ตอนที่ 161

หลี่เหนียนฟานยืนอยู่บนเรือเหาะเฝ้าดูทิวทัศน์ใต้เท้าของเขาไปเรื่อย ๆ ก่อนมันจะค่อยๆถูกปกคลุมด้วยชั้นเมฆสีขาว

มันเหมือนกับการกลับบ้าน

มันคือความคิดถึง

การเดินทางครั้งนี้สนุกมาก ยกเว้นตอนที่มีคนมาระรานเขาและเขาก็ได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ

ดูเหมือนว่าสิ่งที่ระบบสอนข้าจะไม่ได้ไร้ประโยชน์อย่างที่คิด อย่างน้อยมันก็ทําให้ข้าดูดีต่อหน้าผู้ฝึกตน และทําให้ข้าเป็นมนุษย์ที่โชคดีที่สุดในโลกผู้ฝึกตน

ขาไม่รู้ว่า ต้าเฮยเป็นอย่างไรบ้างในระหว่างที่ข้าไม่อยู่

ในลานบ้าน.

มันแตกต่างจากความเงียบสงบในอดีตและมีเสียงดังมากๆอยู่ข้างใน

สุนัขจิ้งจอกเจ็ดหางตัวน้อยกําลังขยับแขนขาสั้น ๆ ของมันอย่างบ้าคลั่งบนลู่วิ่งและขนทั้งตัวของมันลุกชันขึ้น และหัวใจก็เต้นอย่างบ้าคลั่ง หากมองใกล้ ๆ จะมีแสงสีทองโผล่ออกมาจากหลังตูดของมัน มันแสดงถึงหางที่แปดที่กําลังจะงอกขึ้นมา

เสี่ยวไปมีหน้าที่บันทึกข้อมูลอยู่ด้านข้าง

“จิ้งจอกน้อยดูเหมือนว่าเจ้าจะสามารถเพิ่มระดับการวิ่งขึ้นได้อีกหนึ่งระดับ”

จิ้งจอกน้อยตกใจกลัวจนร้องลั่น”ไม่ได้อีกแล้ว ข้าทําไม่ได้!”

สิ่งที่ตอบนางคือเสียงคํารามของลู่วิ่ง

“หึง!”

ยางบนลู่วิ่งนั้นเร็วมาก จนไม่สามารถมองเห็นได้ มันเสียดสีจนเกิดประกายไฟในอากาศ

สุนัขจิ้งจอกตัวน้อยกรีดร้อง ขนของนางตั้งชั้นราวกับถูกไฟช็อตใส่ ทําให้มันในตอนนี้เหมือนเม่นตัวน้อย

ขาทั้ง 4 ของนางแทบจะบินได้ และเร็วจนมองไม่เห็น ตอนแรกๆนางวิ่งด้วย4ขา ไปๆมาๆกลับกลายเป็นวิ่ง2ขาแบบมนุษย์แทน

นางกัดฟันวิ่ง ใบหน้าเล็ก ๆ ของนางเต็มไปด้วยความตึงเครียด

“ดูสิ เจ้าเก่งมาก ศักยภาพที่แท้จริงของเจ้ากําลังปรากฏ” เสี่ยวไป ยืนอยู่ข้างๆและพูเอย่างไม่เร่งรีบ“เจ้ารู้ไหมว่าทําไมข้าถึงมุ่งเน้นให้เจาฝึกวิ่ง”

จิ้งจอกน้อยเหลือบมองมัน แต่พูดไม่ได้

เสี่ยวไป กล่าวอย่างจริงจัง: “เพราะ … เจ้าจะรู้ในอนาคตเอง”

สุนัขจิ้งจอกตัวน้อยแทบจะอาเจียนเป็นเลือด นางจุกที่หน้าอกและตัวของนางเกือบจะตามลู่วิ่งไม่ทัน

อีกด้านหนึ่งอสูรหมูป่าที่ปรากฏตัวในรูปแบบดั้งเดิมและกําลังถูกวางไว้บนตะแกรง ด้านล่างมีลูกแก้วเพลิงมังกรที่กําลังพ่นไฟออกมาราวกับกําลังทําบาร์บีคิว

