หลังจากช่วงเช้าตรู่ในวันเสาร์ที่อลิซได้มาเคาะประตูห้องของนากาเพื่อให้เขาเลือกคู่สอบด้วยตัวเองนั้น นากาก็สามารถมั่นใจได้ว่าการสอบของเขาคงจะเริ่มต้นขึ้นในคาบเรียนถัดไปของอลิซ หรือก็คือคาบเรียนแรกในช่วงเช้าของวันจันทร์ที่กำลังจะมาถึงอย่างแน่นอน
 

และการสอบที่กำลังจะใกล้เข้ามานั้นก็ได้ทำให้นากาตัดสินใจที่จะเร่งรัดการฝึกฝนของตนไปมากกว่าเดิมจนเรียกได้ว่านอกจากเวลาพักทานอาหารแล้วก็แทบจะไม่มีใครเห็นเขานั่งพักอยู่เฉยๆ บ้างเลยแม้แต่น้อย

 

ซึ่งการฝึกฝนอย่างหนักของนากานั้นก็ทำให้เพื่อนๆ และน้องสาวของเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาและพยายามที่จะเข้ามาห้ามไม่ให้เขาฝืนตัวเองมากเกินไปจนล้มพับไปซะก่อน จนทำให้นากาที่เห็นว่าเพื่อนๆ ของเขามาเฝ้าจับตาดูการฝึกได้ลองมอบกำไลโลหะที่เขาเพิ่งจะได้รับมันมาจากอลิซให้เพื่อนๆ ของเขาลองตรวจสอบดู เพราะว่าเขาไม่เคยเห็นโลหะชนิดที่เป็นสีขาวแบบนี้มาก่อนเลยนอกจากโลหะที่ใช้ทำดาบของอลิซที่ดูเหมือนว่าเธอจะสามารถใช้พลังวิซผ่านทางมันได้

 

แต่ว่าทั้งโมโกะและคอนแนลหรือแม้แต่กระทั่งพรีมูล่าที่นับว่าเป็นอัฉริยะทางด้านการใช้วิซคนหนึ่งที่ถึงแม้ว่าสมองส่วนอื่นๆ ของเธอจะดูเหมือนพัฒนาตามไม่ทันความสามารถทางด้านวิซสักเท่าไหร่นักต่างก็ลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่ากำไลโลหะสีขาวอันนี้เป็นเพียงแค่กำไลโลหะธรรมดาๆ ที่ไม่มีส่วนผสมของคริสตัลวิซอยู่เลยแม้แต่น้อย

 

และนั่นก็ทำให้นากาค่อนข้างที่จะสบายใจขึ้นมาบ้างว่าเขาคงจะสามารถสวมใส่มันไปใช้ในการสอบได้โดยไม่มีปัญหาอะไร และสามารถแสดงความสามารถของเขาได้โดยไม่ถูกแทรกแซงด้วยความช่วยเหลือจากคนอื่นที่อาจจะเกิดอยากพยายามช่วยปกปิดเรื่องที่เขาไม่มีพลังวิซเหมือนกับเมื่อครั้งที่พรีมูล่าสร้างโล่น้ำแข็งขึ้นมาให้กับเขาโดยไม่ได้ถามหาความสมัครใจของเขาก่อนขึ้นมาได้

 

และหลังจากที่วันหยุดสุดสัปดาห์หมดลงไปก็ได้เข้าสู่ช่วงสัปดาห์ที่สามของการเปิดภาคเรียน หรือก็คือเป็นวันที่นากาจะได้พิสูจน์ตัวเองด้วยการต่อสู้กับเนลอย่างเอาจริงเอาจังต่อหน้าเพื่อนร่วมชั้นทั้งห้องนั่นเอง

 

ก๊องงงงง—

 

ตึกตึก…

 

“มาแล้วสินะ… มาดูกันสักหน่อยสิว่าคราวนี้ฉันกับเธอใครจะเร็วกว่ากันน่ะ…”

 

บรรยากาศในห้องเรียนชั้นปลายห้องที่สามในยามเช้าของวันจันทร์นั้นเต็มไปด้วยความกดดันที่แผ่ออกมาจากอัลเบิร์ตที่นั่งอยู่บริเวณกึ่งกลางของห้องเรียน เพราะว่าในครั้งที่แล้วการทำหน้าที่หัวหน้าห้องของเขาถูกขัดขวางเอาไว้โดยอลิซแบบไม่ไว้หน้ากันเลยแม้แต่น้อย จนทำให้ในคราวนี้เขาไม่คิดจะปล่อยให้มันลงเอยอย่างเดิมอย่างแน่นอน

 

ครืดดดดดดด

 

“นักเรียนทุกค—”

 

“เอาล่ะ! อย่างที่พวกเธอรู้อยู่—–”

 

“ว้อยยย!!”

 

แต่แล้วเสียงประกาศให้เหล่าเด็กนักเรียนลุกขึ้นทำความเคารพอาจารย์ผู้สอนของอัลเบิร์ตก็ได้ถูกขัดขวางเอาไว้ด้วยเสียงพูดของอลิซที่ไม่เห็นประโยชน์ของการกระทำที่ว่าเลยแม้แต่น้อยอีกครั้งหนึ่ง จนทำให้อัลเบิร์ตได้แต่ร้องโวยวายออกมาเสียงดังก่อนที่ทันใดนั้นเองเขาจะผงะไปเมื่ออลิซได้ตะโกนกลับมาใส่เขาด้วยเสียงที่ดังกว่ามาก

 

“หนวกหูน่า!!”

