บทที่ 106 พ่อตาเกิดเรื่อง

คิงดราก้อน

เซียวหยางโบกมือ “ขอโทษด้วยครับ ผมไม่ชินกับการคบหาเป็นเพื่อนกับคนไปเรื่อย”

“นาย…”

ซองหลังไม่พอใจทันที

“เถ้าแก่ซองหลัน ในเมื่อผมชนะแล้ว ก็แลกชิปให้ผมเถอะครับ ผมยังมีธุระต้องทำอีก”

ลูกน้องสองสามคนข้างหลังคันไม้คันมือราวกับไม่อยากให้เซียวหยางจากไปง่ายๆ อย่างนี้

ซองหลันส่ายหน้าเล็กน้อย เรียกลูกน้องมาคนหนึ่ง ให้เขาพาเซียวหยางไปแลกเงิน

“ลูกพี่ จะปล่อยเขาไปง่ายๆ อย่างนี้เหรอครับ?” ลูกน้องคนหนึ่งพูดแบบไม่พอใจ

“สมองขี้เลื่อยหรือไง! พวกเราเปิดบ่อนนะ เงินแค่นี้จ่ายไม่ได้ ต่อไปใครจะกล้ามาเล่นอีกวะ?”

“นี่เป็นโอกาสโฆษณาบ่อนพอดี คนดูเยอะแยะอย่างนี้ เล่นได้เงินตั้งเยอะแล้วยังไปได้แบบปลอดภัยอีก ต่อไปพวกเขาจะได้วางใจมาเล่น”

ทันใดนั้นกลุ่มลูกน้องก็ถึงบางอ้อ เป็นเถ้าแก่เสียอีกที่คิดได้รอบคอบ

“แล้วถ้าไอ้นั่นมันกลับมาอีกจะทำไงล่ะครับ?”

ซองหลันคิดไปพักหนึ่งก็พูด “ต่อไปถ้ามันมาอีกก็มารายงานฉันทันที ฉันรู้สึกว่ามันไม่ธรรมดาอย่างนั้นแน่ ไม่ได้มาที่นี่แต่จะเอาเงิน”

เวลานี้เสิ่นเอ้อเหอกับเสิ่นอ้าวจุนกำลังอยู่ในร้าน

เสิ่นอ้าวจุนร้อนรนปานมดบนกระทะร้อน

“นานขนาดนี้แล้วเสียวหยางยังไม่กลับมาอีก จะเกิดเรื่องอะไรหรือเปล่านะ?”

เวลานี้เสิ่นเอ้อเหอก็เริ่มหวั่นใจเหมือนกัน เพราะบ่อนนั้นเกี่ยวข้องกับนักเลง แพล็บเดียวก็ได้ไปสองล้าน ปล่อยเขาไปก็แปลกแล้ว

“ลูก ไม่งั้น…ไม่งั้นเราแจ้งความกันเถอะ” เสิ่นเอ้อเหอพูดอย่างหวั่นใจเล็กน้อย

เสิ่นอ้าวจุนมองพ่อแบบไม่ได้ดั่งใจ “ต้องโทษพ่อนั่นแหละ จะให้เซียวหยางไปบ่อนอะไรนั่นเล่นเอาเงินสองล้านกลับมาให้ได้”

“จะโทษพ่อได้ยังไงล่ะ เขารับปากเองนี่ พ่อไม่ได้บังคับเขาสักหน่อย” เสิ่นเอ้อเหอเบือนหน้า รีบปัดความรับผิดชอบ

“พะ…พ่อพูดอย่างนี้ได้ยังไง!”

ว่าแล้วเสิ่นอ้าวจุนก็ล้วงโทรศัพท์ออกมา “ไม่ได้ ฉันจะโทรไปแจ้งความเดี๋ยวนี้แหละ ไม่แน่อาจเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ ก็ได้”

และตอนนั้นเองก็เห็นเงาคนหนึ่งปรากฏอยู่ที่ปากประตู เป็นเซียวหยางนั่นเอง!

เขาลากกระสอบออกมากใบหนึ่ง เดินออกมาด้วยท่าทางสบายใจเฉิบ

“เซียวหยาง คุณกลับมาได้สักที ไม่เป็นไรใช่ไหม?” เสิ่นอ้าวจุนรีบเดินไปหา เอามือวางบนตัวเซียวหยางแบบยั้งใจไม่อยู่ ทั้งลูบทั้งสำรวจ

เซียวหยางหัวเราะแบบจนใจ “คุณเห็นท่าทางผมเหมือนเป็นอะไรไหมล่ะครับ?”

