ตอนที่ 102 ภาคเรียนที่โลลิโดดเดี่ยวของชั้นประถมศึกษาปีที่ล่อหมี

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

102 ภาคเรียนที่สองของชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง

 

“เท่านี้ฉันก็พูดอะไร ๆ ที่อยากจะพูดทั้งหมดแล้ว”

 

การพูดคุยกับฮิลเดโทร่าที่เริ่มต้นในมื้อกลางวันดำเนินต่อเนื่องมาจนกระทั้งใกล้ค่ำ

 

สมกับเป็นการพูดคุยกับเชื้อพระวงศ์ ฉันรู้สึกว่าปัญหาหลาย ๆ อย่างได้รับการคลี่คลายอย่างคร่าว ๆ ด้วยคาวมช่วยเหลือจากฮิลเดโทร่า「ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีเองค่ะ」

 

ตอนนี้เหลือแค่ลงมือทำ

 

“หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเมจิกวิชั่น เรายินดีที่จะร่วมมือค่ะ แต่……”

 

“ไม่เป็นไรหรอกนะ นี่เป็นสิ่งที่ฉันอยากทำเป็นการส่วนตัวด้วย”

 

“เราทำแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ ……แต่ เราพอจะช่วยออกได้ที่ห้าล้านครัมค่ะ สำหรับเป้าหมายพันล้านครัมก็อาจจะน้อยเกินไป เพียงเท่านี้จะเพียงพอหรือไม่……”

 

ฉันคิดว่าการที่สามารถเตรียมได้ขนาดนั้นตั้งแต่อายุแปดขวบก็มากเกินพอแล้ว

 

“ถึงจะเล็กน้อยแต่เงินก็คือเงิน”

 

“เอ๊ะ? อะ ตั้งใจที่จะรับไว้สินะคะ?”

 

“บอกพระราชาด้วยว่า ถ้าไม่มากเกินไปก็ช่วยส่งห้าสิบล้านมาให้ด้วย”

 

“อะ อุอืม? ……เราจะบอกให้ แต่เราไม่รู้หรอกนะว่าจะมอบให้หรือไม่?”

 

“ไม่เป็นไร พระราชาบอกว่าจะให้มาแล้ว”

 

“เราก็ได้ยินเช่นนั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะตั้งใจให้โดยไม่มีเงื่อนไขตั้งแต่แรก เหมือนจะพูดอุปมาว่าถ้าจะให้……ม๊า เราจะทูลให้ทราบก็แล้วกันค่ะ แต่ว่า……”

 

ดีล่ะ เท่านี้ก็เหลือแค่เก้าร้อยสามสิบห้าล้านครัม

 

การพูดคุยกับฮิลเดโทร่าทำให้ชัดเจนขึ้นว่าฉันควรจะทำยังไง และด้วยเส้นสายของเธอ สิ่งรอบข้างน่าจะพร้อมในไม่ช้า

วันหยุดเป็นสิ่งสำคัญ แต่ฉันก็ต้องคิดถึงอนาคตอย่างเป็นรูปธรรม

 

และฉันต้องเตรียมตัวให้พร้อมเช่นกัน

 

 

 

นับตั้งแต่วันที่ฉันเปิดตัวแผนการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ ฉันก็เริ่มลงมืออย่างจริงจัง

 

อย่างแรก การฝึกฝน「คิเคน・เสียงอัสนีบาต」ของริโนกิส

เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว สักหนึ่งสัปดาห์ก็น่าจะเริ่มมีโอกาสสามารถปล่อยออกมาได้แล้ว กะแล้วว่าเป็นเทคนิคที่เหมาะกับเธอ กล้ามเนื้อก็ค่อนข้างดีเลย

 

ฉันเองก็นั่งสมาธิอยู่ที่ใกล้ ๆ กันด้วย

 

――ฉันต้องทำความคุ้นเคยกับ「คิ」……. 「แปดคิ」ในร่างนี้อย่างมั่นคงด้วยเช่นกัน จำเป็นต้องทำแบบนั้นเพื่อที่จะสามารถล่าสัตว์อสูรชั้นสูงได้เป็นอย่างน้อย

 