 

และหลังจากที่เสียงตวาดของอลิซเงียบลงไปแล้วเธอก็ได้กวาดตามองดูเหล่าเด็กนักเรียนในห้องอีกครั้งหนึ่งเพื่อดูว่าจะยังมีใครมีปัญหาอะไรอยู่อีกหรือว่าเปล่าถ้าเกิดว่าพวกเขาไม่ได้ลุกขึ้นยืนเพื่อทำความเคารพเธอตามธรรมเนียมปฏิบัติ

 

และเมื่ออลิซได้เห็นว่าเด็กนักเรียนเกือบทุกคนในห้องต่างพากันหดหัวด้วยความตกใจปนหวั่นเกรงเธอก็ได้รีบพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงปกติธรรมดาเพื่อช่วยผ่อนคลายบรรยากาศในทันที

 

“เอาล่ะ ก็อย่างที่พวกเธอรู้กันอยู่แล้วว่าเมื่อไหร่ที่สนามหญ้าซ่อมเสร็จแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น… ผู้โชคดีคนแรกของวันนี้… นากามูระ หยิบอุปกรณ์ออกมาแล้วก็ออกไปรอด้านนอกก่อนเลย”

 

“นากามูระหรอ… ห้องเรามีคนชื่อแบบนั้นอยู่ด้วยหรอน่ะ”

 

“คนนั้นฉันรู้จักนะ คนผมดำหลังห้องที่ไม่ค่อยจะสุงสิงกับใครสักเท่าไหร่นั่นไง”

 

“อ๋อ พี่ชายของยัยพรีมูล่าที่ชอบโวยวายเสียงดังนั่นน่ะหรอ”

 

นากาที่ได้ยินเสียงเรียกของอลิซได้พยักหน้าตอบเธอกลับไปแล้วจึงเดินไปหยิบเอาดาบของเขาออกมาจากคู้เก็บของก่อนจะเดินออกจากห้องไปในทันทีโดยไม่สนใจเสียงนินทาของเพื่อนร่วมห้องที่ดังขึ้นมาเบาๆ เลยแม้แต่น้อยโดยมีพรีมูล่าและโมโกะที่ทำได้แต่ส่งสายตามองตามเขาไปด้วยความเป็นห่วง

 

เนื่องจากว่าถ้าเกิดเป็นเหมือนเมื่อก่อนตอนที่เขายังอยู่ที่หมู่บ้านโมริโกะ นากาก็คงจะทำความรู้จักกับเหล่าเพื่อนร่วมชั้นจนสนิทกันกับทุกคนไปแล้ว แต่ว่านับตั้งแต่วันแรกของการเปิดภาคเรียนที่เกิดเรื่องขึ้นมานากาก็เอาแต่หมกมุ่นกับการฝึกฝนจนไม่ได้ทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมชั้นเลยแม้แต่สักคนเดียว

 

และในขณะที่เหล่าเพื่อนร่วมชั้นกำลังพูดนินทาเด็กหนุ่มผมดำกันอยู่อย่างสนุกปากนั้น ทางด้านอลิซที่ยืนเกาหัวอยู่ด้วยสีหน้ายุ่งยากใจก็ได้ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับถอนหายใจออกมาทีหนึ่งแล้วจึงเอ่ยปากเรียกคู่สอบที่นากาเลือกเอาไว้เมื่อวันก่อนออกมา

 

“เฮ้อ… เนล… เธอหยิบอาวุธออกมาแล้วตามนากาออกไปด้านนอกซะ”

 

“อะ—ครับ!”

 

“หะ—เอาจริงดิ๊ พี่เนลเนี่ยนะ?”

 

“ฮะฮะ เจ้าเด็กใหม่นั่นโดนเนลยำซะเละแน่”

 

“ไม่ใช่ว่าคุณเนลเขาเพิ่งจะได้รับเลือกให้เป็นหัวหนัาชมรมฝึกซ้อมของปีนี้หรอ? แบบนี้มันจะไม่เป็นการรังแกกันฝ่ายเดียวหรอคะอาจารย์”

 

ทันทีที่อลิซได้ประกาศชื่อของคู่ต่อสู้ของนากาขึ้นมาก็ทำให้เกิดเสียงฮือฮาดังขึ้นมาในทันที เพราะว่าชื่อเสียงของเนลนั้นค่อนข้างจะโดงดังในหมู่เด็กนักเรียนภายในโรงเรียนมาก อีกทั้งฝีมือของเขาก็ยังไม่เป็นที่กังขาว่าเป็นอันดับต้นๆ ของทางโรงเรียนอีกด้วย

 

“พ—พี่คอนแนล”

 

พรีมูล่าที่เห็นว่าไม่มีเพื่อนร่วมชั้นแม้แต่สักคนเดียวจะคิดว่านากาจะสามารถรับมือกับเนลได้เลยแม้แต่น้อยนั้นได้หันไปขอความช่วยเหลือจากคอนแนลด้วยสีหน้าปานจะร้องไห้ จนทำให้คอนแนลต้องรีบหาทางพูดเกลี้ยกล่อมให้เธอยอมอยู่เฉยๆ ก่อนในทันที

 

“เอ่อ… ไม่ดีมั้งครับพรีมูล่า เพราะอย่างคราวที่แล้วก็— เฮ้อ… ก็ได้ครับๆ”

 

