บทที่ 75 ปลอบเธอ
เมื่อมองเห็นท่าทางลังเลของเจียงหยุนเอ๋อ ลี่หยูนห่วนก็เอ่ยโน้มน้าวใจต่อ “ผู้หญิงจะต้องพึ่งพาตนเองได้ ถึงจะได้ไม่เป็นภาระของผู้อื่น และการมีงานทำนั้นก็ถือเป็นก้าวแรก คุณหนูเจียง คุณไม่จำเป็นต้องดูแคลนตัวเอง ผมคิดว่าผมมีสายตาที่ดีพอ ขอแค่คุณยินยอม คุณจะต้องสามารถโดดเด่นในอาชีพของคุณได้อย่างแน่นอน”
การแสดงออกที่มุ่งมั่นของลี่หยูนห่วนกระทบใจของเจียงหยุนเอ๋อเข้าอย่างจัง ทำให้เธอไม่อาจปฏิเสธต่อไปได้
“อย่างนั้น ฉันลองดูก็ได้ค่ะ” เจียงหยุนเอ๋อเอ่ย
ได้รับคำตอบรับที่จากเจียงหยุนเอ๋อ ใบหน้าของลี่หยูนห่วนก็เผยรอยยิ้มพึงพอใจออกมา เจียงหยุนเอ๋อเองก็ไม่สังเกตเห็นแสงวาบในดวงตาของเขา
“คุณหนูเจียงมีเวลาว่างตอนไหน? ถ้าหากสะดวก วันนี้นี้ลองไปดูสักครั้ง ท้ายที่สุดแล้ว หากได้งานเร็วขึ้น คุณเองก็รู้สึกสบายใจเร็วขึ้นด้วย ใช่ไหม?” ลี่หยูนห่วนคาดหวังให้เจียงหยุนเอ๋อยิ่งไปเร็วขึ้นเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น ดังนั้นท่าทีของเขาจึงดูกังวลเล็กน้อย
นับตั้งแต่ที่ส้งหวั่นหวั่นแนะนำงานให้กับตนเอง จากนั้นสุดท้ายตนกลับถูกไล่ออกโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ในใจของเจียงหยุนเอ๋อก็มีเงาสายหนึ่งทาบทันเอาไว้ เมื่อครู่เมื่อเห็นว่าตนไร้หนทางปฏิเสธแล้วจึงได้แต่ตอบรับไป
ตอนนี้ ลี่หยูนห่วนเสนอที่จะพาเธอไปที่นั่นทันที เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกว่าตนเองยังไม่ทันได้เตรียมตัวเลยสัก นอกจากนี้….ก่อนที่จะออกมา ลี่จุนถิงยังสำทับเอาไว้เป็นพิเศษว่าเธอไม่สามารถอยู่ข้างนอกได้นานเกินไป
เมื่อนึกถึงจูบ เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกร้อนขึ้นมาเล็กน้อยบนใบหน้าของเธอ เมื่อมองไปที่เจียงหยุนเอ๋อที่จู่ๆก็หน้าแดงขึ้นมา ลี่หยูนห่วนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและถามขึ้น “คุณหนูเจียง คุณเป็นอะไรหรือ? ทำไมจู่ๆใบหน้าของคุณแดงขึ้นมา?”
เจียงหยุนเอ๋อประหลาดใจ จากนั้นจึงปิดใบหน้าของตนไม่รู้ตัว เธอเอ่ยเสียงเบา “บางทีที่นี่มันอาจจะร้อนไปหน่อย…อ้อใช่ค่ะ คุณลี่ วันนี้ฉันไม่ค่อยสะดวก ยังมีธุระบางอย่างที่ต้องกลับไปทำ พวกเราค่อยนัดกันอีกครั้ง ได้ไหมคะ?”
“ได้สิ พรุ่งนี้เป็นไง?” ลี่หยูนห่วนคิดสักครู่แล้วกล่าวขึ้น
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า เธอคิดว่าพรุ่งนี้น่าจะว่าง ดังนั้นจึงตอบตกลงไป “ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เราค่อยติดต่อกันอีกที”
ทั้งสองพูดคุยต่ออีกสองสามประโยค เมื่อคิดไปถึงคำสั่งของลี่จุนถิง เจียงหยุนเอ๋อก็เตรียมพร้อมที่จะจากไป
หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อจากไป ลี่หยูนห่วนก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและโทรออก “ที่รัก ตอนนี้ผมอยู่ที่ร้านกาแฟคุณมาที่นี่ได้ไหม?”
