ตอนที่ 3: คนแปลกหน้าที่คุ้นเคย

– วันถัดไป –

เสี่ยวเฉิงตื่นขึ้นและพบว่าตัวเองอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย เขาพลันรีบลุกขึ้นด้วยความตกใจ

หลินจื้อซือยืนอยู่ในชุดเหย้าสีเขียวเผยให้เห็นถึงผมหางม้า เธอรินน้ำหนึ่งแก้ววางไว้บนโต๊ะ “คุณเคยมาที่นี่แล้ว จำได้ไหม?”

“อ่า คุณนั่นเอง” เสี่ยวเฉิงพลันถอนหายใจด้วยความโล่งอกพร้อมนวดขมับอยู่สองสามที “ขอโทษที่รบกวนนะ”

จากนั้น เขาก็ลุกขึ้นพร้อมที่จะเดินออกไป

“ดื่มน้ำก่อนสิ” หลินจื้อซือกล่าวอย่างเฉยเมย จากนั้นก็เดินลงไปยังห้องดนตรี เธอนั่งลงหน้าเปียโนพร้อมเรียงนิ้วทั้งสิบและเริ่มบรรเลงเพลงจากอัลบั้มใหม่

หลังจากที่เสี่ยวเฉิงดื่มน้ำจนหมดและพร้อมที่จะออกไป หลินจื้อซือก็กล่าวคำพูดขึ้น “ถ้าคุณออกไปตอนนี้ พวกปาปารัสซี่จะจับได้ เรื่องของเราจะไม่เป็นความลับอีกต่อไป”

เสี่ยวเฉิงเผยหน้ามุ่ยพร้อมเดินลงไปชั้นล่างและนั่งลงบนโซฟา ส่วนแลงค์ก็นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ไม่นาน เสี่ยวเฉิงก็พลันถามขึ้น “จะเป็นอะไรไหมถ้าผมขอสูบบุหรี่หน่อย?”

เธอไม่ได้ตอบและยังเล่นเปียโนต่อไป

เสียงดนตรีนั้นไพเราะและผ่อนคลายไม่น้อย

เพราะเสียงดนตรีและบุหรี่ เสี่ยวเฉิงก็รู้สึกดีขึ้น

ทันทีที่หลินจื้อซือเล่นเสร็จ เธอก็หันกลับมาและถามขึ้น “คุณออกมาแล้วเหรอ?”

เสี่ยวเฉิงพยักหน้า “ใช่ เพราะเข้าไปไม่ได้ เลยต้องออกมา ผมกำลังจะไปทำงานที่ซ่างเฉิงด้วย แต่ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเราก็ต้องใช้ชีวิตแบบเดิม ผมจะทำตามสัญญา จะไม่เข้าไปก้าวก่ายชีวิตของคุณอีก”

“ไม่ต้องเตือนหรอก เราก็ทำแบบนี้มาสามปีได้แล้ว” หลินจื้อซือกล่าวและถามขึ้นอีกครั้ง “แล้วคุณวางแผนที่จะทำอะไรล่ะ?”

“เบื้องบนจัดการให้แล้ว” เสี่ยวเฉิงตอบกลับ “ผมจะต้องไปทำการลาดตะเวน แต่ก็ยังไม่ล้มเลิกความฝันของตัวเองหรอกนะ”

“น่าอิจฉายังที่คุณยังมีความฝันอยู่”

เสี่ยวเฉิงรู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้กำลังประชด มันไม่ใช่เรื่องที่ยุติธรรมสำหรับหลินจื้อซือเลยที่จะต้องแต่งงานกับเขาเพราะพ่อแม่ของทั้งสองได้จัดการเรื่องนี้เอาไว้ก่อนแล้ว เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ยังขัดขวางความฝันในชีวิตที่เธอวาดไว้อยู่ มันทำให้เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกลับมาที่เมืองฮัวเซียเพื่อเป็นภรรยาของเสี่ยวเฉิง

“ผมเคยไปคุยกับลุงหลินมาตั้งหลายครั้งแล้ว ขอโทษนะที่เราต้องมาแต่งงานกัน แต่ไม่ต้องกังวลไปเลย ผมให้อิสระแล้วก็เคารพการตัดสินของคุณอยู่แล้ว สักวัน คุณก็ต้องได้เจอกับรักแท้ ถ้าคนนอกรู้เรื่องงานแต่งของเราเข้า มันจะส่งผลเสียต่ออาชีพการงานของคุณแน่ ยังไงก็เถอะ ผมจะไปคุยกับลุงหลินเรื่องที่จะให้เราทั้งคู่หย่ากันให้เร็วที่สุด” เสี่ยวเฉิงกล่าวอย่างจริงจัง

หลินจื้อซือไม่ได้พูดอะไรตอบกลับ

ผู้ช่วยแลงค์เผยเสียงกระแอมทันทีที่ได้ยินเรื่องหน้าที่การงานของเสี่ยวเฉิง ในสายตาของเธอ พี่หลินควรจะได้แต่งงานกับมหาเศรษฐีหรือไม่ก็ผู้มีอำนาจ ไม่ใช่ตำรวจธรรมดาเช่นนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่พี่หลินพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงที่เฉยชา

ทว่า ถ้าพูดถึงน้ำเสียงที่เฉยชา พี่หลินก็ดูจะเป็นแบบนี้กับผู้ชายทุกคน

เดิมที เธอคิดว่าชีวิตของเสี่ยวเฉิงจะมีเบื้องหลังที่น่าทึ่ง ถึงอย่างไร หลังจากที่รู้ว่าเขาเป็นอะไร เธอก็พลันคิดว่าชายคนนี้อาจจะทำให้หลินจื้อซือเสียชื่อเสียงได้ เป็นที่ทราบกันดีว่าชื่อเสียงของลินจื้อซือยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ตารางงานของเธอนั้นก็แน่นมาก ลินจื้อซือเป็นผู้หญิงที่มีรายได้อยู่อันดับต้นๆ ของแวดวงคนดัง ด้วยเหตุนี้ แลงค์จึงอดสงสัยไม่ได้ว่าเสี่ยวเฉิงจะแบล็คเมล์เธอทีหลังหรือไม่ หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ทำข้อตกลงและวางมันลงบนโต๊ะ

เสี่ยวเฉิงมองไปที่โต๊ะและถามขึ้น “นี่คืออะไร?”