ตอนที่ 126 กล้ามเนื้อหน้าอก

รถของหลินหนานพุ่งทะยานตามหลังรถเสี่ยวจือหลงไปอย่างรวดเร็ว และในที่สุดเขาก็สามารถขับแซงรถของเสี่ยวจือหลงได้

หลินหนานหักพวงมาลัยรถและเบรคอย่างรวดเร็ว!

เอี้ยด!!

เวลานี้รถเฟอรารี่ได้หันหน้าเผชิญกับรถแลมโบกินี และเมื่อรถแลมโบกินีเกือบจะชนเข้ากับรถเฟอรารีสีแดงอย่างจัง หลินหนานก็รีบใส่เกียร์ถอยหลังทันที

ปัง!!

แล้วรถสปอร์ตทั้งสองคันก็ชนกันเข้าอย่างรุนแรง!

และนับว่าโชคดีที่หลินหนานได้ขับเฟอรารี่ถอยหลังไปเล็กน้อย แรงปะทะระหว่างรถสองคัน จึงไม่รุนแรงเท่าที่ควรจะเป็น หาไม่แล้ว.. รถสปอร์ตทั้งสองคันคงจะมีสภาพไม่ต่างจากเศษเหล็กแน่

หลังจากที่แลมโบกินีพุ่งทะยานเข้าปะทะกับรถเฟอรารี่แล้ว แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงแต่อย่างใด

ด้วยแรงพุ่งปะทะที่รุนแรง ทําให้รถเฟอรารี่ของหลินหนานสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงไปทั้งคัน เขาต้องพยายามจับพวงมาลัยไว้ให้แน่นที่สุด เพื่อจะได้มั่นใจว่ารถของตนจะวิ่งถอยหลังเป็นเส้นตรง

เพราะมีเพียงโอกาสนี้เท่านั้น ที่จะทําให้เขาสามารถมองเห็นคู่แข่งที่อยู่ในห้องโดยสาร ผ่านกระจกบังลมด้านหน้าได้อย่างชัดเจน และนั่นทําให้หลินหนานพบว่าเสี่ยวจือหลงกําลังหมดสติ ศรีษะของเขาล้มพับลงไปกับพวงมาลัยรถ

เมื่อได้เห็นภาพทั้งหมดที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า ในที่สุดหลินหนานก็สามารถเข้าใจสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้ในทันที!

หมอนี่ไม่ได้คิดฆ่าตัวตาย แต่หมดสติไปต่างหาก!

หลินหนานกัดฟันกระทืบเบรคอย่างแรง!

เอี้ยด!!

แต่แลมโบกินีที่ยังคงมีพลังขับเคลื่อนรุนแรงอยู่นั้น ก็ยังไม่หยุดชะงักในทันที และยังคงเดินหน้าผลักดันรถเฟอรารี่ให้ถอยหลังออกไปไม่หยุด จากการเหยียบเบรคค้างไว้อย่างสุดกําลังนี้ ทําให้ล้อทั้งสี่ของรถเฟอรารี่เริ่มมีประกายไฟพวยพุ่งออกมา

หลินหนานรีบหันไปมองด้านหลังและพบว่า เวลานี้รถของเขาอยู่ห่างจากหน้าผาไปเพียงแค่ร้อยเมตรเท่านั้น หลินหนานถึงกับต้องสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะทําการกระทืบเบรคซ้ําอีกครั้งอย่างแรง!

และเวลานี้ เท้าของเขาก็ได้เหยียบจนแป้นเบรคแนบติดกับพื้นรถ ก่อนจะรีบเปิดประตู และพุ่งตัวออกมาอย่างรวดเร็ว

เมื่อออกมาได้แล้ว หลินหนานก็ไม่รอช้า เขากระโดดขึ้นกลางอากาศสูงสามถึงสี่เมตรในทันที ระหว่างนั้น ก็มีพลังบางอย่างพวยพุ่งออกมาจากฝ่าเท้าของเขา พร้อมกับเสียงร้องตะโกนบอกตัวเองว่า

“ช่วยหยุดรถให้ข้าที!”

ปัง!