ขนหมูที่เหลือเพียงเส้นเดียวบนตัวของมันถูกเผาเป็นจุลและทั้งตัวของมันก็แดงเถือกโดยเฉพาะที่กันที่กลายเป็นสีดําไปแล้วและมีกลิ่นไหม้ลอยออกมา มันกรีดร้องอย่างน่าอนาถ “พี่ใหญ่ยกโทษให้ข้าด้วย

“อา นายท่าน โปรดอ่อนโยนข้าที่ ตูดข้าไหมไปหมดแล้ว”

ต้าเฮยสูดลมหายใจเข้า “โอ้ดูเหมือนเจ้าจะกําลังถูกไฟเผา”

อสูรหมูป่าบีบรอยยิ้มทั้งน้ําตา และพูดอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนทันที“ใช่ลุงหมา ท่านโปรดช่วยพลิกตัวให้ข้าได้ไหม ได้เวลาเผาด้านหน้าแล้ว”

ต้าเฮยแสดงรอยยิ้มที่เป็นมิตร“ไม่ดีนะ เจ้าต้องอดทนให้ดีที่สุด ถ้าเจ้าสุก … ข้าก็ทําได้แค่กินหมูย่างทั้งน้ําตา”

ในตอนนี้ เสี่ยวไป เข้ามาบันทึกข้อมูลบางอย่างและพูดเบา ๆ : “อุณหภูมิของเปลวไฟสามารถเพิ่มขึ้นได้อีกหนึ่งระดับ ยังไงก็ตามอย่าลืมเพิ่มยี่หร่าด้วย”

และข้างๆอสูรหมูป่า งูหลามสีเขียว กล้งถูกแช่แข็งในก้อนน้ําแข็งขนาดใหญ่

เสี่ยวไป เอ่ยถามอย่างลวกๆว่า: “เจ้าตายหรือยัง ขยับตาของเจ้า ถ้าเจ้ายังมีชีวิตอยู่”

หลังจากนั้นไม่นานงูเหลามสีเขียวก็ขยับเปลือกตาของมันด้วยความยากลําบาก

(* = วงศ์ตระกูลงูเหลือม บางทีผมอาจใช้งูหลามนะครับ ของจีนเขาไม่ได้แยกสองชนิดนี้อออกจากกัน )

“เฮ้ เจ้าขยับได้ ผลึกน้ําแข็ง เจ้าต้องทํางานให้หนักขึ้น”

ที่มุมของลานบ้านอสูรหมีดําถือดาบปีศาจที่ร่วงหล่นอยู่และกําลังสับพื้นทีละชิ้น

อุ้งเท้าหนาๆของมันถูกปกคลุมไปด้วยเนื้อและขนของมันก็เต็มไปด้วยน้ําตา

ทันใดนั้น ต้าเฮยก็เงยหน้าขึ้น ใบหน้าของสุนัข กําก็เปลี่ยนไป เขาสูดอากาศอย่างรวดเร็วและพูดว่า “นายท่านดูเหมือนจะกลับมาแล้ว!”

ทันใดนั้นทั้งลานก็ตกอยู่ในความเงียบงันและลูกแก้วเพลิงมังกรที่ยังคงทํางานอยู่ จู่ๆก็มาถึงจุดที่ต้าเฮยยืนอยู่ราวกับสายฟ้าฟาด

เสี่ยวไป โผล่ออกมาจากประตูแล้วเดินกลับมาอย่างรวดเร็ว“นายท่านกลับมาแล้ว! ทุกคนรีบกลับไป!”

หลังจากพูดเสร็จมันก็ยกสุนัขจิ้งจอกตัวน้อยที่ยังอยู่บนลู่วิ่งและโยนมันทิ้งไปจากนั้นก็รีบจัดแจงอุปกรณ์ฟิตเนสและผลักมันกลับไปที่ห้อง

ต่อมามีเสียงกลไกดังขึ้น “พ่อบ้านเสี่ยวไป๋ออนไลน์แล้ว และนายท่านมาถึงตีนเขาแล้ว โปรดรีบไปจัดการให้เรียบร้อย”

ลูกแก้วเพลิงมังกรกลิ้งไปรอบ ๆ แล้วกลิ้งกลับไปที่ๆมันเคยอยู่อสูรหมีป่าได้หลุดพ้นจากดาบปีศาจที่ร่วงหล่น ก่อนดาบปีศาจจะกลับไปพิงลูกแก้วมังกรเพลิงดั่งเดิม

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นในสนาม ราวกับเสียงประท้วง

“ลุงหมา ท่านทําอะไรอยู่ ทําไมท่านไม่บอกเราให้เร็วกว่านี้ว่านายท่านกําลังกลับมา”

“เจ้าคิดว่าจะหานายท่านได้ง่ายๆเหรอไง ถ้าไม่ใช่เพราะจมูกของนายท่านหมาตัวนี้แล้ว พวกเจ้าคงรู้สึกตัวตอนเขาอยู่ที่หน้าประตูแล้ว !”

