรรมมากมายทั้งที่เข้าสำนักมายังไม่ทัน 3 เดือนดี?”

“ต้วนหลิงเทียน คารวะอาวุโสป๋ายลี่หง”

ตอนนี้เองต้วนหลิงเทียนก็ประสานมือคารวะป๋ายลี่หงเช่นกัน

“อาวุโสฟ่านเฉียนกลับพาเจ้ามาได้ ดูเหมือนว่าเจ้าจักสำคัญมิน้อยในสายตาอาวุโสฟ่านเฉียน…ว่าแต่เจ้าดั้นด้นมาหาข้าเพราะมีเรื่องอันใดเล่า?”

ป๋ายลี่หงเปิดประตูเห็นภูผาถาม

“อาวุโสป่ายลี่หง ข้ามาหาท่านที่นี่ เพราะคิดขอให้ท่านช่วยจารึกอาคมเซียน ‘เจาะทะลวง’ ลงบนอาวุธเซียนของข้า”

ต้วนหลิงเทียนเองก็กล่าวตอบออกไปตามตรง

“อาคมเซียนเจาะทะลวงงั้นรึ?”

ป๋ายลี่หงพอได้ยินพลันส่ายหน้าไปมา “หากเจ้ามาเพราะคิดให้ข้าช่วยจารึกอาคมเซียนเจาะทะลวงเกรงว่าเจ้าคงมาเสียเที่ยวแล้ว…อาคมเซียนระดับ 3 ดาวนั้น กระทั่งข้าเองก็ต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ถึงจักจารึกออกมาได้สักอาคม อีกทั้งข้ายังต้องมีอารมณ์นึกครึ้มเสียค่อนถึงจะจารึกมันได้…”

อารมณ์นึกครึ้ม?

พอต้วนหลิงเทียนได้ยินคำนี้ มุมปากอดไม่ได้ที่จะกระตุกขึ้นมาตงิดๆ

พวกช่างฝีมือนี่…นับว่าขยันทำตามใจตัวเองกันเหลือเกิน!

“อาวุโสป๋ายลี่ถึงแม้ท่านจะกังวลว่ามิอาจจารึกอาคมเซียนลงบนเกาทัณฑ์ของข้าได้…แต่ข้าเองก็พอคาดไว้แล้ว เช่นนั้นข้าจึงคิดให้ท่านเพียงจารึกอาคมเซียนลงบนสายเกาทัณฑ์ของข้าเท่านั้น เพราะถึงแม้จะเป็นสายเกาทัณฑ์แต่มันก็ใช้งานได้เช่นกัน…”

ต้วนหลิงเทียนมองป๋ายลี่หงค่อยกล่าวออกมาอย่างไม่รีบไม่ร้อน

“เพ่ย! เจ้าเด็กน้อยเจ้าคิดรึว่าใช้วาจายั่วยุกระตุ้นข้าอย่างโง่งมเช่นนี้แล้วจักมีประโยชน์?”

ป๋ายลี่หงแค่นเสียงสบถ สายตาที่ใช้มองต้วนหลิงเทียนพลันเพิ่มความดูแคลนออกมา

ฟ่านเฉียนที่ยืนอยู่ข้างๆถึงกับเหวอไปพักหนึ่ง ค่อยเผยยิ้มเฝื่อนๆออกมา มันเองก็คิดว่าครั้งนี้ต้วนหลิงเทียนก้าวร้าวไปแล้ว!

มากล่าววาจายั่วยุหมายกระตุ้นกันแบบนี้ อย่าว่าแต่อาวุโสป๋ายลี่หงเลย ให้เป็นมันก็ของขึ้น!

“อาวุโสป๋ายลี่หง เช่นนั้นข้าขอบังอาจให้ท่านมาเดิมพันกับข้าสักคราเป็นไรเล่า?”

ต้วนหลิงเทียนกระพริบตาคราหนึ่ง ขณะกล่าวมุมปากยังเผยรอยยิ้มลี้ลับออกมา

“เดิมพันรึ อย่างไร?”

