ในขณะที่สือมูเฉินหยิบแก้วน้ำขึ้นมา เขาก็สังเกตเห็นทางหย่าหยุนดูทำท่าลุกลี้ลุกลนแปลกๆไป และดวงตาของเธอนั้นก็จ้องไปที่แก้วน้ำในมือของเขาแน่น และเขาก็รู้สึกสังหรณ์ใจอะไรบางอย่าง
เขาเงยหน้าขึ้นแสร้งทำเป็นดื่มน้ำจริงๆ แล้วจากนั้นก็วางแก้วน้ำลง และพูดกับทางหย่าหยุนว่า: “หย่าหยุน ช่วยผมวางแฟ้มเอกสารไว้ตรงหัวเตียงหน่อยได้ไหมครับ”
ทางหย่าหยุนรู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นเมื่อเธอได้ยินคำพูดประโยคนี้
นี่เขาขอให้เธอไปที่ห้องนอนของเขา ถ้าเช่นนั้นก็แปลว่า ……
เธอถือแฟ้มเอกสารเดินเข้าห้องนอนของสือมูเฉินด้วยความตื้นตันสุดๆ เธอวางแฟ้มเอกสารไว้บนหัวเตียง จากนั้น ก็มองสำรวจบริเวณรอบๆอีกครั้ง
และในเวลานี้ แก้วน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะทั้งสองนั้นได้ถูกสลับเปลี่ยนตำแหน่งแล้ว
เมื่อเห็นทางหย่าหยุนกลับมา สือมูเฉินก็หยิบแก้วน้ำที่ไม่มียาเจือปนขึ้นมา เขานั่งอย่างสบายๆพร้อมพูดว่า: “หย่าหยุน มานั่งนี่สิ”
เมื่อทางหย่าหยุนได้ยินเช่นนั้น เธอก็รีบตอบรับทันที และเธอก็นั่งลงแนบชิดข้างๆ สือมูเฉินจนชิด เนื่องจากกระโปรงของเธอสั้นเกินไป ดังนั้นเมื่อเธอนั่งลงก็เห็นต้นขาขาวเนียนของเธอได้อย่างชัดเจน
สือมูเฉินพูดอย่างใจเย็น: “ผมเคยได้ยินมาว่าผู้หญิงยิ่งดื่มน้ำมากเท่าไหร่ยิ่งเพิ่มความงามมากเท่านั้น มา คุณดื่มแก้วนี้ให้หมดสิ พวกเราควรบอกราตรีสวัสดิ์กันแล้วล่ะ”
ทางหย่าหยุนไม่รู้ว่าความหมายของคำว่า ‘ราตรีสวัสดิ์’ นั้นหมายถึงเรื่องแบบนั้นหรือเปล่า แต่เมื่อเธอเห็นสือมูเฉินเริ่มดื่มน้ำ เธอก็รู้สึกตื่นเต้นและความดีใจผุดในใจเธอยิ่งขึ้น
ขอเพียงแค่เขาดื่มมันลงไป ถ้าเป็นเช่นนั้น ไม่ว่าเขาจะหมายถึงอะไรก็ตาม มันก็จะกลายเป็นเรื่องอย่างว่าแบบนั้นจริงๆแหละ!
จากนั้นทางหย่าหยุนก็ยกแก้วของตัวเองขึ้นมาพร้อมแตะแก้วของสือมูเฉิน และพูดด้วยรอยยิ้มว่า:“คุณอา คุณอาหล่อมากจริงๆเลยนะคะ!”
ในขณะที่เธอพูดนั้น เธอดูเขาดื่มน้ำเข้าไปด้วยเสียง อึก อึก เธอรู้ผ่อนคลายและโล่งอกมาก แล้วเธอก็รีบดื่มน้ำในแก้วของเธอจนหมดอย่างรวดเร็ว
เพราะเธอกังวลว่าสือมูเฉิน จะจิบเพียงเล็กน้อย ดังนั้นทางหย่าหยุนจึงใส่ยาในปริมาณมาก
ในเวลานี้ เธอดื่มไปจนหมดแก้ว และวินาทีต่อมา เธอก็เริ่มรู้สึกร้อนขึ้นเล็กน้อย
เมื่อสือมูเฉินเห็นว่าทางหย่าหยุนถอดเสื้อผ้าของตัวเองโดยไม่รู้สึกตัว เขารีบลุกขึ้นพร้อมพูดว่า:“ไปที่ห้องของคุณเถอะ?”
