ตอนที่ 34

My Disciples Are All Villains

เมื่อได้ยินเช่นนั้นชายคนนั้นก็ถึงกับผงะในทันที

ในโลกใบนี้มีผู้ฝึกยุทธ์มากมายอยู่บนโลก และแต่ละคนนั้นต่างก็เก็บซ่อนความลับของตัวเองรวมไปถึงเคล็ดวิชาของตัวเองเอาไว้ นอกจากความลับเรื่องนี้แล้วความลับเรื่องจุดอ่อนเองก็ยังถูกเก็บไว้เป็นสุดยอดความลับเช่นกัน

ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา ชายคนนี้ได้ทุ่มเวลาไปกับการฝึกฝนเคล็ดวิชาแห่งหยินทั้งสาม และเพราะแบบนั้นเองจึงทำให้ชายคนนี้กลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่ถึงแม้ว่าตัวเขาจะได้พลังส่วนมากมาแต่การสูญเสียที่ต้องแลกกลับไปนั้นกับมีมากกว่า ราคาที่ตัวเขาจะต้องใช้แลกความแข็งแกร่งก็คืออาการเหน็บหนาวที่จะไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาในทุกๆ เดือน

‘เจ้านี้รู้เรื่องนี้ได้ยังไงกัน? ‘ ในตอนนั้นเองชายผู้ที่อยู่ตรงหน้าได้ใช้มือของเขาเสยผมขึ้น ตัวเขาต้องการที่จะจ้องมองลู่โจวด้วยดวงตาอันใหญ่โตของตัวเอง

“ต้องให้ข้าถามขึ้นมาอีกครั้งสินะ เจ้าน่ะเป็นใครกัน? ” น้ำเสียงอันเย็นชาได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง

ลู่โจวและหยวนเอ๋อต่างยืนนิ่งไม่ขยับแม้แต่น้อย ตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนต่างก็ทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น มู่หลงไห่ในตอนนี้ได้ฉี่ราดกางเกงของตัวเองไปเป็นที่เรียบร้อยก่อนที่จะทรุดตัวลงกับพื้น ‘นี่มันช่างเป็นเสียงที่น่ากลัวอย่างแท้จริง! เจ้านี้จะต้องเป็นวายร้ายจากภูเขาทองแน่! ‘

ลู่โจวกำลังนึกถึงสิ่งที่ตัวเขามีอยู่ในความทรงจำ “ในตอนที่เจ้าน่ะได้ทรยศกับลัทธิเต๋าไป เจ้าก็พยายามเรียนรู้เคล็ดวิชาแห่งหยินทั้งสามไปอย่างงั้นสินะ เจ้าน่ะไม่ได้เรียนเคล็ดวิชาแห่งหยางทั้งหกด้วยยังไงล่ะ แท้จริงแล้วความหนาวเย็นจะต้องถูกจัดให้สมดุลกับพลังหยางอันอบอุ่น ในตอนนี้นับว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ตัวเจ้านั้นยังมีชีวิตอยู่ได้”

“เคล็ดวิชาแห่งหยางทั้งหก? ” ชายคนนั้นถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย

“ทำไมกัน…เจ้าน่ะไม่เคยได้ยินอย่างงั้นหรอ? “

ทันใดนั้นเองชายคนนั้นก็ได้ส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างดังกังวาน เสียงหัวเราะในครั้งนี้ได้ทั่วไปทั่วทั้งภูเขาลูกนี้

“เจ้าน่ะคิดจะหลอกลวงข้าด้วยเรื่องไร้สาระสินะตาแก่! ” ชายคนนั้นพูดออกมาโดยปล่อยลมหายใจอันเยือกเย็นออกมาด้วย ด้วยความโกรธเกรี้ยวของชายคนนั้นจึงปล่อยพลังหมัดอันโกรธเกรี้ยวราวสัตว์ร้ายออกมา พลังนั้นได้ซัดเข้าใส่ใบหน้าของลู่โจวเข้าไปเต็มๆ

ในตอนนั้นเองลู่โจวก็ถูกการโจมตีทีเผลอไป

ตู้ม!