ป๋ายลี่หงกล่าวถามเสียงเฉย

“หากท่านมีสามารถจารึกอาคมเซียนลงบนเกาทัณฑ์ของข้าได้ แม้จะเป็นแค่อาคมเซียนระดับ 1 ดาวก็ตาม ข้าจะยอมรับความพ่ายแพ้ทันที! และข้าจะจ่ายคะแนนอุทิศให้ท่านเปล่าๆ 1,000,000 แต้ม!!”

ต้วนหลิงเทียนมองป๋ายลี่หงค่อยกล่าวบอกวิธีเดิมพันและสิ่งเดิมพันออกมา

1,000,000 คะแนนอุทิศ!

ต้องกล่าวเลยว่าวาจานี้ของต้วนหลิงเทียนไม่เพียง ทำให้ฟ่านเฉียนตกใจ กระทั่งป๋ายลี่หงเองยังประหลาดใจกับเงื่อนไขของต้วนหลิงเทียนไม่น้อย

“เจ้าแน่ใจรึ?”

ถึงแม้ว่าป๋ายลี่หงจะเป็นปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 3 ดาวเพียงคนเดียวในสำนักจันทร์จรัสแสง จึงทำให้มันไม่ขาดคะแนนอุทิศไว้ใช้สอยแม้แต่น้อย ทว่าอย่างไรก็ตาม 1,000,000 คะแนนอุทิศของต้วนหลิงเทียนที่ยกมาเป็นรางวัลเดิมพัน มันก็ไม่รังเกียจที่จะรับ!

เพราะต่อให้เป็นศาสตราเซียนระดับนภา มันก็มั่นใจว่ามันสามารถจารึกได้!
(ศาสตราเซียนมีระดับ มนุษย์ ปฐพี นภา ขั้นก็เป็น ดั้งเดิม สามัญ โดดเด่น)

เช่นนั้นมันจึงไม่คิดแม้แต่น้อย ว่าจะไม่อาจจารึกอาคมเซียนลงบนศาสตราเซียนของต้วนหลิงเทียนได้!

“อาวุโสป๋ายลี่ ท่านยอมรับเดิมพันแล้วหรือ?”

ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม

“อืม”

ป๋ายลี่หงพยักหน้า

“อาวุโสป๋ายลี่ แต่ว่าท่านยังไม่ทันฟังเงื่อนไขยามท่านแพ้เลย ท่านกลับด่วนยอมรับแล้วแบบนี้…ไม่ใจเร็วไปหน่อยหรือ…”

ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามด้วยท่าทางประหลาดใจ

“เหอะ! ข้ามิแพ้หรอก!!”

ป๋ายลี่หงนั้น เรื่องอื่นมันไม่กล้าพูด แต่ถ้าเป็นการจารึกอาคมเซียนลงบนศาสตราเซียนล่ะก็ มันกล้าพูด!

“ถึงแม้ว่าท่านจะมีความมั่นใจมาก แต่ข้ายังคงต้องกล่าวบอกราคาที่ท่านต้องจ่ายหลังพ่ายแพ้การเดิมพันเสียก่อนอาวุโสป๋ายลี่…หากอาวุโสป๋ายลี่ไม่อาจจารึกอาคมเซียนลงบนศาสตราเซียนของข้าได้ ข้าอยากขอให้อาวุโสป๋ายลี่จารึกอาคมเซียนทะลวงเกราะลงบนสายเกาทัณฑ์ของข้า…”

ต้วนหลิงเทียนมองกล่าวกับป๋ายลี่หง

“เรื่องนี้มิมีปัญหา”

ป๋ายลี่หงรีบกล่าวตอบตกลงออกมาทันที

“อาวุโสป๋ายลี่ ข้ายังกล่าวไม่ทันจบ…”

ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาอีกครั้ง

“ต้วนหลิงเทียน เจ้าอย่าได้คืบจะเอาศอก!”