เมื่อทางหย่าหยุนได้ยินคำพูดประโยคนี้ แต่เธอรู้สึกว่าเลือดของเธอเดือดพล่านทันที
เธอพยักหน้า สายตาวาบหวามสื่อถึงความต้องการในตัวเธอจนปิดไม่มิดตอบกลับเขาว่า: “โอเคค่ะ”
สือมูเฉินเดินตามทางหย่าหยุนไปที่ห้องของเธอ ทันทีที่เธอเดินเข้าไป ทางหย่าหยุนก็หันกลับมาและเงยหน้าขึ้นมองสือมูเฉิน
เขาและเธอใกล้กันมากจนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตาและก็เขาแสร้งทำเป็นเล่นตามน้ำ แต่กลับมีความเย็นชาเย่อหยิ่งแฝงอยู่
เขาเป็นผู้ชายที่ร่างกายสูงโปร่ง เมื่อเขาสวมเสื้อผ้าอยู่นั้นดูผอมบาง แต่ว่า เมื่อกี้นี้เธอเพิ่งเห็นกล้ามเนื้อซิกแพคของเขาอย่างชัดเจน
ในขณะนี้ ทางหย่าหยุนรู้สึกร้อนวุบวาบไปทั้งกาย มีบางอย่างเรียกร้องอยู่ในใจของเธอ และบวกกับสือมูเฉินเดินตามเธอเข้าไปที่ห้องของเธอ เธอก็กล้ารุกมากยิ่งขึ้น
เธอเดินไปหาสือมูเฉินอย่างกระหาย ร่างกายของเธอเกือบจะแนบชิดตัวเขา ทางหย่าหยุนนิ้วสั่นอย่างเห็นได้ชัด เธอเอื้อมมือไปปลดกระดุมเสื้อของสือมูเฉิน
เขาไม่ได้ปฏิเสธเธอ แต่ก็ไม่ได้ช่วยเธอ เขาแค่มองเธออย่างเฉยเมย ปลดทีละเม็ดทีละเม็ด และปลดกระดุมทั้งหมดออกจนหมด
สายตาของเธอไล่มองตามหน้าอกของเขาลงมา และเธอก็เห็นเส้นกล้ามเนื้อที่สวยงามและเรียบเนียนของเขา และมองลงไปช่วงล่างของเขา
ทางหย่าหยุนรู้สึกราวกับว่ามีแมลงหลายร้อยตัวกำลังว่ายวนอยู่ในท้องของเธอ และกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง เธอรู้สึกเวียนหัว และร่างกายของเธอก็ร้อนจนรู้สึกทรมานมาก
นอกจากนี้ยังมีความรู้สึกอ้างว้างอยู่ในร่างกาย ซึ่งทำให้เธอรู้สึกอารมณ์ถึงขีดสุดแล้ว
เธออดไม่ได้ที่จะดึงเสื้อผ้าของเธอออก จนเสื้อผ้าถูกถอดออกจนหมด เธอยืนเปลือยกายอยู่ต่อหน้าสือมูเฉิน จากนั้นเธอก็เอื้อมมือไปปลดเข็มขัดของเขา
แต่ว่าในขณะนี้สายตาของเธอเบลอเล็กน้อย นิ้วของเธอสั่นและหายใจถี่กระทั้น เธอแทบจะไม่สามารถมองเห็นสิ่งของที่อยู่บริเวณรอบๆตัวเองได้เลย
เมื่อมือของทางหย่าหยุนแตะที่หัวเข็มขัดอยู่นั้น จู่ๆ หลังมือของเธอก็ถูกจับเอาไว้แน่นจนต้องหยุดการกระทำนั้น และเสียงผู้ชายที่เย็นชาและไม่แยแสก็ดังก้องในหูของเธอ: “หัวเข็มขัดของผม มีเพียงผู้หญิงคนเดียวเท่านั้นที่จะปลดมันได้”
ทางหย่าหยุนรู้สึกมึนงง เธอเงยหน้าขึ้น และร่างกายของเธอก็สั่นเทาเพราะฤทธิ์ยา : “คุณอาคะ คุณอากำลังพูดอะไรอยู่คะ?”
