บทที่ 60 คนที่ขวางผม ตาย!

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 60 คนที่ขวางผม ตาย!

ขณะที่จ้าวหลินกำลังรู้สึกหวาดกลัว มู่เซิ่งก็เดินทางไปที่ Royal Club อย่างรวดเร็ว

เพราะที่นั่นเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงรุ่น

ขณะที่มู่เซิ่งเดินทาง เขากำลังจะโทรไปหาเจียงหว่านเพื่อถามสถานการณ์ แต่พบว่าไอโฟน 6 ของตนเองปิดอัตโนมัติ ทำยังไงก็ไม่สามารถเปิดเครื่องได้

เขาโยนโทรศัพท์ใส่ท้ายรถ แล้วเหยียบคันเร่งอย่างแรง

ยี่สิบนาทีต่อมา มู่เซิ่งขับรถมาถึงลานจอดรถของ Royal Club

รถบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 ถือเป็นรถดีเช่นกัน เขาจอดรถตรงบริเวณที่พนักงานบริการจัดไว้ให้ เปิดประตูแล้วลงจากรถ

มีสาวสวยอายุระหว่าง 18-22 ปี ยืนเป็นแถวอยู่ตรงประตูทางเข้าของ Royal Club ซึ่งสาวสวยทุกคนสามารถดึงดูดใจผู้คนได้ และใน Royal Club ก็ยังมีสาวสวยยืนทักทายแขกอยู่ทั้งสองฝั่งอีกด้วย

ไม่น่าแปลกใจที่งานเลี้ยงรุ่นถึงได้เลือกจัดที่นี่ตลอด เพราะการบริการเช่นนี้ของ Royal Club ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้ชายรู้สึกฟุ้งเฟ้อจนแทบระเบิดออกมา

หลังจากเดินเข้าไปในประตูของ Royal Club แล้ว เขาได้ยินเสียงอุทานด้วยความตกใจดังมาจากชั้นสอง

มู่เซิ่งเดินขึ้นไปบนบันได เขาเห็นชั้นสองเต็มไปด้วยดอกไม้และลูกโป่ง

บนชั้นสอง มีดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่วางอยู่ และเหนือดอกกุหลาบ ก็มีลูกโป่งสีชมพูมากมายอยู่ในถุงตาข่าย อลังการมาก เห็นได้ชัดว่าใช้ความพยายามไปไม่น้อย

มู่เซิ่งเห็นร่างของเจียงหว่าน

มีชายคนหนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางดอกกุหลาบ

ผู้ชายสวมสูทสีแดง รูปร่างสูงใหญ่ สุภาพเรียบร้อย ยืนอยู่ตรงนั้นราวกับรวมเป็นหนึ่งเดียวกับดอกกุหลาบ เขาถือกล่องสีแดงไว้ในมือ และยิ้มด้วยรอยยิ้มจาง ๆ

ผู้ชายคนนั้นก็คือจางเหวินเจี๋ย

เขาเตรียมตัวสำหรับครั้งนี้เป็นเวลานาน และถือโอกาสงานเลี้ยงรุ่นคราวนี้ สารภาพรักกับเจียงหว่าน

เขาเชื่อว่าการกระทำเช่นนี้ของตนเอง และของขวัญที่เตรียมมาอย่างดี สามารถทำให้เจียงหว่านรู้สึกประทับใจแน่นอน

“จางเหวินเจี๋ย เจียงหว่านมาแล้ว”

เพื่อนนักเรียนคนหนึ่งโบกมือให้จางเหวินเจี๋ย

จางเหวินเจี๋ยคุกเข่าลง แล้วยกกล่องที่อยู่ในมือขึ้น

เขาเปิดกล่อง แหวนเพชรก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน

มีเพชรสิบหกเม็ดอยู่รอบ ๆ แหวน ส่องประกายแวววาว

“เจียงหว่าน ผมชอบคุณ”

หลังจากเขาเอ่ยปาก

ทันใดนั้น ถุงตาข่ายที่เต็มไปด้วยลูกโป่งก็แยกเป็นสองส่วน แล้วลูกโป่งสีชมพูมากมายก็ตกลงมาจากถุงตาข่าย โรแมนติกเหมือนสายฝนที่โปรยปราย

“ว้าว!”

“เป็นการสารภาพรัก!”

“ฉันเคยเห็นแหวนวงนี้แล้ว เป็นของ Dior รุ่นลิมิเต็ด ราคาสามล้านกว่า!”

“แล้วชายหนุ่มที่ร่ำรวยคนนั้นคือใคร? ถ้ามีคนสารภาพรักกับฉัน แบบนี้ ฉันจะตอบตกลงทันที!”

