บทที่ 80 รักษาจื่อเฟิง

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 80 รักษาจื่อเฟิง

คุณชายชุดสีน้ำเงินมองนางอย่างสงสัย หลานเยาเยายักไหล่

จากนั้นมุ่งหน้าไปยังทางที่มีเงาสีขาวสว่างวาบผ่านไป คุณชายชุดสีน้ำเงินไม่ได้ห้ามปราม แต่เดินตามไปพร้อมนาง

ใช้เวลาไม่นานนักพวกเขาก็มาถึงห้องหิน

คราวนี้หลานเยาเยาไม่รีบร้อนที่จะหากลไก เพราะมีคราบเลือดบนห้องหินนี้ และคราบเลือดยังไม่แห้ง

อาจมีใครบางคนอยู่ในห้องหินนี้ ไม่ก็ใครคนนั้นเพิ่งจากไปไม่นาน!

ไม่รู้ว่าจะใช่พวกเย่แจ๋หยิ่งเขาหรือเปล่า

“เจ้าคาดหวังว่าจะมีคนมาช่วยเจ้างั้นหรือ?” เสียงเย็นชาเล็กน้อยดังมาจากด้านหลัง

หลานเยาเยาไม่สนใจ พูดอย่างเฉยเมย:

“แน่อยู่แล้ว ตามอยู่เคียงข้างอ๋องเย่ ก็ปลอดภัยกว่าอยู่เคียงข้างเจ้าอยู่บ้าง”

“นั่นก็ใช่ แต่ถ้าอ๋องเย่เห็นว่าเจ้าอยู่กับข้า และเข้ากันได้ดีมาก เจ้าว่าเขาจะคิดอย่างไร?”

“คิดอย่างไรได้ล่ะ? ก็คิดว่าเจ้าใช้ดาบบังคับข้า เพื่อรักษาชีวิตของข้า ข้าทำได้เพียงอยู่อย่างเชื่อง

ที่จริงอาจพูดได้ว่าเจ้าติดสินบนข้าด้วยเงิน ข้าทนไม่ไหวที่จะหลอกใช้ จึงทำได้เพียงนำทางให้เจ้าอย่างเชื่อฟัง”

นี่ก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือ?

การแสดงออกของนางเป็นคนที่โลภและรักชีวิต เย่แจ๋หยิ่งก็รู้อยู่แล้ว

“หึๆ เจ้าช่างเป็นคนที่น่าสนใจ อ๋องเย่ชอบน่าสงสัย หากเจ้าไม่อยากให้เขาเข้าใจผิดอะไร ข้าสามารถสอนวิธีหนึ่งให้เจ้าได้……” เขาพูดเสนอ

แต่เขายังพูดไม่จบ หลานเยาเยาก็โบกมือทันที

“ไม่ต้องไม่ต้อง ไม่เป็นไร เข้าใจผิดก็เข้าใจผิดไปสิ! ยังไงข้าก็ไม่สำคัญกับเขา”

ล้อเล่นบ้าอะไร?

ถ้าให้เขาสอน หากเยแจ๋หยิ่งที่ไม่ได้สงสัย ก็จะกลายเป็นสงสัย หากสงสัยตั้งแต่แรก ก็ยิ่งวุ่นวายไปใหญ่

“ไม่สำคัญหรือ? ข้า……”

คุณชายชุดสีน้ำเงินยังพูดไม่จบ ประตูหินตรงหน้าเขาก็เปิดออกทันที คนคนหนึ่งที่มีเลือดเต็มตัวปรากฏขึ้น

เกือบชนเข้ากับหลานเยาเยา!

หลานเยาเยาจ้องมอง คือจื่อเฟิงที่สีหน้าซีดเซียวนั่นเอง ตอนนี้เขาล้มอยู่ที่พื้น ดูแล้วบาดเจ็บสาหัส

เดิมทีนางต้องการเดินหน้าดูอาการบาดเจ็บเขาทันที แต่ถูกคุณชายชุดสีน้ำเงินคว้าแขนเอาไว้ และพูดข่มขู่

“หากไม่อยากให้เขาตาย พระชายาเย่ทางที่ดีอยู่เฉยๆ มิฉะนั้นถ้าข้าไม่ระวังอาจฆ่าคนได้”

พูดจบก็ปล่อยมือนาง

ได้ยินเช่นนั้น!