คอนแนลที่กำลังจะพูดเกลี้ยกล่อมพรีมูล่าได้แต่ถอนหายใจออกมา เพราะถึงแม้ว่าเขาจะยังคงเป็นกังวลอยู่กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่พรีมูล่ายื่นมือเข้าไปช่วยเหลือนากาในคราวที่แล้ว แต่ว่าเขาก็ไม่สามารถรับมือกับสายตาเหมือนกับลูกหมาหิวนมของเธอได้เลยแม้แต่น้อย

 

ซึ่งคอนแนลที่เผลอตอบตกลงกับพรีมูล่าไปแล้วก็ได้แต่ต้องยอมลุกขึ้นไปหาอลิซเพื่อพยายามเกลี้ยกล่อมเด็กสาวผมสีขาวที่ใจดีกว่าที่เห็นภายนอกมากคนนั้นจนทำให้อลิซที่ถูกโยนภาระมาให้ถึงกับต้องยกมือขึ้นมากุมขมับตัวเองและเหลือบตามองไปทางพรีมูล่าก่อนจะโบกมือไล่คอนแนลให้กลับไปนั่งที่ให้เรียบร้อยแล้วจึงเดินออกไปจากห้องเพื่อนำทางเด็กนักเรียนทั้งสองคนของเธอไปเข้าสู่สนามสอบที่สนามหญ้าเบื้องล่างในทันที

 

ส่วนทางด้านคอนแนลเมื่อเขาเดินกลับมาถึงที่นั่งของตัวเองที่อยู่ด้านหลังห้องแล้วเขาก็ชะโงกหน้าไปกระซิบกับพรีมูล่าเบาๆ เกี่ยวกับสิ่งที่อลิซฝากเขามาบอกเธอ

 

“อาจารย์อลิซบอกว่าโอเคครับแล้วครับพรีมูล่า แต่ว่ามีเงื่อนไขก็คือว่าห้ามเข้าไปช่วยนากาต่อสู้ด้วยตัวเองตรงๆ อย่างยิงกระสุนน้ำแข็งใส่อีกฝ่ายเป็นอันขาด ที่ทำได้มีแค่กระตุ้นให้ถุงมือของนากาสร้างโล่น้ำแข็งขึ้นมาเท่านั้น แล้วอีกอย่างนึงก็ห้ามเข้าไปในเขตสนามหญ้าด้วยนะครับ”

 

“อ—อื้อ! ถ้าแค่นั้นล่ะก็ได้อยู่แล้วล่ะ!!”

 

พรีมูล่าที่ได้รับอนุญาตให้ไปช่วยเหลือพี่ชายของตนได้ได้พูดตอบคอนแนลกลับไปด้วยความดีใจก่อนที่เธอจะรีบวิ่งตรงออกไปจากห้องเพื่อรุดหน้าไปทางสนามหญ้าในทันที และเมื่อเหล่าเด็กนักเรียนคนอื่นในห้องเห็นว่ามีคนวิ่งนำออกไปก่อนแล้ว พวกเขาก็ค่อยๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้เพื่อเดินออกไปรับชมเรื่องสนุกๆ ด้วยเช่นกัน

 

ซึ่งในการสอบรอบนี้ที่เป็นคู่ของนากาและเนลนั้นก็ดูเหมือนว่าจะเรียกความสนใจจากหลายๆ คนได้มากกว่าปกติ ไม่ว่าเป็นเซซิลที่ปกติแล้วจะใช้ช่วงการสอบในการทำสมาธิหรือไม่ก็ทำความสะอาดอาวุธ หรือว่ามายะที่ปกติแล้วจะดูไม่ค่อยสนใจการสอบสักเท่าไหร่ก็ต่างพากันเดินออกไปรอรับชมการสอบของนากาด้วยเช่นกัน

 

 

“เฮ้อ… พรีมูล่าเธอยืนดูการสอบอยู่ตรงนี้นี่ล่ะ ส่วนพวกนายทั้งสองคนเดินไปตรงกลางสนามหญ้านู้นแล้วรอสัญญาณจากฉัน”

 

“ค่าาาา / โอ้ / ได้เลยครับ”

 

หลังจากที่คาร์เทียร์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยอาจารย์ห้องพยาบาลและเป็นคนควบคุมเรื่องความปลอดภัยในการสอบจัดการเคลือบคมอาวุธของเด็กหนุ่มทั้งสองคนเสร็จแล้ว อลิซก็ได้โบกมือไล่พรีมูล่าให้ไปนั่งอยู่ข้างๆ อารอนที่ในคราวนี้ได้พกร่มสีดำของเขาออกมาเฝ้าจับตาดูการสอบด้วยแล้วจึงหันไปพูดสั่งเด็กหนุ่มทั้งสองคนที่ยืนรอคำสั่งจากเธออยู่ให้เดินไปเตรียมตัวที่ใจกลางสนามหญ้ากัน

 

และในระหว่างที่เนลกำลังเดินตามหลังนากาไปอยู่นั้นเขาก็ได้เอ่ยปากพูดกับนากาที่เขาคิดว่าอีกฝ่ายพยายามหลบหน้าเขามาตลอดสองสัปดาห์นี้ขึ้นมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

 

“นายรู้หรือเปล่าว่าฉันเฝ้ารอโอกาสนี้มานานแค่ไหนน่ะ… ตั้งแต่ตอนที่นายเดินออกจากห้องชมรมไปตอนนั้นคอนแนลเขาก็พยายามห้ามไม่ให้ฉันเข้าใกล้นายเพื่อถามเรื่องของชมรมอีก ฉันก็เลยไม่มีโอกาสได้ทดสอบฝีมือของนายจริงๆ จังๆ สักที แบบนี้ก็คงจะต้องขอบคุณอาจารย์อลิซเขาล่ะนะที่จับคู่นายมาสอบกับฉันแบบนี้น่ะ นายถึงได้หมดโอกาสหนีสักที”

 

“นั่นสินะ ก็ต้องขอบคุณอลิซเขาจริงๆ นั่นล่ะที่ทำให้ฉันได้มีโอกาสมาสู้กับนายต่อหน้านักเรียนคนอื่นแบบนี้น่ะ เพราะถึงก่อนหน้านี้ฉันจะยังไม่มั่นใจว่าจะสู้นายไหวหรือเปล่าก็เถอะ แต่ว่าตอนนี้ฉันมั่นใจว่าฉันจะเอาชนะนายได้แน่ๆ ล่ะ!”

 

“ถ้านายพูดแบบนี้งั้นก็เตรียมตัวเอาไว้ได้เลย! ฉันจะไม่ออมมือให้เพราะเห็นว่านายเป็นเด็กใหม่หรอกนะ เพราะฉันเองก็มีศักดิ์ศรีของประธามชมรมที่ต้องรักษาเอาไว้เหมือนกัน!”

 

เนลที่เห็นว่านากาพกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยมนั้นได้พยักหน้าตอบเขากลับไปด้วยความพึงพอใจ เพราะว่าเมื่อดูจากการสอบครั้งที่ผ่านๆ มาของทั้งห้องสามและห้องเรียนอื่นๆ ที่อาจารย์อลิซมักจะจับเด็กนักเรียนที่มีฝีมือใกล้เคียงกันมาต่อสู้กันเองแล้วมันก็ทำให้เนลสามารถมั่นใจได้ว่าตัวนากาที่เป็นคู่สอบของเขาเองก็คงจะฝีมือที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเขาอย่างแน่นอน

 

ส่วนทางด้านอลิซที่เห็นว่าเด็กนักเรียนทั้งสองคนของเธอเริ่มที่จะเกทับกันไปกันมาแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาด้วยความเหนื่อยใจแล้วจึงประกาศเริ่มการสอบขึ้นมา

 

“เริ่มการสอบได้!!”

 

“เอาล่ะ!”

 

กริ๊ก—แกร๊ก!

 

ทันทีที่เนลได้ยินอลิซประกาศเริ่มการสอบออกมานั้น เขาก็กดไปที่ปุ่มบนด้ามดาบของเขาในทันทีเพื่อให้มันดีดเอาด้ามจับปืนที่ถูกซ่อนเอาไว้ภายในออกมาและหันตัวดาบคมเดียวหัวตัดที่กลายสภาพเป็นปืนยาวไปแล้วเล็งเข้าใส่นากาในทันที

 

ฟวี๊—

 

“หว๊ายๆๆ แย่แล้วพี่นากา!!”

 

ในทันทีที่พรีมูล่าเห็นว่าเนลคิดจะเปิดฉากการต่อสู้ด้วยการยิงกระสุนลำแสงที่ถึงกับทำให้นากาเสียความมั่นใจไปเมื่อครั้งที่แล้วออกมานั้นเธอก็หลุดเสียงร้องออกมาด้วยความลนลานและรีบส่งวิซของเธอตรงเข้าใส่ถุงมือของนากาจากระยะไกลเพื่อทำให้มันสร้างโล่น้ำแข็งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือพี่ชายของเธอในทันที

 

แกร๊กแกร๊ก—-

 

“หึ… ก็มาดูกันว่าวิซธาตุน้ำแข็งของนายกับวิซธาตุไฟของฉันอันไหนมันจะเจ๋งกว่—- หา…!?”

 

ฟวับ—เพล้ง!!

 

เนลที่รู้สึกคันไม้คันมืออยากลองปะทะกับผู้ใช้วิซธาตุน้ำแข็งที่หาตัวจับได้ยากมาตั้งแต่ตอนที่เขาได้พบกับนากาเป็นครั้งแรกได้แต่หลุดเสียงร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ เมื่ออยู่ดีๆ นากาก็ปักดาบสีเทาเปื้อนเลือดของเขาลงกับพื้นเพื่อที่จะได้ใช้มือทั้งสองข้างถอดถุงมือติดคริสตัลวิซออกและโยนมันทิ้งไปไกลจนทำให้ตัวโล่น้ำแข็งที่ติดอยู่บนถุงมือแตกกระจายกลายเป็นเศษเล็กๆ หายไป

 

 

“เห้ย เจ้านากานั่นมันทิ้งโล่ของตัวเองเฉยเลยฟระ!”

 

“หนูว่าพี่นากาเขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เลยอ่ะ!”