เขาพูดย้ำอีกครั้ง มองดูเธอด้วยสายตาที่เย็นชาและไม่แยแสเหมือนเดิม
“คุณอาคะ ฉันต้องการ……” ทางหย่าหยุนไม่เข้าใจความหมายในสิ่งที่สือมูเฉินพูดเลย อีกทั้งเธอยังไม่หยุดลูบไล้เรือนร่างของตัวเองที่เริ่มแดงไปทั้งตัวแล้ว: “คุณอาคะ ให้ฉันเถอะค่ะ……ฉันต้องการคุณอา……”
ในขณะที่พูดอยู่นั้นทางหย่าหยุนก็พุ่งเข้าไปหาสือมูเฉิน และลูบร่างกายของเขาด้วยทรวงอกที่อวบอิ่มของเธอ
สือมูเฉินขมวดคิ้วแน่น หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ดึงเธอออก และเอนตัวลงเล็กน้อย เพื่อให้ดวงตาของเขาอยู่ในระดับเดียวกับทางหย่าหยุน เสียงที่เย็นชากระแทกเสียงดังขี้นมา: “ทางหย่าหยุนคุณเห็นอะไร?”
ในขณะที่เขาอยู่นั้น พลางชี้ไปที่กระจกตรงทางเดินข้างๆ
ทางหย่าหยุนตกใจกับน้ำเสียงเย็นชาของสือมูเฉินจนรู้สึกตัวทันที และเธอมองดูตัวเองและสือมูเฉินในกระจก
ร่างกายของเธอเปลือยเปล่า เธอบิดตัวไปมาตลอดเวลา และวิ่งไปหาสือมูเฉินอย่างมีความสุข
และเสื้อของเขาที่มีรอยย่นเล็กน้อยจากการกระทำของเธอเมื่อกี้นี้ นอกจากกระดุมถูกปลดแล้ว แม้ว่าจะมองผ่านในกระจก ก็สามารถดูท่าทางที่เรียบเฉยของเขาออก
สายตาของเธอจ้องไปที่ส่วนใต้เอวของกางเกงของเขา แบนราบเรียบขนาดนั้น ไม่มีส่วนที่ยื่นออกมาเลยสักนิด
ดังนั้น ตั้งแต่แรกเขาก็ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรต่อเธอเลยสักนิด?
การรับรู้นี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
เพราะว่า ร่างกายที่รู้สึกทรมานเหมือนการถูกแทะโรมโดยมดนับล้านๆตัวยังไงอย่างงั้นแหละ และในไม่ช้าก็เข้าครอบงำความประสงค์ของทางหย่าหยุน
เธอหันไปหาสือมูเฉินอีกครั้ง และกอดขาของเขา: “คุณอาคะ ฉันรักคุณอามากค่ะ ได้โปรดให้ฉันได้ไหมคะ ……”
เพราะความปรารถนาแล้วจึงไม่เหลือศักดิ์ศรีเลยแม้แต่น้อย ทางหย่าหยุนเห็นสือมูเฉินได้ติดกระดุมเสื้อของเขาแล้ว เธอตื่นตระหนกและกอดสือมูเฉินและต้องการจะจูบเขา
เขาดึงเธอออกไปอย่างรู้สึกรำคาญ ดวงตาคมกริบเย็นชาจ้องมองไปที่ใบหน้าของเธอ:“คุณทางครับ คุณเห็นชัดเจนแล้วหรือยังครับ ?ต่อให้คุณแก้ผ้าและลูบไล้บนตัวผม ผมก็ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับคุณเลย ! ดังนั้น หลังจากนี้เป็นต้นไปอย่าได้มาทำท่าทางให้ท่าแบบนี้อีก เห็นแล้วมันน่าขยะแขยงมาก!”
“คุณอาคะ……” เมื่อทางหย่าหยุนได้ยินเขาด่าเธออย่างไม่ใยดี เธอรู้สึกอึดอัดในใจจนหายใจไม่ออก แต่ความปรารถนาและความหวังในร่างกายของเธอกลับไม่ได้หายไปเลยแม้แต่น้อย
เธอยังคงเอามือถูกับผนัง และขอร้องอ้อนวอนเขาว่า :“คุณอาคะ ฉันรู้สึกทรมานมากเลยค่ะ ให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ? ฉันไม่ต้องการให้คุณอารับผิดชอบหรอกนะคะ ขอแค่คืนเดียวก็พอแล้วค่ะ ได้ไหมคะ?”
สือมูเฉินเดินไปและบีบคางของทางหย่าหยุน: “คุณต้องการมันมากจริงๆเหรอ?”
