บทที่ 69 ขอบคุณที่ช่วยให้เฉินซีซีกลับมา

Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว

บทที่ 69 ขอบคุณที่ช่วยให้เฉินซีซีกลับมา

บทที่ 69 ขอบคุณที่ช่วยให้เฉินซีซีกลับมา

เมื่อมองไปยังสมาชิกทีมที่ติดตามเธอ ซูโย่วอี๋ก็พูดว่า “อวี๋ชิงจ้าว ฉันอยากอยู่กับพวกเขา เธอยังอยากอยู่กับฉันไหม?”

บรรดาสมาชิกในทีม มีหลายคนที่มีความนิยมต่ำ แม้ว่าเธอจะไม่รังเกียจความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับสมาชิกในทีม แต่อวี๋ชิงจ้าวอาจไม่คิดเช่นนั้น

“ไม่เป็นไร เรามาร่วมมือกันเถอะ”

เมื่อเห็นว่าอวี๋ชิงจ้าวตั้งใจแน่วแน่ที่จะร่วมทีมกับซูโย่วอี๋ ฉูรั่วฮวนจึงหันกลับมาและพบว่าอีกสองคนที่เหลือจากคลาส A ก็ร่วมมือกัน

เมื่อเห็นว่ายังมีที่เหลือในทีม เธอถามความคิดเห็นของอวี๋ชิงจ้าว “เธออยากแนะนำใครไหม”

แต่อวี๋ชิงจ้าวคุ้นเคยกับการไปไหนมาไหนคนเดียว และไม่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับใคร

“ไม่ เธอเลือกเถอะ”

ทันใดนั้นหลินเจี้ยนก็เข้ามาถาม “ขอฉันอยู่ด้วยได้ไหม”

อวี๋ชิงจ้าวขมวดคิ้วเมื่อเห็นผู้มาเยือน เธอมีความประทับใจที่ไม่ดีต่อหลินเจี้ยนก็จริง

แต่เธอก็ไม่มีนิสัยพูดให้ร้ายคนอื่น

หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง ซูโย่วอี๋ก็พูดว่า “ถ้าเธอไม่มีใครจะแนะนำ ก็ให้หลินเจี้ยนเข้าทีมนะ”

หลังจากได้คนครบ ทีมงานของรายการได้มอบขวดน้ำหอมแบรนด์ DORA หนึ่งขวดที่ถูกระบุว่า ‘Guilty love’

รูปลักษณ์ภายนอกของน้ำหอมได้รับการออกแบบให้มีสามสี ได้แก่ สีเขียว สีชมพู และสีเงิน

1 ใน 3 ครึ่งบนของขวดเป็นแก้วใส และส่วนล่างทำจากโลหะ ด้านล่างมีลักษณะกลมเล็กน้อย และมีโลโก้รูปวงแหวนคู่สลักอยู่ตรงกลาง พร้อมชื่อแบรนด์ ‘DORA GUILTY’ และชื่อซีรีส์น้ำหอมอยู่ด้านล่าง

เธอลองเขย่าขวด และเห็นว่าน้ำหอมข้างในจากที่มีสีใสกลับมีสีสันขึ้นมา

ซูโย่วอี๋นำสมาชิกในทีมไปที่ห้องซ้อมและนั่งล้อมวงกัน

น้ำหอมถูกวางไว้ตรงกลาง

เมื่อมองไปที่สมาชิกในทีม ซูโย่วอี๋กล่าวว่า “มาแสดงความคิดของทุกคนกันเถอะ”

เฉินซีซีเสนอว่า “พี่สาว ฉันขอลองน้ำหอมนี้ก่อนนะ”

เธอหยิบน้ำหอมขึ้นมาฉีดเบา ๆ ทันใดนั้นกลิ่นหอมก็ฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง

“อืม ฉันเหมือนได้กลิ่นลาเวนเดอร์”

“ไม่ใช่ค่ะ มันคือกลิ่นส้ม”

“ทำไมฉันถึงคิดว่าเป็นกลิ่นหอมของดอกไม้ล่ะ”

“ทำไมจู่ ๆ อยากกินไอติม”

“กลิ่นแรงไปหน่อย”

แต่ดวงตาของกระต่ายน้อยดูมึนงงเล็กน้อยและพูดว่า “กลิ่นก็หอมดีนะ”

