ตอนที่ 28

My Disciples Are All Villains

ตอนที่ 28 ดื้อดึง

การฝึกยุทธ์ขั้นมหาราชครูนั้นจะมีเส้นพลังลมปราณทั้งหมดที่จะต้องเดินพลังด้วยกันถึง 8 เส้น ผู้ฝึกยุทธ์ที่ฝึกมาถึงขั้นมหาราชครูได้แล้วถ้าหากเดินลมปราณเส้นที่หนึ่งได้นั่นก็จะหมายความว่าผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นสามารถฝึกยุทธ์จนมาถึงขั้นมหาราชครูได้อย่างแท้จริง และเมื่อฝึกฝนจนสามารถเดินพลังลมปราณพร้อมกันถึง 6 เส้นได้แล้ว คนคนนั้นก็จะกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นมหาราชครูระดับสูงไป และเมื่อสามารถเดินพลังลมปราณทั้ง 8 เส้นพร้อมกันได้ ผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นก็จะสามารถใช้พลังลมปราณในการโจมตีได้นั่นเอง

และเมื่อผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นเปิดเส้นพลังลมปราณทั้งแปดได้ คนคนนั้นก็จะกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นศักดิ์สิทธิ์ไปในที่สุด

และแน่นอนว่าแม้สมาคมมังกรฟ้าจะทรงพลังอำนาจมากซักแค่ไหน สุดท้ายแล้วคนจากทั่วทั้งสมาคมนั้นก็ไม่มีผู้ฝึกยุทธ์คนไหนที่ฝึกฝนตัวเองจนไปถึงขั้นศักดิ์สิทธิ์ได้

คลื่นพลังลมปราณที่ได้ถูกปล่อยออกมานั้นมาพร้อมกับพลังแรงกดดันอันมหาศาล พลังนี้เองดูทั้งรวดเร็วและดุร้าย อาคารโดยรอบของสมาคมนั้นเริ่มแตกออก สมาชิกของสมาคมทั้งหลายต่างก็ทรงตัวกันไม่อยู่

หลิวฉางเฟิงในตอนนี้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นมหาราชครู ในตอนนั้นเองเขาได้ยกแขนทั้งสองข้างเพื่อที่จะป้องกันพลังที่แสนจะน่ากลัวนี้ แต่ถึงแบบนั้นพลังมันก็รุนแรงจนเกินไป ตัวเขาที่พยายามป้องกันนั้นไม่อาจที่จะป้องกันพลังทั้งหมดได้ ตัวเขาเริ่มถูกผลักให้ถอยไป ถอยไป จนในที่สุดหลังของหลิวฉางเฟิงก็ชนเข้ากับเสาของสมาคมเสาหนึ่ง เสานั้นเองพังทลายไปในทันที

‘เจ้าเด็กนี่มันแข็งแกร่งจนเกินไป! ‘

“ช้าก่อน! ” หลิวฉางเฟิงที่กระอักเลือดออกมาพยายามจะใช้แขนเสื้อของเขาเช็ดไปที่มุมปากของตัวเอง ตอนนั้นเขาได้พูดออกมาพร้อมกับจ้องมองไปที่หยวนเอ๋อตัวน้อย หยวนเอ๋อในตอนนี้ค่อยๆ ลอยลงมาตรงที่หน้าของหลิวฉางเฟิง เธอในตอนนี้ได้ลอยลงมาราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“เจ้าน่ะอยากให้ข้ารออะไรกัน ฮะ? “

“ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่าเจ้าน่ะจะเปิดเส้นพลังลมปราณทั้ง 8 ได้ ได้โปรดยกโทษให้ตัวข้าด้วยเถอะ! ยังไงซะพวกเราก็ยังคุยกันได้นิ ใช่ไหมล่ะ? “

หยวนเอ๋อในตอนนั้นเข้าไปใกล้กับชายผู้ที่เป็นหัวหน้าสมาคมมากขึ้น ตัวเธอได้ใช้ดวงตาอันกลมโตจับจ้องไปที่หลิวฉางเฟิง “ข้าน่ะมีงานให้เจ้าทำ”

“งานอะไรกันนายหญิง? “

“ข้าอยากจะให้เจ้าช่วยตรวจสอบเรื่องสมาคมริมแม่น้ำน่ะ”