คลื่นพลังขนาดใหญ่ได้ถูกลมที่พัดผ่านมาสกัดกั้นเอาไว้ พลังหมัดทั้งหมดถูกสกัดเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ในตอนนั้นเองทั้งภูเขาก็กลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง

ในตอนนั้นเองฝุ่นได้คลุ้งไปทั่วภูเขา ชายคนนั้นรู้ดีว่าชายชราที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้เป็นผู้ป้องกันการโจมตีของเขาผู้นี้ เมื่อฝุ่นหายไปที่ตรงหน้าของชายชราคนนั้นมีเด็กสาวที่กำลังส่งยิ้มอย่างขี้เล่นออกมา

หยวนเอ๋อตัวน้อยได้หยุดพลังหมัดของชายคนนั้นเอาไว้ได้ “เจ้าน่ะจะต้องข้ามศพข้าก่อนที่จะโจมตีท่านปู่ของข้าสิ”

‘อะไรกัน! เด็กคนนี้ไม่ใช่ผู้ใช้วรยุทธ์ระดับมหาราชครูอย่างงั้นหรอ? ‘ ในตอนนั้นเองที่หน้าของชายแปลกหน้ากำลังเต็มไปด้วยร่องรอยของความประหลาดใจ

แม้แต่มู่หลงไห่ที่ทรุดตัวลงไปกับพื้น เมื่อเห็นภาพที่แสนน่ากลัวที่อยู่ตรงหน้าตัวเขาก็ได้กลัวจนแทบที่จะแทรกแผ่นดินนี้ ‘ทำไมเธอคนนี้ถึงแข็งแกร่งขนาดนั้นได้ล่ะ? เธอแกล้งทำเป็นหมาหยอกไก่อย่างงั้นสินะ? การแสดงของเจ้าเด็กนี่ช่างแนบเนียนจริงๆ ‘

ตู้ม!

การปะทะกันของคลื่นพลังอันรุนแรงก็ได้ระเบิดขึ้นอีกครั้ง ในครั้งนี้หยวนเอ๋อได้ไล่ต้อนชายแปลกหน้าคนนั้นไปด้วยพลังเต็มที่ของเธอ หยวนเอ๋อนั้นไม่ได้เก็บซ่อนพลังของตัวเองอีกต่อไป การโจมตีของหยวนเอ๋อนั้นทรงพลังอย่างแท้จริง เธอคนนี้เป็นเด็กสาวอัจฉริยะที่อยู่ในขั้นศักดิ์สิทธิ์!

ในตอนนี้ถึงแม้ว่าหยวนเอ๋อจะไม่หยุดการโจมตีตรงหน้าของลู่โจว ตัวเขาก็ยังไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรอยู่ดี ตอนนี้ตัวเขายังมีการ์ดประกันชีวิตอยู่ด้วยกันทั้งหมดถึง 7 ใบ แต่อย่างไรซะการปกป้องตัวเขาก็ยังดีกับตัวเขาเองอยู่ดี เพราะการช่วยชีวิตของหยวนเอ๋อทำให้ลู่โจวไม่ต้องใช้การ์ดประกันชีวิตไป

“เจ้า…เจ้าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่ยังเด็กแบบนี้ได้ยังไงกัน? นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน! ” เสียงของชายแปลกหน้าคนนั้นฟังดูตื่นตกใจเป็นอย่างมาก

หยวนเอ่อในตอนนี้ได้หักข้อมือของตัวเองก่อนที่จะยืดเส้นยืดสายขึ้น “ท่านปู่ ข้าจะเป็นคนที่สู้กับเจ้านี่เอง! “

“ทำตามใจเจ้าเถอะ! “

หลังจากได้รับการอนุญาตจากลู่โจวแล้ว หยวนเอ๋อตัวน้อยก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เธอได้กวักมือเรียกชายคนนั้นก่อนที่จะพูดท้าทายออกมา “ข้าน่ะไม่พบกับคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อแบบนี้มานานแล้ว ดูเหมือนว่าเจ้าน่ะจะต้องอดทนหน่อยนะ”