ฉันสงสัยจริงว่าฉันจะฟื้นสัญชาตญาณจากชาติก่อนหน้านี้ได้มากแค่ไหนในวันหยุดนี้

เมื่อพิจารณาจากอายุร่างกายของฉันแล้ว ฉันก็คิดว่าการฝึกฝนมาจนถึงจุดนี้เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่สามารถพูดได้ในตอนนี้

 

ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็อยากจะไปที่ดันเจี้ยนบนเกาะแห่งนี้ เพื่อสะสมประสมการต่อสู้ที่แท้จริง แต่ว่า――การที่มีเชื้อพระวงศ์อยู่ที่นี่ตอนนี้ ทำให้ทางเข้าถูกปิดอย่างแน่นหนา เผื่อมีอะไรผิดพลาด

 

การยอมแพ้เรื่องนั้น และมุ่งความสนใจไปที่การฝึกฝนอาจมีความหมายมากกว่า

 

“――คุณหนูค่ะ น่าจะใกล้ได้เวลากลับกันแล้วนะคะ?”

 

“――เธอกลับไปก่อนเลย ฉันอยากบําเพ็ญตบะทั้งวัน”

 

“――เอ๊ะ”

 

น่าจะได้เวลาที่ฉันจะเริ่มทำแล้ว

บําเพ็ญตบะที่ริโนกิสรักมาก ฉันไม่มีโอกาสได้ทำจริง ๆ จัง ๆ สักที

 

นี่เองก็เป็นหนึ่งในแผนการที่ฉันอยากจะทำในวันหยุด

 

ตอนนี้แผนสำหรับการแข่งขันศิลปะการต่อสู้กำลังจะเริ่มขึ้น เกรงว่าฉันอาจจะต้องยกเลิกแผนการเที่ยวเล่นลงนิดหน่อย แต่เมื่อคิดถึงอนาคตแล้ว ฉันก็อยากจะฝึกฝนให้ดี

 

“――……หากคุณหนูไม่กลับ ดิฉันก็ไม่กลับเช่นกันค่ะ……”

 

“――อาร๊า ริโนกิสก็อยากจะเข้าร่วมบําเพ็ญตบะด้วยเหรอ? กระตือรือร้นจังน๊า”

 

“――ฮะๆๆๆ……นั่นสินะคะ……”

 

“――บําเพ็ญตบะที่เธอรักที่สุดไงล๊า”

 

“――……ฮะๆๆๆๆๆๆ……”

 

 

 

ฉันจบเวลาพักร้อนก่อนเวลาหนึ่งวัน ทิ้งฮิลเดโทร่ากับเรเลียเรด และพระราชาไว้ข้างหลัง แล้วกลับมาที่เมืองหลวงพร้อมกับริโนกิสก่อน

 

……ถึงกระนั้น ความทรงจำที่ดีที่สุดในวันหยุดของฉัน กลายเป็นบาร์บีคิวเมื่อวาน

 

สิ่งเดียวที่ทำให้ฉันประทับใจก็คือพระราชากำลังเพลิดเพลินกับเนื้อในมือข้างหนึ่ง……เพราะเขา จึงกลายเป็นวันหยุดที่ฉันไม่สามารถพูดอะไรได้

 

………….สนุกขนาดนั้นเลย ระดับยังกลับไปเป็นเด็ก……ไม่สิ ช่างไปก่อน

 

ฉันไม่สามารถพักร้อนได้ตลอดไป

มาเปลี่ยนอารมณ์กันเถอะ

 

ภาคเรียนที่สองกำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า

ดังนั้น ฉันจึงกลับมาก่อนเวลาหนึ่งวันเพื่อเตรียมการก่อนหน้านั้น

 

จากที่คุยกับริโนกิส เธอจะเริ่มกิจกรรมในฐานะนักผจญภัยในเวลาเดียวกับที่ฉันกลับไปใช้ชีวิตในสถาบัน

 

เดิมทีริโนกิสก็จบการศึกษาจากแผนกการผจญภัยในระดับชั้นมัธยมต้นของสถาบันการศึกษาอาร์ตัวร์

การทำงานเป็นนักผจญภัยนั้นเหมาะสมอย่างน่าประหลาด

 

“――ข้าไม่รังเกียจหรอกนะ ถ้าเธอจะใช้ที่นี่ แต่ตอนนี้ข้าเป็นสุจริตชนแล้ว การต่อสู้ให้งดไว้เข้าใจน่ะ?”