 

“เขาคิดจะต่อให้เนลหรอไงเนี่ย? ผมว่าเขาไม่รู้แน่ๆ เลยว่าเนลเขาเป็นใครน่ะ”

 

ในขณะที่เพื่อนร่วมห้องคนอื่นกำลังประหลาดใจกับการกระทำของนากาอยู่นั้น ทางด้านอัลเบิร์ตที่ยืนรวมกลุ่มอยู่กับเซซิลและรีซาน่าก็กลับเลิกคิ้วขึ้นมาด้วยความสนอกสนใจและหันไปพูดถามความเห็นของเซซิลขึ้นมา

 

“แบบนี้สิค่อยดูน่าสนใจขึ้นมาหน่อย เธอคิดว่าไงบ้างล่ะเซซิล? ถ้าจะให้ฉันเดานะ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วตอนที่ยัยอาจารย์จิ๋วหัวขาวนั่นบอกให้เธอไปช่วยเจ้าเด็กใหม่ฝึกซ้อมสักหน่อย หมอนั่นก็ไม่ยอมใช้วิซออกมาเหมือนกันงั้นสินะ”

 

“ใช่… แต่ว่าอย่างหมอนั่นคงไม่คิดจะโยนการสอบนี่ทิ้งหรอก…”

 

คำพูดของอัลเบิร์ตและเซซิลนั้นถึงกับทำให้โมโกะต้องเหลือบไปมองดูทั้งสองคนด้วยความเป็นกังวลว่าความลับเรื่องที่ว่านากาไม่สามารถใช้วิซได้จะแตกหรือไม่ แต่ว่าเมื่อเธอได้เห็นว่าทั้งอัลเบิร์ตและเซซิลไม่ได้มีท่าทีติดใจสงสัยอะไรสักเท่าไหร่นักเธอก็พอจะรู้สึกโล่งใจขึ้นมาได้บ้างถึงแม้ว่าเธอจะยังคงรู้สึกสงสัยอยู่กับการกระทำของนากาอยู่บ้างก็ตามที

 

 

“เดี๋ยวนะ—!?”

 

ถึงแม้ว่าอัลเบิร์ตและเซซิลที่เฝ้าดูการสอบอยู่ที่ด้านบนระเบียงจะไม่ได้รู้สึกสะกิดใจอะไรก็ตาม แต่ว่าทางด้านเนลที่เป็นคู่สอบของนากานั้นก็ถึงกับต้องเลิกคิ้วด้วยความสงสัย เพราะว่าร่องรอยของพลังวิซธาตุน้ำแข็งที่ถูกใช้เพื่อกระตุ้นให้คริสตัลสีขาวบนถุงมือทำงานนั้นมันไม่ได้แผ่ออกมาจากร่างของเด็กหนุ่มผมดำเบื้องหน้าแต่ว่ามันกลับถูกส่งตรงมาจากทางริมสนามหญ้าที่มีเด็กสาวผมชมพูคนนั้นยืนอยู่ต่างหาก

 

และเนลเองก็ค่อนข้างจะมั่นใจว่าสาเหตุที่นากาโยนถุงมือทิ้งออกไปนั้นก็เพื่อเป็นการประกาศให้เขารู้ว่าโล่น้ำแข็งที่ถูกสร้างขึ้นมาบนถุงมือมันไม่ได้มาจากตัวของนากาแต่ว่าเป็นฝีมือของน้องสาวของเขาต่างหาก ซึ่งการกระทำของนากานั้นก็ได้ทำให้เนลนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งที่เขาได้พบกับเด็กหนุ่มเบื้องหน้าที่คอนแนลเคยพูดเอาไว้ว่านากามีปัญหาเรื่องวิซบางอย่างขึ้นมาได้

 

“นากาหรือว่านาย—”

 

“ใช่มันก็เป็นอย่างที่นายคิดอยู่นั่นแหล่ะ! เพราะงั้นนายเองก็อย่าทำให้ฉันผิดหวังในพลังของวิซพวกนั้นเข้าซะล่ะเนล!!”

 

คำตอบของนากาถึงกับทำให้เนลชะงักไปชั่วขณะเมื่อเขาได้รับรู้ความจริงถึงสาเหตุที่เขาไม่สามารถสัมผัสถึงวิซของนากาได้เลยนั้นมันไม่ได้เป็นเพราะว่านากาเก่งกาจจนสามารถควบคุมไม่ให้วิซแผ่ออกมาจากร่างกายจนเสียเปล่าได้ แต่มันเป็นเพราะว่านากาไม่มีวิซอยู่เลยตั้งแต่แรกเขาก็เลยสัมผัสมันไม่ได้ต่างหาก

 

“…ถ้านายว่าอย่างงั้นก็เตรียมรับมือได้เลย!!”

 

แต่ว่าเมื่อเนลดูจากท่าทางมั่นใจเต็มเปี่ยมและน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจของนากาแล้วเขาก็ได้แต่ยิ้มตอบกลับไปพร้อมกับลั่นไกของกลไกปืนในมือเพื่อให้มันส่งกระสุนวิซสีแดงที่ควบแน่นจนแผ่ความร้อนถึงขนาดที่ทำให้อากาศรอบๆ บิดเบี้ยวออกมาเป็นเส้นตรงเข้าใส่นากาในทันที

 

กริ๊ก—ปั้ง!!!

 

“ร—เร็—!?”

