ตอนที่ 153 กลัวผู้หญิง ตอนที่ 154 เล่นงานถึงที่

ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล

ตอนที่ 153 กลัวผู้หญิง

หลี่จิ้นเป่าไม่คิดว่าฮั่วหรงจะมีดีตรงไหน

แน่นอน เมื่อก่อนคิดว่าก็พอใช้ได้ ถือว่าเป็นคนดีที่โง่เขลาคนหนึ่ง แต่หลังซ่งอิงแต่งเข้าไป เขาก็ไม่คิดว่าฮั่วหรงจะดีเด่อะไรแล้ว

ยกเงินให้ตั้งหลายปีขนาดนั้น ก็ไม่เคยจะเห็นรูปลักษณ์ของคนผู้นี้เลย ไม่แน่ว่าจะหน้าตาอัปลักษณ์เกินเปรียบเทียบก็เป็นได้ แล้วก็เงินนั่นอีก…ทุกปีส่งมาให้ตั้งหลายร้อยตำลึงเงิน เงินตั้งมากมายขนาดนี้ ใครจะรู้ว่าไม่ได้แอบปล้นชิงใครเขามา?

“เออ จะว่าไปวันนี้ข้าก็เห็นเขาแล้วเช่นกัน ความจริงเป็นคนหนึ่งที่…” หลี่จิ้นเป่าเผยสีหน้าแหยๆ “ดูไม่เหมือนลูกของผู้ยิ่งใหญ่ที่ใจดีมีคุณธรรมสักเท่าใดเลยนี่! ว่ากล่าวบิดาเขาว่าไม่เอาไหนลับหลัง แล้วยังต้องการขุดกระดูกบิดาเขาขึ้นมาอีกด้วย ข้าหวังดีพูดจาสั่งสอนเขาไม่กี่ประโยค คิดไม่ถึงว่าเขายังต่อล้อต่อเถียงข้าขึ้นมาเสียได้ ข้าตั้งใจจะสั่งสอนเขาให้จำขึ้นใจ แต่จะทำอย่างไรได้…ข้ามีความแค้นเคืองกับซ่งอิง ไม่สะดวกที่จะลงมือจริงๆ มิเช่นนั้นจะดูเป็นข้ามีอคติส่วนตัว…”

เมื่อเอ่ยคำพูดนี้ออกไป หนิวซานซานก็เดือดดาลขึ้นมา

“เขานิสัยเสียขนาดนี้เชียวหรือ พี่จิ้นเป่าท่านอย่าได้โกรธไปเลย อีกเดี๋ยวข้าจะช่วยท่านสั่งสอนเขาเอง!” หนิวซานซานกล่าวทันที

พี่หลี่เป็นคนใจอ่อนที่สุด เมื่อก่อนนางอัปลักษณ์ผู้นั้นก็มักรังแกพี่หลี่อยู่เสมอ

ทว่าตอนนี้นางอัปลักษณ์เป็นสะใภ้ฮั่วแล้ว เขาเลยไม่สะดวกไปช่วยระบายอารมณ์โมโหแทนพี่จิ้นเป่าอีกเช่นกัน

“เช่นนั้นพวกเจ้าลงมือกันเบาๆ หน่อยแล้วกัน ขอเพียงทำให้เขาสำนึกผิดได้ก็พอ” หลี่จิ้นเป่ากล่าวขึ้นอีกครั้ง

ครั้งก่อนก็เป็นหนิวซานซานที่พาเด็กกลุ่มหนึ่งไปหาซ่งอิง ซึ่งผลลัพธ์ถือว่าไม่เลวทีเดียวเสียด้วย ตอนนั้นก็จัดการซ่งอิงจนหัวแตกหมดสติไป คิดๆ ดูครั้งนี้ ฮั่วหลินก็คงได้รับบทเรียนเช่นกัน

ถึงเวลา ฮั่วหลินผู้นี้ก็น่าจะเข้าใจได้ว่า เด็กที่ไม่มีพ่อ สรุปแล้วมีความทุกข์ขนาดไหน

ทางที่ดีที่สุดตอนที่ร้องไห้ขี้มูกโป่งถูกเขาพบเห็นเข้า เขาค่อยไปปลอบประโลมสองสามประโยค แล้วให้ขนมหวานสักชิ้น ก็จะเชื่อฟังแต่โดยดีแน่นอน

เด็กน้อยนี่ ล้วนเป็นเช่นนี้กันทั้งนั้นมิใช่หรือ

“ระยะนี้บ้านข้ามีเรื่องราวนิดหน่อย ไว้รอมั่นคงแล้ว ค่อยเลี้ยงลูกกวาดพวกเจ้าแล้วกัน” หลี่จิ้นเป่ากล่าวขึ้นอีกครั้ง