“เร็วเข้าอย่าส่งเสียงดังรีบๆละลายน้ําแข็งกับเอาเจ้าหมูป่าลงเร็วๆ!“อสูรหมูป่าและงูหลามสีเขียวที่ตัวหนึ่ง ตูดข้างหนึ่งไหม้เกรียม ส่วนอีกตัวก็แข็งเป็นน้ําแข็ง ทั้งสองได้ทรุดลงกับพื้นและยากที่จะเดินได้

ต้าเฮยอ้าปากกว้างและดูดอย่างรุนแรง

ทันใดนั้นเศษบางส่วนในลานและกลิ่นในอากาศก็ถูกดูดซับเข้าไปในปากของมันจนหมด

หลังจากนั้นเขามองไปที่อสูรทั้งสื่อย่างเย็นชาและพูดเบา ๆ : “คนที่ไม่สามารถเดินออกจากสนามได้ก่อนที่นายท่านจะกลับมา จะกลายอาหารเย็นของเราในวันนี้”

ทันใดนั้นสัตว์อสูรทั้งสี่ตัวก็สั่นสะท้านไป และใช้พลังทั้งหมดระเบิดศักยภาพ และวิ่งออกไปจากลาน พวกเขาทั้งกลิ้งทั้งคลานอย่างสุดชีวิต

หลี่เหนียนฟานพาต้าจีเดินไปตามถนนบนภูเขาที่คุ้นเคยและเขาอดไม่ได้ที่จะสัมผัสได้ถึงความใกล้ชิดในใจ

คอกทองคําหรือคอกเงิน ก็ไม่ดีเท่าคอกหมาของตัวเอง ไม่ต้องพูดถึงว่าคอกของเขานั้นดีและน่าอยู่มาก

เขารู้สึกดีมากที่ได้กลับมาถึงบ้าน!

เขาอดไม่ได้ที่จะเร่งฝีเท้าและก้าวขึ้นภูเขาอย่างเร่งรีบ

ในขณะนั้นเอง ร่างสีดําโผล่ออกมาจากป่าและตรงไปที่หลี่เหนียนฟาน

“ฮ่อง!”

ต้าเฮยรีบวิ่งไปที่เท้าของหลี่เหนียนฟาน เช่นเดียวกับตอนที่หลี่เหนียนฟานจากไปโดยถูหัวของมันกับเท้าของหลี่เหนียนฟาน หางของมันแกว่งไปมาอย่างรวดเร็ว

“ฮ่าฮ่าฮ่า ต้าเฮย เจ้าคิดถึงข้าล่ะซิ” หลี่เหนียนฟานหัวเราะ “เจ้าทําตัวดีๆตอนข้าไม่อยู่บ้านไหม?”

“อะ วู้ววววววว -“

ต้าเฮยเกิดอาการคลุ้มคลั่ง

ในไม่ช้าโครงร่างของบ้านก็ปรากฏต่อหน้าเขา

“แอ๊ดดดดดดดดด”

ประตูเปิดออกเสี่ยวไปเดินออกมาจากข้างใน มันโค้งคํานับอย่างสุภาพและกล่าวว่า “ยินดีต้อนรับนายท่าน” เสี่ยวไป มันนานแล้วที่ข้าไม่ได้เห็นหน้าเจ้า”

หลี่เหนียนฟาน ยิ้มและพยักหน้าเดินเข้าไปในประตูลานและมองไปรอบ ๆ ทุกอย่างยังคงดูคุ้นเคยเหทอนเก่า

ดูเหมือนว่าตอนที่ข้าไม่ได้อยู่ที่นี่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ลานนี้เงียบมากทุกอย่างราวกับว่าข้าไม่เคยจากไปความรู้สึกนี้ … ดีจริงๆ!