ตอนที่ 113 คิดไปไกล

ถ้าเวลานี้ทุกคนในห้องยังคงคิดว่าหลินหนานเป็นคู่นอนของหลิวหยิงหยิง และเป็นเพียงแค่นักเลงหัวไม้ข้างถนนจริงๆ ก็นับว่าไอคิวของพวกเขาคงจะต้องต่ำมาก ถึงขั้นมีปัญหาอย่างแน่นอน “

และเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ ก็เป็นคําอธิบายได้อย่างดีว่า เพราะเหตุใดหลินหนานจึงทําให้นักสู้ดอกไม้แดง มีสภาพที่น่าสมเพชเวทนาแบบนั้นได้ ทั้งที่ดูเหมือนเขาแทบจะยังไม่ได้ลงมือทําอะไรด้วยซ้ำไป

นั่นเพราะ.. หลินหนานมีกําลังภายในที่แข็งแกร่งมากนั่นเอง!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหยานลู่เฟิง ที่เวลานี้ยังไม่หายตกใจ และต้องใช้เวลาอยู่นาน กว่าที่จะสามารถสงบจิตสงบใจลงได้

ที่ผ่านมา.. เขาภาคภูมิใจอย่างมากกับตําแหน่งปรมาจารย์ครึ่งระดับของตนเอง แต่หลังจากที่ได้เห็นการต่อสู้ของคนทั้งสองเมื่อครู่นี้ ดูเหมือนว่าความภาคภูมิใจทั้งหมดของเขา กลับมลายหายไปจากใจในทันที

ปรมาจารย์เฉินแข็งแกร่งอย่างมากก็จริง แต่หลินหนานกลับทรงพลังเสียยิ่งกว่า!

แต่การประลองของทั้งสองคนเมื่อครู่นี้ จะเรียกว่าการต่อสู้ก็คงจะไม่ถูกนัก ควรเรียกการประลองกําลังภายในน่าจะถูกต้องกว่า!

“เอาล่ะ! ยังมีใครคิดที่จะห้ามผมอีกมั้ย?” หลินหนานยิ้มเล็กน้อย ในขณะที่ร้องตะโกนถามออกไป

แววตาตากระจ่างใสของหลินหนานกวาดมองทุกคนทั่วห้อง แต่ทุกคนต่างก็พากันก้มหน้าก้มตาลง และไม่มีใครกล้าสู้ตาหลินหนานเลยแม้แต่คนเดียว

แม้กระทั่งจางเฉิงกับหยวนเฟิงที่เคยดูถูกเหยียดหยามหลินหนาน เวลานี้ เพียงแค่ได้เห็นสายตาของหลินหนานที่จ้องมองมา พวกเขาทั้งสองคนก็แทบจะปัสสาวะราดกางเกงอยู่แล้ว..

ในขณะที่หวูเฟิงได้แต่กระพริบตาปริบๆ

น่าขัน.. แม้แต่สุดยอดปรมาจารย์อย่างเฉินมู่เฟิงยังถึงกับนอนสลบไสล ยังจะมีใครในห้องกล้าคิดที่จะห้ามปรามหลินหนานอีกเล่า

ส่วนหลิวหยิงหยิงนั้น ได้แต่จ้องมองหลินหนานด้วยแววตาชื่นชมไม่มีที่สิ้นสุด!

สายตาของหลิวหยิงหยิงที่จ้องมองหลินหนานอยู่เวลานี้ ไม่ต่างจากสายตาของเหล่าแฟนคลับที่จ้องมองไอดอลของตนเองด้วยความชื่นชม!

ช่างเก่งกาจ กล้าหาญ หยิ่งผยอง สมกับเป็นชายชาตรี

แม้กระทั่งท่านเส้นยังไม่สามารถทําเช่นนี้ได้

แม้หลิวหยิงหยิงจะคอยเตือนตัวเองว่า อย่าได้นําหลินหนานไปเทียบกับเส้นกู่เตา แต่เธอก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองไม่ให้นําไปเปรียบเทียบได้จริงๆ

หลินหนานส่ายหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเอามือไขว้หลัง แล้วหันหลังเดินออกจากห้องไปอย่างช้าๆ จนกระทั่งลับสายตาในที่สุด

หลังจากที่หลินหนานหายไปแล้ว เสียงถอนหายใจก็ดังสนั่นไปทั่วทั้งห้อง บ่งบอกถึงความโล่งใจของผู้คนที่เหลืออยู่

หลี่เฉวียนยู่รีบวิ่งเข้าไปหาเฉินมู่เฉิงพร้อมกับร้องตะโกนเรียก “อาจารย์เฉิน. อาจารย์เฉินครับ..”

