ตอนที่ 94 แผนการแปลกๆของมาสเตอร์แรงค์8ล่ะ!

บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ

ภายใต้สายตาที่จดจ้องมาของแมงมุมราชินี ทำให้ขนทั่วทั้งตัวของวู่หยานลุกขึ้น และใบหน้าเขาก็เต็มไปด้วยเหงื่อเย็นเชียบ!

 

ถูกเจอแล้ว! ถูกเจอแล้ว!! ถูกเจอแล้ว!!!

 

หนี!! ต้องหนี!! หนีให้เร็วที่สุด!!!

 

ในชั่วพริบตา ก็ได้มีความคิดพวกนี้ผุดขึ้นมาในหัววู่หยาน มือทั้งสองจับฮินางิคุกับมิโคโตะแน่น เตรียมตัวใช้ไอเท็มประกันชีวิต

 

ฮินางิคุกับมิโคโตะราวกับพบว่าวู่หยานแปลกไป เห็นใบหน้าเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ บวกกับที่เขาตะโกนเมื่อกี้ ‘ชิบหายแล้วไง!’ ทำให้พวกเธอเริ่มร้อนรน

 

“มาสเตอร์!” อิคารอสราวกับพบว่าจิตใจของมาสเตอร์ตนแปลกไป เธอมองวู่หยานด้วยสายตากังวล ขณะที่คิดจะเดินเข้ามาหานั้นเอง

 

“หนีเร็ว!!”

 

โดยไม่รอให้ฮินางิคุกับมิโคโตะได้เอ่ยปากถาม วู่หยานพูดตัดบททันที การที่พวกเธอไม่เห็นสายตาของแมงมุมราชินีก็เป็นเรื่องปกติ เพราะตั้งแต่ตอนที่เขาตะโกนจนถึงตอนนี้มันเพิ่งผ่านไปไม่กี่วินาทีเท่านั้น!

 

หลังจากได้ยินคำพูดวู่หยาน ฮินางิคุกับมิโคโตะก็ไม่พูดอะไร ในเมื่อเขาพูดแบบนี้แสดงว่ามันต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ ดังนั้นทุกคนต่างก็หยิบเอาบางอย่างออกมาจากตัวพร้อมๆกัน โลลิน้อยลิลินที่ยังคงหลับตาปี๋อยู่ก็หยิบออกมาเหมือนกัน…

 

เป็น คัมภีร์ที่ทำมาจากคริสตัลนั่นเอง!

 

ขณะที่พวกวู่หยานกำลังจะเปิดใช้คัมภีร์ ก็มีเสียงลมดังขึ้นมาทำลายความเงียบของที่นี่

 

ได้ยินเสียงลม พวกวู่หยานก็หยุดมือกึก แมงมุมราชินีหันสายตาออกไปจากทางพวกเขา ทำให้วู่หยานโล่งอก

 

เส้นแสงสามเส้นได้บินผ่าอากาษไปด้วยความเร็วเหนือเสียง เมื่อเสียงลมมาถึงหูพวกวู่หยาน เส้นแสงทั้งสามก็ได้มาถึงตัวแมงมุมราชินีแล้ว!

 

 

เป็นเพราะมันกะทันหันเกินไป เมื่อได้สินเสียงลมฉีกอากาศ แมงมุมราชินีเพิ่งหันไปมอง เส้นแสงก็มาถึงตนเองแล้ว

 

พวกวู่หยานแอบชะโงกหน้ามอง เห็นเพียงแต่เส้นแสงล้อมแมงมุมทั้งสามอยู่ตรงกลาง กลายเป็นรูปสามเหลี่ยม โดนมีพวกแมงมุมอยู่ตรงกลาง

 

ในตอนนี้เองพวกวู่หยานก็มองเห็นชัดแล้วว่า มันเป็นคนสามคน!

 

และยังแข็งแกร่งมากด้วย!

 

โมมิลี้ : เลเวล72

 

ชาร์ล  : เลเวล73

 

คาร์ลเรียส : เลเวล75

 

“มาสเตอร์ เป็นสิ่งมีชีวิตบนเรือเหาะค่ะ….”

 

คำพูดห้วนๆของอิคารอสที่ชวนทำให้คนฟังรูสึกงุนงง แต่วู่หยานสามารถเข้าใจได้ว่าเธอจะสื่อถึงอะไร ก่อนหน้านี้ที่อิคารอสตรวจเจอแรงค์8สามคนบนเรือ ก็คือสามคนตรงหน้านี้ไงล่ะ!

