ตอนที่ 38

Silver Overlord

38 ตระกูลลู่ผู้ร่ำรวย

แม้ว่ามันจะแตกต่างจากม้าทั่วไปแต่ความเร็วของมันกลับเร็วกว่าม้าธรรมดามาก และความอบอุ่นสัมผัสได้บนหลังกว้างของม้าแรดนั้นเหนือกว่าม้าธรรมดาอย่างเทียบไม่ติด

เอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกว่าถ้าเขาจะเปรียบเทียบม้าธรรมดากับม้าแรด มันก็เหมือนกับการเปรียบเทียบซานตาน่าตัวเก่ากับเมอร์เซเดสเบนซ์รุ่นใหม่

หลังจากผ่านขั้นตอนท่าม้าแล้ว เอี้ยนลี่เฉียงพบว่ามันราบรื่นกว่าและง่ายกว่าสำหรับเขาที่จะขี่ม้าแรด

เขานั่งบนอานหนาและกว้างได้อย่างง่ายดายโดยบีบหลังของม้ากับต้นขาของเขาในขณะที่ปล่อยให้เท้าของเขาห้อยลงมา

เขากลายเป็นหนึ่งเดียวกับม้าแรดอย่างสมบูรณ์ ร่างกายส่วนบนของเขามั่นคงราวกับภูเขาและสามารถขี่ม้าแรดตัวนี้ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้มือควบคุมบังเหียนเลย

พ่อบ้านลู่กำลังสังเกตเอี้ยนลี่เฉียงอยู่เงียบๆ เมื่อเขาพบว่าเอี้ยนลี่เฉียงไม่จำเป็นต้องใช้มือในการขี่ม้าแรด ปากของพ่อบ้านลู่ก็อ้ากว้างเต็มไปด้วยความแตกตื่นตกใจ

นี่ไม่ใช่ระดับทักษะที่เด็กน้อยอย่างเอี้ยนลี่เฉียงควรมีในวัยของเขา แม้ว่าจะเป็นองครักษ์จากคฤหาสน์ตระกูลลู่แต่มีไม่กี่คนเท่านั้นที่มีทักษะในการขี่ม้าเช่นนี้ แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังทำไม่ได้

มีความคิดมากมายวนเวียนอยู่ในหัวของเขา ทันใดนั้นเขาก็เริ่มมีความมั่นใจในตัวของเอี้ยนลี่เฉียงมากขึ้นบางทีเขาอาจจะทำสำเร็จจริงๆ

เด็กคนนี้มีทักษะของอัศวินระดับสูงตั้งแต่อายุยังน้อย สิ่งนี้พิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าต้องมีบางสิ่งที่พิเศษเกี่ยวกับเบื้องหลังของเขา

บุคคลเช่นนี้คงไม่หลอกลวงเขาโดยไม่คำนึงถึงความรุนแรงของสถานการณ์

“ไม่ทราบว่าน้องชายมีนามว่าอย่างไร” เมื่อขี่บนม้าน้ำเสียงของ พ่อบ้านลู่ดูสุภาพมากขึ้น เขาพยายามเรียบเคียงถามถึงที่มาของเอี้ยนลี่เฉียง

“ข้ามีนามว่าเอี้ยนลี่เฉียง!” เอี้ยนลี่เฉียงยิ้มและมองไปที่ พ่อบ้านลู่

“ปรมาจารย์เฉียนแห่งย่านโรงตีเหล็กคือท่านลุงของข้าเอง!”

“อา! ปรมาจารย์โรงตีเหล็กของทางการคือท่านลุงของเจ้า?” ดวงตาของพ่อบ้านลู่เปล่งประกาย ใบหน้าของเขามีความโล่งใจอย่างเห็นได้ชัด

” ทำไม? พ่อบ้านลู่รู้จักกับท่านลุงของข้าด้วยหรือ?”

“ฮ่าฮ่า! ทั่วทั้งเขตหวงหลงไม่มีใครไม่รู้จักปรมาจารย์เฉียนนอกจากนี้ปรมาจารย์เฉียนยังเป็นลูกค้าประจำของโรงเตี๊ยมของเรา ครั้งล่าสุดในช่วงวันเกิดของนายนายผู้เฒ่า ปรมาจารย์เฉียนถึงกับมาแสดงความยินดีด้วย!”

“โอ้เยี่ยมมากวันนี้ข้าออกมาจากบ้านตั้งนาน ซึ่งตามปกติแล้วข้าต้องกลับไปย่านโรงตีเหล็กตั้งแต่หัวค่ำ ในตอนนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ลุงเฉียนกังวลเกี่ยวกับข้า ข้าขอรบกวนพ่อบ้านลู่ให้ใช้คนออกไปส่งข่าวได้หรือไม่”

“ไม่มีปัญหา! เมื่อเราไปถึงคฤหาสน์ตระกูลลู่ข้าจะส่งคนไปที่ ย่านโรงตีเหล็กและแจ้งปรมาจารย์เฉียนเพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องกังวล!”

