ตอนที่ 65 เสียโฉม แผนซ้อนแผน! (2)

หวนคืนชะตาแค้น

ฮ่องเต้จับจ้องไปที่มู่หรงอวี้พร้อมเอ่ยว่า เราได้ยินมาว่า…กู้ซิ่วถิงตายแล้วเช่นนั้นหรือ
ในใจของมู่หรงอวี้รู้สึกเงียบงัน ถึงแม้ว่าเขาจะเตรียมใจไว้แล้วแต่เมื่อฮ่องเต้ตรัสถามขึ้นมาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอึดอัดใจ อีกทั้งเขายังรู้ดีว่าถ้าหากเขาไม่จัดการเรื่องนี้อย่างเหมาะสมเกรงว่าจะต้องประสบปัญหาไม่รู้จบในอนาคต หลังจากสงบสติอารมณ์ลงแล้วมู่หรงอวี้ก็กล่าวด้วยความเคารพ ทูลเสด็จพ่อ ลูกเหมือนจะเคยได้ยินน้องแปดพูดถึงเรื่องนี้ ว่ากันว่ากู้ซิ่วถิงได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนักจากการตายของกู้อวิ๋นเกอจึงลอบฆ่าตัวตายในช่วงที่ผู้คุมพลั้งเผลอพ่ะย่ะค่ะ
อย่างนั้นหรือ คนตระกูลกู้ล้วนแล้วแต่มีอารมณ์รุนแรง ฮ่องเต้ตรัสอย่างเฉยชา ดูไม่ออกว่าเขาเชื่อหรือไม่ ผ่านไปชั่วครู่หนึ่งก็ตรัสขึ้นอีกครั้ง เราได้ยินมาว่า ช่วงนี้ผู้คนข้างนอกกำลังพูดถึงเรื่องจิ่วจ่วนหลิงหลง
เดิมทีมู่หรงอวี้นั้นไม่ได้คาดหวังว่าเรื่องนี้จะถูกซ่อนจากฮ่องเต้จึงกล่าวตอบอย่างสุขุม ทูลเสด็จพ่อ เป็นเรื่องจริงพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่ข่าวนี้มาอย่างไร้ร่องรอยและไม่รู้ที่มาของแหล่งข่าว ยิ่งไปกว่านั้นหลายวันมานี้ไม่มีผู้ใดในเมืองหลวงค้นพบเบาะแสของจิ่วจ่วนหลิงหลง เกรงว่าจะมีคนอยากฉวยโอกาสก่อความวุ่นวายในเมืองหลวง อย่างไรก็ตาม หากมีจิ่วจ่วนหลิงหลงในโลกนี้ เสด็จพ่อผู้เป็นถึงโอรสแห่งสวรรค์ มีอำนาจทั่วโลกหล้า จิ่วจ่วนหลิงหลงนี้เป็นธรรมดาที่จะเป็นเสด็จพ่อที่ได้ครอบครองมันเอาไว้พ่ะย่ะค่ะ
เจ้าเป็นผู้มีจิตใจรู้จักกตัญญูกตเวที ฮ่องเต้ตรัสเบาๆ
มู่หรงอวี้โค้งศีรษะด้วยความเคารพแล้วกล่าวว่า การกตัญญูต่อเสด็จพ่อเป็นหน้าที่ของลูกพ่ะย่ะค่ะ
ฮ่องเต้ดูเหมือนจะพอใจ พยักหน้าแล้วตรัสว่า ช่างเถิด เราเพียงได้ยินข้าราชบริพารพูดกันในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เราเองก็อายุมากแล้ว สุดท้ายแล้วอนาคตของแคว้นหวาก็คงตกเป็นของคนหนุ่มสาว
เสด็จพ่อทรงครองราชย์มาอย่างยาวนานเฟื่องฟู อีกทั้งยังเจริญรุ่งเรือง จนลูกนั้นตกตะลึงทีเดียว มู่หรงอวี้กล่าวอย่างเร่งรีบ ในใจของเขารู้สึกไม่พอใจอย่างเงียบงัน