เสิ่นเอ้อเหอรีบเดินขึ้นหน้า เห็นในมือเซียวหยางไม่ได้ถือเงินอยู่จึงทำหน้าสลดทันที ส่ายหน้า ดูท่าคงแพ้แล้ว ทีนี้ล่ะ ไม่เพียงไม่ได้เงิน แถมยังเสียเงินสองหมื่นของเสิ่นอ้าวจุนไปอีก

“เฮ้อ ฉันก็บอกแล้ว บ่อนจะให้คนได้เงินได้ยังไง” เสิ่นเอ้อเหอพูดเรียบๆ

เสิ่นอ้าวจุนกรอกตาขาวใส่พ่อแล้วหันไปมองทางเซียวหยาง “เซียวหยาง ไม่เป็นไร แพ้ก็ไม่เป็นไร พวกเราไม่โทษคุณหรอก ต่อไปทุกคนก็ไม่เข้าบ่อนแล้ว นั่นมันแหล่งหายนะ”

เมื่อเซียวหยางเห็นพ่อลูกคู่นี้พูดเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยแล้วก็กลั้นหัวเราะไม่อยู่ “ใครบอกครับว่าผมแพ้?”

เสิ่นเอ้อเหอเหยียดไปเสียงหนึ่ง “ถ้าเล่นได้แล้วเงินอยู่ไหนล่ะ? หรือว่าฝากธนาคารไปแล้ว?”

เซียวหยางเอากระสอบวางขึ้นบนโต๊ะ รูดซิปออกชี้ “พวกคุณดูเองเถอะครับ อยู่ในนี้หมดแล้ว สองล้านสองหมื่น ไม่ขาดไม่เกิน”

อะไรนะ?!

เสิ่นเอ้อเหอกับเสิ่นอ้าวจุนตะลึงตาค้าง จากนั้นก็ชะโงกศีรษะมองด้านในกระสอบ เบิ่งตาโตทันที

เสิ่นเอ้อเหอหน้าดำหน้าแดงวิ่งโล่เข้าไป สองมือล้วงเข้ากระสอบเอาธนบัตรเป็นปึ้งๆ ออกมาวางข้างนอก

“เซียวหยาง เธอ…เธอได้มาสองล้านจริงๆ?!”

“สองล้านแค่นั้นเองครับ ไม่อะไร” เซียวหยางพูดออกมาแบบชิวๆ

สองล้านยังไม่อะไรอีก?!

ไม่ถึงสองชั่วโมงก็ใช้เงินสองหมื่นเล่นได้สองล้าน นี่ยังไม่อะไรอีกเหรอ?!

ดวงตาทั้งคู่ของเสิ่นเอ้อเหอพุ่งแสงออกมาสองเส้น มองแววตาของเซียวหยาง ล้วนแล้วแต่เป็นธนบัตรขาวเรืองรอง

ต้นเงินต้นทอง นี่มันต้นเงินต้นทองนี่!

เซียวหยางไหนเลยจะมองไม่ออกถึงความคิดตาลุงคนนี้ พูดเรียบๆ “คุณลุงครับ คุณลุงบอกแล้วว่าจะไม่เล่นอีก นี่เป็นครั้งสุดท้ายนะ”

เสิ่นเอ้อเหอหัวเราะแหยๆ ไม่ต่อความ

ขณะออกไป เสิ่นอ้าวจุนก็พูดกับเซียวหยางอย่างซาบซึ้งว่า “เซียวหยาง คุณช่วยฉันมากมายขนาดนี้ ฉันไม่รู้จะขอบคุณคุณยังไงดีแล้ว”

หยางเซียวพูดอย่างไม่ถือสา “เล็กน้อยเท่านั้น ผมต้านทานสาวสวยไม่ได้ด้วย ก็ใครใช้ให้คุณสวยขนาดนี้ล่ะครับ”

เสิ่นอ้าวจุนหน้าแดงเป็นปื้น จีบปากเบาๆ “เริ่มเป็นพ่อปลาไหลอีกแล้วนะ”

เซียวหยางหัวเราะเหอะๆ แล้วจริงจังพูดอีก “แต่ ทางพ่อของคุณต้องระวังหน่อยนะครับ จะให้เขาไปเล่นอีกไม่ได้ ที่คนแก่ต้องการน่ะคือการใส่ใจ ปกติก็ใส่ใจเขาให้มากหน่อยแล้วกันครับ”

เสิ่นอ้าวจุนพยักหน้าจริงจัง กล่าว “ฉันรู้แล้วค่ะ”

ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน โทรศัพท์เซียวหยางก็ดังขึ้น พอดูปุ๊บก็เป็นแม่ยายหลิวฉ่ายเสีย

“เซียวหยาง เธออยู่ไหนน่ะ?”