“…”

‘ทำไมถึงฟังดูแปลกๆ ไปล่ะ? นี่มันเป็นการท้าทายสัตว์ประหลาดจากเด็กสาวผู้กล้าหาญอย่างงั้นสินะ’ ลู่โจวที่คิดอยู่ในใจได้แต่ส่ายหัวของตัวเอง ‘ไม่เป็นไร! ไม่ว่ายังไงการต่อสู้ที่ดีก็ควรจะใช้คำพูดให้เป็นอาวุธให้เป็นด้วย’

หยวนเอ๋อในตอนนั้นได้เปิดฉากโจมตีก่อน เธอได้เหยียบอากาศขึ้นไปเหนือท้องฟ้าก่อนที่จะร่อนตัวลงมาตามผิวน้ำที่อยู่ด้านข้าง ทันทีที่พุ่งไปใกล้กับศัตรูได้ หยวนเอ๋อก็ได้ใช้ขาของเธอเตะไปที่ด้านข้างของชายคนนั้นในทันที

พรึบ! พรึบ! พรึบ!

ในตอนนั้นเองการต่อสู้ที่ทรงพลังก็ได้เริ่มต้นขึ้น

‘ทำไมเจ้าเด็กนี่ถึงได้ระ…เร็วถึงขนาดนี้ได้! ‘ ชายคนนั้นยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาก่อนที่จะป้องกันการโจมตีเอาไว้

พรึบ! พรึบ! พรึบ!

ลูกเตะที่ทรงพลังถูกเตะย้ำๆ ไปที่แขนของชายคนนั้น และด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ของหยวนเอ๋อจึงทำให้ตัวเขาจะต้องถอยหลังกลับไปที่ต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆ

พลังนี่มันช่างเรียบง่าย…วิเศษจริงๆ

ลู่โจวกำลังมองไปที่หยวนเอ๋อตัวน้อยราวกับว่าตัวเขานั้นกำลังเป็นพ่อที่ภูมิใจในตัวลูก ตัวเขานั้นได้อาศัยโอกาสนี้ในการตรวจสอบร่างกายของตัวเอง และหลังจากใช้เวลาตรวจสอบไปในเวลาสั้นๆ ตัวเขาก็พบว่าตัวเองไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร

“หยวนเอ๋อน่ะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ตลอดไปหรอกนะ” ลู่โจวที่เห็นสีหน้าของมู่หลงไห่ซีดเซียวได้พูดขึ้น

‘ควบคุมอารมณ์อย่างงั้นหรอ? เด็กคนนี้เป็นสัตว์ประหลาดอย่างแท้จริงต่างหาก! ‘ มู่หลงไห่ไม่รู้เลยว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาดี แม้ว่าตัวเขานั้นอยากที่จะยืนขึ้นสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้ขาของเขาก็อ่อนแรงเกินกว่าที่จะขยับไปไหนได้อีก

“นายท่าน นายท่านมีหลานสาวที่แข็งแกร่งขนาดนี้ทำไมถึงแสร้งทำเป็นอ่อนแอด้วยล่ะ? “

“โลกใบนี้น่ะมันเต็มไปด้วยคนทรยศ พวกเราน่ะจะต้องระวังเจ้าพวกนั้นอยู่ตลอดเวลา” ลู่โจวได้ตอบกลับ

“นายท่านเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมจริงๆ! ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทำไมนายท่านถึงมั่นใจว่านายท่านจะต้องสามารถช่วยเหลือครอบครัวสกุลซีได้ ตัวข้านั้นต้อยต่ำจนเกินไปไม่สามารถที่จะประเมินนายท่านได้เลย” มู่หลงไห่ในตอนนี้กำลังสงบสติอารมณ์ตัวเอง