ฝ่าเท้าของหลินหนานกระแทกลงบนฝากระโปรงรถของอีกฝ่าย แล้วฝากระโปรงรถที่สวยงามของแลมโบกินี ก็ถึงกับยุบลงเป็นหลุมขนาดใหญ่ทันที ไม่เพียงเท่านั้น แม้แต่ยางล้อหน้า ทั้งสองที่ถูกแรงกระแทกจากพลังใต้ฝ่าเท้าของหลินหนานเข้าไป ยังถึงกับแตกระเบิดเช่นกัน

และด้วยกฏแห่งความเฉื่อยในทางฟิสิกส์ หลังจากกระโปรงหน้าถูกแรงกระแทกเข้าไปอย่างแรง ลําตัวรถส่วนท้ายของแลมโบกินีจึงได้กระดอนขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะพลิกคว่ําตีลังกากลางอากาศพุ่งไปด้านหน้า ซึ่งก็คือหน้าผาสูง..

เมื่อเห็นเช่นนั้น หลินหนานก็ไม่รอช้า เขารีบกระโดดขึ้นไปเหยียบบนหลังคารถแลมโบกินีทันที พร้อมกับออกแรงกระแทกให้รถทั้งคันตกลงสู่พื้นดิน และเมื่อแลมโบกินีร่วงลงกระแทกกับพื้นดิน มันก็กระเด้งขึ้นลงถึงสองครั้ง ก่อนจะค่อยๆสงบนิ่งลง แต่ยังคงเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้าๆ

หลังจากนั้น หลินหนานก็กระโดดจากหลังคารถแลมโบกินีไปที่หลังคารถเฟอรารี่สีแดงทันที และเมื่อกลับไปยืนอยู่บนหลังคารถเฟอรารี่ เขาก็ถึงกับเย็นวาบไปทั่วทั้งแผ่นหลัง และยิ่งหันกลับไปมองด้านหลัง หลินหนานก็แทบจะปัสสาวะราดทันที!

นั่นเพราะเวลานี้ ท้ายของรถเฟอรารี่อยู่ห่างจากขอบหน้าผาเพียงแค่สามสิบเซ็นติเมตรเท่านั้น และจากจุดที่เขายืนอยู่นั้น ก็สามารถมองเห็นตีนเขาที่ลึกลงไปหลายร้อยเมตรได้อย่างชัดเจน

หากร่วงลงไปจากหน้าผาที่สูงขนาดนี้ แน่นอนว่าคงต้องยับเยินทั้งรถทั้งคน รถคงมีสภาพไม่ต่างจากเศษเหล็ก ส่วนคนก็คงมีสภาพไม่ต่างจากเศษเนื้อ

หลินหนานเห็นเช่นนั้นยังถึงกับต้องกลั้นหายใจ ก่อนจะกระโดดลงจากหลังคารถเฟอรารี่ และรีบวิ่งตรงไปที่รถของเสี่ยวจือหลงที่หยุดลงอย่างรวดเร็ว

เขาจัดการเปิดกระจกหน้าต่างรถของเสี่ยวจือหลงด้วยหนึ่งหมัด จากนั้นจึงทําการปลดปลุ่มล็อค แล้วรีบเปิดประตูรถข้างคนขับออกอย่างรวดเร็ว

หลังจากทําการปลดเข็มขัดนิรภัยของเสี่ยวจือหลงออกแล้ว หลินหนานก็ได้ดึงร่างของเขาออกมานอกรถ และอุ้มมาวางไว้ที่พื้นหญ้าราบเรียบด้านล่าง

ภายใต้แสงจันทร์ที่ส่องสว่างนี้ ทําให้หลินหนานสามารถมองเห็นร่างที่กําลังนอนหมดสติของเสี่ยวจือหลงได้อย่างชัดเจน

หมอนี่หน้าตาสวยงามอย่างกับผู้หญิง

ผิวพรรณบนใบหน้าของเสี่ยวจือหลงนั้นละเอียดนวลเนียนอย่างมาก รูปหน้าและผิวพรรณของเขานั้นสวยงามกว่าผู้หญิงบางคนเสียอีก เครื่องหน้าก็งดงามไร้ที่ติอย่างหญิงสาวจนไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคําพูดได้

เสี่ยวจือหลงสวมเสื้อนอกสีดํา และแขนเสื้อก็พับขึ้นมาครึ่งแขน เผยให้เห็นผิวที่ขาวราวหิมะยิ่งกว่าผิวของผู้หญิงบางคนเสียอีก