ป๋ายลี่หงขมวดคิ้ว

การเดิมพันด้วย 1,000,000 คะแนนอุทิศนั้น กล่าวไปก็เป็นราคาที่ต้องจ่ายสำหรับอาคมเซียนทะลวงเกราะระดับ 3 ดาวแล้ว

ตอนนี้พอเห็นต้วนหลิงเทียนคิดต่อรองเพิ่มราคาเดิมพัน แม้มันจะไม่คิดว่าตัวเองจะแพ้พ่าย แต่ก็บังเกิดความไม่พอใจอยู่บ้าง

“หากอาวุโสป๋ายลี่แพ้เดิมพัน นอกจากจารึกอาคมเซียนทะลวงเกราะให้ข้าเปล่าๆแล้ว ท่านยังต้องชี้แนะเต๋าแห่งการจารึกอาคมเซียนให้ข้าเป็นระยะเวลา 1 เดือนโดยไม่หวงหรือปกปิดความความรู้”

ต้วนหลิงเทียนไม่สนใจคำทัดทานของป๋ายลี่หง เพียงกล่าวต่อให้จบเรื่อง

พอได้ยินวาจาประโยคนี้ของต้วนหลิงเทียน ไม่เพียงแต่ป๋ายลี่หงจะอึ้ง กระทั่งฟ่านเฉียนยังตะลึง

ที่แท้ต้วนหลิงเทียนคนนี้สนใจ เต๋าแห่งการจารึกอาคมเซียนอย่างงั้นเหรอ?

“ทั้งหมดมีเท่านี้…ไม่ทราบท่านอาวุโสป๋ายลี่ยังเต็มใจรับเดิมพันของข้าหรือไม่?”

ต้วนหลิงเทียนมองถามป๋ายลี่หงด้วยรอยยิ้ม

“ฮึ่ม! ในเมื่อเจ้าหวังดีอุตส่าห์เอาคะแนนอุทิศมาให้ข้าถึงเรือน ข้ายังจะปฏิเสธทำอะไร?”

ป๋ายลี่หงกล่าวสืบต่อ “หยิบศาสตราเซียนของเจ้าออกมาเสีย! ข้าอยากรู้นักว่าศาสตราเซียนของเจ้ามันดีอย่างไรเจ้าถึงได้มั่นใจนักหนา…อ่อ ข้ามิได้กล่าวโอ้อวดหรอกนะ แต่ต่อให้เป็นศาสตราเซียนระดับนภา ข้าก็สามารถจารึกอาคมเซียนลงไปได้!”

ศาสตราเซียนระดับนภา?

ได้ยินวาจาประโยคนี้ของอาวุโสป๋ายลี่หง ต้วนหลิงเทียนลอบหัวเราะในใจ

ศาสตราเซียนระดับนภา ต่อหน้าเกาทัณฑ์ดับตะวันที่ในอดีตเป็นถึงยอดสมบัติสวรรค์ยังนับเป็นอะไรได้?

ภายใต้สายตาที่จับจ้องมองอย่างสนใจของป๋ายลี่หงและฟ่านเฉียน ต้วนหลิงเทียนสะบัดมือเรียกเกาทัณฑ์ดับตะวันออกมา ก่อนที่จะถือให้ทั้งคู่เห็นชัดๆ

พอเห็นเกาทัณฑ์ดับตะวัน ฟ่านเฉียนถึงกับเหวอไปทันที มุมปากยังอดไม่ได้ที่จะกระตุก…เพราะมันช่างมีสภาพอนาถเหลือร้าย…

ศาสตราเซียนนี้ไม่มีทีท่าว่าจะเป็นศาสตราเซียนที่มีคุณภาพพอจะท้าทายความสามารถของอาวุโสป๋ายลี่หงได้สักกะผีกเดียว!

