บทที่ 74 บอกแมวว่ามันจะต้องทำท่าไหน

Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว

บทที่ 74 บอกแมวว่ามันจะต้องทำท่าไหน

บทที่ 74 บอกแมวว่ามันจะต้องทำท่าไหน

ซูโย่วอี๋ เดินเข้าไปในสนามหญ้า เปิดตะกร้าออกและพูดอย่างอ่อนโยน

“โต้วโต่ว ออกมาสนุกกันเถอะ”

แมวน้อยทำตาโตไร้เดียงสาและขดตัวอยู่ในตะกร้า

เมื่อเห็นสัตว์เลี้ยงตัวน้อย เฉินซีซีก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปดูมัน “พี่สาว ล่อมันออกมาด้วยอาหารกระป๋องสิ”

ซูโย่วอี๋เปิดกระป๋องและเข้าไปใกล้ ๆ

ตามที่คาดไว้ โต้วโต่วขยับจมูกไปมาและก้าวตามอาหาร

ได้ผล!

ในที่สุดเจ้าหญิงน้อยก็แสดงความงามของเธอต่อหน้าทุกคน

เมื่อเห็นมัน พวกเขาทุกคนก็อุทาน

“ว้าว น่ารักจัง”

“ลีดเดอร์ ไปเอามาจากไหน น่ารักจัง”

“ฉันไม่สามารถต้านทานสัตว์ตัวเล็ก ๆ ได้เลย”

“ขอกอดได้ไหม”

เมื่อเห็นผู้คนมากมาย โต้วโต่วรู้สึกกลัวเล็กน้อยและล่าถอย

ซูโย่วอี๋เห็นอย่างนั้นก็ขอให้ทุกคนอย่างรุมมัน

ส่วนตากล้องก็ตะโกนว่า “ให้แมวอยู่กับนักแสดง คนอื่นอย่าขยับ”

เมื่อได้ยินคำพูดนั้น เฉินซีซีก็มีความสุขที่จะได้อยู่กับแมวน้อย

ซูโย่วอี๋โบกมือให้ชุ่ยเชียนต้งแล้วพูดว่า “เธอกับเฉินซีซี เล่นกับมันไปก่อนนะมันจะได้ไม่กลัว”

“อวี๋ชิงจ้าว เธอด้วย”

อวี๋ชิงจ้าวก็ต้องจากไปพร้อมกับแมวในอ้อมแขน

อวี๋ชิงจ้าวเดินผ่านไป การรวมกันของสามสาวงามและแมวหนึ่งตัวนั้นค่อนข้างดึงดูดสายตา

ตากล้องมองหาฉากที่ดีที่สุดสำหรับตัวละครหลัก

ทันใดนั้นโต้วโต่วก็พุ่งออกมา

มันวิ่งเข้าไปในป่า จนพวกเธอตามไม่ทัน

มันคือแมวของลู่เฉินนะ!

ซูโย่วอี๋กระโจนตามมันไปในทันทีที่เห็น

แต่อวี๋ชิงจ้าวหยุดเธอไว้ “แมวตัวนี้มันหวงตัวเกินไป ให้อาหารมันได้ แต่มันคงไม่ชอบให้ใครแตะต้อง”

ในตอนนั้น เฉินซีซีอดไม่ได้ที่จะสัมผัสโต้วโต่ว เมื่อเจ้าแมวน้อยเห็นอย่างนั้นมันจึงวิ่งหนีไป

เจ้าจิ้งจอกเห็นอย่างนั้นก็ทนไม่ไหว [ซู่จู่แสดงทักษะสัตว์เลี้ยงที่คุณได้มาให้ฉันเห็นหน่อย]

มันดูกังวล

หลังจากผ่านไปสักพัก เธอยังคงพยายามให้เจ้าแมวน้อยไม่กลัว

ซูโย่วอี๋เข้าสู่พื้นที่ระบบทันทีและเลือกใช้ไอเทม [ค่าความใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงอย่างแท้จริง]

“ตอนนี้ฉันควรทำอะไรดี?”

สุนัขจิ้งจอกชูหูขึ้นแล้วพูดว่า [โบกมือเพื่อแสดงว่าคุณชอบมัน]

“มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?”