 

เคร๊ง!! —–ครืดดดด

 

แม้ว่ากระสุนลำแสงของเนลจะรวดเร็วยิ่งกว่าที่นากาคาดคิดเอาไว้ แต่ว่าเขาก็ยังสามารถที่จะสะบัดดาบเปื้อนเลือดในมือเข้ารับกระสุนลำแสงนั้นเอาไว้ได้อย่างทันท่วงทีถึงแม้ว่ามันจะทำให้เขาถึงกับถูกลำแสงที่ว่านั่นดันจนถอยครูดไปกับพื้นเป็นทางยาวก็ตามที

 

ซึ่งพลังทำลายของกระสุนลำแสงของเนลนั้นก็ถึงกับทำให้อารอนที่เฝ้าจับตาดูการสอบของนากาอยู่ผุดลุกขึ้นมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดพร้อมกับเดินเข้าไปพูดถามอลิซด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดไม่แพ้กัน

 

“เธอแน่ใจนะว่านั่นมันคือกระสุนฝึกน่ะ…”

 

“ใช่ เมื่อกี้นี้ฉันลองตรวจสอบดูแล้ว ส่วนที่นายเห็นว่ามันรุนแรงขนาดนั้นนั่นมันเหมือนจะเป็นวิชาเฉพาะตัวของเนลเขาน่ะ”

 

“แล้วเธอไม่คิดจะห้ามอะไรเลยหรือไง… เธอเองก็รู้ไม่ใช่หรอว่าเวลาที่คนที่ไม่มีวิซถูกโจมตีด้วยกระสุนวิซก็มักจะบาดเจ็บหนักกว่าคนที่ใช้วิซได้อยู่แล้วน่ะ… แล้วกระสุนของเด็กที่ชื่อว่าเนลนั่นต่อให้คนที่โดนยิงจะรวบรวมวิซเพื่อป้องกันเอาไว้ได้ก็น่าจะยังบาดเจ็บหนักอยู่ดี… นี่ถ้าเกิดนากาเขาพลาดไปโดนเข้าสักทีนึงนี่อาจจะถึงขั้นต้องหามไปรักษาที่คลินิกของฉันเลยนะ…”

 

“เรื่องนั้นฉันก็รู้อยู่แล้วน่า ตอนที่นากาเลือกคู่สอบเป็นเนลฉันก็เคยพูดเตือนไปแล้วว่ามันอาจจะเป็นอันตรายก็ได้แต่ว่าหมอนั่นก็ยังจะดื้ออยากจะสู้กับเนลให้ได้อยู่ดีแล้วจะให้ฉันยังไงเล่า!”

 

“นากาเขาเป็นคนเลือกเองงั้นหรอ… ให้ตายสิ… งั้นก็คงจะได้แต่หวังว่าถ้าเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมาคาร์เทียร์หรือว่าเธอจะเข้าไปห้ามปรามได้ทันล่ะนะ…”

 

อารอนที่ได้ยินว่านากาเป็นคนเลือกคู่สอบด้วยตัวเองทั้งๆ ที่มันอาจจะเป็นอันตรายขึ้นมาได้ก็ได้แต่พูดบ่นออกมาเล็กน้อยก่อนที่เขาจะกำร่มสีดำที่เขาพกติดตัวเอาไว้เป็นประจำแน่นขึ้นแล้วจึงหันกลับไปเฝ้ามองการสอบอย่างเงียบๆ โดยไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก

 

ฟู่วววว…

 

“ยังหรอกหน่า!!!”

 

เป๊ง—ฟ๊าวววว—!!

 

เสียงของโลหะที่กำลังหลอมละลายได้ดังขึ้นมาเบาๆ ให้นากาได้ยินได้ทำให้นากาตัดสินใจที่จะออกแรงสะบัดดาบของเขาขึ้นสูงเต็มแรงจนทำให้กระสุนวิซที่อัดแน่นจนแทบจะกลายเป็นลำแสงสีแดงถูกปัดเบี่ยงพุ่งหายขึ้นไปบนท้องฟ้าเบื้องบนในพริบตา

 

ฟุ๊บ—

 

ตัวกระสุนลำแสงที่พุ่งขึ้นไปบนฟากฟ้าเบื้องบนนั้นได้พุ่งทะลุก้อนเมฆก้อนหนึ่งไปจนทำให้ก้อนเมฆที่ว่าถูกแหวกทะลุเป็นช่องว่างทรงวงกลมขนาดใหญ่ที่สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนถึงแม้ว่ามันจะอยู่ห่างออกไปไกลมากก็ตามที

 

“ป—ปัดออกไปได้หรอ—!?”

 

เนลที่เห็นว่านากาสามารถปัดกระสุนวิซที่เขารวบรวมพลังจนสุดขีดจำกัดของอาวุธออกไปได้ถึงกับนิ่งค้างไปด้วยความตกตะลึง เพราะว่าที่ผ่านมาขอแค่ให้เขาได้มีเวลารวมพลังสักครึ่งเดียวของกระสุนนัดเมื่อสักครู่ก็ไม่เคยมีใครรับมือมันได้แล้วซะด้วยซ้ำ

 

ส่วนทางด้านนากาที่กำลังสำรวจดูความเสียหายของอาวุธของตนนั้นก็ถึงกับสะดุ้งไปเล็กน้อยเช่นเดียวกัน เพราะว่าใบดาบเฟเบิ้ล ดรีมเมอร์ที่ต่อให้เขาจะใช้งานมันหนักขนาดไหนก็แทบไม่เคยมีแม้แต่รอยขีดข่วนนั้นกลับหลอมละลายไปบางส่วนเนื่องจากกระสุนนัดเมื่อสักครู่นี้

 

แต่ถึงอย่างนั้นนากาก็เลือกที่จะเก็บความกังวลเรื่องที่ดาบของเขาเสียหายเอาไว้ก่อนแล้วจึงรีบพุ่งตรงเข้าไปใส่เนลเพิ่อเริ่มต้นการโจมตีสวนกลับบ้าง

 

“ตาฉันบ้างล่ะ!!”