“สมาคมริมแม่น้ำอย่างงั้นหรอ? ” หลิวฉางเฟิงจ้องมองไปที่หยวนเอ๋ออย่างสงสัย ตัวเขานั้นไม่เคยได้ยินชื่อแบบนี้มาก่อน

“เจ้าพวกนั้นน่ะอยู่เบื้องหลังในการลักพาตัวคนสกุลซีไป เจ้าน่ะมีเวลาสามวันด้วยกัน ไปสืบข่าวคราวพวกนั้นมาให้ข้าซะ”

เมื่อได้ยินเรื่องเกี่ยวกับคนสกุลซี ตอนนั้นเองใบหน้าของหลิวฉางเฟิงก็ได้เปลี่ยนไปดูจริงจังมากขึ้น เขาคนนั้นที่ได้ฟังแบบนั้นจึงพูดอะไรออกมา “สมาคมริมแม่น้ำลักพาตัวคนสกุลซีอย่างงั้นเรอะ? นี่…นี่คงไม่ใช่เรื่องที่สมาคมมังกรฟ้าเข้าไปเกี่ยวเลยนะ! “

“ไหนเจ้าพูดอีกทีซิ”

“นะ…นายหญิง ข้าจะหาสมาคมริมแม่น้ำให้พบภายใน 3 วันเอง ไว้ใจข้าได้เลย”

“ดีมาก! “

หยวนเอ๋อที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้เดินถอยห่างออกมา เธอเดินตรงไปที่สมาชิกของสมาคมคนหนึ่งที่กำลังนอนอยู่บนพื้นอย่างหมดพลัง “เจ้าน่ะยิงธนูใส่ข้าอย่างงั้นสินะ? “

“มะ มะ มะ ไม่! “

“ใช่ เจ้านั่นแหละ”

หยวนเอ๋อได้เคลื่อนย้ายตัวเองอย่างรวดเร็ว เธอได้เคลื่อนย้ายมาใกล้ๆ กับชายคนนั้น ชายคนที่ยิงธนูใส่เธอนั่นเอง หยวนเอ๋อได้กระทืบเท้าไปที่ด้านข้างของใบหน้าชายคนนั้นอย่างรุนแรง พื้นที่อยู่ตรงนั้นเองจึงเป็นรอยเท้าของหยวนเอ๋อ

รอยเท้านั้นเป็นรอยเท้าที่ดูสมบูรณ์แบบมากที่สุดรอยเท้าหนึ่ง รอยเท้านั้นตราตรึงอย่างเด่นชัดอยู่บนหินอ่อน

ชายคนนั้นที่เห็นหยวนเอ๋อกระทืบเท้า เขาได้กรีดร้องออกมา ที่กางเกงของเขาเปียกปอนไปด้วยน้ำอะไรบางอย่าง ตอนนี้ตัวของชายคนนั้นกำลังสั่นเทาไปทั้งตัว

เจ้าเด็กนี่มันไม่ใช่เด็กผู้หญิงธรรมดาๆ เจ้านี่น่ะคือปีศาจตัวน้อย!

“ฮาฮ่า! ช่างขี้ขลาดอะไรแบบนี้! ” หยวนเอ๋อได้จ้องมองไปที่ใบหน้าของชายคนนั้น หลังจากนั้นเธอก็หันไปจ้องมองหลิวฉางเฟิงอีกครั้งก่อนจะพูดขึ้นมา “จงเชื่อฟังข้าซะ! ถ้าหากพวกเจ้าไม่ทำตามที่ข้าสั่ง ข้าจะเป็นคนทำลายสมาคมมังกรฟ้าทั้งหมดเอง”

“…”

หลังจากพูดทิ้งท้ายเสร็จ หยวนเอ๋อก็ได้กางแขนขึ้นมาก่อนที่จะลอยไปบนอากาศ เธอกระโดดเหยียบหลังคาของสมาคมก่อนที่จะบินหายไปในพริบตา

ในตอนนั้นเองที่ลานแห่งนั้น หลิวฉางเฟิงในตอนนี้ได้ทรุดตัวลงไปกับพื้น ตัวเขารีบเช็ดเหงื่อที่ไหลอาบทั่วใบหน้าก่อนที่จะถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา “ทำไมข้าไม่รู้มาก่อนเลยล่ะว่าจะมียอดฝีมืออายุน้อยแบบนี้อยู่ในเมืองอันยาง? “