แต่เฉินมู่เฉิงก็ยังคงหมดสติ และไม่มีการตอบรับแต่อย่างใด

เวลานี้ ภายในห้องจัดเลี้ยงเริ่มโกลาหลมากขึ้น

หลิวจื่อหยานผู้ชายอ้วนท้วน ก็ได้อาศัยจังหวะที่ทุกคนกําลังโกลาหลวุ่นวายนี้ หลบออกไปจากห้องจัดเลี้ยงก่อน

ในขณะที่หยานลู่เฟิงก็ได้แต่เอานิ้วเคาะโต๊ะ พร้อมกับรําพึงรําพันกับตัวเองว่า “ดูท่าคุณชายหลินผู้นี้คงจะเป็นมังกรแห่งเจียงไฮวจริงๆ!”

หยานลู่เฟิงมั่นอกมั่นใจอย่างมาก เพราะข้อเท็จจริงที่เห็นอยู่ ยากที่จะทําให้เขาคิดเป็นอื่นไปได้..

“เอ๊ะ?! มีใครได้กลิ่นปัสสาวะบ้าง?” จู่ๆใครบางคนก็ยกมือขึ้นบิดจมูก พร้อมกับร้องตะโกนถามทุกคนในห้อง

ทุกคนต่างก็หันมองไปทางต้นกําเนิดของกลิ่นเหม็นนี้ และสายตาของพวกเขาก็จับจ้องอยู่ที่ร่างของหวังชางหยาง ซึ่งเวลานี้ทรุดนั่งลงกับพื้นด้วยความหวาดกลัวสุดขีด และเป้ากางเกงของเขาก็เปียกชุ่ม และกําลังส่งกลิ่นเหม็นโชยออกมา

หมอนี่กลัวจนนี่ราด!

หลังจากที่ร้องเรียกอยู่นาน แต่เฉินมู่เฉิงก็ยังคงไม่รู้สึกตัวเสียที หลี่เฉวียนยู่ถึงกับทรุดลงไปกองกับพื้นเช่นกัน เขาคิดไม่ถึงว่า การเปิดตัวครั้งแรกของตนเองในคืนนี้ กลับต้องมาพังพินาศอย่างไม่เป็นท่าแบบนี้

แต่แล้วจู่ๆ หลี่เฉวียนยู่ก็ลุกขึ้นไปคว้าคอเสื้อถังจินซ่ง พร้อมกับร้องตะโกนถามเสียงดังราวกับคนคลุ้มคลั่ง

“มันเป็นใคร? บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ว่าไอ้สารเลวนั่นมันเป็นใคร?”

ถังจินซ่งเองก็ไม่เคยเห็นหลี่เฉวียนยู่โมโหราวกับคนบ้าแบบนี้มาก่อน ดวงตาของเขาแดง สีหน้าท่าทางราวกับสัตว์ป่าที่ดุร้าย!

ถังจินซ่งถึงกับตัวสั่นไปหมด และตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นสะท้าน “เขา เขาชื่อหลินหนาน! แต่เป็นใครมาจากไหน ผมเองก็ไม่รู้ครับคุณชายหลี่!”

“หลินหนานงั้นรึ?! หลินหนาน!”

หลี่เฉวียนยู่สบถชื่อหลินหนานออกมาซ้ำๆกันอยู่หลายครั้ง ราวกับว่าจะให้ชื่อนี้สลักลึกลงไปในจิตวิญญาณของตนเอง เพื่อให้สามารถจนจําชื่อนี้ไปจนวันตาย..

จนกระทั่งผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดหลี่เฉวียนยู่ก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก “ฉันสาบานว่า.. จะลบชื่อและแซ่ของมันออกจากโลกใบนี้ให้ได้!”

หลังจากเหตุการณ์การต่อสู้สิ้นสุดลงไปครู่ใหญ่ ในที่สุดห้องจัดเลี้ยงก็ได้กลับสู่ความสงบอีกครั้ง แต่ก็เหลือเพียงคนไม่กี่คนเท่านั้นที่อยู่ในห้อง

แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนจะจดจําไว้ก็คือ ภาพการต่อสู้ของยอดฝีมือทั้งสองคนในคืนนี้ จะสลักฝังแน่นลึกลงไปในจิตใจของพวกเขาอย่างไม่มีวันลืมเลือน!

และหลังจากนั้น ชื่อของหลินหนานก็ได้แพร่สะพรัดไปทั่วทั้งเมืองเจียงไฮว!