“รวยและหล่อ แถมยังโรแมนติกอีกด้วย!

ผู้ชมตะโกนดังสนั่น และรู้สึกอึ้งกับฉากนี้ สารภาพรัก มีดอกไม้ ลูกโป่ง แล้วยังมีแหวนเพชรอีกด้วย เมื่อสาว ๆ ทั่วไปเห็นฉากนี้ ก็เข่าอ่อนไปนานแล้ว

เสียงกรีดร้องที่ดังสนั่น ทำให้จางเหวินเจี๋ยยิ้มด้วยความมั่นใจ เขาเชื่อว่าเมื่อเทียบกับขยะอย่างมู่เซิ่งแล้ว เจียงหว่านจะต้องเลือกตนเองอย่างแน่นอน

ขณะนี้ เขาหยิบแหวนเพชรออกมา ถือไว้ในมือ และถือโอกาสใช้คำพูดทะลวงแนวป้องกันในใจของเจียงหว่าน

“เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เพราะผมเรียนจบมัธยมปลาย จำเป็นต้องแยกจากคุณ เพื่อไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ”

“ถึงตัวผมจะจากไปแล้ว แต่ผมก็คิดถึงคุณเสมอ และคิดถึงชีวิตมัธยมปลายของพวกเรา”

“ตอนนี้ผมกลับมาแล้ว!”

“ผมรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในร้านอาหารก่อนหน้านั้น อาจทำให้คุณรู้สึกไม่ดี แต่ตอนนี้ผมกลับมาแล้ว ผมจะชดเชยความผิดพลาดของผม และชดเชยความคิดถึงของผมด้วย!”

จางเหวินเจี๋ยเตรียมบทพูดมาเป็นเวลานาน และกล่าวอย่างประทับใจ “เจียงหว่าน เลิกกับไอ้ขยะนั่น แล้วแต่งงานกับผมเถอะ ผมจะทำให้คุณมีความสุขอย่างแน่นอน!”

ฝูงชนที่อยู่รอบ ๆ ต่างกรีดร้องดังสนั่น!

เพื่อนร่วมชั้นของเจียงหว่าน แสดงความอิจฉาออกมาเช่นกัน เพราะในบรรดาเพื่อนนักเรียน จางเหวินเจี๋ยร่ำรวยที่สุด

หลังจากนั้น ผู้หญิงสิบกว่าคนก็ตะโกนเสียงดังพร้อมกันว่า “แต่งงานกับเขา แต่งงานกับเขา!”

“ขอบคุณ”

ขณะนี้ เจียงหว่านยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ด้วยสีหน้าเย็นชา

“ฉันชอบดอกไม้และแหวนมาก แต่ฉันมีสามีแล้ว” เจียงหว่านกล่าวเบา ๆ ถึงแม้เธอจะรู้ว่าฐานะของจางเหวินเจี๋ยดีกว่ามู่เซิ่งหลายเท่า แต่เจียงหว่านไม่ได้มีความรู้สึกดีกับเขาแม้แต่น้อย

ผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้านข้างกล่าวว่า “เจียงหว่าน อย่าเอาแต่ใจอีกเลย จางเหวินเจี๋ยชอบคุณมานานแล้ว”

“ผมรู้ว่าคุณมีสามีแล้ว แต่เขาเป็นแค่คนไร้ประโยชน์” จางเหวินเจี๋ยกล่าวซ้ำอีกรอบ ด้วยความจริงจังว่า “เจียงหว่าน เลิกกับไอ้ขยะนั่นเถอะ มีเพียงผมเท่านั้น ที่คู่ควรกับคุณ!”

เจียงหว่านรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย เธอขมวดคิ้วและกล่าวว่า “จางเหวินเจี๋ย ฉันจะพูดอีกครั้ง ฉันมีสามีแล้ว”

สีหน้าของจางเหวินเจี๋ยเปลี่ยนไป แต่เขายังคงยิ้ม “ผมรู้ แต่ผมไม่แคร์! ผมชอบคุณจริง ๆ”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ นึกไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะมีสามีแล้ว แต่เขาก็ยังตามจีบเธออีก

เพื่อนนักเรียนสมัยมัธยมปลายที่ยืนอยู่รอบ ๆ ทุกคนเป็นเดือดเป็นร้อนแทนจางเหวินเจี๋ย

“เจียงหว่าน เขารักคุณมากขนาดนี้ คุณยังไม่พอใจอะไรอีก?”

“ถูกต้อง หนุ่มหล่อและมีความสามารถอย่างจางเหวินเจี๋ย ถึงคุณจะจุดตะเกียงหา ก็หาไม่เจออีกแล้ว! แต่คุณยังปฏิเสธเขาอีก?”