มิตรภาพของเด็กน้อยตามจริงก็มีประโยชน์เหมือนกัน

เด็กกลุ่มนี้ เพื่อลูกกวาดเม็ดเดียว ให้พวกเขาลงแม่น้ำจับปลาหาอาหารจานเด็ดให้เขา พวกเขาล้วนไปทำอย่างสุดชีวิต ไม่แยกแยะดีชั่วเลยสักนิด

หลี่จิ้นเป่าเชื่อมั่นในตัวหนิวซานซานเต็มเปี่ยม ดังนั้นท่าทีอย่าง ‘ได้รับความน่าเชื่อถือ’ ที่เขาไม่ได้รับมาบ่อยครั้งนัก กลับทำให้หนิวซานซานรู้สึกอายเล็กน้อย “ไม่มีลูกกวาดก็ได้เช่นกัน! เขาสมควรถูกสั่งสอน!”

ในฐานะบุตรของผู้ยิ่งใหญ่ที่มีจิตใจดีงามและทรงคุณธรรม คิดไม่ถึงว่าจะนิสัยเสียขนาดนี้!

หลี่จิ้นเป่าเดินจากไปอย่างพึงพอใจ

ซ่งต๋าไม่ได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคนนี้ แต่เขานึกขึ้นมาได้ว่า ครั้งก่อนพวกเขาทั้งสองก็เป็นเช่นนี้

ปรากฏว่า หลังหนิวซานซานหันขวับมาก็เรียกเด็กๆ สี่ห้าคนไปหา เอ่ยกะซิบกระซาบกัน ความหมายโดยคร่าวๆ ก็คือสั่งสอนฮั่วหลิน

เด็กกลุ่มนั้นไม่รู้จักแยกแยะต่อสิ่งดีชั่วชัดเจน ในยามนี้รู้จักแต่เชื่อคำพูดของหนิวซานซานพี่ใหญ่ผู้นี้ ยิ่งไปกว่านั้น หนิวซานซานก็อธิบายแล้วเช่นกันว่า เป็นฮั่วหลินทำตัวแย่เกินไป อยู่ในนามบุตรตระกูลฮั่วแท้ๆ คิดไม่ถึงว่ายังไม่รู้จักกตัญญูอีก…

หลังซ่งต๋าได้ยิน ดวงหน้าพลันแดงก่ำ

“จะรังแกน้องหลินมิได้นะ หากพี่สาวคนรองข้ารู้ว่าพวกเจ้าไปหาเรื่องแล้วข้าก็ไม่ห้ามต้องตีข้าตายแน่” ซ่งต๋ากล่าวทันควัน

ครั้งก่อนหลังทำร้ายพี่รอง เขาก็ถูกพี่รองปาก้อนหินใส่หัวเอาคืนแล้วไม่ใช่หรือ

อีกทั้ง…

ช่วงก่อนหน้านั้น ในครอบครัวห่อบ๊ะจ่างกัน บรรดาพี่ชายน้องชายต่างมีงานทำ มีเพียงเขาที่ไม่มี เขาจึงปวดใจอย่างยิ่ง พี่รอง พี่สามก็เฉยเมยใส่เขา เอ่ยว่าขอเพียงจากนี้เขาเข้าข้างคนในครอบครัวตัวเอง ก็จะไม่ถูกเมินเฉยอีก…

“ซ่งเสี่ยวลิ่ว[1]! เจ้าอย่าได้ขี้ขลาดไปเลย! โตขนาดนี้แล้วยังจะกลัวผู้หญิงอีก!” บรรดาสหายเยาะเย้ย

“พวกเจ้าไม่กลัวหรือ แม่เจ้าก็เป็นผู้หญิงเช่นกัน!” ซ่งต๋าสบถฮึ

เขาเพิ่งสิบขวบเอง พี่รองอายุตั้งสิบเจ็ดปี ไม่กลัวสิถึงจะแปลก!

“ไม่กลัว! พวกเราไม่กลัว!”

“ใช่! พรุ่งนี้พวกเราก็จะไปสั่งสอนน้องหลิน! ซ่งต๋า เจ้าช่างโง่เขลาจริงๆ หรือว่าเจ้าไม่อยากกินลูกกวาดแล้ว? หากเจ้าไม่ไป ไว้เดี๋ยวตอนที่พี่หลี่แบ่งลูกกวาด ก็จะไม่มีส่วนของเจ้า!”