ม้าแรดที่วิ่งด้วยความเร็วเต็มที่นั้นรวดเร็วมากมันคล้ายกับรถฟอร์มูล่าวันที่วิ่งด้วยความเร็วสุดขีด เสียงที่กีบเหล็กแปดข้างกระทบพื้นเป็นเหมือนสายฟ้าคำรามและมีประสิทธิภาพมากกว่าเสียงไซเรนบนรถตำรวจเสียอีก

ตามถนนผู้คนและรถลากต่างรีบหลบไปด้านข้างตั้งแต่ที่ม้ายังอยู่ห่างไกลออกไปนับร้อยวา พวกเขาทั้งสองสามารถผ่านไปได้อย่างรวดเร็วโดยไม่มีสิ่งกีดขวางตามท้องถนน

เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งเค่อ หลังจากที่เอี้ยนลี่เฉียงได้ติดตาม พ่อบ้านลู่มา ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงคฤหาสน์ตระกูลลู่โดยไม่ชักช้าเสียเวลา

คฤหาสน์ตระกูลลู่ก็เป็นไปตามชื่อของมัน มันเป็นอาณาจักรของตระกูลลู่ซึ่งมีสมาชิกมากมายภายในตระกูล คฤหาสน์หลังนี้ตั้งอยู่ในอาณาเขตที่มีขนาดใหญ่มากใหญ่กว่าเมืองหลิวเหอเสียอีก

มีบ้านจำนวนมากมายอยู่ในอาณาเขตแห่งนี้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นสมบัติของตระกูลลู่เพียงผู้เดียวซึ่งรวมถึงดินแดนโดยรอบของหมู่บ้านหลายพันลี้ซึ่งเป็นระยะทางไกลกว่าที่ตาเห็น

ด้านนอกของคฤหาสน์ตระกูลลู่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงป้องกันที่มีความสูงมากกว่าสี่วา ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นโดยการวางหินทรายสีแดงเข้มทับถมกัน

มันมั่นคงและมีกลิ่นอายโบราณ ด้านบนของกำแพงมีเชิงเทินและหอคอยรวมทั้งทหารรักษาการณ์คอยแจ้งเตือน

ด้านนอกของกำแพงป้องกันมีคลองขนาดใหญ่กว้างหลายสิบวาเป็นปราการธรรมชาติคอยขวางกั้นรวมทั้งเป็นชลประทานให้พื้นที่เพาะปลูกรอบๆที่อยู่อาศัย อาจกล่าวได้ว่านี่เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

แม้ว่าเอี้ยนลี่เฉียงจะไม่ได้เป็นคนรวยในชีวิตก่อนหน้านี้ แต่เขาก็เคยคบค้ากับคนรวยมาไม่น้อย

คนร่ำรวยเหล่านั้นเหมือนกันทั้งหมด พวกเขาสะสมสิ่งของต่างๆทั้งรถยนต์ทั้งเครื่องบินส่วนตัว รวมไปถึงคฤหาสน์หลังใหญ่

ถึงกระนั้นเมื่อเปรียบเทียบคนที่ร่ำรวยและมีอำนาจในชีวิตก่อนของเขากับตระกูลลู่แล้ว เอี้ยนลี่เฉียงก็ตระหนักว่าคนรวยและมีอำนาจที่เขาคุ้นเคยในชีวิตก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเลยต่อหน้าคฤหาสน์ตระกูลลู่

ในขณะนี้เอี้ยนลี่เฉียงได้แต่อ้าปากค้างด้วยความตกใจที่ด้านหน้าคฤหาสน์ตระกูลลู่ ในหัวของเขามีคำพูดเดียวเท่านั้น ‘โคตรพ่อโคตรแม่อลังการ’!

กี่ชั่วอายุคนแล้วที่ตระกูลต้องทำงานหนักและตั้งรกรากเพื่อที่จะบรรลุความมั่งคั่งในระดับนี้?

ด้วยความมั่งคั่งของตระกูลลู่ในอาณาจักรแห่งนี้เว้นแต่จะตั้งตัวขึ้นเป็นกบฏและถูกทางการปราบปรามย่อมไม่มีทางที่ตระกูลลู่จะถูกทำลายลงอย่างแน่นอน?

ในชีวิตก่อนหน้านี้ เอี้ยนลี่เฉียงรู้เกี่ยวกับมหาเศรษฐีคนหนึ่งที่แต่งงานกับดาราหญิงคนดัง ในท้ายที่สุดเขาถูกภรรยาน้อยรีดไถจนครอบครัวของเขาล้มละลาย

แต่ในกรณีของประมุขตระกูลลู่ต่อให้ถูกภรรยาน้อยนับพันคนรีดไถก็ไม่มีทางที่จะสั่นคลอนสถานะทางการเงินของครอบครัวพวกเขาได้!

ในตอนนี้พ่อบ้านลู่นำเอี้ยนลี่เฉียงผ่านประตูหลักที่เปิดกว้างเข้าไปในอาณาเขตของคฤหาสน์ตระกูลลู่โดยตรง

ที่ประตูทางเข้าของคฤหาสน์ใหญ่มีทหารรักษาการณ์สองแถวยืนอยู่ที่นั่น และข้างประตูมีสิงโตผู้พิทักษ์ขนาดยักษ์ที่ที่มีลักษณะน่าเกรงขามมันมีความสูงมากกว่าสองเมตรเสียอีก

ทั้งคู่ลงจากหลังม้าแรดของพวกเขาเด็กรับใช้คนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาจูงมาแรดออกไปทันที

พ่อบ้านลู่ร้องเรียกเอี้ยนลี่เฉียงก่อนให้รีบเดินตามเขาเข้าไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว

มีผู้คนมากมายอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ แต่วันนี้หลังจากเข้ามาใน คฤหาสน์ตระกูลลู่ เอี้ยนลี่เฉียงก็รู้สึกถึงบรรยากาศที่หดหู่อย่างเห็นได้ชัด

ตั้งแต่เขาเข้ามาที่นี่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ยินเสียงสนทนาของใครเลยแม้แต่น้อย…