 

‘ในที่สุดก็ยอมโผล่หัวออกมาแล้ว? แต่เล่นเสนอหน้าออกมาตอนนี้มันออกจะ….โง่ไปมั้ยวะ อยากตายขนาดนั้นเลย?’

 

วู่หยานมองผู้เชี่ยวชาญแรงค์8ทั้งสามคนแล้วขมวดคิ้วแน่น ขณะเดียวกันก็ส่งสัญญาณให้พวกมิโคโตะรอดูสถานการณ์ไปก่อน แน่นอนว่าวู่หยานไม่ได้ให้พวกเธอเก็บคัมภีร์ไป เขาให้ถือว่าไว้เหมือนเดิม ถ้าเกิดอะไรขึ้นพวกเขาจะได้ใช้มันทันที!

 

แต่ทว่า การกระทำของพวกคาร์ลเรียส ทำวู่หยานสงสัยแบบสุดๆ ถึงแม้พวกเอ็งจะเป็นแรงค์8 แต่ก็คงไม่โง่จนดูไม่ออกหรอกมั้งว่าอีกฝ่ายเป็นแรงค์9น่ะ?

 

ถึงยังงั้นแถมที่จะหนีไป กลับโผล่หน้าออกมาแทน อย่าบอกนะว่าอยากตายจริงๆ? ก่อนหน้านี้ตอนที่ยังซ่อนตัวอยู่ก็ต้องเห็นฉากที่เพื่อนพ้องตายแล้วสิ น่าจะรู้แล้วว่าแมงมุมราชินีมันทรงพลังขนาดไหน!

 

อย่าบอกนะว่าพวกเอ็งโดนความโลภครอบงำจนมองอะไรไม่ออกแล้วน่ะ?

 

แต่วินาทีถัดมา วู่หยานก็ส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว การที่สามารถฝึกฝนจนมาถึงแรงค์8ได้ ย่อมไม่ใช่คนโง่แน่นอน ในเมื่อเลือกแบบนี้ แสดงว่ามันต้องมีเหตุผลแน่!

 

วู่หยานหัวเราะเยาะในใจ เขาเองก็เกือบลืมไปแล้วว่านอกจากฝ่ายตนเอง ก็ยังมีคนที่ซ่อนตัวอยู่ด้วย….

 

คนของโรงประมูล!

 

ไม่ว่าวู่หยานจะคิดอะไร สถานการณ์ในสนามรบก็ได้เปลี่ยนแปลงไปเมื่อแรงค์8สามคนออกมา เมื่อล้อมแมงมุมทั้งสามตัวแล้ว พวกเขาก็ได้หยิบเอาขวดยาที่บรรจุของเหลวสีโลหิตออกมาจากหน้าอก!

 

“เร็วเข้า!” คาร์ลเรียสตะโกนออกมา มือก็เปิดขวดยาทันที อีกสองคนก็ทำเหมือนกัน จากนั้นพร้อมใจกันเทลงพื้น

 

เมื่อเทหมดแล้ว ทั้งสามก็หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมา ก่อนจะแปะลงไปตรงจุดที่เทน้ำยาเมื่อกี้! เมื่อทำเสร็จหมดแล้วทั้งสามคนก็หยุดกึกแล้วยิ้มออกมา ราวกับได้ทำภารกิจเสร็จแล้ว

 

แมงมุมราชินีมองมนุษย์ทั้งสามที่ยืนล้อมมันด้วยสายตาเย็นชา อธิบายมาก็มาก แต่จริงๆแล้วจากตั้งแต่ที่แมงมุมราชินีหันไปมอง กับแมงมุมองครักษ์ที่เดินมาป้องกันราชินีของมัน ทั้งสามคนก็ได้เสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว!

 

รวมไปถึงพวกวู่หยาน ที่รู้สึกว่าแค่พวกตนกะพริบตาหนึ่งครั้ง กระบวนการทั้งหมดก็เสร็จสินแล้ว มันทั้งรวดเร็วและดูเป็นมืออาชีพมาก ราวกับได้ฝึกทำแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วนยังไงยังงั้น!

 

ทันใดนั้น ณ จุดที่แผ่นกระดาษสัมผัสกับของเหลวก็ได้เกิดแสงสีแดงลุกโชนขึ้น มองไปที่แสงสีแดงทำให้แมงมุมราชินีรู้สึกถึงอันตราย

 

แสงสีแดงยังคงส่องแสงมากขึ้นเรื่อยๆ มันเรืองแสงจนกระทั่งแสงสีดูเหมือนเลือดยังไงยังงั้น และตอนนี้เอง แมงมุมราชินีก็ยิ่งรู้สึกไม่ดีมากขึ้น สัญชาตญาณของมันบอกว่าจงรีบหยุดแสงนี้ซะ!