ในตอนนั้นเองหลิวฉางเฟิงผู้ที่เป็นหัวหน้าสมาคมก็ได้พบกับเรื่องแปลกประหลาดเข้า เหล่าลูกน้องของเขาในตอนนี้กำลังนอนอยู่รอบตัวของเขา ถ้าหากเป็นศัตรูคนอื่นที่บุกถล่มมาแบบนี้ พวกสมาชิกในสมาคมของตัวเขาจะต้องตายจากไปแล้วอย่างแน่นอน แต่ถึงแบบนั้นเด็กผู้หญิงตัวเล็กคนนั้นก็กับเลือกที่จะไม่สังหารเหล่าลูกน้องของเขาไป เธอทำให้ลูกน้องของตัวเขาบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และหลังจากที่มอบหมายงานเสร็จแล้วเธอก็เดินจากไป นี่มันเป็นเรื่องแปลกที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้นจริงๆ

“สมาคมริมแม่น้ำอย่างงั้นหรอ…มีสมาคมแบบนี้อยู่ในเมืองอันยางด้วย? ” ยิ่งหลิวฉางเฟิงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ตัวเขาก็ยิ่งแปลกใจมากขึ้น เรื่องในครั้งนี้มันทำให้ตัวเขาสับสนมากขึ้นเรื่อยๆ

“ติ้ง! ภารกิจระดมพลสมาคมมังกรฟ้าสำเร็จ คุณได้รับ 200 แต้มบุญ”

ลู่โจวในตอนนี้เพิ่งจะดื่มชาของเขาเสร็จ เขากำลังเดินมาที่ลานแห่งหนึ่งเพื่อที่จะเดินเล่น

บ้านสกุลซีในตอนนี้นั้นยังคงเป็นเช่นเคย ในตอนแรกที่จีเทียนเด๋าได้พบกับหยวนเอ๋อในเมืองอันยางนั้นบ้านสกุลซีก็ยังคงเป็นเช่นนี้ ในตอนนั้นเองเป็นครั้งแรกที่จีเทียนเด๋าได้พบกับลูกศิษย์คนนี้ แต่ในตอนนั้นตัวเขากับถูกผู้เป็นพ่อและผู้เป็นแม่ของหยวนเอ๋อปฏิเสธไป และหลังจากนั้นต่อมา ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างที่ลู่โจวไม่อาจทราบได้ สุดท้ายแล้วผู้เป็นพ่อเป็นแม่ของเธอก็ได้ส่งหยวนเอ๋อมาที่ภูเขาทองด้วยตัวเอง

“คนสกุลซีมีศัตรูด้วยอย่างงั้นหรอ? ” ลู่โจวได้ถามพ่อบ้านที่เหลืออยู่

หวังฟูกุ่ยที่ยังยืนอยู่ใกล้ๆ โค้งคำนับอย่างเคารพก่อนที่จะตอบกลับไป “ครอบครัวสกุลซีของพวกเราไม่เคยมีศัตรูเลยครับ”

“แล้วเมื่อห้าปีก่อนล่ะ? “

“ห้าปีก่อนอะไรอย่างงั้นหรอครับ? “

หวังฟูกุ่ยพยายามนึกย้อนกลับไปในอดีต ทันใดนั้นเองเขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้ “ท่านกำลังหมายถึงคนสกุลมู่อย่างงั้นหรอ? “

“บอกข้าเกี่ยวกับเรื่องของคนสกุลมู่มาซิ” ลู่โจวในตอนนั้นได้เดินไปที่ม้านั่งหินตัวหนึ่งก่อนที่จะนั่งลง

