ตอนที่ 109 ใครกล้าข้ามร่างฉันไป
ตอนที่ 109 ใครกล้าข้ามร่างฉันไป
หลังจากหลินเซี่ยกลับมาที่บ้าน เธอก็เก็บกวาดนิดหน่อย ก่อนจะออกจากบ้านไปซื้อปาท่องโก๋กิน จากนั้นจึงไปที่ร้าน เมื่อไปถึงถนนก็พลันเห็นหลินจินซานและเฉียนต้าเฉิงจากไกล ๆ
ทันทีที่เธอเดินเข้าไปใกล้ หลินจินซานมองเธออย่างอำมหิตพร้อมเอ่ยข่มขู่ “หลินเซี่ย วันนี้ผมขอยื่นคำขาดกับคุณ คุณจะรับเงินค่าเช่าที่คืนไปหรือไม่?”
หลินเซี่ยมองไปยังการแสดงออกที่เกินจริงของหลินจินซานซึ่งแสร้งทำเป็นโหดเหี้ยมแล้วก็ค่อนข้างจะหมดคำพูด เธอจึงเอ่ยถามกลับไปว่า “เป็นที่แน่นอนแล้วว่าพวกคุณจะไม่ปฏิบัติตามสัญญาใช่ไหม?”
“พี่เฉิงบอกไปแล้วนี่ว่าจะให้เงินค่าผิดสัญญาเธอหนึ่งร้อยหยวน นี่ก็ใจกว้างพอแล้วไม่ใช่เหรอ?” หลินจินซานกล่าว
“แล้วถ้าฉันไม่เอาล่ะ?”
หลินจินซานเอ่ยย้ำหนักแน่น “ถ้าไม่เอา เงินค่าเช่าของคุณที่ลงทุนไปก็เสียเปล่า ถึงอย่างไรเราก็ให้ร้านนี้กับคุณไม่ได้แน่นอน ทางเราต้องการเปิดร้านเครื่องเสียง วันนี้จะเริ่มลงมือตกแต่งปรับปรุงร้านแล้ว”
ถูกต้อง เถ้าแก่ใหญ่มีคำสั่งมาแล้วว่าให้เริ่มก่อสร้างในวันนี้
ดังนั้นจึงต้องจัดการเรื่องของหลินเซี่ยให้เรียบร้อย
“ได้ พวกคุณมันพวกขาใหญ่นี่ ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะฟ้องพวกคุณ” หลินเซี่ยเอ่ยแล้วกำลังจะเดินไปข้างหน้า
เฉียนต้าเฉิงเข้ามาขวางเธอเอาไว้ “สาวน้อย อย่าทำให้เสียเรื่องเลย เราซื้อที่ดินนี้มาแล้ว ถ้าเราไม่อยากให้คุณเช่าก็คือไม่ให้เช่า แถมเรายังจ่ายค่าปรับที่ผิดสัญญาให้ด้วย ที่คุณมาพูดพร่ำอยู่นี่ คิดจะขู่ใครกัน? อีกทั้งเถ้าแก่ใหญ่ของเราก็มีเส้นสายอยู่ในศาล ถึงคุณจะวิ่งโร่ไปที่นั่นก็เปล่าประโยชน์”
หลินเซี่ยมองไปยังเฉียนต้าเฉิงซึ่งกำลังขวางทางของเธออยู่ และพูดว่า “ในเมื่อเป็นอย่างนี้ อย่างนั้นฉันขอเรียกค่าปรับที่ผิดสัญญาเป็นจำนวนเงินห้าร้อยหยวน”
“อะไรนะ?” เฉียนต้าเฉิงแทบสะดุ้งโหยง
“นี่มันปล้นกันแล้ว ค่าเช่าของคุณแค่ห้าร้อยหยวนต่อปี แต่ต้องการให้เราจ่ายค่าปรับที่ผิดสัญญาให้ห้าร้อยหยวนงั้นเหรอ? คุณเห็นเราสองคนเป็นคนโง่ที่ตามคนอื่นไม่ทันหรือไงกัน?”
หลินจินซานซึ่งยืนอยู่ด้านหลังเฉียนต้าเฉิงมองไปยังแววตาของหลินเซี่ยราวกับกำลังมองคนโง่
ผู้หญิงคนนี้ช่างปากกล้าเสียจริง
เดิมทีเธอจะรับเงินหนึ่งร้อยหยวนนั่นไปเปล่า ๆ ก็ได้ แต่เธอกลับยืนกรานยั่วยุพี่เฉิง ช่างน่ากลัวนัก
“พี่เฉิง ฉันจะคำนวณให้คุณฟังนะ ถ้าฉันเปิดร้านเสริมสวยที่นี่ ในหนึ่งปีฉันจะมีรายได้หลายพันหยวนก็ยังได้ แต่ถ้าฉันเปิดร้านในที่ห่างไกลออกไป ก็เป็นเรื่องยากสำหรับฉันที่จะเลี้ยงตัวเอง ตอนนี้พวกคุณตัดแหล่งหาเงินของฉันไปแล้ว ฉันเองมีสัญญาอยู่ในมือ การที่จะขอค่าผิดสัญญาจากพวกคุณสักห้าร้อยหยวนคงไม่มากไปหรอกกระมัง?”