ทางหย่าหยุนรีบพยักหน้าตอบรับอย่างรวดเร็ว
“ผมให้ทางเลือกคุณสองทาง” สือมูเฉินพูดอย่างใจเย็น: “หนึ่ง อดทนจนกว่ายาจะหมดฤทธิ์ สอง ผมจะหาผู้ชายมาให้คุณ”
“คุณอาคะ ฉันต้องการแค่คุณอาเท่านั้นนะคะ—” ทางหย่าหยุนพูดอย่างอ้อนวอน
“แต่ว่าผมไม่ต้องการคุณ !” ในขณะที่สือมูเฉินกำลังพูดอยู่นั้น เขาก็เดินเข้าไปในห้องรับแขก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า:“คุณค่อยๆคิดทบทวนดูดีๆแล้วกันนะ”
ในเวลานี้ ทางหย่าหยุนรู้แล้วว่าสือมูเฉินได้สลับแก้วน้ำ แต่ว่าอย่างไรก็ตาม เธอไม่มียาถอนพิษเลย และเธอยังเคยได้ยินมาก่อนหน้านี้ว่า ถ้าหากใช้ยานี้แล้ว ไม่ร่วมรักมันก็อาจจะตายได้!
ดังนั้นเธอจึงมองไปที่สือมูเฉินที่เย็นชาและไม่แยแสพร้อมพูดอีกครั้งว่า: “คุณอาคะ คุณอาสามารถช่วย ……”
สือมูเฉินรู้สึกรำคาญมาก: “สองทางเลือก คุณต้องบอกตัวเลขเท่านั้น”
“ฉันเลือกทางเลือกที่สอง!” ในขณะที่ทางหย่าหยุนพูดตะโกนออกมานั้น ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา
“รู้อะไรไหม ผมเกลียดคนที่ใช้แผนสกปรกแบบนี้ที่สุด” ในขณะที่สือมูเฉินพูดอยู่นั้น เขายกโทรศัพท์ขึ้นแล้วกดโทรออก
หลังจากวางสาย เขาก็ยืนจัดเสื้อผ้าของเขาอยู่หน้ากระจก มองไปยังทางหย่าหยุนด้วยความรังเกียจ: “ทุกอย่างคุณเป็นคนเลือกเอง ฉะนั้นโทษใครไม่ได้”
ในขณะที่พูดอยู่นั้น เขาก็เปิดประตูและเดินออกไป
สิบนาทีต่อมา ชายในวัยสี่สิบกว่าๆคนหนึ่งก็มากดกริ่งหน้าประตูห้อง
สือมูเฉินกลับไปที่ห้องของตัวเอง แล้วเขาก็เดินตรงไปยังห้องน้ำ
การอาบน้ำในครั้งนี้ เป็นการอาบน้ำที่ใช้เวลานานที่สุดเท่าที่เคยอาบมา
เมื่อเขาแน่ใจแล้วว่าตัวเองนั้นอาบน้ำจนสะอาดแล้ว และไม่มีกลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงหลงเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย เขาจึงเดินออกจากห้องน้ำ แล้วเป่าผมของตัวเองให้แห้งอย่างสบายใจ และนั่งลงที่โต๊ะ และเริ่มเคลียร์งานทันที
เนื่องจากเหตุการณ์สองเดือนก่อนหน้านั้น ดังนั้นช่วงนี้เขาจะต้องทำงานถึงเที่ยงคืนกว่าถึงจะได้พักผ่อน และในวันนี้ก็เกิดเหตุการณ์มากมายจนทำให้งานของเขาล่าช้าไปอีก บวกกับการรอเปิดดัชนีหุ้นต่างประเทศ เมื่อสือมูเฉินเคลียร์งานเสร็จแล้ว ก็ปาเข้าไปตีหนึ่งกว่าแล้ว
ช่วงกลางวันดื่มเหล้ามากไปหน่อย กลางคืนก็นอนดึกอีก ดังนั้นในวันรุ่งขึ้นสือมูเฉินนานๆจะได้นอนตื่นสายสักที
เพียงแค่ เมื่อเขาลืมตาตื่น ยังไม่ได้ลุกขึ้นจากเตียงนอน ก็มีเสียงเอะอะโวยวายดังอยู่ข้างนอกห้อง ค่อนข้างหนวกหูอย่างมาก
ในเวลานั้นสือเพ่ยหลินได้สั่งให้คนจองห้องพักไว้ เขาและทางหย่าหยุนนั้นพักอยู่ห้องติดกัน ดังนั้นการที่สือมูเฉินได้ยินสิ่งผิดปกติจากข้างนอก เขารีบแต่งตัวเสร็จแล้วเดินออกมา เขาก็ได้เห็นฉากที่น่าแสนสนุก
เขาคาดไม่ถึงว่า ทางหย่าหยุนจะโหดร้ายขนาดนี้ เธอถึงกับติดต่อสื่อเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว!