 

“—!”

 

เสียงร้องของนากาได้ทำให้เนลตั้งสติได้และรีบเลื่อนมือไปกดปุ่มที่ด้ามดาบที่เขาใช้มันต่างพานท้ายปืนเพื่อให้มันดีดตลับกระสุนที่มีควันขึ้นจางๆ ออกมาเพื่อที่จะเปลี่ยนเอาตลับกระสุนอันใหม่ใส่เข้าไปแทน และหลังจากที่เนลเปลี่ยนตลับกระสุนเสร็จแล้วเขาก็รีบหันอาวุธของเขาไปทางนากาและลั่นไกออกไปในทันที

 

ปังปังปัง!!

 

“ช้าหน่า!!”

 

ถึงแม้ว่ากระสุนวิซสีแดงของแนลจะมีความเร็วมากกว่ากระสุนทั่วๆ ไปมากจนดูราวกับว่ามันเป็นเส้นแสงสีแดง แต่ว่ามันก็ยังเชื่องช้ากว่ากระสุนลำแสงวิซที่นากาเคยเห็นและใช้มันเป็นมาตรฐานในการฝึกซ้อมในความฝันมากจนทำให้นากาสามารถเอี้ยวตัวหลบมันได้อย่างสบายๆ โดยที่ความเร็วในการพุ่งตัวของเขาไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย และเมื่อนากาพุ่งเข้าไปถึงระยะที่จะสามารถโจมตีแล้วเขาก็ไม่รีรอที่จะเหวี่ยงดาบเข้าใส่อีกฝ่ายในทันที

 

เคล๊ง—!

 

ดาบของนากาที่ฟาดฟันเข้าใส่เนลจากทางด้านซ้ายนั้นได้ถูกเนลขยับดาบหัวตัดของเขาเข้ามาป้องกันเอาไว้ได้โดยไม่ลำบากอะไรนักจนทำให้นากาที่เห็นว่าเนลสามารถรับการโจมตีเขาของเอาไว้ได้อย่างง่ายได้ได้ตัดสินใจที่จะดีดตัวถอยกลับมาเล็กน้อยก่อนจะพุ่งเข้าไปโจมตีเข้าใส่จุดเดิมอย่างแม่นยำ

 

ซึ่งเนลที่เห็นว่านากายังคงพยายามที่จะโจมตีด้วยวิธีการเดิมก็ได้ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนจากการใช้ดาบเข้ามาป้องกันธรรมดาๆ เป็นการตั้งรับโดยการใช้ดาบของเขาปัดดาบของนากาออกไปอีกทางเพื่อสร้างช่องว่างสำหรับการโจมตีสวนกลับแทน

 

ฟุ๊บ—

 

“เสร็จฉันล่ะ!”

 

แต่ว่าทันใดนั้นเองนากาที่เห็นว่าเนลได้ขยับตัวเพื่อเตรียมการตั้งรับด้วยดาบจากทางด้านซ้ายจนทำให้เกิดช่องว่างขึ้นที่ทางด้านขวานั้นก็ได้ขยับข้อเท้าเพื่อหมุนตัวอย่างรวดเร็วจนทำให้ดาบเปื้อนเลือดของเขาที่ในตอนแรกดูเหมือนว่าจะถูกฟาดฟันเข้าใส่จากทางด้านซ้ายเปลี่ยนไปเป็นการโจมตีเข้าใส่ช่องว่างทางขวามือแทน

 

เก๊ง!!

 

“หื้อ—!?”

 

นากาที่ค่อนข้างจะมั่นใจว่าการโจมตีของเขาจะเป้าแน่ๆ นั้นได้แต่ส่งเสียงด้วยความประหลาดใจออกมาเมื่อเนลได้ขยับมือเข้ามารับการโจมตีของเขาจนเกิดเป็นเสียงก้องกังวานของเหล็กกระทบกันดังลั่นขึ้นมา

 

และเมื่อนากาลองสังเกตดูที่มือของเนลให้ดีๆ แล้วเขาก็ได้พบว่าเนลนั้นได้สวมใส่ถุงมือที่ถูกเสริมเอาไว้ด้วยแผ่นเหล็กที่ดูแข็งแรงทนทาน ซึ่งตัวถุงมือของเนลนั้นก็คงจะมีไว้ใช้เพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่ฝ่ามือในตอนที่เขาใช้งานมันในรูปแบบปืนที่มีแรงถีบกลับไม่ใช่น้อยๆ ในการยิงแต่ละครั้งนั่นเอง

 

“คิดว่ามีแค่นายคนเดียวที่มีถุงมือดีๆ หรือไง!?”

 

เนลที่ใช้ถุงมือติดแผ่นเหล็กเข้ารับการโจมตีของนากาเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิวนั้นได้คว้าจับดาบเฟเบิ้ล ดรีมเมอร์เอาไว้อย่างแน่นหนาเพื่อป้องกันไม่ให้นากากระโดดถอยหนีเว้นระยะห่างออกไปก่อนที่เขาจะใช้ดาบหัวตัดในมืออีกข้างทิ่มมันเข้าใส่กลางลำตัวของนากาอย่างรุนแรง

 

“ฮึ้ย—!?”

 

ฟวับ!