หลินเซี่ยมองไปยังเฉียนต้าเฉิง แล้วเอ่ยต่อ “พวกคุณมีเถ้าแก่ใหญ่ไม่ใช่เหรอ? เงินแค่ห้าร้อยหยวนจะเอาออกมาไม่ได้เลยหรืออย่างไร? หรือจะมาแสดงตัวเป็นหมาป่าอวดหางกับฉันที่นี่? ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็ใช้กระบวนการทางกฎหมายกัน ถ้าคุณมีคนของคุณในศาลอย่างที่คุณว่า ก็ได้ หลังจากนี้ในตอนที่พวกคุณกำลังปรับปรุงร้าน ฉันจะนอนอยู่หน้าร้าน แล้วมาดูกันว่าจะมีใครกล้าข้ามร่างฉันไปไหม? ไม่ว่าเถ้าแก่ใหญ่ของคุณจะยิ่งใหญ่มาจากไหน แต่ก็คงไม่ชั่วช้าจนคร่าชีวิตคนอื่นหรอกใช่ไหม?”
เฉียนต้าเฉิงได้ฟังคำขู่อันโจ่งแจ้งของหลินเซี่ย แววตาของเขาก็ค่อย ๆ ฉายแววความหวดกลัว
หลินเซี่ยคือคนที่ต่อรองด้วยยาก ทั้งยังยากจะรับมือ
เขาไม่กล้าจินตนาการภาพที่หญิงสาวนอนตัวตรงอยู่หน้าร้านในขณะที่พวกเขากำลังปรับปรุงร้านอยู่ด้วยซ้ำ
ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างแต่กำลังจะได้รับชื่อเสียงที่ไม่ดีบนถนนสายนี้เสียแล้ว
เถ้าแก่ใหญ่จะฆ่าพวกเขาทั้งคู่แน่เมื่อรู้เรื่องนี้
เฉียนต้าเฉิงตัดสินใจตอบรับอย่างยากลำบาก “ได้ ห้าร้อยก็ห้าร้อย”
หลินจินซานรีบดึงตัวเฉียนต้าเฉิง
“พี่เฉิง ผู้หญิงคนนี้ทำเกินไป หล่อนกำลังปล้นเงินเรานะครับ”
เขาออกจากบ้านมาหนึ่งปีแล้วยังเก็บเงินได้ไม่ถึงห้าร้อยหยวนเสียด้วยซ้ำ ส่วนผู้หญิงคนนี้เล่นแง่เรื่องสัญญาอะไรก็ไม่รู้ก็ได้เงินห้าร้อยหยวนมาในมือแล้ว?
ทำไมได้เงินมาง่ายถึงขนาดนี้?
เฉียนต้าเฉิงมองไปยังหลินจินซานพร้อมเอ่ยด้วยความโมโห
“เถ้าแก่บอกให้เราเริ่มก่อสร้างโดยเร็วที่สุด ฉันคิดว่ายายตัวแสบนี่ไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่าย ๆ ถ้าหล่อนสร้างปัญหาเข้าจริงจนทำให้งานล่าช้า ใครจะรับผิดชอบ? ถ้าหล่อนนอนขวางอยู่หน้าร้านขึ้นมาจริง ๆ แล้วเกิดอุบัติเหตุระหว่างตกแต่ง พวกเราทุกคนได้เข้าไปอยู่ในคุกแน่ เข้าใจไหม?”