“แน่นอนสิคะ” ปลายสายโทรศัพท์เป็นเสียงหวานเลี่ยนของหญิงสาว หลังจากได้ยินคำพูดของลี่หยูนห่วนเธอก็ตอบตกลงทันทีโดยไม่พูดอะไร
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีหญิงสาวท่าทางเย้ายวนมีเสน่ห์ปรากฏตัวขึ้นในร้านกาแฟ หลังจากเห็นลี่หยูนห่วนสีหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความยินดี เธอนั่งลงข้างๆและจับแขนเขา
“ที่รัก ฉันยังทำงานอยู่นะ แต่พอคุณโทรมาฉันก็มาที่นี่ทันที แบบนี้สมควรให้รางวัลสักหน่อยไหมคะ?” หญิงสาวเอ่ยกับลี่หยูนห่วนอย่างออดอ้อน
ผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนแบบเปิดตัวของลี่หยูนห่วน ชื่อเฉียวซิน
เฉียวซินเป็นหญิงแกร่ง เธอเปิดบริษัทของตนเองขึ้น สถานที่ที่ ลี่หยูนห่วนบอกกับเจียงหยุนเอ๋อว่าอยากให้เธอไปสัมภาษณ์ก็คือบริษัทของเฉียวซิน
ลี่หยูนห่วนยกมือขึ้นลูบจมูกของเฉียวซินเขาเอ่ย “คุณลองบอกมาสิ ว่าอยากได้รางวัลอะไร?”
“คุณดูสิฉันออกมาอยู่เป็นเพื่อนคุณแบบนี้แล้ว คุณก็ควรอยู่เป็นเพื่อนฉันสักหน่อยตอนกลางคืน”เฉียวซินพูดด้วยความงอน
สองคนคุยกันอย่างหวานชื่น จนในที่สุด ลี่หยูนห่วนก็นึกขึ้นมาได้ว่าจะพูดเรื่องธุรกิจกับเฉียวซิน
“อ้อใช่ ผมมีเรื่องบางอย่าง ที่อาจต้องการให้คุณช่วยเหลือ” ลี่หยูนห่วนพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
เมื่อเห็นเขาเริ่มจริงจังเฉียวซินก็เก็บรอยยิ้มบนใบหน้าของตน และถามอย่างจริงจัง “มีเรื่องอะไร? คุณและฉันเราไม่ใช่คนนอก แค่บอกมาก็พอ”
ริมฝีปากของลี่หยูนห่วนหยิบยกขึ้นมาเบาๆ เขาโอบไหล่ของเฉียวซินเอาไว้แล้วเอ่ยขึ้น “เรื่องก็คือว่า ผมจะพาคนผู้หนึ่งไปสมัครงานกับคุณในภายหลัง ขอให้คุณช่วยรับเอาไว้ชั่วคราว”
สีหน้าของเฉียวซินเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอรู้สึกว่าคำพูดของลี่หยูนห่วนดูคลุมเครือ ดังนั้นจึงซักถามออกไปอย่างละเอียดในทันที “ชายหรือหญิง?”
“หญิง” ลี่หยูนห่วนเองก็ไม่ได้คิดจะปกปิดเธอเช่นกัน อย่างไรหลังจากนี้ก็ต้องพาเจียงหยุนเอ๋อไปหาเธอ เฉียวซินเองย่อมต้องรู้ ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องปกปิด
ได้ยินคำพูดของลี่หยูนห่วน เฉียวซินก็รู้สึกหึงขึ้นมาอยู่บ้าง “พวกคุณมีความสัมพันธ์อะไรกัน? ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?ทำไมฉันถึงไม่เคยได้ยินคุณพูดถึงมาก่อน”
เมื่อเห็นการแสดงออกของเฉียวซิน ลี่หยูนห่วนก็กลัวว่าเธอจะคิดมากเกินไป เขารีบพูดอย่างรวดเร็วว่า “คุณอย่าเข้าใจผิด ผมแค่ต้องแสร้งทำเป็นยอมรับเธอเท่านั้น พอไปถึงบริษัทเวลานั้นยังต้องขอให้คุณต้องร่วมมือกับผมเล็กน้อยใน”
“แกล้งปลอบเธอ?” เฉียวซินเบ้ปากเล็กน้อย ใบหน้าไม่เต็มใจ ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากให้แฟนของตนเองไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนอื่น ดังนั้นเธอจึงถามเหตุผลทันทีว่า “ทำไมถึงทำแบบนี้?”