ทุกคนพยายามที่จะดม แต่อวี๋ชิงจ้าว เท่านั้นที่หลับตาในขณะที่น้ำหอมพุ่งออกมา

เธอดูเหมือนจมอยู่ในโลกของน้ำหอม

หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ลืมตาขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบว่า “นี่เป็นกลิ่นของไม้ แต่ตอนนี้กลิ่นยังไม่ชัด ต้องรอสักพักกลิ่นจริง ๆ ของมันจะออกมา”

“กลิ่นแรกที่ทุกคนได้กลิ่นคือลาเวนเดอร์กับเลมอนผสมกัน ให้ความรู้สึกอ่อนเยาว์ สะอาดและกระฉับกระเฉง แต่แฝงไปด้วยความเยือกเย็น แล้วที่ทุกคนสงสัย มันคือกลิ่นเลมอนไม่ใช่กลิ่นส้ม เพราะมีความฉุนอยู่เล็กน้อย”

“กลิ่นของเลมอนจะเริ่มชัดหลังจากฉีดไม่นาน พร้อมกับกลิ่นหอมของดอกไม้ แต่ไม่ได้หวานมาก”

“เบสของน้ำหอมเป็นกลิ่นไม้ซีดาร์กับพิมเสน ในตอนท้ายจะให้ความรู้สึกนุ่มนวลและอ่อนหวาน”

ผู้ชมมองอวี๋ชิงจ้าวด้วยความชื่นชม

[ว้าว น้องจ้าวคุณเป็นมืออาชีพมาก]

[ตามคำอธิบายของน้องจ้าว ฉันตกหลุมรักน้ำหอมนี้]

[ฉันจะซื้อทันทีเมื่อวางขาย]

[อะไรคือบาปแห่งรัก?]

[อวี๋ชิงจ้าว ทีมงาน DORA ได้ส่งคำเชิญให้คุณร่วมงาน]

[ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันไปดูทุกห้องแล้ว บอกได้เลยว่าการวิเคราะห์ของน้องจ้าวนั้นสมบูรณ์ที่สุด]

[อวี๋ชิงจ้าว เธอเก่งมาก ฉันรักเธอ!]

อวี๋ชิงจ้าวเหลือบมองเธอแล้วพูดว่า “กลิ่นยังไม่สมบูรณ์ การวิเคราะห์ของฉันอาจยังไม่ถูกต้อง”

“แล้วเหลือเท่าไหร่ล่ะ?”

“แปดหรือเก้าในสิบ” อวี๋ชิงจ้าวกล่าวยืนยัน

“ลีดเดอร์ ฉันอยากจะปีนกำแพง”

แม้ว่าสมาชิกในทีมคนอื่น ๆ จะไม่ได้พูดอะไร แต่พวกเขาก็ชื่นชมอวี๋ชิงจ้าวจากก้นบึ้งของหัวใจ

ซูโย่วอี๋ไม่ได้สนใจเลย เธอมีความสุขมากเมื่อมีอวี๋ชิงจ้าวอยู่ในทีม เธอคนนี้เป็นเหมือนเสือติดปีก

เธอหันไปถามคนอื่นว่า “แล้วพวกเธอจะนึกถึงอะไรเมื่อได้กลิ่นน้ำหอม”

กระต่ายพูดอย่างอาย ๆ ว่า “ฉันอยากมีความรัก”

จากนั้นเธอก็หันไปหากล้องอย่างเขินอาย “แม่คะ กำลังดูฉันอยู่หรือเปล่าคะ?”

[ฮ่าฮ่า กระต่ายขาวตัวน้อย สายเกินไปแล้วที่เธอจะมากังวลในตอนนี้!]

[ฉันบันทึกภาพหน้าจอแล้ว]

[ขอเจอแม่ภรรยาหน่อย!]

[มีความรัก? ฉันจะขอเสียสละเอง!]

ชุ่ยเชียนต้งขมวดคิ้วและพูดว่า “ฉันรู้สึกว่าน้ำหอมให้ความรู้สึกเย็นชา โดยเฉพาะกลิ่นที่ฉุนเล็กน้อยในตอนเริ่มต้น”

“ใช่ ถึงจะมีกลิ่นหวานที่หลัง แต่ก็ให้ความรู้สึกเย็นชาอยู่ตลอดเวลา”

ทุกคนแสดงความคิดเห็นทีละคน แต่หลินเจี้ยนก็ยังคงเงียบ

“หลินเจี้ยน เธอล่ะ?”