 

ดังนั้น แมงมุมราชินีจึงคำรามออกมาครั้งหนึ่ง แมงมุมองครักษ์ทั้งสองก็ราวกับได้รับคำสั่ง พวกมันต่างก็แยกกันวิ่งไปทาง ชาร์ล กับ คาร์ลเรียส ส่วนแมงมุมราชินีก็กำลังอ้าปากกว้างราวกับกำลังเตรียมทำอะไรบางอย่าง

 

แต่น่าเสียดาย ก่อนที่แมงมุมทั้งสามจะได้โอกาสทำอะไร พวกเขาก็ได้กระโดดถอยออกไปไกลแล้ว

 

กระดาษที่อยู่รอบๆแมงมุมราชินี ตอนนี้เองก็ได้เกิดไฟลุกขึ้นเผากระดาษจนเป็นเถ้าธุลี ขณะเดียวกันของเหลวที่เทลงไปตอนแรกก็ได้หายไป ก่อนจะมีเสาแสงทั้งสามที่แดงดุจโลหิตปรากฏขึ้นมา!

 

เสาแสงสั่นเล็กน้อย ก่อนจะเคลื่อนไปเป็นวงรอบๆ แต่ล่ะจุดที่มันเคลื่อนผ่านไปก็ได้ทิ้งเส้นสีแดงไว้ที่พื้นด้วย

 

มองดูเสาแสงรอบๆตน แมงมุมราชินีก็เกรี้ยวกราดทันที สายตาที่มองพวกคาร์ลเรียสยิ่งเย็นชามากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนปล่อยจิตสังหารอันทรงพลังไปปกคลุมทั้งสามคน ทำให้พวกเขาต้องถอยหลังหนึ่งก้าว

 

สามารถเห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขาหวาดกลัวแมงมุมราชินี แต่ทว่ามันไม่ได้มีแค่ความกลัวแต่ยังมีความมั่นใจที่ราวกับตนได้ชัยชนะแล้ว นี่ทำให้พวกวู่หยานที่แอบดูอยู่สงสัย

 

เสาแสงยังคงเคลื่อนตัวไปมาไปหยุด เส้นแสงบนพื้นเองก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ นาทีนี้เองแมงมุมราชินีก็คำรามลั่นเนื่องจากไม่สามารถอดทนต่อความรู้สึกไม่ดีที่ยิ่งมายิ่งมากในใจตน มันกระโดดตัวทะยานไปทางพวกคาร์ลเรียส ทันใดนั้นเส้นสีแดงตรงพื้นก็ได้ส่องแสง ก่อนที่แมงมุมราชินีจะกระเด็นกลับมาราวกับมีกำแพงที่มองไม่เห็นขวางไว้

 

แมงมุมราชินีโกรธเกรี้ยวสุดขีด พุ่งตัวกลับไปอย่างบ้าคลั่งแต่ก็ยังคงถูกดีดกระเด็นกลับมาทุกครั้ง เห็นแบบนี้พวกคาร์ลเรียสก็ถอยหายใจด้วยความโล่งอก ดูเหมือนพวกเขาเองก็ไม่ได้มั่นใจกับวิธีนี้สักเท่าไหร่ ว่ามันจะได้ผลกับแมงมุมราชินีมั้ย…..

 

เวลาผ่านไปแมงมุมราชินีก็ยิ่งบ้าคลั่งขึ้น เห็นได้จากเสียงสะท้านที่ถังขึ้นถี่ยิบมาหยุด ทุกครั้งที่แมงมุมราชินีพุ่งตัวไปเส้นแสงสีแดงก็จะกะพริบก่อนที่มันจะโดนตีกลับออกมา ดูราวกับเป็นผนึกยังไงยังงั้น

 

แต่ทว่าในใจวู่หยานก้ยังคงตึงเครียด!

 

เป็นเพราะเขาพบว่าหลังๆมา ช่วงเวลาที่แมงมุมราชินีโดนตีกลับยิ่งลดน้อยลงเรื่อยๆ จนตอนนี้มันก็ไม่โดนสะท้อนแล้ว!

 

พวกคาร์ลเรียสเห็นภาพนี้ ใบหน้าก็เปลี่ยนสี มองดูเส้นแสงสีแดงพนพื้นที่เวลาผ่านไปก็ยิ่งเบาบางลง พวกเขาต่างก็ยืนตัวเกร็ง

 

แต่ทว่าไม่นานนัก พวกเขาก็ราวกับค้นพบอะไรบางอย่าง ร่างกายแต่เดิมที่เกร็งก็ผ่อนคลายลง บนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้น….