หลังจากเดินออกจากห้องจัดเลี้ยงไปได้ไกลหลายสิบเมตรแล้ว จู่ๆ หลินหนานก็รู้สึกแน่นหน้าอกขึ้นมาอย่างมาก เขารู้สึกราวกับว่าร่างกายทั้งร่างกําลังจะระเบิดออก

และในที่สุด หลินหนานก็ไม่สามารถอดกลั้นต่อไปได้อีก เขากระอักเลือดสีแดงออกมาเต็มปาก ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นซีดเผือดขึ้นมาทันที แล้วร่างทั้งร่างก็ล้มลงไปกับพื้น

“ซวยแล้วสินะ! นี่คงจะเป็นราคาที่ฉันต้องจ่ายสินะ!”

หลินหนานกัดฟันแน่พร้อมกับยิ้มออกมาอย่างขมขื่น เขายกมือขึ้นเช็ดเลือดสีแดงที่ติดอยู่ขอบปากออก

การต่อสู้เมื่อครู่นี้ ทําให้หลินหนานต้องฝืนใช้กําลังภายในทั้งหมดที่เขามีอยู่!

แต่เป็นเพราะเขาเพิ่งจะฟื้นฟูจุดตันเถียนซึ่งเป็นทะเลแห่งปราณได้ไม่นาน พลังปราณภายในร่างจึงยังไม่อยู่ในระดับสูงสุดที่แท้จริง

การต้องผืนเอาชนะยอดฝีมือระดับสุดยอดปรมาจารย์อย่างเฉินมู่เฉิง ทําให้เขาต้องใช้พลังปราณในร่างไปจนหมด..

หากเฉินมู่เฉิงมีกําลังภายในที่สูงส่งกว่านี้อีกหน่อย แน่นอนว่าหลินหนานต้องพ่ายแพ้ยับเยินอย่างไม่ต้องสงสัย

และหากมีผู้ฝึกกําลังภายในที่อยู่ภายในห้องเข้ามาช่วยเขาอีกแรง ก็ยากที่หลินหนานจะสามารถเอาชนะ และกลับออกมาเช่นนี้ได้แน่!

นับว่าโชคดี.. ที่เขาตั้งใจแสดงให้ทุกคนเห็นถึงความแข็งแกร่งของตนเองเสียก่อน ทําให้ไม่มีใครกล้าที่จะเข้ามาช่วย หรือคิดที่จะหยุดเขาไว้หลังจากนั้น หาไม่แล้วตัวเขาเองก็คงต้องพ่ายแพ้และถูกเหยียบย่ำศักดิศรีไม่เหลือเช่นกัน

“ดูท่าฉันคงต้องจัดให้เรื่องการหลอมโอสถ ขึ้นมาเป็นเรื่องเร่งด่วนของชีวิตแล้วสินะ!” หลินหนานหายใจถี่พร้อมกับพิมพ์ออกมา ก่อนจะค่อยๆลากสังขารที่อ่อนแรงนั้นออกไปเรียกรถแท็กซี่ที่หน้าโรงแรม

………

เมื่อหลินหนานมาถึงหน้าบ้านตระกูลเย่ เขาก็รีบกดกริ่งหน้าประตูทันที

ลุงฉู่พ่อบ้านประจําตระกูลเยเป็นคนเดินออกมาเปิดประตูเหมือนเคย แต่เมื่อเห็นหลินหนานยืนพิงกําแพงคล้ายคนหมดเรี่ยวหมดแรง ก็ถึงกับร้องตะโกนถามออกไปด้วยความตกใจ

“นี่… เป็นอะไรมากมั้ย?”

เวลานี้ร่างกายของหลินหนานเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ราวกับคนที่เพิ่งขึ้นมาจากสระน้ำ

“ผมไม่เป็นอะไร!”

หลินหนานตอบกลับไปเพียงแค่สั้นๆ แล้วก็ไม่สนใจลงฉ่อีก แต่รีบพุ่งตัวเข้าไปในบ้านทันที

แต่แล้วจู่ๆ ภาพตรงหน้าหลินหนานก็เริ่มเลือนลาง และเวลานี้เขาก็รู้สึกปวดศรีษะจนแทบระเบิด และหากตอนนี้มีเตียงอยู่ตรงหน้า เขาคงทิ้งตัวลงนอนอย่างไม่ลังเล

เหนื่อย!

เหนื่อยมากเหลือเกิน!

ทันทีที่หลินหนานเดินเข้าประตูบ้านไป ใครบางคนก็เดินออกมาพอดี

“หลินหนาน.. นี่นาย..”

แต่ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะได้พูดจบประโยค ร่างของหลินหนานก็ล้มคว่ำลงทันที คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามได้แต่กรีดร้องออกมา และไม่สามารถหลบได้ทัน แล้วร่างของหลินหนานก็ล้มทับร่างของคนผู้นั้น ก่อนที่ทั้งคู่จะล้มลงไปกองกับพื้นพร้อมกัน

แต่หลังจากที่ล้มลงไปกองกับพื้นนั้น หลินหนานก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่อ่อนนุ่ม จนอดที่จะพึมพําออกมาไม่ได้

“อืมม… นุ่ม… อบอุ่น…”

หลินหนานหัวเราะเบาๆ ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะดับมืดลง..