“เออ ผมอยู่ข้างนอกครับ มีอะไรเหรอครับ?”

ฟังจากน้ำเสียงหลิวฉ่ายเสียแล้วดูร้อนใจมาก

เวลางานทำไมไปข้างนอกล่ะ อยู่กับผู้หญิงหรือเปล่า?

เซียวหยางละอายใจทันที ถูกแม่ยายเดาถูกอีกแน่ะ แต่เขายังไม่ทันได้พูดอะไรอีกฝ่ายก็ร้อนรนพูด

“ช่างเถอะ เธออยู่ข้างนอกพอดี เธอรีบไปถนนวัตถุโบราณเร็ว พ่อตาเธอทะเลาะกับคนอื่นอีกแล้ว”

“ทะเลาะ? ครับ ผมจะไปดูเดี๋ยวนี้แหละ”

ว่าแล้วเซียวหยางก็วางสายโทรศัพท์ เมื่อบอกลากับเสิ่นอ้าวจุนแล้วก็รีบไปถนนวัตถุโบราณทันที

ณ หอโชคลาภ ถนนวัตถุโบราณ

พอเซียวหยางมาถึงถนนวัตถุโบราณก็เห็นป้ายขนาดใหญ่อันหนึ่งแขวนอยู่ข้างซ้ายของถนน บนป้ายเขียนว่าหอโชคลาภ

เซียวหยางเดินผ่าฝูงชน เข้าไปด้านใน

ด้านในพ่อตาเย่หรูซานกำลังหน้าแดงเป็นฟืนไฟ โมโหมาก สั่นเทิ้มไปทั้งตัว ในมือถือภาพภาพหนึ่ง กำลังโต้แย้งอะไรอยู่กับคนที่อ้วนบวมไปทั้งตัวอยู่

“ภาพนี้ไม่ใช่ภาพที่ฉันดูอยู่เมื่อกิ๊ แกแอบเปลี่ยน คิดว่าฉันไม่รู้จริงๆ เหรอะ?”

ชายอ้วนเป็นเจ้าของร้าน ไม่เหมือนกับเย่หรูซานที่รุ่มร้อนกายใจ ท่าทางเขากลับแน่นิ่งมาก

“คุณครับ คุณอย่าพูดไปเรื่อยนะครับ พวกเราเปิดร้านทำการค้า ที่ให้ความสำคัญก็คือความซื่อสัตย์ ภาพนี้ก็เป็นภาพที่คุณดูนั่นแหละ และถึงจะเก๊ ก็พูดได้แต่ว่าคุณดูพลาดเอง โทษพวกเราไม่ได้นะครับ”

เย่หรูซานโมโหเกรี้ยวทันที

“แกโกหก! เมื่อกี้ที่ฉันเห็นเป็นของแท้ชัดๆ ฉันแยกของจริงของปลอมออกนะ!”

“ช่างเถอะๆ ฉันแจ้งความก็ได้”

เมื่อเถ้าแก่ได้ยินว่าจะแจ้งความก็ยิ้มทันที ลูกพี่เขาก็เป็นหัวหน้าทีมที่นี่ ทำการค้าอย่างพวกเขา ไม่มีเส้นสายไม่ได้หรอก

ดังนั้นเขาจึงไม่เดือดเนื้อร้อนอยู่แล้ว “คุณรีบแจ้งความเลยครับ ผมยังจะบอกพวกเขาว่าคุณมาทำให้ผมเสียเวลาค้าขายด้วยอีกแน่ะ”

“แก…พ่อค้าขี้โกง ไอ้สารเลว!” เย่หรูซานโมโหจนกระหืดกระหอบเริ่มไอ

เซียวหยางเดินขึ้นหน้าไปตบหลังเขาพูด “พ่อครับ ผมมาแล้ว พ่ออย่างเพิ่งใจร้อน ภาพวาดอะไรให้ผมดูก่อนนะครับ”

เย่หรูซานหงุดหงิดปัดมือ “แกจะดูเป็นอะไร คิดว่าครั้งที่แล้วฟลุ๊คซื้อกาทองแดงมาได้แล้วจะเก่งเหรอ ถ้าพูดถึงตาแหลม แกยังห่างชั้นกับฉันเยอะ”

ถึงจะพูดไปอย่างนั้น แต่เย่หรูซานก็ยังวางภาพไว้บนโต๊ะ เมื่อเซียวหยางเปิดออกแล้วก็เห็นภาพโบราณหนึ่ง