เดิมทีนี่คือบทละครที่เธอจัดเตรียมไว้ให้เขา แต่ตัวเธอเองกลับกลายเป็นตัวเอกในเกมนี้
เห็นเพียงนักข่าวหลายคนถือกล้องยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องนอนของทางหย่าหยุน ดูเหมือนว่านักข่าวได้พุ่งเข้าไปในห้องแล้ว
สือมูเฉินเลิกคิ้ว ดูเหมือนว่าคนที่เขาเลือกให้ทางหย่าหยุนนั้นช่างเหมาะสมกันจริงๆ
รองนายกเทศมนตรีคนใหม่ของไห่หลิน* เป็นม่ายเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว เขามีลูกชายหนึ่งคนและลูกสาวอีกหนึ่งคน คนหนึ่งอายุ 12 ปี อีกคนหนึ่งอายุ 15 ปี ล้วนเป็นเด็กที่กำลังเข้าสู่วัยรุ่น
คุณแม่ของทางหย่าหยุนรังเกียจคนจนและชอบคนร่ำรวยไม่ใช่เหรอ? พอดีเลย รองนายกเทศมนตรี *แม้ว่าตำแหน่งจะไม่ใหญ่โต แต่ทำงานมาหลายปีขนาดนี้แล้วก็น่าจะพอมีทรัพย์สินอยู่บ้าง
ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย เห็นได้ชัดว่าชื่อของทางหย่าหยุนต้องติดอันดับต้นๆอย่างแน่นอน ในระยะสั้นนี้ เกรงว่าจะมีแต่ข่าวผู้หญิงของคุณหลินนายกเทศมนตรีเมืองเซี่ยงไฮ้ * และดูเหมือนว่าบริษัท Times Group ทำอะไรคงจะสะดวกมากขึ้นแล้วล่ะ
นอกจากนี้ ชายไม่มีภรรยาและหญิงที่ยังไม่ได้แต่งงาน มันช่างเหมาะสมกันอะไรอย่างนี้นะ?
สือมูเฉินเดินผ่านประตู และเหลือบมองเข้าไปข้างในห้องอย่างเรียบเฉย
ในขณะนี้ ทางหย่าหยุนกำลังนั่งอยู่บนเตียง และมีเพียงผ้าห่มผืนใหญ่คลุมเรือนร่างของเธอไว้ และรองนายกเทศมนตรีคนนั้น* ได้ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาแล้วว่าเขาได้คบกับคุณทางและมีความสัมพันธ์กัน และทั้งสองฝ่ายก็ตั้งเป้าที่จะแต่งงานกัน โดยหวังว่าจะเชิญทุกคนมาดื่มเหล้าในงานแต่งเพื่อร่วมแสดงความยินดีด้วยกันในเร็วๆ นี้
ดังนั้น ครึ่งชั่วโมงต่อมา ข่าวในท้องถิ่น ก็รายงานข่าวตามภาพแบบนั้น:
[รองนายกเทศมนตรีไห่หลิน* ในที่สุดก็เดินออกมาจากการเป็นพ่อม่ายได้สักที และได้ออกเดทอันแสนหวานกับลูกสาวของตระกูลหนิงเฉิง]
เมื่อสือมูเฉินเห็นพาดหัวข่าวนี้ เขาก็คิดขึ้นมาได้ทันที ถ้าหากเมื่อวานนี้ เขาไม่ได้เปลี่ยนแก้วน้ำที่ถูกวางยาแก้วนั้นแล้วล่ะก็ พาดหัวข่าวคงเป็น:
[รองประธานของ Times Group ได้เดทกับสาวน้อยในวันที่แสนหวาน จากคุณอากลายเป็นแฟน]
เขาเบ้ริมฝีปาก แล้วโยนเสื้อที่ทางหย่าหยุนเคยแตะโดนเมื่อคืนทิ้งลงในถังขยะ