ทั้งสองคนในตอนนี้กำลังคุยกันอย่างสบายๆ ในขณะที่หยวนเอ๋อกำลังต่อสู้กับชายชุดดำที่อยู่ตรงหน้าอย่างดุเดือด บนผืนน้ำดูเหมือนว่าการต่อสู้จะมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว เดิมทีในความจริงนั้นหยวนเอ๋อตัวน้อยก็มีพลังเหนือกว่าชายชุดดำตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ใครก็ตามที่มีสายตาอันแหลมคมจะต้องมองออกอย่างง่ายดายว่าสิ่งที่หยวนเอ๋อทำทั้งหมดนั้นเป็นการเสแสร้งแกล้งทำเท่านั้น เธอก็แค่อยากจะต่อสู้เพื่อที่จะออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายตัวเองเพียงเท่านั้น การอยู่บนภูเขาทองมากจนเกินไปทำให้หยวนเอ๋อนั้นรู้สึกเบื่อ ในที่สุดเธอในตอนนี้ก็เจอกับศัตรูที่คู่ควร ศัตรูที่เหมาะสำหรับการต่อสู้เพื่อ ‘ผ่อนคลาย’ แน่นอนว่าโอกาสที่ดีแบบนี้หยวนเอ๋อไม่กล้าที่ปล่อยให้หลุดมืออย่างแน่นอน

เสียงของพลังนั้นได้เข้าปะทะกันอยู่ตลอดเวลาราวกับว่าพลังของทั้งสองคนนั้นไม่มีที่สิ้นสุด มู่หลงไห่ในตอนนี้รู้สึกตกใจมากขึ้นและมากขึ้นไปอีกเมื่อทั้งสองคนได้ต่อสู้กัน ตัวเขานั้นแทบที่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามนุษย์ทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้าของเขาจะปล่อยคลื่นพลังซัดกันใส่แบบนี้ได้ โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่อยู่ตรงนั้น เธอสามารถสู้ได้กับสูสีกับชายวัยกลางคน

“นายท่าน” มู่หลงไห่ได้กำหมัดก่อนที่จะหันไปหาลู่โจว “ข้ามีคำถามแต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะควรถามออกไปดีไหม”

“ไหนลองว่ามาซิ”

“นายท่านเองก็กำลังซ่อนพลังที่แท้จริงเอาไว้อย่างงั้นสินะ? ” มู่หลงไห่สงสัยมานานแล้ว ตัวเขาไม่เชื่อว่าลู่โจวจะสามารถเลี้ยงดูปีศาจร้ายให้อยู่กับตัวเองแบบนี้ได้แน่ถ้าหากตัวเขาไม่มีฝีมือที่มากพอ แต่ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะเป็นญาติกันแต่ถึงเป็นแบบนั้นมันก็เป็นเรื่องยากอยู่ดี

ลู่โจวมองกลับไปที่มู่หลงไห่ ในตอนนี้ไม่ว่าตัวเขาจะพูดความจริงออกไปหรือไม่เขาคนนี้ก็คงจะไม่มีวันรู้ความจริงได้อยู่ดี ‘ที่เจ้าหมอนี่สงสัยเป็นเพราะว่าตัวฉันมีหลานสาวที่มีวรยุทธ์ถึงขั้นศักดิ์สิทธิ์สินะ และเพราะอย่างงั้นตัวฉันที่เป็นปู่ก็คงจะมีวรยุทธ์อย่างน้อยๆ ก็คือขั้นศักดิ์สิทธิ์ตามไปด้วย ความคิดนี้เป็นความคิดที่แสนเรียบง่าย’

เมื่อคิดได้แบบนั้นแล้วมู่หลงไห่ก็ได้กำหมัดก่อนจะพูดต่อไป “นายท่านช่างเป็นยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่จริงๆ! “

“ข้าน่ะไม่ใช่ยอดฝีมืออะไรนั่นหรอก” ลู่โจวได้โบกมือปฏิเสธไป

มู่หลงไห่รู้สึกประทับใจในตัวของลู่โจวมาก ตัวเขาในตอนนี้กำลังคิดต่อไป ‘ข้าไม่เคยคาดหวังมาก่อนเลยว่าจะเจอยอดฝีมือที่ถ่อมตนรวมไปถึงหลานสาวที่มีอารมณ์ร้อนได้มากขนาดนี้’