ตอนที่ 154 เล่นงานถึงที่

บรรดาเด็กน้อยเผยสีหน้าดีอกดีใจ ก็เหมือนเจองานชิ้นใหม่แล้วอย่างไรอย่างนั้น

ซ่งต๋าร้อนรนใจเล็กน้อย “ไม่ได้! ฮั่วหลิน…ฮั่วหลิวถือเป็นหลานชายข้า เขายังเด็กขนาดนั้น พวกเราไปจะทำให้เขาตกใจกลัวเอาได้!”

ฮั่วหลินเพิ่งอายุเท่าไรกันเชียว? ตัวเตี้ยกว่าเขาหนึ่งคืบศีรษะด้วยซ้ำ นัยน์ตาดำขลับคู่นั้นน่าเอ็นดู บางครั้งไปบ้านพวกเขา รอยยิ้มที่ให้เขาก็หวาดหยดเยิ้มเช่นกัน ก่อนหน้านี้เขาถูกบรรดาพี่ชายทอดทิ้ง จากนั้นก็มองเห็นฮั่วหลินที่กำลังต้อนเป็ดอยู่ เด็กนั่นยังมีน้ำใจเอาเนื้อเค็มที่นึ่งแล้วแบ่งให้เขากินด้วยชิ้นหนึ่ง

นั่นเป็นเนื้อหมูเชียวนะ ฮั่วหลินเด็กขนาดนั้นยังรู้จักแบ่งปันให้เขาผู้เป็นน้าหกคนนี้

“หลานชาย?” หนิวซานซานส่งเสียงหัวเราะ “เจ้ายังปกติดีกระมัง? พี่หลี่บอกแล้วมิใช่หรือว่านางอัปลักษณ์ไม่ใช่ลูกของตระกูลซ่งพวกเจ้าด้วยซ้ำ ดังนั้นฮั่วหลินไม่มีความสัมพันธ์ใดกับเจ้าสักหน่อย! ซ่งเสี่ยวลิ่ว เจ้าจะไปไม่ไปก็เรื่องของเจ้า แต่อย่าได้ขัดขวางพวกข้า มิเช่นนั้นข้าก็จะเล่นงานเจ้าด้วย!”

“ใช่ ครั้งก่อนข้าก็อยากเล่นงานเจ้า พวกเราต่างปาหินใส่นางอัปลักษณ์กันหมด มีเพียงเจ้าที่ไม่ทำ! แต่ท้ายที่สุดตอนแบ่งลูกกวาดเจ้าก็ได้พอๆ กับพวกเรา!” มีเด็กอีกคนหนึ่งเอ่ยพูดขึ้น

คำพูดนี้ ส่งผลให้เด็กๆ ที่เหลือต่างมองซ่งต๋าด้วยสายตาที่ไม่ค่อยเป็นมิตรนัก

ซ่งต๋าหน้าแดงก่ำ

“หากเจ้าจะรังแกฮั่วหลิน ข้าจะไปฟ้องอาสี่ข้า ให้เขาเล่นงานพวกเจ้าเสียเลย!” ซ่งต๋ากล่าวอย่างดุดัน

ครั้นเอ่ยถึงซ่งหม่านซาน บรรดาเด็กๆ ต่างก็หวาดกลัวเล็กน้อย

ทว่าท้ายที่สุดขนมก็ยังเป็นฝ่ายเอาชนะอยู่ดี

“เจ้าหลอกใครหรือ อาสี่เจ้าตอนนี้ไปทำงานในตัวอำเภอแล้ว อีกทั้งอาสี่เจ้าก็ไม่ชอบพี่ชายเจ้ามากที่สุด จะช่วยเจ้าต่อกรพวกข้าได้อย่างไรกัน?” หนิวซานซานสบถฮึ ยื่นมือผลักซ่งต๋าหนึ่งที

ซ่งต๋าร่างกายผอมบาง เพียงชั่วพริบตาเดียวก็ล้มลงบนพื้นดัง ‘ตุบ’

เขาร้อนรนใจขึ้นมาแล้วเช่นกัน รีบพยุงตัวลุกขึ้นมาก่อนผลักกลับคืน

เอาคืนกันไปมา

และแล้วก็ชกต่อยกัน

กระทั่งยามที่ซ่งต๋ากลับบ้าน ใบหน้าเขียวช้ำ จมูกปรากฏคราบเลือด เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่ตระหนกตกใจจนตะโกนเสียงดังลั่นคอแทบแตกก็ว่าได้