เรื่องของจิ่วจ่วนหลิงหลงนั้นโกลาหลวุ่นวายมาก เสด็จพ่อจะไม่ได้รับข่าวได้อย่างไรกัน เดิมทีก็ไม่ผิดอะไรแต่ความผิดคือไม่มีพี่น้องคนใดเลยที่มารายงานเสด็จพ่อ ไม่แปลกที่ในใจเสด็จพ่อจะไม่ปิติ
จริงสิ โหรวเฟยกำลังตั้งครรภ์ การอภิเษกสมรมของอานเอ๋อร์และคุณหนูสามจวนซู่เฉิงโหวเจ้าก็คิดให้มากหน่อยก็แล้วกัน ฮ่องเต้ตรัสเบาๆ ในตอนสุดท้าย
ดวงตาของมู่หรงอวี้เป็นประกาย ตอบรับคำสั่งด้วยความเคารพ ลูกทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ
มู่หรงอวี้เดินออกจากพระตำหนักฉินเจิ้ง ในไม่ช้าก็มีคนที่ลักษณะเหมือนขันทีเข้ามารายงานเรื่องของพระตำหนักหวาหยางให้เขาฟัง
แม้แต่ฮ่องเต้ก็ยังคาดหวังว่านางจะให้กำเนิดบุตรมังกร อีกทั้งยังมีพระราชโองการเรื่องให้มู่เฟยหลวนขึ้นเป็นกุ้ยเฟยนั้น แจ่มแจ้งชัดเจนอย่างยิ่ง
ข้ารู้แล้ว เจ้าไปได้ หลังจากที่เขาโบกมือให้ขันทีกลับไป สีหน้าของมู่หรงอวี้ก็เย็นชาและไม่แยแส
มู่เฟยหลวนผู้นี้ประเมินค่าไม่ได้จริงๆ เสด็จแม่ติดตามรับใช้เสด็จพ่อมานานกว่ายี่สิบปียังได้ตำแหน่งเพียงแค่ชั้นเฟย มู่เฟยหลวนเข้าวังเพียงไม่กี่ปี หลังจากที่เพิ่งจะตั้งครรภ์ก็สามารถได้รับคำสัญญาจากปากของเสด็จพ่อ แต่เสด็จพ่อตอนนี้ยังมีพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ จะยอมให้มู่เฟยหลวนให้กำเนิดองค์ชายจริงๆ หรือ
จวนซู่เฉิงโหว
เข้าใจแล้ว เจ้ากลับไปพักผ่อนเถิด ในห้องหนังสือ หลังจากที่มู่ฉังหมิงฟังคำพูดของสะใภ้ซุนจบก็มองลงไปที่จดหมายที่เขียนด้วยลายมือของบุตรสาวคนโตโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ เป็นพิเศษ แม้ว่านางจะไม่รู้ว่าบุตรสาวของนางเขียนสิ่งใดในจดหมายแต่สะใภ้ซุนรู้ว่ามันต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับมู่ชิงอีอย่างแน่นอน แต่เมื่อเห็นมู่ฉังหมิงท่าทีนิ่งเฉยก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
นายท่านโหว คุณหนูสี่…
มู่ฉังหมิงขมวดคิ้ว ขัดจังหวะนางด้วยเสียงเข้ม ข้ารู้ว่าต้องทำอย่างไร เจ้าออกไปก่อน! เมื่อเห็นสีหน้าของมู่ฉังหมิงที่แสดงความรำคาญ สะใภ้ซุนก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก ทำได้เพียงถอยออกมาด้วยใบหน้าที่ขุ่นเคือง
ในห้องหนังสือ เหลือมู่ฉังหมิงเพียงลำพังที่กำลังมองดูจดหมายที่เขาโยนลงบนโต๊ะ อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจแล้วตกลงไปในห้วงความคิดของตน
แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับพระสนมที่ทรงพระครรภ์ ถ้าหากฮ่องเต้ได้เห็นชิงอี…เกรงว่าจะกลายเป็นหายนะ แต่…
มือของมู่ฉังหมิงที่วางอยู่บนโต๊ะสั่นเทาเล็กน้อย
ตามที่พระสนมกล่าวว่าจะตัดรากถอนโคนนั้น…ตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ชิงอีก็เป็นบุตรีแท้ๆ ของเขา ขนาดเลี่ยอ๋องแห่งแคว้นเป่ยฮั่นยังให้ความสนใจในตัวนางอย่างมาก แม้ว่าครั้งก่อนนางจะปฏิเสธการสู่ขอของเลี่ยอ๋องแห่งแคว้นเป่ยฮั่น แต่หลังจากเกิดเรื่องเลี่ยอ๋องก็ยังให้คนส่งของขวัญมาให้ถึงหน้าประตูโดยไม่มีอาการขุ่นเคืองแต่อย่างใด อย่างน้อยสำหรับชิงอีแล้วนั้นไม่ควรมีอุบัติเหตุใดๆ เกิดขึ้น ในขณะที่เลี่ยอ๋องยังคงพำนักอยู่ที่แคว้นหวาจะเป็นการดีที่สุด
ถ้าอย่างนั้น…วันคล้ายวันพระราชสมภพของโอรสสวรรค์ก็อย่าเพิ่งไปแล้วกัน คงสามารถดึงเวลาได้สักพัก บางทีผ่านไปสองสามวันฮ่องเต้อาจจะลืมไปแล้วก็ได้
มู่ฉังหมิงแอบคิดในแง่ดี แต่สีหน้าที่มืดมนบนใบหน้านั้นทำให้เห็นได้ชัดว่าไม่มีความหวังสำหรับความคิดนี้
สะใภ้ซุนออกจากห้องหนังสือของมู่ฉังหมิง ยังคงรู้สึกขุ่นเคืองอยู่ในใจ
นางให้กำเนิดบุตรสาวสองคนและบุตรชายหนึ่งคนแก่นายท่าน อีกทั้งบุตรสาวคนโตเฟยหลวนปัจจุบันนั้นเป็นถึงโหรวเฟยที่ได้รับความโปรดปรานที่สุดภายในวัง นายท่านยังจะช่วยบุตรสาวที่เกิดจากนังสารเลวสะใภ้จังนั่นอีก ตอนนี้นังเด็กมู่ชิงอีนั่นไม่เพียงแต่ทำร้ายหลิงเอ๋อร์แต่ยังรวมถึงพระสนมด้วย นายท่านยังปฏิเสธที่จะจัดการกับมันอีก!
ท่านแม่ เกิดเรื่องอันใดขึ้น กลับมาถึงภายในเรือนของตน มู่หลิงและมู่อวิ๋นหรงก็ร้องทักขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นท่าทางโกรธเคืองของสะใภ้ซุน มู่หลิงเอ่ยถามขึ้นอย่างรวดเร็ว พี่หญิงใหญ่พูดว่าอย่างไรบ้างขอรับ
สะใภ้ซุนบอกสิ่งที่มู่เฟยหลวนให้นำมากล่าวแก่มู่ฉังหมิงกับมู่หลิงและมู่อวิ๋นหรงฟังอีกครั้ง
พี่หญิงใหญ่บอกว่าฝ่าบาททรงพอพระทัยมู่ชิงอี? มู่อวิ๋นหรงเอ่ยขึ้นเสียงแหลม ถึงแม้นางจะไม่เชื่อว่าฮ่องเต้จะทรงพอใจนังสารเลวมู่ชิงอีนั่นก็ตาม แต่หากจะวิจารณ์ด้วยจิตใจที่เป็นกลาง มู่อวิ๋นหรงก็ต้องยอมรับว่าหลังจากที่ป่วยหนักรูปลักษณ์ของมู่ชิงอีนับวันก็ยิ่งชวนมองมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าตัวนางเองจะเป็นหญิงงามที่มีชื่อในเมืองหลวงแต่บางครั้งก็ยังรู้สึกหวาดกลัวแปลกๆ เมื่อเห็นมู่ชิงอี ความรู้สึกที่คล้ายกับความเป็นปรปักษ์นี้เกิดขึ้นระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิงเท่านั้น แม้ว่ามู่ชิงอีจะดูสุภาพและอ่อนน้อมทำให้ผู้คนรู้สึกดีได้ง่ายแต่ในสายตาของหญิงงามเหมือนกันนั้นมีแนวโน้มว่าจะทำให้เกิดการแข่งขันและความเกลียดชังเสียมากกว่า
ไม่ใช่หรอกหรือ สะใภ้ซุนกัดฟันพูดขึ้น คิดไม่ถึงเลยว่าสะใภ้จังจากไปก็ตั้งหลายปีแล้ว ฝ่าบาทจะยังทรงจำนังเด็กน่าเกลียดคนนั้นได้! ยิ่งไปกว่านั้นยังต้องการให้นางไปเข้าเฝ้าในวันคล้ายวันพระราชสมภพของโอรสสวรรค์อีกด้วย พี่หญิงใหญ่ของพวกเจ้าเพิ่งจะตั้งครรภ์ หากฝ่าบาททรงพอพระทัยนังเด็กคนนั้นจริงๆ ก็คง…
มู่หลิงยิ้มอย่างชั่วร้าย ถ้าอย่างนั้นก็ทำให้นางไปไม่ได้!
สะใภ้ซุนพยักหน้าพลางยิ้มเอ่ย พี่หญิงใหญ่ของพวกเจ้าก็หมายความเช่นนี้ แต่ว่าท่านพ่อของพวกเจ้า…
มู่อวิ๋นหรงพูดขึ้นอย่างโกรธเคือง ไม่รู้ว่าหลายวันมานี้ท่านพ่อเป็นอะไรไป เอนเอียงไปทางมู่ชิงอีเสมอ ทุกวันนี้ล้วนเป็นเพราะนางที่ทำให้ข้าโดนลงโทษมาหลายครั้งแล้ว! จะรอโอกาสจากท่านพ่อนั้นไม่สู้พวกเราคิดหาทางกันเองเล่าเจ้าคะ เมื่อคิดถึงความคับข้องใจที่นางได้รับในทุกวันนี้ มู่อวิ๋นหรงแทบรอไม่ไหวที่จะฉีกมู่ชิงอีออกเป็นชิ้นๆ ตั้งแต่เล็กจนโตนางไม่เคยรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมมากเท่านี้มาก่อน
เมื่อได้ยินดังนั้นสะใภ้ซุนก็ลังเล แบบนี้จะดีหรือ
แววตาของมู่หลิงปรากฏร่องรอยความโหดร้าย เอ่ยเห็นด้วย น้องหญิงสามพูดถูก มู่ชิงอีเจ้าเล่ห์เกินไปจะต้องหลอกล่อให้ท่านพ่อช่วยนางเป็นแน่ ถึงเวลานั้น หากนางได้รับอนุญาตให้เข้าวังไปได้จริงๆ สำหรับพวกเราคงจะไม่ใช่เรื่องดี เมื่อเห็นความลังเลของสะใภ้ซุน มู่อวิ๋นหรงก็พูดอย่างอดทนไม่ไหว ท่านแม่ ท่านกังวลสิ่งใด พวกเราเพียงแค่ต้อง…ทำให้ใบหน้าของนางมีบาดแผล ป้องกันไม่ให้วันนั้นนางออกไปได้ก็พอแล้ว ถึงเวลานั้นนางจะออกไปก็เถิด แต่จะเป็นไปได้หรือที่ฝ่าบาทจะทรงมองดูใบหน้าราวกับผีของนางแล้วจะทรงพอพระทัย และแม้ว่าแผนการจะถูกพบเข้าก็คงไม่เป็นไร อย่างมากก็แค่ถูกกักบริเวณอีกสักสองสามเดือน ท่านพ่อคงไม่ละทิ้งพวกเราเพียงเพราะแค่นางผู้เดียวหรอกกระมัง

ตอนต่อไป