“เมื่อห้าปีที่แล้ว คนสกุลมู่และคนสกุลซี ทั้งสองตระกูลนั้นเป็นเหมือนน้ำกับไฟ ในเวลานั้นเองทั้งสองตระกูลต่างก็เป็นใหญ่ในเรื่องของการทำการค้า ทั้งสองตระกูลนั้นเป็นเหมือนกับหัวหอกใหญ่ของสามจังหวัดทางตอนใต้ของประเทศแห่งนี้ นายท่านสกุลซีของข้าได้ทุ่มเทความพยายามทั้งหมดไปกับการทำการค้าในครั้งนั้น และเพราะแบบนั้นเองจึงทำให้นายท่านของข้าที่มาจากสกุลซีร่ำรวยไปในที่สุด และเพราะแบบนั้นเองต่อมาคนสกุลซีและคนสกุลมู่จึงเป็นเหมือนกับศัตรูกัน ในโลกแห่งยุทธภพ แม้ว่าจะมีกฎว่าผู้ฝึกยุทธ์นั้นจะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลก แต่ถึงแบบนั้นก็ยังมีผู้ฝึกยุทธ์บางคนแสวงหาความเป็นใหญ่จนต้องฝ่าฝืนกฎอยู่ดี ในตอนนั้นเองนายท่านรวมไปถึงนายหญิงของข้าจึงถูกลอบสังหารเข้าน่ะ”

“คนสกุลมู่เป็นเบื้องหลังในการลอบสังหารอย่างงั้นหรอ? “

“ทุกคนนั้นล้วนรู้อยู่แก่ใจว่าคนสกุลมู่เป็นคนอยู่เบื้องหลัง แต่ถึงแบบนั้นพวกเราก็ไม่มีอะไรที่จะเป็นหลักฐานเพื่อพิสูจน์ได้ ในตอนนั้นเองจึงต้องจบเรื่องไป”

ลู่โจวในตอนนี้เข้าใจแล้ว เพื่อที่จะปกป้องหยวนเอ๋อทายาทแห่งตระกูลซี ผู้เป็นพ่อเป็นแม่จึงส่งหยวนเอ๋อให้มาอยู่กับจีเทียนเด๋านั่นเอง

“แล้วเจ้าน่ะคิดว่าคนสกุลมู่จะอยู่เบื้องหลังในการลักพาตัวในครั้งนี้ไหม? ” ลู่โจวได้ถามออกไป

หวังฟูกุ่ยในตอนนั้นหยุดคิดไปพักหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็ได้พูดตอบกลับออกมา “ข้าน้อยไม่กล้าที่จะด่วนสรุปอย่างงั้นหรอก…”

“คนที่จะมีความสามารถพอจนสามารถลักพาตัวได้ คนคนนั้นจะต้องมีวรยุทธ์อยู่ที่ขั้นมหาราชครูอย่างแน่นอน และคนคนนั้นจะต้องเปิดเส้นพลังลมปราณได้ถึง 4 เส้นแล้ว เจ้าน่ะรู้ไหมว่าคนสกุลมู่นั้นมีผู้ฝึกยุทธ์อยู่หรือไม่? “

“ข้าน้อยเองก็ไม่เคยเห็นครับ บางทีอาจจะมีอะไรที่ซ่อนอยู่ในเงามืดก็เป็นได้ ข้าเองก็ไม่กล้าที่จะด่วนสรุปไป”

ลู่โจวที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้พยักหน้า

หลังจากที่พูดคุยกันจนจบ ตอนนั้นเองหยวนเอ๋อตัวน้อยก็ได้กระโดดลงมาบนลานแห่งนี้ ลู่โจวในตอนนั้นที่สังเกตเห็นเธอได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยการตำหนิติเตียน “ทำไมเจ้าถึงกระโดดไปมาบนหลังคาแบบนั้นล่ะ ประตูก็มีเจ้าน่ะทำไมไม่ยอมใช้กัน? “

“ท่านปู่ ถ้าหากข้ามาจากทางประตูหน้า ตัวข้าจะต้องเคาะประตูและจะต้องรอให้ใครสักคนมาเปิดประตูให้กับข้า และเพราะแบบนั้นแล้วการเลือกที่จะปีนไปตามหลังคาคงจะเป็นทางเลือกที่รวดเร็วกว่า”

“เจ้าน่ะอย่าทำแบบนี้อีกเข้าใจไหม? “

“ค่ะ! ” หยวนเอ๋อตอบกลับมา ในตอนนี้เธอดูไม่พอใจเล็กน้อย

“ติ้ง! คุณได้สั่งสอนหยวนเอ๋อ คุณได้รับแต้มบุญ 100 แต้ม”

“แล้วเจ้าได้ความว่ายังไงบ้าง? ” ลู่โจวที่เห็นหยวนเอ๋อรู้สึกผิดแล้วจึงพูดเข้าเรื่องในทันที

