ตอนที่ 6: สองสาว

ในฐานะเป็นผู้หญิงฉลาดและมากประสบการณ์ หรานจิงพลันรู้สึกไม่สบายใจทันทีที่ได้ยินว่าต้องทำความสะอาด แต่แล้ว เธอก็ตระหนักถึงค่าครองชีพและค่าเช่าในย่านทองคำอย่างซ่างเฉิงขึ้นมาได้ เมื่อเทียบกับการต้องจ่ายค่าเช่าเดือนละหกถึงเจ็ดพันหยวนแล้ว การทำงานบ้านก็ดูจะเป็นอะไรที่ไม่ได้เลวร้ายมากนัก

ท้ายที่สุด การประหยัดเงินได้ประมาณเจ็ดพันต่อเดือนก็หมายถึงการประหยัดเงินไปแปดหมื่นสี่พันหยวนต่อปี มันคงจะเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยถ้าเธอสามารถลดรายจ่ายที่มากขนาดนี้ได้!

“ก็ได้ ตกลง” หรานจิงครุ่นคิดอยู่สักพักแต่ก็ไม่คัดค้านต่อข้อเสนอ “แต่ในฐานะผู้หญิง ฉันเองก็มีหลายเรื่องที่ยังไม่ค่อยสะดวกใจเท่าไหร่ ยังไงก็เถอะ ฉันคิดว่านายควรจะใส่ใจกับการใช้ชีวิตประจำวันให้มากกว่านี้นะ ก่อนอื่น นายห้ามเข้าห้องฉันถ้าไม่ได้รับอนุญาต อีกอย่าง ฉันก็จะไม่ไปยุ่งกับห้องนายด้วย แล้วก็เรื่องการทำความสะอาดส่วนกลาง…”

เสี่ยวเฉิงมองเธอพร้อมกล่าวคำพูด “คือเธอจะให้ฉันทำ?”

หรานจิงเผยหน้ามุ่ย “ก็ได้ ฉันทำเอง แต่ก็อย่าทำรกมากนักล่ะ เพราะว่าถ้าต้องทำงานหนักเกินไป ฉันจะเป็นคนออกไปเอง”

“งั้นเธอออกไปตอนนี้เลยก็ได้…”

“นี่นาย…” หรานจิงพลันกัดฟัน

“ขอทานยังเลือกไม่ได้เลย ส่วนชั้นนี้ก็มีวิวที่สวยที่สุดในซ่างเฉิงอีกด้วย แค่ให้คนอื่นมาเช่าระเบียงเพื่อชมวิว ถ่ายรูป ฉันก็หาเงินได้เยอะแยะแล้ว แต่ตอนนี้ ฉันไม่ได้เรียกเก็บเงินจากเธอเลยด้วยซ้ำ แค่ทำความสะอาดห้องมันยากนักหรือไง?”

หรานจิงพลันกัดฟันอีกครั้ง “แต่ฉันไม่ใช่แม่บ้านนะ อีกอย่าง นายเองก็ต้องจ่ายเงินให้แม่บ้านด้วยไม่ใช่หรือไง? ฉันเองยังไม่เรียกเอาเงินจากนายเลย แล้วนายเองก็เป็นผู้ชาย ทำไมต้องให้ฉันมาทำอะไรแบบนี้ด้วย?”

“เธอเป็นคนที่พยายามตั้งข้อตกลงเองนะ ไม่ใช่ฉันสักหน่อย”

หรางจิงเงียบไปชั่วครู่ “แต่จะให้ไม่มีกฎอะไรเลยหรือไง? เราทั้งคู่ไม่ได้รู้จักกันนะ เพราะแบบนั้นแหละ ฉันถึงต้องมีข้อตกลงเพื่อกันสถานการณ์ที่น่าอึดอัดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต”

“ฉันเองก็เป็นคนมีกฎระเบียบ แล้วก็ไม่เหมือนคนอื่นด้วย ลองคิดดูสิ ทำไมผู้ชายคนอื่นถึงหลงเสน่ห์เธอแต่ฉันไม่ล่ะ? ก็รู้ว่ากังวล ตอนแรกเธอคิดว่าตัวเองสามารถใช้ความสวยแล้วก็หน้าตาเพื่อหลอกล่อฉันได้ จากนั้น เธอก็คิดจะวางกฎเกณฑ์เพื่อสร้างข้อตกลง อีกอย่าง เธอรู้ดีว่าสู้คนอย่างฉันไม่ได้แน่ ตอนนี้ก็เลยทำตัวเป็นสาวน้อยน่ารักสุดเปราะบาง… พูดตรงนี้เลยนะว่าเธอคิดเยอะเกินไป! ผู้หญิงที่สวยกว่าเธอมีตั้งเยอะแยะ ฉันยังไม่สนใจเลย เชื่อเถอะว่าฉันไม่ได้สนใจอะไรในตัวเธอเลยสักนิด”