หลานเยาเยาหันมาเหลือบมองเขา ส่งเสียงหึทันที ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและช่วยพยุงจื่อเฟิงขึ้นมา ทำเหมือนเสียงของคุณชายชุดสีน้ำเงินเป็นเสียงหูทวนลม

คุณชายชุดสีน้ำเงิน: “……”

คำข่มขู่ของเขาไม่มีอิทธิพลขนาดนั้นเชียวหรือ?

หลานเยาเยาในเวลานี้สนใจความรู้สึกของคุณชายชุดสีน้ำเงินที่ไหนกันล่ะ จื่อเฟิงอาจถึงแก่ชีวิตได้

หลังจากตรวจเช็กอาการบาดเจ็บของจื่อเฟิง หลานเยาเยาช่วยได้หรือไม่!

เขาอาการบาดเจ็บสาหัส และเสียเลือดมากเกินไป

หากไม่รีบจัดการโดยด่วน ก็ใกล้หมดลมหายใจแล้ว

แต่!

ข้างหลังนางมีคุณผู้ชายชุดสีน้ำเงินจ้องมองอยู่……

เฮ้อ!

ไม่สนแล้ว

หลานเยาเยาแสร้งทำเป็นล้วงมือเข้าไปในแขนเสื้อ จากนั้นก็หยิบยาสำหรับรักษาบาดแผลออกจากระบบ

“พระชายา ไม่……ได้!”

จื่อเฟิงแปลกใจที่หลานเยาเยาอยู่กับคุณชายชุดสีน้ำเงิน ที่แปลกใจยิ่งกว่าคือ หลานเยาเยาทำการรักษาให้เขาจริงๆ

นั่นเป็นถึงพระชายา!

“หยุดพูด ตอนนี้เจ้าคือผู้ป่วย เข้าคือหมอ ก็แค่นั้นเอง!”

พูดจบ ก็ไม่สนว่าจื่อเฟิงจะอนุญาตหรือไม่ ลงมือถอดเสื้อของเขา ทำความสะอาดบาดแผลให้เขา จากนั้นใส่ยาและพันแผล ทุกการเคลื่อนไหวดำเนินการแล้วเสร็จด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด

“กินนี่ซะ!”

หลานเยาเยาล้วงเข้าไปในแขนเสื้ออีกครั้ง จากนั้นนำเม็ดยาเม็ดหนึ่งออก ยื่นให้เขา และโน้มตัวไปข้างหน้า จ้องเขาพูดเสียงเบา

“เจ้าต้องดีขึ้นเร็วๆ ถึงจะปกป้องเจ้านายของเจ้าและข้าได้”

ไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้

ตั้งแต่รู้จักจนถึงตอนนี้ ถือว่านางเข้าใจแล้ว จื่อเฟิงที่เฉยเมยกับคนอื่นมาโดยตลอด เป็นองครักษ์ลับที่วิทยายุทธ์ขั้นสูงสุดคนหนึ่งที่ได้รับการฝึกฝนโดยเย่แจ๋หยิ่ง

“พ่ะย่ะค่ะ!”

จื่อเฟิงพยักหน้าอย่างขอบคุณ

เพราะเจอกันครั้งแรกก็ถูกหลานเยาเยาหลอกอย่างไร้เดียงสา สิ่งนี้ทำให้เขาโกรธเล็กน้อย ดังนั้นทุกครั้งที่เจอหลานเยาเยา เขาคิดเสมอว่านางมีเจตนาไม่ดีต่อเจ้านาย

ดังนั้นจึงตื่นตัวอยู่เสมอ

แต่ตอนนี้ หลังจากหลานเยาเยาถูกผู้นั้นข่มขู่ ยังคงรักษาเขาอย่างไม่ลังเล

สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกละอายใจ!

แอบตัดสินใจด้วยตนเองในใจ ตราบใดที่ไม่ขัดต่อเจตจำนงของเจ้านาย เขาจะดูแลปกป้องนางเป็นอย่างดี

หลังจากที่เห็นจื่อเฟิงกินยา หลานเยาเยาจึงถามขึ้น:

“เจ้าพังออกจากห้องหินตรงข้ามใช่ไหม?”

จื่อเฟิงพยักหน้า

หลังจากเข้าสู่ทางเข้า ทุกคนต่างก็ถูกแยกย้าย และได้รับบาดเจ็บ

และไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้านายอยู่ที่ใด?