 

นากาที่ฝึกทั้งประสาทสัมผัสและร่างกายมาอย่างหนักจนมีความสามารถในการตอบสนองที่ดีขึ้นกว่าเมื่อสองสัปดาห์ก่อนมากได้เบิ่งตากว้างและรีบตัดสินใจที่จะทิ้งตัวเองลงไปกับพื้นในทันทีจนทำให้เขาสามารถหลบการโจมตีไปได้อย่างฉิวเฉียดและทำให้เนลเป็นฝ่ายที่ต้องตกตะลึงบ้างเพราะเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีใครสามารถหลบการโจมตีของเขาในระยะประชิดแบบนี้ไปได้

 

แต่ว่าก่อนที่เนลจะได้ตัดสินใจที่จะโจมตีเข้าใส่นากาอีกครั้ง นากาก็ได้กระชากดาบของเขาที่เนลจับมันเอาไว้อยู่เข้าหาตัวเองอย่างแรงพร้อมกับใช้แขนอีกข้างยันไว้กับพื้นเพื่อสร้างแรงเหวี่ยงในการตวัดขาเตะเข้าใส่กลางลำตัวของเนลไปพร้อมๆ กัน

 

ผลัก!!

 

“อั๊ก—!?”

 

เนลที่ถูกนากากระชากดาบจนเสียหลักและยังถูกเหวี่ยงลูกเตะเข้าใส่ด้วยท่วงท่าที่เขาคาดไม่ถึงนั้นได้ตัดสินใจที่จะดีดตัวถอยห่างเพื่อเว้นระยะออกไปตั้งหลักก่อนในทันที เพราะดูท่าทางแล้วว่าการรุกรับในระยะหนึ่งช่วงแขนแบบนี้มันจะเป็นเรื่องที่นากาถนัด อีกทั้งมันยังทำให้เขาไม่สามารถรีดประสิทธิภาพของอาวุธของตนได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

 

แต่ว่าทางด้านนากาที่เพิ่งจะหลุดพ้นออกมาจากสภาพยากลำบากนั้นก็กลับไม่คิดที่จะให้เนลปลีกตัวถอยห่างไปไหนเขาจึงได้รีบยันตัวเองขึ้นมาจากพื้นและพุ่งตามตัวเนลไปติดๆ เพราะถึงแม้ว่าเนลจะสามารถใช้ถุงมือติดแผ่นเหล็กในการยึดจับอาวุธของนากาเอาไว้ได้ แต่ว่าในช่วงเวลาแบบนั้นนากาก็ยังอยู่ในระยะที่จะสามารถออกหมัดออกเท้าเพื่อโจมตีได้อยู่ ไม่เหมือนกับในกรณีที่ถ้าเกิดว่าเนลสามารถทิ้งระยะห่างออกไปได้ที่เขาจะมีแต่ความเสียเปรียบอย่างเดียวอย่างแน่นอน

 

“รับไปบ้างเลย!!”

 

แต่ก็ดูเหมือนว่าเนลที่เห็นว่านากาไม่ได้พกอาวุธระยะไกลมาด้วยจะคาดการณ์เอาไว้แล้วว่านากาคงจะไม่ปล่อยให้เขาถอยเว้นระยะห่างออกไปอย่างง่ายๆ อย่างแน่นอน เขาจึงได้รีบรวบรวมพลังใส่ตัวอาวุธและลั่นไกมันใส่นากาที่กำลังพุ่งตัวตามมาติดๆ ในทันที

 

ปั้ง!

 

“อ่ะ—!”

 

กระสุนที่เนลยิงออกมาใส่นากาในคราวนี้ไม่ได้พุ่งตรงออกมาอย่างรุนแรงจนกลายเป็นเส้นลำแสงเหมือนกับครั้งก่อนๆ แต่ว่ามันกลับพุ่งออกมาด้วยความเร็วปกติเหมือนกับกระสุนวิซธรรมดาๆ แทน ซึ่งนั่นก็ทำให้นากาคิดว่าเนลคงจะไม่มีเวลาได้รวบรวมพลังที่มากพอจนทำได้เพียงแค่ยิงมันออกมาในรูปแบบกระสุนธรรมดา เขาจึงเปลี่ยนวิธีรับมือจากการเบี่ยงตัวหลบไปเป็นการใช้ดาบปัดป้องที่ทำได้ง่ายกว่าแทน

 

เคร๊ง— ตู้ม!!

 

“อึ๊ก…”

 

แต่ว่าการกระทำของนากานั้นก็กลับส่งผลเสียร้ายแรงกว่าที่คิด เพราะสิ่งที่เขาคิดว่ามันเป็นเพียงกระสุนธรรมดาๆ นั้นกลับระเบิดออกเป็นวงกว้างแทนจนถึงกับทำให้นากากระเด็นปลิวถอยหลังกลับไปไกล

 

ปึ๊ก—ครืดดดด—-

 

“ย๊ากกกกกก!!”

 

นากาที่ถูกแรงระเบิดเข้าไปในระยะประชิดได้รู้สึกปวดแสบปวดร้อนไปแทบจะทั้งตัว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รีบตั้งสติและปักดาบของเขาลงสู่พื้นเพื่อใช้มันรั้งร่างของตัวเองเอาไว้ก่อนที่เขาจะรีบพุ่งตัวเข้าไปหาเนลอีกครั้งในทันที

 

ซึ่งในครั้งนี้ที่เนลได้รับรู้ความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิดของนากาเข้าไปแล้วก็ได้ตั้งสมาธิเพื่อประดาบกับนากาแบบไม่ประมาทอีกต่อไป