“นายท่านถ้าหากข้ามีเรื่องที่อยากจะพูดอีกอย่างล่ะ…”

“แล้วมันอะไรกัน? “

“หลานสาวของท่านน่ะมีพรสวรรค์อย่างแท้จริง เธอคนนี้สามารถฝึกฝนไปถึงวรยุทธ์ขั้นสูงได้แต่อายุยังน้อย อนาคตของเธอจะต้องแข็งแกร่งได้อย่างไร้ขีดจำกัดแน่ น่าเสียดายที่เธอคนนี้ยังไม่เข้าใจวิธีการรับมือกับคนทั่วไป”

ลู่โจวที่ได้ฟังแบบนั้นเงยหน้าแหงนมองหยวนเอ๋อ เธอในตอนนี้กำลังยุ่งอยู่กับการต่อสู้อันดุเดือดในระยะไกล ตัวเขานั้นรู้จักนิสัยและอารมณ์ของหยวนเอ๋อเป็นอย่างดี แต่ถึงจะรู้แล้วตัวเขาก็จะต้องใช้เวลามากในการสั่งสอนเรื่องที่ควรจะรู้อยู่ดี

“เจ้าน่ะพูดถูกแล้วล่ะ ข้าก็คิดไว้เหมือนกันว่าจะสอนเรื่องการรับมือกับผู้คนให้กับเธอคนนี้” สิ่งที่ลู่โจวได้พูดออกมานั้นล้วนเป็นความจริงทุกอย่าง

“นายท่านช่างฉลาดหลักแหลมจริงๆ! เด็กคนนี้โชคดีแล้วที่ได้นายท่านเป็นคนสั่งสอนให้กับเธอ! “

พรึบ! พรึบ! พรึบ!

ใบหน้าของชายชุดดำนั้นกำลังเต็มไปด้วยฝุ่น ตัวเขาได้ไอออกมาในขณะที่ปล่อยคลื่นพลังงานโจมตีหยวนเอ๋ออย่างต่อเนื่อง เมื่อการต่อสู้ดำเนินไปโดยใช้เวลาไม่นานมากนักในที่สุดชายคนนี้ก็ล้มลงกับพื้นก่อนที่จะหยุดเคลื่อนไหวไป

“เอาล่ะเรามาต่อกันเถอะ! ” หยวนเอ๋อพูดออกมาอย่างยิ้มแย้ม “เฮ้ ลุกขึ้นมาซะ! ลุกขึ้นมาสู้กันใหม่อีกครั้ง! “

การต่อสู้ระหว่างพวกเขาทั้งสองคนทำให้ต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆ ต้องพังทลายไปทั้งหมด

“น่าเบื่อจริงๆ! ” หยวนเอ๋อที่เห็นชายคนนั้นไม่ขยับอีกต่อไปได้ตัดพ้อออกมา

“แฮ่ก…แฮ่ก…” ชายชุดดำคนนั้นได้ยกมือของตัวเองขึ้นมาก่อนที่จะพยายามพูดออกมาอย่างยากลำบาก “ข้าน่ะ…ข้า…ไม่อยากที่จะต่อสู้อีกต่อไปแล้ว…”

เมื่อเห็นแบบนี้ลู่โจวก็ได้ลุกขึ้นยืนก่อนที่จะยิ้มออกมา “ดูเหมือนว่าการต่อสู้จะจบลงแล้วสินะ”

“เยี่ยมมาก! ขอแสดงความยินดีด้วยครับนายท่าน! ในตอนนี้ทุกคนในตระกูลซีก็ถูกช่วยเหลือได้แล้ว ในที่สุดภารกิจในครั้งนี้ก็สำเร็จจนได้” มู่หลงไห่ที่เห็นแบบนั้นพูดขึ้น

ลู่โจวได้ส่ายหัวออกมาในตอนนั้นเองเขากำลังมองไปที่ชายที่กำลังนอนอยู่บนพื้น “ยังไม่จบหรอกนะ…ตรงกันข้ามกันยังไงล่ะ นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น”