 

ที่แรกพวกเราไปที่ร้านของอันเซล「ที่พักหนูเงาสนธยา」

 

ริโนกิส ผู้ซึ่งกระตือรือร้นในฐานะนักผจญภัย การเป็นที่รู้จักในฐานะ「สาวใช้ของเนีย・ลิสตัน」จะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของเธอในฐานะสาวใช้ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจปลอมตัวและทำงานโดยใช้นามแฝง

 

และร้านนี้จะเป็นฐานของเธอเมื่อต้องทำตัวเป็นคนอื่น

เนื่องจากได้รับอนุญาตจากอันเซลแล้ว ดังนั้นจึงมาใช้โดยไม่ลังเลเลย

 

“แต่ว่าหนึ่งพันล้านครัมก็เป็นเป้าหมายที่บ้าบิ่นดีนะ”

 

“ใช่แล้ว ลิลลี่ตัวเล็ก แต่คิดการใหญ่จังนะ”

 

ฉันยังบอกเจ้าของร้าน อันเซลกับพนักงานร้าน เฟรซ่า เกี่ยวกับทัวร์นาเมนต์ศิลปะการต่อสู้ไม่ได้ แต่ฉันบอกพวกเขาว่าพวกเรากำลังทำงานเพื่ออะไร

 

การทำอะไรที่น่าสงสัยอย่างการปลอมตัว หรือใช้ชื่อปลอม ทั้งหมดนั้นหากไม่เล่าสถานการณ์ออกไปอย่างจริงใจ ความเข้าใจผิดอาจพอกพูนและก่อปัญหาได้

 

“ถ้าสนใจจะมาช่วยก็ได้นะ? แต่ไม่มีส่วนแบ่งให้ตามมาตรฐานหรอกนะ”

 

เมื่อฉันพูดแบบนั้นขณะเลียน้ำผลไม้ อันเซลก็หัวเราะขึ้นจมูก และเฟรซ่าก็มีรอยยิ้มเป็นมิตรเสียวสันหลังที่ใคร ๆ เห็นก็เข้าใจทันที

 

“ไม่มีใครเคลื่อนไหวเพียงเพราะโดนสั่งให้ทำงานหรอกนะ”

 

“เหมือนกัน ข้าก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่ก็ไม่มีกำลังพอช่วยหรอกนะ”

 

งั้นเหรอ น่าเสียดาย

 

“ม๊า ในเมื่อริโนกิสเป็นคนที่ตัดสินใจว่าจะเคลื่อนไหวยังไง ถ้าเธอต้องการเพื่อนร่วมทีม ก็ควรให้ริโนกิสเป็นคนตัดสินใจ รวมถึงเรื่องส่วนแบ่งด้วย”

 

ก็อาจต้องมีการตัดสินใจหน้างานอีกที

ซึ่งไม่มีทางที่ฉันจะไปอยู่ในตอนนั้นได้ ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำก็คือทำให้ริโนกิสทำงานได้ง่ายขึ้น

 

“――ฉันจะเข้าร่วมด้วยเป็นครั้งคราว ตอนนั้นก็ฝากด้วยนะ”

 

ก่อนอื่นในตอนนี้ พวกเราบรรลุข้อตกลงกันแล้ว ดังนั้นตอนนี้ฉันไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับฐานอีกแล้ว

หากเป็นริโนกิสที่วิ่งเล่นไปทั่วตรอกหลังที่ค่อนข้างไม่ปลอยภัยได้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเป็นพิเศษ 

 

 

 

ถัดไปคือบริษัทที่ฮิลเดโทร่าเขียนจดหมายแนะนำให้

เป็นร้านค้าขนาดใหญ่ที่เป็นที่ได้รับความไว้วางใจจากเชื้อพระวงศ์และขุนนาง และพวกเขาให้ตราประทับรับรองว่าไว้ใจพวกเขาได้อย่างแน่นอน ทั้งในด้านข้อมูลข่าวสาร การแลกเปลี่ยนเงินสด และกิจกรรมต่าง ๆ

 

ชื่อของที่นี่คือ บริษัท เซโดนี

 