อย่างไรก็ตามทัศนคติของป๋ายลี่หงที่มีต่อเกาทัณฑ์ดับตะวันนั้น ต่างจากฟ่านเฉียนอย่างสิ้นเชิง

มีคำกล่าวที่ว่า ‘คนในวงการแลเห็นช่องทาง คนนอกวงการชมดูเอาสนุกสนาน’

เพียงมองปราดเดียวอาวุโสป๋ายลี่หงก็เห็นถึงความไม่ธรรมดาของเกาทัณฑ์ดับตะวันในมือต้วนหลิงเทียน ไม่ต้องกล่าวถึงตัวเกาทัณฑ์ที่มันยากหยั่งถึง ลำพังแค่สายเกาทัณฑ์มันก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นวัตถุดิบที่เหนือกว่าศาสตราเซียนระดับมนุษย์และปฐพีจะมีได้

“นิ…นี่มัน เส้นเอ็นมังกรงั้นเหรอ!?”

พออาวุโสป๋ายลี่หงรับเกาทัณฑ์ดับตะวันจากมือไปตรวจดู เมื่อมองสายเกาทัณฑ์ให้ละเอียด ลูกตามันก็เบิกกว้างกล่าวออกมาด้วยความตะลึง

เอ็นมังกร!

ฟ่านเฉียนเองก็ตกใจกับวาจานี้ของป๋ายลี่หง!

ถึงแม้ในประวัติศาสตร์ของดินแดนเทพยุทธ์เซียนจะมีการเล่าขานถึง ‘มังกร’ อยู่ไม่น้อย

อย่างไรก็ตามเท่าที่พวกมันรับทราบ ‘มังกร’ นั้นดำรงอยู่แต่เพียงในตำนานเท่านั้น

ทว่ามาตอนนี้อาวุโสป๋ายลี่หงกลับบอกว่าสายเกาทัณฑ์ของต้วนหลิงเทียน ทำจากเอ็นมังกร!?

“อาวุโสป๋ายลี่ ท่านมองออกด้วยงั้นเหรอ?”

ต้วนหลิงเทียนเองก็ประหลาดใจไม่น้อย ไม่คิดเลยว่าป๋ายลี่หงจะมองวัตถุดิบทำสายเกาทัณฑ์เขาออก!

ต้องทราบด้วยว่าตั้งแต่ที่เขามาอยู่ในสำนักจันทร์จรัสแสง ป๋ายลี่หงนับเป็นคนแรกที่มองออก…ว่าสายเกาทัณฑ์ดับตะวันของเขาคือเอ็นมังกร!

“ในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าเรา มีศาสตราไม่น้อยที่ใช้เอ็นมังกรทำสายเกาทัณฑ์…และศาสตราประเภทเกาทัณฑ์ที่ใช้เส้นเอ็นมังกร ต่อให้ระดับต่ำที่สุดก็ล้วนเป็นศาสตราเซียนระดับนภาดั้งเดิมทั้งสิ้น…ดูเหมือนว่าที่แท้เกาทัณฑ์ของเจ้าจักเป็นศาสตราเซียนระดับนภา!”

ป๋ายลี่หงกล่าวพึมพำออกมาเสียงเข้ม

ศาสตราเซียนระดับนภา!

ฟ่านเฉียนถึงกับอื้ออึงไม่น้อย ด้วยไม่คิดเลยว่าต้วนหลิงเทียนจะหยิบควักศาสตราเซียนระดับนภาออกมาดื้อๆแบบนี้

ต้องทราบด้วยว่ากระทั่งเจ้าสำนักจันทร์จรัสแสง ยังไม่มีปัญญาหาศาสตราเซียนระดับนภามาใช้ด้วยซ้ำ!

กระทั่งมองผ่านไปทั่ว 9 พันธมิตร ยังไม่มีขุมพลังไหนมีศาสตราเซียนระดับนภา!

ศาสตราเซียนระดับนภา?

ฟังที่ป๋ายลี่หงกล่าว ต้วนหลิงเทียนไม่ได้พูดอะไรออกมา

“จะอย่างไรก็ตามถึงจะเป็นศาสตราเซียนระดับนภา แม้ว่ามันจะยากเย็นนักที่ข้าจะจารึกอาคมเซียนลงไปได้ แต่ก็มิใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้…การเดิมพันครั้งนี้เจ้าแพ้แล้ว!”

ป๋ายลี่หงเงยหน้าขึ้นมามองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยความมั่นใจ ประกาศชัยชนะออกมา!