“ลูกแม่! นี่ใครลงไม้ลงมือกับเจ้าฮะ!” เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่คว้ามีดถือไว้ ต้องการจะไปสับคน

“ท่านแม่! เป็นพวกหนิวซานซาน ตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะไปดักเล่นงานน้องหลิน ข้าไม่อาจทนดูได้ จึงชกต่อยกับพวกเขา…” ซ่งต๋ากล่าวอย่างเสียใจที่ได้รับความไม่เป็นธรรม

เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่นิ่งอึ้งไป ก่อนสงบสติอารมณ์ลง

เป็นเพราะหลานหลินเองหรือนี่…

ว่ากันตามจิตใต้สำนึก นางจะต้องกล่าวโทษซ่งอิงแน่นอน อย่างไรเสียคนที่ถูกทำให้ไปขุดเหมืองก็คือบุตรชายของนาง เลือดเนื้อเชื้อไขที่อุ้มท้องมาตั้งสิบเดือน แล้วยังบ้านหลังนั้นอีก แม้ว่าใช้เงินซ่งอิงซื้อเอาไว้ แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ชายชราเอ่ยไว้ดิบดีแล้วว่ายกให้ครอบครัวบุตรคนโตอย่างพวกเขา แต่ท้ายที่สุด ก็คืนสู่ซ่งอิงไปแล้ว…

แล้วมีหรือจะไม่ตำหนิโทษ? อยากจะถามใจของซ่งอิงเหลือเกินว่า เด็กสาวผู้นั้นเหตุใดจึงใจร้ายใจดำขนาดนี้

แต่เมื่อสงบจิตสงบใจแล้ว นางก็รู้เช่นกันว่าบุตรชายนางทำถูกแล้ว

“ลูกต๋า เจ้าทำถูกแล้ว” เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่ทอดถอนใจ

แววตาซ่งต๋าลุกวาว “จริงหรือท่านแม่? ข้าคิดว่าท่านจะโกรธเสียอีก…”

ระยะนี้เมื่อใดก็ตามที่เอ่ยถึงพี่สาวคนรอง มารดาเขาเป็นต้องชักสีหน้าถมึงทึง มองดูลักษณะไม่พึงพอใจอย่างมาก

“เป็นแม่เองที่ไม่ดี ลูกแม่ทำถูกแล้ว” เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่จำเป็นต้องพูดเช่นนี้ “หนิวซานซานเด็กสมควรตายผู้นั้น ก่อนหน้านี้ก็ชักนำเจ้าไปก่อเรื่อง ตอนนี้ก็รังแกมาถึง…ตระกูลฮั่วแล้ว! ไว้เดี๋ยว…แม่จะพาเจ้าไปหาหลานหลิน และพูดคุยกับพี่รองเจ้าสักหน่อย หากไม่ได้การ พรุ่งนี้เจ้าก็ให้บรรดาพี่ชายของบ้านอาสะใภ้สามเจ้าไปอยู่เป็นเพื่อนหลานหลิน เอาคืนให้เต็มเหนี่ยว ชำระแค้นให้เจ้าด้วยเลย!”

เด็กๆ ชกต่อยกัน นางเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งจะถือมีดไปฟาดฟันก็ไม่เหมาะสมเช่นกัน นอกเสียจากในครอบครัวนั้นไม่มีพี่น้อง…

แต่ถัดจากลูกชายนางขึ้นไปยังมีพี่ชายตั้งห้าคน พี่ชายคนโตและพี่ชายคนรองไม่อยู่ แต่ก็ยังมีอีกตั้งสามคนเชียวนะ!

รังแกกันคิดว่าครอบครัวนางไม่มีคนอื่นหรือ!

ทำร้ายบุตรชายนาง? พรุ่งนี้จะต้องเอาคืนให้จงได้!

เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่ก็พาซ่งต๋ามาหาซ่งอิงในเย็นวันนั้น

ทันทีที่พ้นประตูเข้าไป ถึงกับตกตะลึงกับบ้านที่ซ่งอิงซ่อมแซมเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ส่วนซ่งอิง มองเห็นเหยาซื่อสะใภ้ใหญ่…เดือดดาลมาเชียว พลันตกอกตกใจไม่แพ้กัน มีความรู้สึกประเภทที่จะถูกคนมาหาเรื่องถึงที่อย่างไรอย่างนั้น…

ระยะนี้นาง…

น่าจะไม่ได้ทำเรื่องแย่ๆ อะไรไว้นี่?

———————

[1] เสี่ยวลิ่ว (小六) คำเรียกขานที่หมายถึง น้องหก