“สามีของคุณเป็นแค่ขยะเท่านั้น เป็นเขยแต่งเข้าสามปี ทำได้เพียงเกาะคนแก่กินเท่านั้น ไร้ประโยชน์จริง ๆ?”

เพื่อนนักเรียนที่ชื่อหลี่นั่วหนานเบ้ปาก และกล่าวว่า “เจียงหว่าน แต่งงานกับเขาเถอะ!”

“แต่งงานกับเขา!”

“แต่งงานกับเขา!”

ฝูงชนที่ยืนอยู่ด้านหลังตะโกนเสียงดังเช่นกัน

เจียงหว่านขมวดคิ้วและกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “จางเหวินเจี๋ย คุณไม่เข้าใจภาษาคนเหรอ? ฉันบอกว่าฉันมีสามีแล้ว เขาชื่อมู่เซิ่ง!”

“ผมมีอะไรที่เทียบไอ้ขยะนั่นไม่ได้”

จางเหวินเจี๋ยไม่สามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว ใบหน้าที่มีรอยยิ้มเต็มไปด้วยความเย็นชา

มู่เซิ่งยืนอยู่ตรงบันได เขารู้สึกสะเทือนใจมาก ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเมื่อเช้าจ้าวหลินถึงได้ขวางเขา

เขาเดินมุ่งหน้าไปทางเจียงหว่าน

แต่ทันทีที่เขาเดินขึ้นไปบนบันได เขาก็ถูกบอดี้การ์ดร่างกายกำยำห้าคนขวางทาง

หัวหน้าบอดี้การ์ดสวมแว่นกันแดด และสีหน้าเย็นชา

“คุณชายจางกำลังขอความรัก คนที่ไม่เกี่ยวข้อง ไสหัวออกไป!”

“เธอเป็นภรรยาของผม แต่คุณกลับบอกว่ามันไม่เกี่ยวกับผมเหรอ?”

มู่เซิ่งกล่าวด้วยความเย็นชา

“ฮ่า ๆ ที่แท้แกก็คือไอ้ขยะที่คุณชายจางเอ่ยถึง”

หัวหน้าบอดี้การ์ดหัวเราะเยาะ

“หลีกไป”

มู่เซิ่งหรี่ตาลงเล็กน้อย เผยให้เห็นเจตนาฆ่า

“ฮ่า ๆ ถ้าผมไม่หลีกล่ะ?”

บอดี้การ์ดอีกสองคนก็เดินเข้ามาเช่นกัน

“ผมคิดว่าเป็นใคร? ที่แท้เป็นคนไร้ประโยชน์นี่เอง? แกรู้สึกว่าตนเองถูกหยามศักดิ์ศรีใช่ไหม? ไม่สามารถทนเห็นภรรยาถูกคนอื่นขอแต่งงานได้ใช่ไหม?”

“แกเป็นแค่คนไร้ประโยชน์ จะสามารถทำอะไรได้?”

“คุณชายจางบอกว่าถ้าแกมา ก็ให้คุกเข่าอยู่ที่ประตู แล้วมองภรรยาตนเองถูกขอแต่งงาน!”

บอดี้การ์ดกล่าวเยาะเย้ยมู่เซิ่งอย่างไม่เกรงกลัว จากนั้นหัวหน้าบอดี้การ์ดก็ใช้มือชี้มู่เซิ่ง

บอดี้การ์ดคนอื่น ๆ ก็เดินเข้ามาเยาะเย้ยมู่เซิ่งเช่นกัน

ภรรยาถูกคนอื่นขอแต่งงาน ตนเองได้แต่เฝ้ามองอยู่นอกประตูเท่านั้น คนไม่เอาถ่านแบบนี้ ไร้ประโยชน์จริง ๆ

“คุกเข่าลง!”

บอดี้การ์ดกดไหล่มู่เซิ่ง ขอเพียงแค่เขาออกแรงเพียงเล็กน้อย มู่เซิ่งก็ต้องคุกเข่าลง

คลิก——

เสียงกระดูกแตกดังอยู่ตรงบันได

ตอนนี้ผู้ชายร่างกำยำสูง 190 เซนติเมตร ยืนอึ้งอยู่ที่เดิม จากนั้นเข่าของเขาก็กระแทกพื้น แล้วล้มตัวไปข้างหน้า

“คนที่ขวางผม ตาย!”

สายตาของมู่เซิ่งเย็นชา เขาไม่พูดอะไรอีก จากนั้นเขาก็เดินผ่านบอดี้การ์ดไป