“เฮอะ ผิวขาวนวลเนียนชะมัด แถมใบหน้ายังจิ้มลิ้มสวยงามยิ่งกว่าผู้หญิงจริงๆซะอีก!” หลินหนานได้แต่บ่นพึมพํา และนึกอิจฉารูปลักษณ์ของเสียวจือหลง

และความงดงาม อ่อนโยน ดูไม่ก้าวร้าวของร่างที่นอนหมดสติอยู่ตรงหน้านี้ ก็ยากที่จะทําให้ผู้พบเห็นรู้สึกเกลียดชังได้ลง

หลินหนานเห็นเช่นนั้นถึงกับต้องพ่นลมออกจากปากเรียกสติ..

สู่ว..

หลินหนาน. หลินหนาน.. คนที่นอนอยู่ตรงหน้านายเป็นผู้ชายทั้งแท่ง นี่นายสนใจผู้ชายด้วยกันตั้งแต่เมื่อไหร่?!!

“เอาล่ะๆ เลิกสนใจเรื่องอื่น แล้วรีบตรวจดูว่าหมอนี่เป็นอะไรกันแน่จะดีกว่า!”

หลินหนานพึมพําบอกตัวเอง ก่อนจะเอื้อมมือไปแตะข้อมือของคู่แข่งที่ยังคงนอนหลับไหลหมดสติ แต่สิ่งที่เขาสัมผัสได้นั้น ก็คือผิวพรรณที่นวลเนียน อ่อนโยนน่าสัมผัสของอีกฝ่าย!

หลังจากจับชีพจรของเสี่ยวจือหลงดู หลินหนาก็พบความผิดปกติบางอย่าง.. ชีพจรของเสี่ยวจือหลงเต้นผิดแปลกไป!

ไม่สิ! ต้องเรียกว่าเต้นไม่เป็นจังหวะน่าจะถูกต้องกว่า!

มันดูคล้ายกับว่า ภายในร่างกายของเขาเวลานี้ ราวกับมีบางสิ่งบางอย่างก่อกวน!

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” หลินหนานขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย

นอกเหนือจากอาจารย์ของเขาแล้ว ก็คงหาใครที่มีทักษะทางการแพทย์ที่ล้ําเลิศเหมือนอย่างหลินหนานได้อีก

“เพื่อความปลอดภัย คงต้องจัดการฝังเข็มให้หมอนี่ก่อน!”

หลินหนานตัดสินใจหยิบเข็มเงินออกมาจากกระเป๋าเสื้อของตนเองทันที จากนั้นจึงเริ่มปลดกระดุมเสื้อนอกของเสี่ยวจือหลงออก แต่กลับพบว่าด้านในมีเสื้อเชิ้ตสีขาวสวมทับอยู่อีกชั้น

และหลังจากปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกแล้ว ก็ยังพบเสื้อกล้ามเนื้อบางสวมทับไว้อีกหนึ่งตัว

“โธ่เว้ย! คนรวยๆนี่เขาใส่เสื้อผ้าหลายชั้นกันแบบนี้จริงๆน่ะเหรอ? วุ่นวายชะมัด!” หลินหนานสบถออกมาด้วยความหงุดหงิดอารมณ์เสีย

เขาพยายามข่มอารมณ์หงุดหงิดและโมโหของตัวเองไว้ ก่อนจะค่อยๆปลดเสื้อกล้ามตัวในของเสี่ยวจือหลงออก

แต่หลังจากถอดเสื้อกล้ามออก หลินหนานก็แทบอยากจะกรีดร้องออกมาทันที!

ต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ!

ข้างในยังมีเสื้อตัวเล็กสีเนื้ออยู่อีกหนึ่งตัว!

และเวลานี้ มือของหลินหนานก็ชะงักนิ่งอยู่เช่นนั้น

นี่มันอะไรกัน?!

รูปร่างของเสี่ยวจือหลงก็ผอมบางนี่นา แต่ทําไม “กล้ามเนื้อหน้าอก” ถึงได้ใหญ่โตแบบนี้นะ?