[แค่นั้นแหละ]

เธอโบกมือไปมาในป่า

เธอรู้สึกถึงการต่อต้านของเจ้าแมวน้อยลง “ลีดเดอร์ คุณทำได้ยังไง…”

หลังพูดจบ หางหนาของโต้วโต่วก็ยกขึ้นสูงและส่ายไปมาเล็กน้อย มันเดินเข้าไปหาซูโย่วอี๋ทีละก้าว

อา

นี่…

ดวงตาของเฉินซีซีเบิกกว้าง พี่สาวไม่เพียงแต่ปราบลู่เฉินได้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงแมวของเขาด้วย!

โต้วโต่วเดินมาหาเธอด้วยท่าทางออดอ้อน

จากนั้นมันก็นอนลงบนพื้นและโชว์ท้องให้ซูโย่วอี๋ดู

นี่เป็นท่าทางอ้อนเจ้านาย

ซูโย่วอี๋ย่อตัวลงและลูบขนของโต้วโต่วเบา ๆ โดยไม่สนใจว่าทุกคนจะประหลาดใจแค่ไหน

“โต้วโต่ว ฉันต้องการความร่วมมือจากเธอ ทำตัวดี ๆ ตกลงไหม?”

ดูเหมือนมันจะเข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร

“เธอจะอยู่กับพี่สาวพวกนั้น หลังถ่ายโฆษณาเสร็จแล้ว ฉันจะให้อาหารกระป๋อง ดีไหม?”

จากนั้นโต้วโต่วก็พยักหน้าต่อหน้าทุกคน!

ซูโย่วอี๋ถามด้วยความไม่เชื่อ ‘ฉันตาฝาดไปหรือเปล่า’

สุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตะคอก [นี่คือความสัมพันธ์ที่เกิดจากระบบ ไม่น่าแปลกใจที่มันจะเข้าใจ]

สมาชิกในทีมเห็นภาพนั้นก็ตกใจ

“ลีดเดอร์ คุณสื่อสารกับแมวได้!”

“สุดยอด!”

“ลีดเดอร์ คุณลองถามอะไรเธออีกสองสามข้อสิ”

ซูโย่วอี๋ยิ้ม “ฉันไม่เข้าใจที่มันร้อง รีบถ่ายกันเถอะ”

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคำพูดของเธอหรือไม่ โต้วโต่วจึงกลายเป็นแมวว่านอนสอนง่ายอย่างผิดปกติและจะไม่กลัวเมื่อเห็นคนอื่น

แต่มันก็ยังไม่ชอบอยู่กับคนอื่นอยู่ดี

แม้ว่าตากล้องจะไม่เข้าใจว่าซูโย่วอี๋ทำได้อย่างไร แต่เขาก็ยังคงแนะนำว่า “เธอบอกแมวว่ามันจะต้องทำท่าไหนสิ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า…” ทุกคนหัวเราะออกมา

เธอทำหน้าที่ฝึกแมวอย่างไม่คาดคิด

ซูโย่วอี๋วางแมวไว้บนสถานที่ถ่ายทำและพูดว่า “เธอแค่หมอบตรงนี้เพื่ออาบแดด อย่าหนีไปไหน”

“เหมียว”

ตากล้องมองแมวในวิดีโอด้วยดวงตาเบิกกว้าง

“คุณต้องให้แมวหลับตา”

เพื่อสร้างสภาพขี้เกียจและผ่อนคลายของแมว จึงต้องให้มันหลับตา

เธอแตะขนนุ่ม ๆ ที่หลังของโต้วโต่วแล้วพูดว่า “หลับตาสิ”

โต้วโต่วมองไปที่ซูโย่วอี๋และร้องอย่างฉุนเฉียว “เมี้ยว!”

จากนั้นมันก็หลับตาลงจริง ๆ

บ้าไปแล้ว!

ตากล้องตบมือแล้วพูดว่า “ดีมาก การถ่ายทำกับสัตว์ สิ่งที่ยุ่งยากที่สุดคือสัตว์ไม่ให้ความร่วมมือ ถ้าลูกแมวตัวนี้เชื่อฟังอย่างนี้ก็ง่ายต่อการถ่ายทำ”

ซูโย่วอี๋ออกจากสถานที่ถ่ายทำและทำได้เพียงตะโกนว่า “โต้วโต่วยกมือขึ้น”

เธอไม่รู้ว่าโลกของแมวเป็นอย่างไร

“เหมียว”

เห็นได้ชัดว่าแมวนี่รู้ดีว่าการแสดงเป็นยังไง

เมื่อได้ยินคำสั่ง โต้วโต่วรีบยกมือขึ้น

ท่าทางมันดูเหมือนแมวง่วงนอน

ซูโย่วอี๋รู้สึกขบขัน

ช่างเป็นแมวที่ว่านอนสอนง่าย

เป็นครั้งแรกที่เธอคิดว่าอยากลองเลี้ยงลูกแมวเชื่อง ๆ อย่างโต้วโต่ว

หลังจากนั้นไม่นานตากล้องก็เงยหน้าขึ้น “หลังจากนั้นคนที่รับบทเป็นสาวน่ารักก็ลงไปนอนบนพื้นโดยเอามือข้างหนึ่งประคองคางแล้วพยักหน้าทั้งที่หลับตา”

“ประเด็นคือเธอต้องง่วงเหมือนแมว”

เจ้าเหมียวใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการแสดง

จากนั้นเธอก็ไม่ต้องการแมวอีกต่อไป

ซูโย่วอี๋เอาแมวออกมาไว้ข้าง ๆ ให้น้ำและอาหารมัน

ด้านเฉินซีซีและชุ่ยเชียนต้งที่สวมกระโปรงลายดอกไม้ ทำให้เห็นสัดส่วนที่โค้งเว้าของพวกเธออย่างชัดเจน

โดยเฉพาะเฉินซีซี เธอเหมือนผลไม้สีเขียวที่เยาว์วัยและมีใบหน้าที่น่ารัก ทำให้ผู้คนเกิดอยากจะปกป้อง

“เอาล่ะ ลองคิดตามนะ คุณได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังใกล้เข้ามา คุณลืมตาและมีท่าทีสับสน จากนั้น อวี๋ชิงจ้าวที่กำลังจะปรากฏตัว ดึงความสนใจจากดวงตาของคุณ แล้วจากนั้นเราจะโคลสอัพไปที่ใบหน้าคุณ”

ซูโย่วอี๋และสมาชิกในทีมหาที่พักผ่อน และทำงานอยู่แบื้องหลัง ให้อาหารแมวอย่างขันแข็ง

หลังจากที่ทั้งสามคนแสดง เห็นได้ชัดว่าเฉินซีซีรู้สึกดีขึ้น

จากนั้นจึงตัดสินผู้ที่ถูกคัดเลือก

ตลอดช่วงเช้า สิ่งที่ตากล้องพูดกำชับมากที่สุดคืออารมณ์ในดวงตาของพวกเธอ “สายตาที่คุณสองคนมองกันนั้นไม่ดีเลย”

“ไร้อารมณ์”

“ความสัมพันธ์แบบไหนก็ต้องมีความรู้สึกแบบนั้น”

คนหนึ่งเย็นชา ในขณะที่อีกคนหัวเราะคิกคัก

ไม่มีความรู้สึกถึงบรรยากาศความรักเลย

สิ่งนั้นทำให้ตากล้องเสียความมั่นใจ

“กลับไปค้นหาความรู้สึกรักของตัวเองให้เจอ”

ระหว่างทางเธอกำลังคิดถึงการถ่ายทำฉากงานเลี้ยง

เฉินซีซีมองไปที่ตะกร้าแมวในมือพี่สาวของเธออย่างกระตือรือร้น “พี่สาว เหนื่อยไหม?”

ซูโย่วอี๋ยื่นมันให้เด็กสาว แล้วหันไปพูดว่า “อวี๋ชิงจ้าวเปลี่ยนแผนกันเถอะ อย่าไปคฤหาสน์หรืองานเลี้ยง เอาเป็น เมื่อสาวเย็นชาบังเอิญเข้าไปในป่าและพบกับสาวน่ารักเธอสองคนก็เต้นรำด้วยกันและสุดท้ายก็จากไปพร้อมกับแมวในอ้อมแขนเธออย่างนี้ดีไหม?”

ฉากงานเลี้ยงเรียบง่ายที่ถูกจัดขึ้นแบบลวก ๆ ดูไม่เหมาะกับน้ำหอม Dora เลย

“เธอเป็นลีดเดอร์ ทุกอย่างอยู่ที่เธอตัดสินใจ”