“หลินหนาน.. ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้นะ!!”

เย่ชิงเฉิงร้องตะโกนสั่งเสียงดัง พร้อมกับพยายามผลักร่างของหลินหนานที่ทับร่างตนเองอยู่นั้นไปไว้ข้างๆแทน แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามออกแรงผลักมากเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถขยับร่างที่หนักอึ้งของหลินหนานได้

เย่ชิงเฉิงทั้งโมโหทั้งผิดหวัง

หมอนี่ต้องจงใจแกล้งทําเป็นล้มทับฉันแน่?

หึ… ที่ผ่านมานายคงแกล้งทําตัวเป็นสุภาพบุรุษ ไม่แตะเนื้อต้องตัวฉันสินะ! ตอนนี้หางจิ้งจอกโผล่แล้วล่ะสิ!

ไอ้คนชั่วช้าเจ้าเล่ห์

เย่ชิงเฉิงได้แต่กร่นด่าอยู่ในใจ และเวลานี้ใบหน้าของเธอก็สัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวของหลินหนาน

และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆเธอก็รู้สึกว่า หัวใจของตนเองเต้นเร็วผิดปกติ

ใบหน้าของเธอแดงก่ำขึ้นมาทันที และนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ใกล้ชิดกับบุรุษในระยะกระชั้นชิดถึงเพียงนี้

ที่สําคัญ. ผู้ชายคนนี้ก็เป็น “สามีในนาม” ของเธออีกด้วย

เย่ชิงเฉิงค่อยๆ หันหน้ากลับมามอง และสังเกตใบหน้าของหลินหนานอย่างละเอียด และนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้มองหน้าผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีอย่างเต็มตา

จะว่าไป.. หลินหนานก็ไม่ใช่คนขี้ริ้วขี้เหร่อะไรเลย ใบหน้าของหมอนี่ดูคมสัน คิ้วทั้งสองข้างก็ชี้ตรงน่ามอง!

เสียแต่ว่า เวลานี้ชายหนุ่มที่กําลังหลับไหล กลับขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น ราวกับเด็กน้อยที่กําลังฝันร้าย และดูคล้ายคนกําลังหวาดกลัว

ในระหว่างที่เย่ชิงเฉิงกําลังพินิจพิจารณาใบหน้าของหลินหนานอย่างละเอียดอยู่นั้น เสียงกระแอมก็ดังมาเข้าหูของเธอ

เย่ชิงเฉิงรีบหันไปมองทันที และพบว่าพ่อบ้านคู่กําลังยืนอยู่ที่หน้าประตู และเมื่อสายตาของเธอกับพ่อบ้านฉ่สบกัน เย่ชิงเฉิงก็มีท่าทีกระอักกระอ่วน

เพราะภาพที่เกิดขึ้นเวลานี้ คงยากที่จะทําให้ผู้ที่พบเห็นไม่คิดไปไกล!

***********

ฝากนิยายของทีมงานด้วยนะคะ

เรื่อง : เทพปีศาจผงาดฟ้า

เขาฟื้นสติตื่นขึ้นมาในร่างและผืนพิภพแห่งใหม่ หลังจากที่ล่วงลับตายจากไปในโลกก่อนหน้า

หลงเฉินเริ่มออกเดินทางครั้งใหม่ในผืนพิภพที่เต็มไปด้วยเทพเซียนและมารปีศาจ สิ่งมีชีวิตลึกลับมากมายหลายหลาก และมนุษย์ที่สามารถบ่มเพาะพลังจนขึ้นกลายเป็นยอดฝีมือผู้ไร้เทียมทานพร้อมผงาดขึ้นสู่จุดสูงสุดแห่งผืนพิภพทั้งมวล

หนทางเบื้องหน้าของเขามิได้เรียบง่ายอย่างที่คิด จําต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเกินคณานับ สังหารทุกคนที่เข้าขัดขวาง ยอดผู้ฝึกยุทธ์พเนจรท่องโลกาท้ายุทธภพสุดขอบฟ้า จนกลายเป็นที่รู้จักในนามเทพปีศาจแห่งจักรวาล ปกครองความเป็นและความตาย

แม้กระทั้งสรวงสวรรค์ยังต้องก้มกราบต่อหน้าเขา!

——-

เรื่อง : จักรพรรดิ์เทพมังกร

ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทําให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด

จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลําดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..