“ดูเหมือนว่าเราต้องเลือกช่องทางอื่นแล้ว” ขณะนี้หลานเยาเยาหันหลังแล้ว มองไปยังดวงตาของคุณชายชุดสีน้ำเงิน

ใครเล่าจะรู้……

สายตาคุณชายชุดสีน้ำเงินจ้องมองที่แขนเสื้อนางตลอด ดูลึกลับ!

เอิ่ม……

รู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้ ผู้หญิงคนหนึ่ง จะเป็นไปได้อย่างไรที่แขนเสื้อจะมีสิ่งที่หมอเท่านั้นมีได้ทุกที่ทุกเวลา?

แต่!

หลานเยาเยายิ้มมุมปาก สอดมือเข้าไปในแขนเสื้อ จากนั้นจึงหยิบผ้าพันแผลออกมา พันแผลที่พันไว้แล้วให้กับตนเองอีกครั้ง

ยังไงเขาก็เห็นแล้ว งั้นก็ให้เขาดูอีกครั้งจะเป็นไรไป?

หรือเขากล้าที่จะค้นร่างกายหรือไง?

คุณชายชุดสีน้ำเงินหัวเราะเบาๆ

เคลื่อนย้ายสายตาออกจากแขนของนาง พูดเบาๆ : “ไม่ได้ ก็ไปโดยผ่านที่นี่!”

ที่ไหน?

หูเขามีปัญหาแน่?

เมื่อครู่นางได้ถามจื่อเฟิงแล้ว จื่อเฟิงออกมาจากที่นั่น ไม่จำเป็นต้องดูก็รู้ว่ามันเหมือนกับห้องหินอื่นๆ ที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด

ตอนนี้ยังอยากไปโดยผ่านที่นั่น รนหาที่ตายหรือไง?

หลานเยาเยาหรี่ตา ชี้ไปที่จื่อเฟิงและพูด:

“เจ้าดูบาดแผลบนตัวเขา เจ้าน่าจะรู้ว่าการไปผ่านที่นี่หมายความว่าอย่างไร ไม่ว่าเจ้าจะมีเหตุผลอะไรที่ทำให้เจ้ายังคงพยายามตามหา แต่เจ้าอยากตาย เราจะไม่ไปด้วย”

หลานเยาเยาคิดไปเองว่าตนเองเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี

อัธยาศัยกับทุกคน

เพราะรู้สึกว่าเรื่องเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องทำสงครามกัน!

แต่ ณ ตอนนี้เวลานี้ ถ้านางต้องพาจื่อเฟิงไปด้วย ก็คงตายสถานเดียว จะตายกับกลไกกับดักเหล่านั้น ปาระเบิดไว้ให้ทุกคนตายไปด้วยกันไม่ดีกว่าหรือ

“ชิ๊ง……”

คุณชายชุดสีน้ำเงินไม่พูดอะไรมาก ดึงดาบที่เองออกมาทันที

จื่อเฟิงไม่อยู่เฉย แม่ว่าตอนนี้จะอ่อนแรง แต่เขายังคงเอาดาบในมือเพื่อป้องกันหลานเยาเยาอยู่ข้างหลัง

นี่คือภารกิจของพวกเขาในฐานะองครักษ์ลับ!

ในช่วงเวลาฉุกเฉินนี้ ทันใดทางเดินเกิดสั่นไหวขึ้น และมีร่องรอยการแตกร้าวบนกำแพงหิน

หลานเยาเยาไม่สามารถยืนมั่นคงได้ชั่วขณะ เกือบล้มลง แต่ชนเข้ากับจื่อเฟิงที่บาดเจ็บไปทั่วทั้งตัว

ตอนนี้เขาส่งเสียงฮึมฮัม!

พยายามอย่างยิ่งที่จะกลั้นความเจ็บปวดจากบาดแผล

“sorry!”

หลานเยาเยารู้สึกผิดเล็กน้อย หลังจากเห็นท่าทางที่สงสัยของจื่อเฟิง หัวเราะดัง หลังจากเอียงหัวมองเห็นคุณชายชุดสีน้ำเงินเกือบล้มลง นางกะพริบตาให้จื่อเฟิงทันที

จื่อเฟิงพยักหน้าอย่างรู้ทัน

จากนั้นพวกเขาทั้งสองคนก็กลับไปที่เส้นทางเดิมทันที คุณชายชุดสีน้ำเงินเห็นเข้า ต้องการจะตามไป หลังจากลังเลอยู่ครู่ก็รีบวิ่งพุ่งเข้าไปในห้องหิน