หลินหนานจะรู้สึกสงสัยก็ไม่ผิดอะไรนัก เพราะการที่เสี่ยวจือหลงมีรูปร่างบอบบาง แต่กลับมีกล้ามเนื้อหน้าอกที่ใหญ่โตนั้น มันดูเป็นเรื่องของสรีระที่ผิดปกติ และแปลกประหลาด

โดยปกติทั่วไป ผู้ชายรูปร่างกํายําแข็งแรงที่ผ่านการเข้ายิมฝึกเพาะกล้ามเนื้อต่างๆนั้น ลักษณะของกล้ามเนื้อจะต้องมีลักษณะแข็งคล้ายกับก้อนอิฐ แล้วก็จะไม่ได้มีเพียงแค่สองก้อนปูดออกมาแบบนี้

แต่กล้ามเนื้อหน้าอกของเสี่ยวจือหลงกลับมีรูปร่างแปลกประหลาด เพราะมันมีลักษณะเป็นก้อนเนื้อที่ยื่นออกมาจากหน้าอก และมีลักษณะคล้ายกับเนินเขาเล็กๆสองลูก แล้วรูปร่างของมันก็โค้งมนประหลาดตา

“สงสัยร่างกายของหมอนี่คงจะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนมากเกินไปสินะ?” หลินหนานได้แต่คาดเดาไป

เสื้อตัวเล็กสีเนื้อนี้ก็มีลักษณะที่แปลกประหลาด ดูไม่เหมือนกับเสื้อเลยแม้แต่น้อย แต่เหมือน กับเอาผ้ามาพันรัดรอบตัวไว้เท่านั้น

หรือว่าหมอนี่เคยถูกทําร้ายร่างกายมาก่อนนะ?

หลินหนานมีเรื่องสงสัยอยู่ในหัวเต็มไปหมด และเพื่อให้มั่นใจ เขาจึงได้เอื้อมมือออกไปจับกล้ามเนื้อหน้าอกของเสี่ยวจือหลงดู

“น่าแปลก! กล้ามเนื้ออะไร ทําไมถึงได้นุ่มนิ่มแบบนี้?”

สีหน้าของหลินหนานบ่งบอกถึงความประหลาดใจที่มีมากขึ้น แต่ในใจก็กลับคิดว่า อาจเป็นการเพาะกล้ามเนื้อแบบใหม่ก็เป็นได้ หรืออาจเป็นเพราะเสี่ยวจือหลงเพิ่งจะเริ่มหัดเพาะกาย กล้ามเนื้อจึงยังอ่อนนุ่มไม่แข็งเหมือนกล้ามเนื้อผู้ชายทั่วไป

แต่คิดไปคิดมา

ไม่สิ! ยังไงๆ ก็ดูไม่เหมือนกล้ามเนื้ออกของผู้ชายอยู่ดี!

“เอ๊ะ! หรือว่าหมอนี่มีรูปร่างที่ผิดปกติ ก็เลยต้องใส่เสื้อผ้าหลายชิ้นปกปิดไว้?”

“ใช่แล้ว! ต้องใช่แน่ๆ! ไม่อย่างนั้นผิวพรรณของหมอนี่คงจะไม่ขาว แล้วก็นวลเนียนกว่าผู้ชายทั่วไปขนาดนี้! ดูสิ. กระทั่งลูกกระเดือกยังไม่มีเลย!”

แต่ในระหว่างนั้นเอง

“โอ๊ย…”

เสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดของเสี่ยวจือหลงก็ดังขึ้น ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว และซีดขาวมากขึ้นเรื่อยๆ หน้าผากก็มีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมาเต็มไปหมด เห็นได้ชัดว่าเขากําลังเจ็บปวดอย่างที่สุด

“ช่างเถอะๆ ตอนนี้ต้องรักษาหมอนี่ก่อน เรื่องอื่นไว้ค่อยคิดทีหลัง!”

หลินหนานบอกกับตัวเอง จากนั้นจึงรีบทําการฉีกผ้าที่พันรอบตัวของเสี่ยวจือหลงออกทันที เพื่อที่จะได้สามารถทําการฝังเข็มให้กับเขาต่อไป

แควก..

ทันทีที่ผ้าผืนนั้นถูกฉีกขาด ภาพที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าหลินหนานเวลานี้ ก็ทําให้เขาถึงกับนิ่งอึ้ง ไปราวกับถูกฟ้าผ่าลงกลางศรีษะ!

เข็มเงินในมือค่อยๆร่วงหล่นลงจากมือของเขา

ไม่!

เป็นไปไม่ได้

นี่มันบ้าอะไรกัน!!