หลินจินซานรู้สึกขนลุกขนพองในสิ่งที่ได้ยิน แต่เขายังคงกังวล “แล้วเงินห้าร้อยหยวนล่ะ? พวกเรามีรายจ่ายกันมากเกินกว่าจะเอามาจ่ายเงินส่วนนี้นะครับ”
ถ้าถึงเวลานั้น ขออย่าให้หักไปจากเงินเดือนเขาอีกเลย
ครั้งล่าสุดที่ทั้งคู่ออกไปทำธุระ พวกเขาจำเส้นทางผิดทำให้เสียค่าโดยสารเกินกำหนด เพื่อป้องกันไม่ให้เถ้าแก่ใหญ่คิดว่าพวกเขาไร้ความสามารถ เฉียนต้าเฉิงจึงหักค่าโดยสารส่วนเกินออกจากเงินเดือนของเขา
เขาขุ่นเคืองใจแต่ไม่กล้าพูดออกมา
เฉียนต้าเฉิงกระแอมเบา ๆ พลางตอบเสียงแผ่ว “ตอนตกแต่งร้านก็รายงานค่าวัสดุให้แพงขึ้นสักหน่อย แล้วเอาจากภายในมาชดเชยส่วนนี้”
หลินจินซานรู้สึกโล่งใจ ขอเพียงแค่ไม่หักเงินเดือนของเขาก็พอ
“พี่เฉิง คุณฉลาดจริง ๆ”
หลินเซี่ยซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ มองพวกเขาหันหน้าคุยกันอย่างโจ่งแจ้งถึงวิธีการยักยอกเงินจากค่าตกแต่งร้านด้วยสีหน้าที่ยากจะอธิบาย
เถ้าแก่ใหญ่ที่โง่เขลาแต่ร่ำรวยคนไหนกันนะถึงเอาคนโง่ ๆ แบบสองคนนี้มาเป็นลูกน้อง
ช่างขาดคุณสมบัติจริงๆ
หลินจินซานเรียนรู้นิสัยบิดเบี้ยวมาเต็มพิกัดเพราะติดตามคนแบบนี้
หลินเซี่ยเอ่ยขึ้น “ปรึกษากันเสร็จหรือยังคะ? ถ้าหากปรึกษากันเรียบร้อยแล้วก็ให้เงินฉันมา แล้วฉีกสัญญาไปซะ”
พี่เฉิงหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าของเขาราวกับเฉือนเนื้อตัวเอง และค่อย ๆ นับมันอย่างช้า ๆ
จากนั้นจึงส่งเงินให้หลินเซี่ย “คุณลองนับดู”
หลินเซี่ยนับไปหนึ่งครั้งแล้วพยักหน้า “ไม่มีปัญหา สัญญาถือเป็นโมฆะ”
เธอเก็บเงินพลางมองชายสองคนที่ยอมเฉือนเนื้อตัวเองและร้องโอดครวญขึ้นมา
“พวกคุณใจร้ายเสียจริง เป็นเพราะพวกคุณเข้ามาแทรกแซงทำให้ฉันเปิดร้านเสริมสวยแห่งนี้ไม่ได้แล้ว ปี ๆ หนึ่งฉันต้องเสียเงินไปเท่าไหร่? ไหนจะอาชีพของฉันอีก”
เดิมทีเฉียนต้าเฉิงนั้นโกรธมาก แต่หลังจากได้ยินคำพูดของเธอ ในใจของเขาพลันสมดุลขึ้นมาเล็กน้อย
พวกเขาเสียเงินเพียงหน้าร้อยหยวน แต่เธอสูญเสียอาชีพการงานไป.
“พี่ซาน คุณพักอยู่ที่ไหนเหรอ” ก่อนไปจากที่นั่น หลินเซี่ยมองไปยังหลินจินซาน และเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
เพียงเสียงเรียกว่าพี่ซานก็ทำให้สติของหลินจินซานพลันหลุดลอย
“ผมพักอยู่ที่…”
เขาเงียบลงกะทันหันเมื่อสบเข้ากับดวงตาเป็นประกายของหญิงสาว
“คุณหลินเซี่ย แม้ว่าคุณจะสวยมาก แต่ระหว่างเราไม่มีทางเป็นไปได้ในทิศทางนั้นหรอก”
หลินเซี่ย “???” ผู้ชายคนนี้กำลังพูดเรื่องอะไร?
“คุณมีชื่อเดียวกับน้องสาวผู้โชคร้ายผม ผมสามารถปฏิบัติต่อคุณอย่างดีที่สุดได้แค่ในฐานะน้องสาวเท่านั้น ผมต้องการชี้แจงให้คุณทราบล่วงหน้าและไม่ให้ความหวังกับคุณ เข้าใจสิ่งที่ผมจะสื่อใช่ไหมครับ?”
หลินเซี่ย “!!!” ก็ค่อนข้างซื่อตรงเลยทีเดียว
เฉียนต้าเฉิงรู้สึกทั้งอิจฉาทั้งปวดใจเมื่อเห็นหลินเซี่ยจู่โจมเข้าหาจินหลินซาน
อายุน้อยก็ย่อมได้เปรียบ
เขาตะโกนเร่งเร้า “ชานจื่อ รีบไปกันเถอะ พวกเรายังมีเรื่องที่ต้องจัดการอีก”
“ไปแล้วครับ” หลินจินซานมองหลินเซี่ยแล้วพูดว่า “ผมขอตัวก่อน ในอนาคต เราจะเปิดห้องเต้นรำที่นี่ หากคุณมีเรื่องอะไรก็สามารถมาหาผมได้ที่นี่”
หลินเซี่ยกัดกรามพยายามเค้นประโยคนี้ออกมา “ขอบคุณค่ะ”
แม้ว่าจะไม่ได้คำตอบว่าหลินจินซานอาศัยอยู่ที่ไหน แต่เมื่อรู้ว่าเขาจะมีบทบาทในพื้นที่นี้ในอนาคต หลินเซี่ยก็ไม่กลัวว่าเขาจะหนีไปไหน หญิงสาวกอดกระเป๋าไว้ในอ้อมแขนของเธอแน่นและกลับบ้านไปรอสิ่งของสำคัญสามสิ่งสำหรับการแต่งงานที่เฉินเจียเหอซื้อมาอย่างมีความสุข
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
หาร้านใหม่ดีกว่า ในเมื่อร้านนี้มันปัญหาเยอะก็ปล่อยมือไป ถือว่าไม่ใช่เวลาที่เราจะได้
ไหหม่า(海馬)