หลินเจี้ยนไม่คาดคิดว่าจู่ ๆ ซูโย่วอี๋จะเรียกชื่อเธอ เธอจึงเงยหน้าขึ้นและยิ้ม “เมื่อได้กลิ่น ในตอนแรกฉันรู้สึกเย็นแต่สุดท้ายแล้วมันก็หวาน มันขัดแย้งกัน”

[ตอนนี้เธอเก่งมากในฐานะหัวหน้าทีม!]

[ครับ ผมจะดูแลทุกคนเอง]

[ที่รัก ที่รัก]

[ไม่มีใครสังเกตเหรอว่าหลินเจี้ยนเงียบกว่าเดิมมาก]

[ก็ไม่ได้ติดตามนี่นา]

ซูโย่วอี๋สรุปความคิดเห็นของทุกคน “เรามาทำให้ธีมของน้ำหอมชัดเจนก่อน มีทั้งหมดสามความเห็น ความรัก ความเย็นชา และหวาน”

แต่เธอรู้สึกว่าเธอพลาดอะไรบางอย่างไป

อวี๋ชิงจ้าวไม่พูดอะไรจนกว่าเธอจะวิเคราะห์น้ำหอมอีกครั้ง “น้ำหอมนี้ชื่อว่าบาปแห่งรัก”

ความรักแบบไหนที่มีความผิดกัน?

รักต้องห้าม

ความรักที่คนทั่วไปไม่ยอมรับ

ทุกคนต่างคาดเดา

[คิดอย่างนั้นเหรอ?]

[ว่ากันว่าหัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำหอมของ DORA มีคนรัก แต่เขาไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณชน]

[มีข่าวทางอินเทอร์เน็ต ฉันไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า]

[ทำไมต้องเรียกว่าบาปแห่งรัก?]

[รักผิดตรงไหน?]

[ไม่มีความรักใดที่ผิด]

[ฉันอยากรู้ว่าพวกเขาจะถ่ายโฆษณากันยังไง]

เฉินซีซีกล่าวว่า “ฉันเข้าใจแล้ว”

ด้วยคำอธิบายที่คลุมเครือของทุกคน เธอก็เข้าใจที่มาของความรักเช่นกัน

เวลาผ่านไปทั้งเช้า เมื่อมองไปที่นาฬิกาบนผนัง ตอนนี้ก็เที่ยงแล้ว “ไปกินข้าวก่อนแล้วเจอมากันตอนบ่ายสองนะ”

หลินเจี้ยนไปหาเฉินซีซีแล้วพูดว่า “ไปกินข้าวด้วยกันเถอะ”

ในบรรดาทั้งสิบคน หลินเจี้ยนคุ้นเคยกับเฉินซีซีเท่านั้น

กระต่ายน้อยหิวมากจนเธอลืมซูโย่วอี๋ และรีบไปที่โรงอาหารกับหลินเจี้ยน

หลังจากที่ทุกคนออกไปแล้ว ซูโย่วอี๋ก็ค่อย ๆ ยืนขึ้น

ทันทีที่เธอกำลังเดินออกจากประตู เธอก็ถูกอวี๋ชิงจ้าวหยุดไว้ “ไปกินข้าวด้วยกันไหม?”

ซูโย่วอี๋พยักหน้าตอบรับอย่างไม่ลังเล

ทั้งสองไม่ใช่คนช่างพูด ดังนั้นพวกเธอจึงไม่ได้พูดคุยกันระหว่างทางเลย

ซูโย่วอี๋เห็นแบบนั้นก็รู้สึกไม่สบายใจ “ขอบคุณที่ช่วยเฉินซีซีในวันแสดงนะ”

อวี๋ชิงจ้าวตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ก็ฉันบอกเป็นนัย ๆ แล้วนี่ว่าฉันจะชุบชีวิตเฉินซีซีให้เธอ”

บอกเป็นนัย ๆ งั้นเหรอ!

ที่เลิกคิ้วมองเธอท่ามกลางฝูงชนน่ะเหรอ?

พวกเธอไม่เคยคุยกับอวี๋ชิงจ้าวตั้งแต่ถ่ายทำรายการ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องมิตรภาพกับเธอ อวี๋ชิงจ้าวไม่จำเป็นต้องเลือกเฉินซีซีเพื่อเห็นแก่เธอเลยด้วยซ้ำ

ซูโย่วอี๋รู้สึกสับสน หรือเธอหมายถึงเฉินซีซีหรือเปล่า?

ความเยือกเย็นในดวงตาของอวี๋ชิงจ้าวจางหายไปเล็กน้อย “เธอสงสัยไหมว่าทำไมฉันถึงช่วยเฉินซีซีให้กลับมา”