“ฮะ? “

“เจ้ากำลังพูดถึงอะไรกันฝางซง? “

ชายชุดดำคนนั้นถึงกับตัวสั่น หลังจากนั้นเขาก็ตอบกลับมา “เจ้ารู้ชื่อของข้าได้ยังไงกัน? “

“เรากลับมาคุยเรื่องเดิมกันเถอะ” ลู่โจวได้เดินเข้ามาใกล้อย่างช้าๆ “เจ้าน่ะเหลือเวลาอีกเพียงแค่สามเดือนเท่านั้น เจ้าต้องการที่จะตายตอนนี้เลยอย่างงั้นสินะ? “

“อะไรกัน? ” หัวใจของฝางซงได้เต้นไม่เป็นจังหวะ ตัวเขาได้แต่พยายามถอยหลังไปเท่านั้น แต่ถึงแบบนั้นใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยฝุ่นควัน ตัวเขาไม่สามารถที่จะยืนตรงได้ง่ายๆ

“ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนั้นจะมีวรยุทธ์ที่เหนือชั้นแบบนี้ แต่ไม่ว่ายังไงเจ้าเด็กนี้ก็ไม่แข็งแกร่งพอที่จะฆ่าข้าได้หรอก” ฝางซงได้จ้องมองไปที่หยวนเอ๋อก่อนที่จะพูดออกมาอย่างใจเย็น

การต่อสู้ที่เพิ่งจะจบไปเป็นการปะทะกันของหลายร้อยกระบวนท่า และตัวเขาคนนี้ถูกโจมตีใส่ราวกับว่าตัวเขานั้นเป็นหุ่นสำหรับเป้าฝึกซ้อม ถ้าหากบอกความจริงตั้งแต่ตอนนี้ไป ชายคนนี้จะต้องหันหลังกลับและวิ่งหนีไปแล้วอย่างแน่นอน

“พลังที่แท้จริงของเคล็ดวิชารูปแบบหยินทั้งสามจะสามารถแสดงพลังที่แท้จริงออกมาได้ก็ต่อเมื่อได้รับพลังของเคล็ดวิชาในรูปแบบของหยางทั้งหกยังไงล่ะ เจ้าน่ะเพิ่งจะเรียนรู้รูปแบบของหยินทั้งสามไป และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ตัวเจ้าไม่สามารถใช้พลังที่แท้จริงและจะต้องเจ็บปวดอยู่แบบนั้น” ลู่โจวได้อธิบายเรื่องทุกอย่างออกมา

“ทำไมข้าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเคล็ดวิชารูปแบบหยางทั้งหกมาเลยล่ะ? “

หยวนเอ๋อตัวน้อยในตอนนั้นได้ถ่มน้ำลายลงพื้น เธอไม่สามารถที่จะทนฟังได้อีกต่อไป “เคล็ดวิชาหยางทั้งหกนั้นมีอะไรดีกัน? ปู่ของข้าน่ะเรียนรู้เคล็ดวิชาทั้งหลายมามากมายนับไม่ถ้วนแล้ว! “

“นับไม่ถ้วนอย่างงั้นหรอ? “

หลังจากที่หยวนเอ๋อได้พูดออกมาในตอนนั้นเองเสียงของดาบที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศก็ได้ดังขึ้น ทุกคนที่อยู่ที่นี่รู้ได้ทันทีว่าจะต้องมีใครเดินทางมา

กลุ่มผู้ฝึกยุทธ์จำนวนมากกำลังพุ่งตรงมาทางนี้ พวกเขาหลายคนล้วนแต่มีวรยุทธ์ที่มากฝีมือ ในตอนนั้นเองก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้น “พวกเราไม่ได้เจอกันนานแล้วนะศิษย์น้องเล็ก! “

รถม้าสีแดงเข้มได้พุ่งตรงมาจากท้องฟ้าอันห่างไกล ในตอนนั้นเองผู้ฝึกยุทธ์กว่าหลายสิบคนก็ได้หลั่งไหลเดินทางตามมา คลื่นผู้ฝึกยุทธ์กลุ่มใหม่กำลังถาโถมใส่พวกลู่โจว