ฉันรู้จักแต่ชื่อของพวกเขา

ที่จริงมีแม้กระทั้งสาชาในดินแดนลิสตัน ฉันจำได้ว่าเป็นหนึ่งในบริษัทการค้าที่ใหญ่ที่สุดในราชอาณาจักรอาร์ตัวร์

 

อย่างที่คิดไว้ ความไว้วางใจและความสำเร็จของบริษัทขนาดใหญ่นั้นหาที่เปรียบมิได้

 

“――ยินดีต้อนรับครับ เนีย・ลิสตันซามะ”

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันมาที่ร้านนี้ แต่พนักงานหนุ่มรู้จักฉัน……ม๊า ดูเหมือนจะมีการรวบรวมข้อมูลไว้สินะ สมกับเป็นร้านค้าขนาดใหญ่ เดาว่าพวกเขาทำการซื้อขายเมจิกวิชั่นด้วยเช่นกัน

 

“ฉันต้องการพบผู้รับผิดชอบที่นี่ นี่คือจดหมายแนะนำตัว”

 

“ผมขออนุญาตรับฝากไว้นะครับ――กรุณารอสักครู่ครับ”

 

ทันทีที่เขาได้รับจดหมาย พนักงานหนุ่มก็หายเข้าไปทางด้านหลัง――และกลับมาทันที

 

“เชิญทางนี้ครับ”

 

จากนั้นฉันก็ถูกพาไปที่ห้องรับแขกทันที

สมกับเป็นจดหมายของราชวงศ์ พูดได้เร็วดี

 

 

 

เมื่อเดินทำธุระไปรอบเมืองหลวงแบบนี้ วันหยุดฤดูร้อนสั้น ๆ ก็หมดลงในเวลาไม่นาน

 

“――เช่นนั้นคุณหนู โปรดระวังตัวด้วยนะคะ”

 

“――ริโนกิส เธอเองก็ระวังตัวด้วยนะ”

 

ฉันตอบกลับแบบเดียวกันกับริโนกิส ขณะยืนส่งเธอจากในห้องหอพัก

 

จากนี้ไปฉันจะไปกลับตึกเรียน

ฉันไม่คิดว่าจะต้องมีอะไรที่ต้องระวัง แต่ริโนกิสแตกต่างออกไป

 

หลังจากนี้ เธอจะออกจากสถาบันแห่งนี้ และเปิดตัวในฐานะนักผจญภัย และหาเงินตามที่วางแผนไว้

 

ทั้งสัตว์อสูรที่เล็งไว้ ที้งเรือเหาะที่มุ่งหน้าสู่เกาะลอยฟ้าที่มีสัคว์อสูรอาศัยอยู่ และแน่นอนเตรียมพร้อมสำหรับการผจญภัย ทุกอย่างวางแผนไว้ล่วงหน้าเสร็จแล้ว

กำหนดการคือ สามถีงห้าวัน

ครั้งต่อไปที่จะได้เจอกับริโนกิสคือในอีกหลายวันข้างหน้า

 

ริโนกิสยังไม่เชี่ยญชาญ「เสียงอสนีบาต」เลย แต่「เสียงอสนีบาต」ที่ยังไม่สมบูรณ์ก็ยังมีพลังในระดับหนึ่ง หากเป็นระดับสัตว์อสูรที่ถูกเลือกไว้เป็นเป้าหมายก็ไม่จำเป็นต้องกังวล

 

――นอกจากนี้ ฉันอยากรู้มากว่าจะได้เงินเท่าไหร่ในการผจญภัยครั้งเดียว เพราะจะเป็นเป้าหมายในการวางแผนทางการเงินของฉันในอนาคต

การผจญภัยครั้งแรกจะกลายเป็นมาตรฐานในอนาคต

 

หนึ่งพันล้านในสองปีสินะ

 

ฉันไม่มีทางเลือก

ไม่มีที่ว่างให้ลังเล ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำ

 

แต่ว่า จะเกิดอะไรขึ้นบ้างนั้น……

 

 

 

ภาคเรียนที่สองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง เริ่มต้นขึ้นแล้ว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

กินแอปเปิ้ลเขียวเปรี้ยวบาดลิ้นยิ่งกว่ามะนาวเข้าไปครึ่งลูกนั่งกินครึ่งวัน กินอะไรตามรสเพี้ยนไปหมด ฮา