ลี่หยูนห่วนมองไปที่ เฉียวซินอยู่เป็นเวลานาน ในเมื่อมันเป็นคำขอของส้งหวั่นหวั่นเขาเองก็ไม่สะดวกจะอธิบายรายละเอียดกับเฉียวซิน หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง เขาถึงเอ่ยขึ้น “เฉียวซินคุณต้องเชื่อใจผม ผมไม่มีทางทำเรื่องผิดต่อคุณ ไม่อย่างนั้นผมคงไม่บอกคุณอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้ เรื่องนี้สำคัญกับผมมาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องขอให้คุณช่วยเข้าร่วมการแสดงละครฉากนี้ไปกับผมด้วยเช่นกัน”
แม้ว่าในใจของเฉียวซินจะยังคงโกรธอยู่เล็กน้อย แต่เมื่อเห็นท่าทางจริงจังของลี่หยูนห่วน เธอก็ไม่ได้พูดไปอะไรมากกว่านี้อีก ได้แต่รับคำด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ถ้าหากคุณแกล้งแสดงจนทำจริงขึ้นมา และไม่ต้องการแฟนสาวแบบเปิดตัวอย่างฉันแล้ว แล้วฉันจะไปร้องไห้ที่ไหนกัน”
ลี่หยูนห่วนหัวเราะเบาๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะรู้สึกว่า เฉียวซินนั้นมีนิสัยเด็กๆไปหน่อย แต่ก็ยังคงเอ่ยปลอบเสียงต่ำ “ดูสิ ผมสีแฟนคลับสาวๆเยอะขนาดนั้น ผมเคยจริงจังกับใครงั้นหรือ? แผนการในครั้งนี้สำคัญกับผมมาก ถ้าหากคุณไม่ช่วยผมก็ลำบากจริงๆ”
ลี่หยูนห่วนจับเข้าให้ที่จุดอ่อนของเฉียวซินเฉียวซินทุ่มเทให้กับเขามาโดยตลอด และไม่เคยเห็นท่าทีน่าสงสารแบบนี้ของเขามาก่อน ดังนั้นเธอจึงตอบตกลงอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเลใดๆอีกต่อไป
“ก็ได้ ฉันสัญญากับคุณ แต่คุณต้องไม่ลืมคำพูดของคุณด้วยเช่นกัน”
วันรุ่งขึ้น ถวนจื่อไปโรงเรียนอนุบาลแล้ว ลี่จุนถิงเองก็ไปทำงานแล้วเช่นกัน นอกจากคนรับใช้ ในคฤหาสน์เหลือเพียงแค่เจียงหยุนเอ๋อคนเดียว
เธอนั่งดูทีวีบนโซฟาสักพัก จากนั้นจึงได้รับโทรศัพท์จาก ลี่หยูนห่วนและนึกขึ้นมาได้ถึงการนัดหมายของพวกเขาเมื่อวานนี้
“อืม? ตอนนี้หรือคะ? ฉันสะดวก ได้ค่ะ เจอกันที่ไทม์สแควร์แล้วกันค่ะ รบกวนคุณแล้ว”
เมื่อนึกถึงการสัมภาษณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ในใจของเจียงหยุนเอ๋อก็ยังคงกังวลอยู่บ้าง อย่างไรก็ตามเธอรู้สึกว่าคำพูดของลี่หยูนห่วนก่อนหน้านี้เองก็มีเหตุผลมากเช่นกัน ผู้หญิงควรพึ่งพาตนเองและพัฒนาตนเองเธอไม่สามารถพึ่งพาลี่จุนถิงแบบนี้ต่อไปได้
แม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจที่จะยอมรับ แต่ในความเป็นจริง ตั้งแต่เธอกลับมาเธอก็พึ่งพาลี่จุนถิงมาโดยตลอด หลายสิ่งหลายอย่างเธอก็ต้องพึ่งพาอำนาจของเขา