“เจ้าพวกนั้นเชื่อฟังข้าเป็นอย่างดี เจ้าพวกนั้นบอกว่าจะหาสมาคมริมแม่น้ำให้กับพวกเรา” หยวนเอ๋อพูดออกมาอย่างตื่นเต้น

“โอ้? เจ้าน่ะทำอะไรกับเจ้าพวกนั้น? “

“ไม่ได้ทำอะไร เจ้าหัวหน้าของสมาคมนั่นเป็นมิตรมาก เจ้านั่นได้พูดเอาไว้ว่า ‘ท่านหญิงข้าจะรีบตามหาสมาคมริมแม่น้ำให้ภายในสามวันอย่างแน่นอน’ ทำไมท่านปู่ถึงมองข้าแบบนั้นล่ะ! ข้าสาบานว่าที่ข้าพูดทั้งหมดนั้นล้วนแต่เป็นความจริง” หยวนเอ๋อตัวน้อยพึมพำออกมา

ลู่โจวคิดว่าหยวนเอ๋อจะต้องทำร้ายเจ้าพวกนั้นอย่างแน่นอน แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ไม่ได้คิดจะตำหนิอะไรเธอ เขาแค่อยากรู้ว่าเธอคนนี้จะบอกความจริงกับเขามาไหม

‘อืม ดูเหมือนว่าฉันจะต้องค่อยๆ สอนพวกเขาล่ะนะ ยังไงซะกรุงโรมก็ไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว’

วันเวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว สามวันที่ผ่านไปนั้นช่างเป็นวันเวลาที่แสนว่างเปล่า ในตอนนี้ลู่โจวกำลังนั่งเงียบๆ อยู่ที่ลานแห่งหนึ่ง ตอนนี้ตัวเขาได้แต่รอผลการสืบสวนของสมาคมมังกรฟ้าได้เท่านั้น

หวังฟูกุ่ยได้รินชาให้กับลู่โจว ในตอนนั้นเองเขาก็ได้ถามออกมาอย่างจริงจัง “นายท่าน ทำไมนายท่านถึงปล่อยให้นายน้อยไปที่สมาคมมังกรฟ้าคนเดียวกันล่ะ? ข้าน้อยกังวลเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยของเธอจริงๆ “

ลู่โจวเหลือบมองไปที่ชายผู้ที่เป็นพ่อบ้าน “ถ้าหากเจ้ารู้ความจริง เจ้าก็คงจะต้องห่วงความปลอดภัยของสมาคมมังกรฟ้ามากกว่านะ”

“…”

หวังฟู่กุ่ยไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ และเพราะแบบนั้นเองเขาจึงไม่เข้าใจความต่างระหว่างผู้ฝึกยุทธ์ และเพราะการที่เขาเป็นคนธรรมดาๆ ทำให้เขาไม่สามารถจำแนกความแข็งแกร่งของผู้ฝึกยุทธ์ได้

“ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ข้าน้อยได้ยินข่าวคราวว่าสมาชิกของสมาคมมังกรฟ้านั้นกำลังตามหาสมาคมริมแม่น้ำอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง และเพราะแบบนี้เองทำให้เมืองอันยางตกอยู่ในความปั่นป่วน” หวังฟูกุ่ยพูดขึ้น

ลู่โจวที่ได้ฟังแบบนั้นยิ้มออกมาโดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ ตัวเขาเข้าใจความกังวลที่พ่อบ้านคนนี้มีเป็นอย่างดี สมาคมมังกรฟ้านั้นได้รับการสนับสนุนมาจากทางสำนักทางใต้ สำนักทางใต้นี้มีผู้นำคือยู่เฉิงไห่ เขาคนนี้เป็นคนที่อยู่ในบัญชีดำอันดับที่ 2 เพียงแค่เอ่ยนามของเขาก็เพียงพอแล้วที่จะฝังรากลึกแห่งความหวาดกลัวลงไปในหัวใจของผู้คน

ในตอนนั้นเอง…

“ติ้ง! คุณได้สังหารคนชั่ว คุณได้รับแต้มบุญ 10 แต้ม”

“ติ้ง! คุณได้สังหารคนชั่ว คุณได้รับแต้มบุญ 10 แต้ม”

“ติ้ง! คุณได้สังหารคนชั่ว คุณได้รับแต้มบุญ 10 แต้ม”