เสี่ยวเฉิงไม่มีเวลาให้กับความสัมพันธ์อะไรเลยในตอนนี้ สิ่งที่เขาต้องการคือเข้าร่วมกับหน่วยรบมังกรให้เร็วที่สุด

ถึงกระนั้น สำหรับคนอย่างหรานจิงที่มั่นใจในความงามของตัวเองมาโดยตลอด การถูกปฏิบัติอย่างเฉยเมยเช่นนี้ถือเป็นการดูถูกอย่างมาก แต่แล้ว เธอก็คิดว่าคงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูดต่อ มันเป็นเรื่องยากอยู่แล้วที่จะโน้มน้าวชายตรงหน้าเพื่อยอมให้เธออยู่ เสี่ยวเฉิงพูดราวกับการหาที่นอนในเมืองซ่างเฉิงเป็นเรื่องยากนัก

แต่ทว่า… เธอเองก็ยังคงเป็นสาวสวยที่อายุน้อย เขาจะพูดจาอย่างสุภาพบุรุษไม่ได้เลยหรือยังไง?

“เป็นบ้าอะไรของนายกัน? เอาแต่พูดจารังแกผู้หญิงอยู่นั้นแหละ…” หรานจิงเผยหน้าตาไร้เดียงสา

“พูดจารังแกผู้หญิง?” เสี่ยวเฉิงแทบจะกลั้นขำไม่ได้ “ผู้หญิงที่สามารถเหวี่ยงผู้ชายสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซ็นติเมตรลงพื้นได้เนี่ยนะ? ผู้หญิงที่อาจจะได้กลายเป็นหัวหน้าของกรมสอบสวนคดีอาชญากรรมเนี่ยนะ?”

หรานจิงไม่คิดว่าชายตรงหน้าจะรู้ดีขนาดนี้ เขาสามารถอ่านทุกอย่างจนขาดละเอียดได้ภายในไม่กี่วินาที

“สำหรับคนอื่น ฉันก็เป็นแค่ตำรวจที่รักในความยุติธรรม แต่สำหรับคนที่เคยเอาชนะฉันได้ ฉันก็เป็นแค่หญิงสาวเปราะบางเท่านั้นแหละ รังแกคนที่อ่อนแอกว่ามันทำให้นายรู้สึกเหนือกว่าหรือยังไงกัน?” หรานจิงกล่าวคำพูด

เสี่ยวเฉิงพลันโบกมือและตอบกลับ “จะคิดยังไงก็แล้วแต่ ฉันไม่พูดแล้ว เลือกเอาก็แล้วกันว่าจะทำงานบ้านหรือเดินกลับออกไป”

“ไอ้คนนิสัยไม่ดี” หรานจิงบ่นพึมพำคนเดียว จากนั้น เธอก็หยิบกระเป๋าขึ้นมาและหันกลับไปทางประตู แต่เธอเองก็ยังคงหวังอยู่ว่าเสี่ยวเฉิงจะตะโกนเรียกและขอให้เธอยู่ต่อ ไม่ช้า เธอก็ตระหนักได้ว่าตัวเองกำลังคิดมากไป

ทว่า หรานจิงไม่มีตัวเลือก เธอพลันหยุดเดินและวางประเป๋าพร้อมกล่าวคำพูด “ในฐานะตำรวจที่สาบานว่าจะรับใช้ประชาชน ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะช่วยนายเอง”

จากนั้น ด้วยความที่เสียศักดิ์ศรีและหน้าแตกไปแล้ว หรานจิงจึงเดินไปยังห้องของตัวเองและทิ้งประเป๋าลงพร้อมกับวิ่งไปจัดเตียงด้วยผ้าปูที่นอน

ทันทีที่ทุกอย่างจบลง เสี่ยวเฉิงก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันที่ทางเดิน ทว่า เสียงเริ่มดังเข้ามาใกล้ขึ้น และเมื่อเสี่ยวเฉิงเปิดประตู เขาก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้า เธอเป็นผู้หญิงผมหยิก ริมฝีปากสีชมพูอ่อนและมีขนตายาว เธอเผยใบหน้าเย็นชาทันทีที่เห็นเสี่ยวเฉิง ผู้หญิงคนนั้นวางกระเป๋าลงพร้อมปาเงินกว่าร้อยหยวนลงบนพื้น “ฉันต้องขึ้นเครื่องบินทุกวันนะ! จะให้ไปนอนที่ไหนแทนล่ะ? คิดว่ามีเงินแล้วจะทำอะไรก็ได้หรือยังไง? เอาเงินนายคืนไปเลย! ฉันขอห้องคืน” จากนั้น เธอก็เดินเข้าไป เสี่ยวเฉิงรู้สึกตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามา…