บทที่7ตอนที่1

 

พระอาทิตย์ยามเช้ายังไม่ขึ้นจากขอบฟ้า และท้องฟ้าก็ค่อยๆสว่างขึ้นทีละน้อย แสงจากพระอาทิตย์เริ่มส่องสว่างให้กับเมืองอาร์คาซัม

 

ส่วนทางเหนือของเมืองอาร์คาซัม เธอตื่นขึ้นมาในคฤหาสน์ที่สร้างขึ้นในพื้นที่ส่วนกลางเมือง อย่างเขตการปกครอง

 

ไอริสดิน่า ฟรานซิส หญิงสาวที่มีผมสีดำมันเงาและดวงตาสีดำสนิทที่ดูสง่างามราวกับหินออฟซิเดียน

 

เธอตื่นแต่เช้าเช่นเดียวกับเหล่าคนรับใช้ เธอถอนชุดนอนและเริ่มอาบน้ำอย่างรวดเร็ว

 

เธอมีเหงื่อออกตอนกลางคืนเล็กน้อย และเมื่อเธอมองไปที่กระจก ก็กำลังสวมชุดเครื่องแบบสถาบันโซลมินาติ

 

เมื่อมองไปที่กระจกก็เริ่มหวีผมสีดำอันงดงาม

 

เธอเป็นหัวหน้าคนต่อไปของตระกูลฟรานซิส หนึ่งในตระกูลที่ทรงพลังที่สุดในเมืองอาร์คาซัม และเธอสามารถปล่อยทุกอย่างให้คนใช้ของเธอทำได้ถ้าเธอต้องการเช่นนั้น หากนึกถึงสภาพของตระกูลแล้วก็ควรจะปล่อยไปเช่นนั้น

 

อย่างไรก็ตาม โดยพื้นฐานแล้ว เธอมีนิสัยชอบทำเรื่องธรรมดาด้วยตัวเอง

 

เธอนั้นแต่งหน้าเล็กน้อย ผสมผสานกับผิวพรรณที่ดีตั้งแต่ต้น มันทำให้เหมือนกับงานศิลปะ

 

อย่างไรก็ตามตรงกันข้ามกับความเฉลียวฉลาดของเธอ เธอนั้นค่อนข้างแสดงสีหน้าออกยากมาก

 

แม้ว่าเธอจะมีภาพลักษณ์สูงส่งเหมือนกับดอกลิลลี่ แต่ตอนนี้สภาพของเธอนั้นต่างไปจากเดิมมาก

 

ปากของเธอนั้นกัดริมฝีปากแน่น เธอยังคงนั่นงอ่านจดหมายฉบับหนึ่งที่ถูกส่งมาโดยจ้องมองมันอย่างเข้มงวด

 

ตุบ ตุบ ตุบ

 

เสียงเคาะประตูดังก้องอยู่ในห้องอันแสนเงียบสงัด

 

「……หืม」

 

「สวัสดีตอนเช้าค่ะนายหญิง อาหารเช้าพร้อมแล้วนะครับ」

 

เมื่อเธอได้ยินคำพูดของเมด เธอจึงหันไปนอนหน้าต่าง

 

ดวงตะวันที่ซ้อนเร่นอยู่ในเงามืดของเมืองตาตั้งแต่เช้าเริ่มส่องประกายมา

 

「……เข้าใจแล้ว จะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ」

 

ในที่สุด เมดก็เรียกเธอไปรับประทานอาหารเช้า เธอตอบกลับสั้นๆและออกจากห้องไป

 

「…………」

 

ไอริสพยายามผ่านประตูออกไปที่ห้องอาหาร ขณะนั้นเธอหันกลับมามอง

 

สิ่งที่เธอเห็นผ่านช่องว่างในประตูที่ปิดด้วยเสียงดังเอี๊ยด มันเป็นอาคารสีขาวสูงตระหง่านเหนือหน้าต่างที่ส่องแสงยามเช้า

 

◆◇◆

 

หลังจากทานอาหารเช้าไอริสก็เดินไปรอบๆเมืองกับน้องสาวของเธอ จากนั้นก็ไปรวมกันกับพวกซีน่า มิมูรุ ทิม่า และ ทอม ระหว่างไปที่สวนกลาง

 

「ทุกคน อรุณสวัสดิ์ค่า!」

 

「โอ้วววว โซมิจจิ อรุณสวัสดิ์~~」

 

「อา อรุณสวัสดิ์」

 

「อ่า อรุณาสวัสดิ์ ทิม่า ซีน่าด้วย……」

 

「อื้อ」

 

โซเมียและมิมูรุที่สนิทกันมาก ยกมือขวาขึ้นทักทายเบาๆ และไอริสกับคนอื่นๆก็พยักหน้าเล็กน้อยขณะทักทายกัน

 

「อืม ไอริส มาเร็วเนอะ」

 

「เช่นกันเลยค่ะ มาร์คุง……」

 

จากอีกฟากหนึ่งของถนน มาร์ ทอม ฟีโอ และคนอื่นๆก็มาด้วย

 

แม้ว่าพระอาทิตย์จะเพิ่งขึ้นได้ไม่นาน แต่ก็ยังเร็วเกินไปและมีคนเดินไม่กี่คน

 

แม้ว่าฤดูร้อนจะใกล้เข้ามา แต่อากาศยามเช้าที่หนาวเย็น ทำให้ตัวมิมูรุสั่น

 

ไอริสและคนอื่นๆกำลังเดินอยู่บนถนนก็รู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือก ในที่สุด เมื่อเขาเข้ามาใกล้สวนกลาง ทิม่าที่กำลังเดินข้างไอริสก็อ้าปากพูด

 

 

「วันนี้ไอและคนอื่นๆจะไปไหม?」

 

「……อา」

 

「อืมจริงๆแล้วพวกเราก็ทำอะไรไม่ได้มาก แต่คิดว่าก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย……」

 

ไอริสตอบคำถามของทิม่าราวกับว่าเธอกำลังจ้องมองมาด้วยท่าทางเคร่งขรึม

ซีน่าพูดตามคำตอบของไอริสแต่ดูเหมือนว่ามีใบหน้าซีดเล็กน้อย

 

「……งั้นเราไปกันเลยดีกว่าไหม?」

 

「อยากไปบ้าง……」

 

「ไม่ได้หรอกเพราะว่าอาจารย์จิฮัดไม่อณุญาต」

 

ทอมและฟีโออยากจะตามไป ขณะที่มาร์พูดขัด

เด็กหนุ่มเผ่าจิ้งจอกยักไหล่อย่างไม่พอใจ

 

「ไม่อยากได้ผู้คนเข้ามาเกี่ยวข้องเกินความจำเป็น」

 

「…………」

 

มาร์เงียบกับคำพูดของฟีโอ

 

พลังที่โนโซมุปลดปล่อยออกมา หลังจากได้สัมผัสกับมันจิฮัดก็ได้ถามพวกไอริสอย่างละเอียด

 

ในตอนแรกไอริสและคนอื่นๆไม่ได้พูดถึงเรื่องที่โนโซมุเป็น ดราก้อนสเลเยอร์ แต่ว่าในกระบวนการสอบสวนสุดท้ายก็ต้องบอกความลับ

 

นอกจากไอริสแล้วบางคนก็โกหกไม่เก่ง นั่นเป็นเหตุผลที่ได้เล่าเรื่องราวทุกอย่าง

 

ในเวลาเดียวกันก็มีการคาดเดาไว้อยู่แล้วว่าต้องดึงจิฮัดเข้ามาร่วมด้วย

 

อย่างไรก็ตามจิฮัดที่ได้ยินเรื่องความลับทั้งหมดของโนโซมุจากซอนเน่ก็เลยแค่จะยืนยัน

 

ไอริสและคนอื่นๆก็เดินกันมาอย่างเงียบๆจนในที่สุดก็มาถึงสวนกลาง

 

 

「แล้วเดี๋ยวเจอกันนะคะ……」

 

ไอริสและซีน่าหันหน้าหนีจากถนนไปสถาบัน

เพื่อนที่เหลือพยายามส่งรอยยิ้มให้กับพวกเธอ

 

「โอเค ข้าน้อบกับคนอื่นๆจะไปก่อนเพราะงั้นฝากทักทายโนโซมุด้วยเน้อ」

 

「ถ้าไปเจอหมอนั่น ก็ทุบมันแรงๆสักครั้ง เดี๋ยวก็ช็อคจนได้สติแหละ……」

 

「มาร์คุง……?」

 

มาร์ก็เอามือแต่เบาๆที่สันคอของฟีโอ ขณะโบกมือให้พวกไอริส

เมื่อทิม่าเห็นมาร์พูดแบบนั้นเขาก็หยักไหล่เล็กน้อย

 

「……ล้อเล่นน่า ยังไงก็บอกหมอนั่นด้วย ถ้าไม่มาสถาบันเลยเกรดจะแย่เอานะ」

 

「……อืม เดี๋ยวบอกให้นะคะ」

 

มาร์ไม่ได้คิดจะทำแบบนั้น ก็แค่จะเรียกร้องความสนใจจากเพื่อนๆ

 

แม้จะเป็นคำพูดที่ดูไร้จิตใจไปหน่อย แต่เขาก็เป็นคนที่ห่วงเพื่อน

 

แม้ว่าเวลาที่ได้อยู่ด้วนกันจะไม่ได้นาน แต่ทิม่าและคนอื่นๆที่ใช้เวลาด้วยกันส่วนใหญ่ก็เข้าใจกันดี

 

 

「พี่สาวขอบคุณนะคะ……」

 

「อื้อ….ไม่เป็นไรหรอก」

 

โซเมียที่ยิ้มออกมาด้วยสีหน้าลำบากใจ ไอริสลูบหัวเธอเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับน้องสาวตัวเอง

 

「แล้วไว้เจอกันที่สถาบันนะคะ……」

 

ไอริสและซีน่านั้นแยกตัวออกไปจากเพื่อนๆ ปลายทางคือโรงพยาบาลที่อยู่ในสถาบันกลอวรัม ที่โนโซมุพักฟื้นอยู่

◆◇◆

ไอริสและซีน่ามาเยี่ยมเยือนที่สถาบันกลอวรัมและได้พูดคุยกับหมอหญิงที่ดูแลโนโซมุ และมาตามดูอาการเขา

 

ทั้งสามคนเดินผ่านวอร์ดที่ยังคงหนาวเย็นและปกคลุมไปด้วยความมืด

 

ไอริสและซีน่าที่ตามหลังเธอไปก็ถือพวกผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดตัว ผ้าก๊อซและถาดใส่ยาฆ่าเชื้อพร้อมผ้าพันแผล

 

「ยังไงก็เถอะ พวกเธอที่สถาบันไม่เป็นไรงั้นเหรอ?」

 

「ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อย่างน้อยที่นี่ก็อยู่ติดกับสถาบันของเราดังนั้นก็ไม่น่าจะสายค่ะ」

 

「นอกจากนี้ พวกเราจะไม่ยุ่งเกี่ยวเท่าที่เป็นไปได้ค่ะ ถ้าเป็นไปได้อยากให้มืออาชีพรักษาเขาให้ดีที่สุด พวกเราจะคอยเป็นฝ่ายซัพพอร์ตเองค่ะ」

 

ไอริสและซีน่าตอบกลับอย่างชัดเจนต่อคำพูดของหมอหญิงที่กังวล

 

ตอนนี้พวกเธอกำลังช่วยหมอหญิงคนนี้ดูแลผู้ป่วยเป็นเวลาหลายชั่วโมง พูดตรงๆก็คือดูแลคนที่พักอยู่ที่นี่

 

โนโซมุ เบลาตี้ แม้จะถูกซ่อนตัวจากสังคมรอบข้าง แต่ว่าเขาเองก็เป็นบุคคลที่โดดเด่นและทำการกำจัดอบิสในครั้งนี้และหมดสติไป

 

ใช่แล้ว ผ่านไปเกือบสองสัปดาห์ตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งก่อนโนโซมุยังไม่ฟื้นเลย

 

ไอริสและเพื่อนๆที่เสนอว่าจะมาดูแลเขาหลังจากเหตุการณ์ผ่านมาไม่กี่วัน

 

ในฐานะหมอก็ไม่อยากให้นักเรียนเข้ามาก้าวก่ายหน้าที่มาก เธอค่อนข้างไม่สบอารมณ์เลยที่ให้นักเรียนมือสมัครเล่นอย่างไอริสและซีน่ามาคอยช่วยงาน

 

ตอนแรกในขั้นต้นที่นี่ก็ไม่ใช่ที่ๆมือสมัครเล่นจะมาเข้าพื้นที่ในส่วนการรักษาเฉพาะทางได้

 

โดยเฉพาะกรณีของ โนโซมุ เบลาตี้ ที่จิฮัด รันเดล ได้ย้ำเตือนว่า “ห้ามให้ติดต่อกับบุคคลภายนอกโดยไม่จำเป็นเด็ดขาด”

 

เป็นความจริงที่ว่าไอริสและซีน่านั้นมีส่วนเกี่ยวข้องแต่ว่าก็ไม่ใช่คนในองค์กรกลอวรัม เดิมทีพวกเธอช่วยรักษาโนโซมุไม่ได้ และไม่ควรมาอยู่ที่นี่

 

อย่างไรก็ตาม พวกเธอได้รับอนุญาตเป็นพิเศษให้เข้าเยี่ยมโนโซมุโดยเฉพาะ

 

เป็นเพราะไอริสและคนอื่นๆได้บอกข้อมูลอันมีประโยชน์แก่จิฮัดและจิฮัดคิดว่าการให้พวกเธอสองคนมาเยี่ยมโนโซมุบ่อยๆ นั้นจะส่งผลต่อด้านจิตใจของเขา

 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกฏในสถานที่นี้แล้ว ไม่อนุญาตให้ใครเข้ามาโดยไม่จำเป็น

 

ดังนั้นพวกเธอที่ได้รับอนุญาตให้มาดูอาการของโนโซมุก็เลยเข้ามาได้

 

การกระทำของพวกเธอที่ได้รับอนุญาตก็คือการเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ขนสิ่งของและ ขยับร่างกายของโนโซมุเพื่อป้องกันอาการแผลกดทับ

 

ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหนแต่พวกไอริสและซีน่าก็ยังไม่ได้เรียนเรื่องการแพทย์เฉพาะทางมา

 

นอกจากนี้ผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับงานที่นี่บางครั้งก็ทำผิดพลาดแม้จะเป็นงานง่ายๆ

 

ในขณะนั้น หมอก็ยังคงจ้องเขม่นแต่ว่าบ่นอะไรไม่ได้

 

แต่ว่าพอได้เริ่มปฏิบัติงานจริงแล้ว

เมื่อพวกเขาจากไปก็มักจะโค้งคำนับให้และบอกว่า “ขอบคุณด้วยนะคะ ขอโทษที่มาสร้างปัญหาให้”

 

「ก็ไม่เป็นไรหรอกนะ ถ้าไม่ได้มาขัดกัน……」

 

ส่งผลให้หมอที่ปกติมักจะเข้มงวด ก็ไม่ได้บ่นอะไรมากนัก

 

ขณะที่ทำเช่นนั้นก็มาถึงที่หมาย

 

สามคนหยุดอยู่หน้าห้องที่โนโซมุพักอยู่

 

เมื่อถูกนำตัวมาที่นี่ โนโซมุนั้นร่างกายอ่อนแออย่างมากเรียกว่าพังเลยก็ว่าได้ ตอนแรกก็คิดว่าเหนื่อยเกินไปและควรจะหายดีแล้ว แต่ว่าไม่มีวี่แววว่าจะตื่นขึ้นเลย

 

 

「…………」

 

「…………」

 

สาวสวยสองคนจับจ้องไปที่ประตูห้องพยาบาลโดยไม่พูดอะไร ไอริสขมวดคิ้วอันสง่างามเล็กน้อยพร้อมกับแก้มที่เกร็ง และมือของซีน่าก็เผลอฉีดยาฆ่าเชื้อออกมาโดยไม่รู้ตัว

 

และราวกับว่าแสดงความกังวล นัยน์ตาของพวกเธอก็สั่นเล็กน้อย

 

เวลามาเยี่ยมห้องพยาบาลนี้ก็หน้าตาแบบนี้ตลอด

 

ใบหน้าที่ซับซ้อนมีความคาดหวังผสมกับความวิตกกังวล เธอพยายามหวังว่าเขาจะหายดีและบิดประตูไปหวังว่าจะเจอโนโซมุที่หายดีแล้ว

 

ขณะที่มองไปทางด้านข้างของสาวๆเหล่านี้ หมอก็ถอนหายใจเล็กน้อย

 

「ก็เข้าใจว่ามันลำบาก……」

 

แม้ว่าเธอจะบ่นออกมานิดหน่อย แต่ว่าสองคนนี้นั้นต่างกับคนอื่นๆ แม้กระทั่งในมุมมองของเธอ

 

ผมยาวปลิวไสวไปตามลมของไอริสและซีน่าที่สวยแบบธรรมชาติให้บรรยากาศลึกลับซึ่งสวยคนละแบบ แต่พวกเธอก็เป็นผู้หญิงที่น่าดึงดูดหากเดินไปรอบเมือง

 

ทั้งๆที่มีเรียนและฝึกอบรมอย่างเข้มงวด แต่พวกเธอก็มาที่นี่ทุกวันเพื่อช่วยดูแล แม้กระทั่งการฝึกร่างกายและจิตใจทุกวัน

 

ถ้าเจอคนที่ตัวเองห่วงนอนไม่ฟื้นสักทีมันก็มีอาการเป็นกังวลก็ไม่แปลก

 

ในขณะเดียวกัน ยังรู้สึกว่าฟันของเธอยังไม่สามารถควบคุมได้เลย

 

โนโซมุ เบลาตี้ในตอนนี้อยู่ในอาการโคม่าลึก กล่าวอีกนัยหนึ่งเป็นสภาวะเจ้าชายนิทราที่หลับไม่ตื่น แต่พอตรวจสอบร่างกายมันก็ดูแปลกๆ

 

ขณะนี้พวกเขาอยู่ในสภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำลงและชีพจรเต้นช้า ซึ่งดูเหมือนกับการจำศีลของสัตว์

 

โดยปกติเมื่ออุณหภูมิร่างกายลดลงต่ำกว่า 20 องศา หัวใจจะสั่นจนอาจเสียชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม อุณหภูมิร่างกาของโนโซมุนั้นคงที่อยู่ที่ 31 องศาและไม่พบความผันผวนที่สำคัญตั้งแต่นั้นมา

 

อุณหภูมิของร่างกายมนุษย์ลดลงในระดับหนึ่งระหว่างการนอนหลับในแต่ละวัน แต่การเปลี่ยนแปลงโดยเฉลี่ยก็ประมาณหนึ่งครั้ง ไม่น่าจะลดลงมากถึงขนาดนี้

 

มีการเสนอให้เพิ่มอุณหภูมิร่างกายของโนโซมุเพื่อเพิ่มการเผาผลาญและกระตุ้นการตื่นตัว แต่ในความเป็นจริงผลยังไม่ทราบแน่ชัด

 

นอกจากนี้ เนื่องจากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในสภาพดังกล่าว ในที่สุดก็ตัดสินใจผลต่อไป

แต่ในขณะเดียวกันก็หมายความว่าสถานการณ์จะดำเนินไปโดยที่เราไม่รู้ว่าโนโซมุจะฟื้นขึ้นเมื่อใด

 

「ถ้างั้น….จะเข้าไปละนะ」

 

เมื่อหมอพูดแบบนั้นก็ให้เหล่าสาวๆเข้าไปในห้อง

 

พร้อมกับเสียงบานพับส่งเสียงแหลม ห้องผู้ป่วยที่ถูกย้อมด้วยสีขาวสามารถมองผ่านช่องว่างในประตูได้

 

อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมา ดวงตาของไอริสและคนอื่นๆก็สั่นไหวอย่างมาก

 

ห้องพยาบาลมืดๆที่มีเตียงเรียบง่ายและขาตั้ง และมีชายหนุ่มนอนอยู่ตรงนั้น แต่ตอนนี้ห้องได้ก็พบกับสาวผมแดงยาวสะดุดตา

 

เมื่อจำได้หมอก็ปรบมือ

 

「อ่าลืมพูดไปเลย เธอมาที่นี่ก่อน ก็เลยให้เธอมารอที่นี่น่ะ」

 

เด็กสาวกำลังมองหน้าโนโซมุที่นอนอยู่บนเตียง ลิซ่า เฮาวด์อยู่ตรงนั้น

 

「…………」

 

「…………」

 

สายตาของทั้งสองต่างมองกันด้วยความเงียบ

◆◇◆

ณ ห้องพักในอาร์คาซัม เสียงเกียจคร้านดังก้องอยู่ในห้องทำงานของผอ.

 

「อ่าในที่สุดก็จบสักที」

 

「ขอบคุณสำหรับการทำงานอย่างหนัก อย่างไรก็ตามข้าคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรมาก นี่คือเอกสารตัวอย่าง」

 

ซอนเน่ชายชราผมขาวที่ก้มไหล่และทรุดตัวลงบนโซฟา ซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามคือจิฮัด รันเดล

 

「ก็ส่งให้อีกฝ่ายเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ปล่อยข้าให้กับผู้ส่งสารต้องมานั่งเคลียร์ปัญหา….ชายหยาบคลายจริงเชียว」

 

「แต่ต้องขอบคุณท่าน เพราะเรารอดแล้ว และวิธีการติดต่อของเราใช้เวลานานเกินไป」

 

ขณะที่มองดูทัศนคติของตาแก่ที่ดูผิดหวังจิฮัด ก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

 

อย่างไรก็ตาม จิฮัดกระชับการแดสงออกของเขาและจ้องมองซอนเน่

 

 

「ก็นะยังไงก็ต้องให้ความร่วมมือกัน……」

 

「เข้าใจแล้ว ขอพูดสักหน่อย แล้วสถานการณ์ล่ะตาแก่?」

 

「อ๋อ เรื่องนั้นงั้นเรอะ」

 

ซอนเน่อยู่ที่นี่เพราะต้องการความร่วมมือจากจิฮัด

 

「ใช่ เพราะต้องการ “ผลักดัน” สถาบันนี้……」

 

「……เข้าใจแล้ว อย่างน้อยก็มีรายชื่อที่เป็นไปได้ในใจแล้ว」

 

เมื่อได้รับแจ้งจากคพูดของซอนเน่ จิฮัดลุกขึ้นจากโซฟาและหันไปมุมหนึ่งของห้อง

 

โต๊ะทำงานในสำนักงานที่เขาเดินเข้าไป ข้างล่างนั้นเป็นตู้เซฟที่ปิดสนิท

 

จากนั้นก็ปลดล็อคอยู่หลายครั้ง และนำแผนที่หนึ่งออกจากด้านใน มันเป็นภาพร่างของสถาบันโซลมินาติ

 

จิฮัดกระจายแผนภาพร่างต่อหน้าซอนเน่และชี้ไปยังจุดหนึ่ง

 

 

「มีสิ่งอำนวยความสะดวกเวทย์ต่างๆในห้องใต้ดินนี่ ข้าแน่ใจว่าที่ “ลิ่ม” หมายถึงนี่จะไม่ถูกพวกอาจารย์สังเกตเห็นแน่นอน……」

 

“ลิ่ม”

 

คำที่ไม่สามารถเข้าใจได้หากฟังจากภายนอก แต่ก็ไม่มีใครรู้รายละเอียด

 

「แน่นอน สิ่งอำนวยความสะดวกข้างต้นจะถูกเปลี่ยนแปลงใช่ไหม?……」

 

「อ่า ปัญหาก็คือพวกสิ่งอำนวยความสะดวกด้านบนเนี่ยล่ะ……」

 

「ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในพื้นที่นั้น เพราะเวทย์ของข้านั้นต่างจากพวกเจ้าโดยสิ้นเชิง……」

 

「และอีกอย่างหนึ่งที่ข้าอยากจะขอ……」

 

「อ่าา ตรวจสอบแล้วล่ะ」

 

ขณะพูดแบบนั้นซอนเน่หยิบกระดาษม้วนหนึ่งออกมาจากอกแล้วโยนลงบนภาพสเก็ตซ์ของสถาบัน

 

「ขอบคุณ」

 

ขณะกล่าวขอบคุณ จากนั้นจิฮัดก็หยิบมันขึ้นมาและตรวจสอบเนื้อหา

 

จดหมายถูกเขียนไว้บนห่อกระดาษอย่างแน่นหนา และมีการแนบแผนที่มาด้วย

 

มันเป็นแผนที่ของอาร์คาซัมที่วาดเหมือนใยแมงมุมจากตรงกลางและมีจุดสีแดงที่นี่และที่นั่น

 

「ต้องขออภัยด้วยข้าช่วยเจ้าเรื่องนั้นไม่ได้」

 

นี่คือจุดจบของเรื่องนี้ ซอนเน่ขอยุติบทบาท จิฮัดพยักหน้าเล็กน้อย เพราะเขาเข้าใจ

 

「เข้าใจแล้วล่ะ ที่เหลือก็คือโนโซมุคุง……」

 

「ยังไม่ตื่นใช่ไหม? ไม่ต้องกังวล เด็กนั่นหลับไปเพราะหมอนั่นเองก็หลับไหลไปเช่นกันต้องบอกว่าเพราะความสามารถของเขาที่โผล่ออกมาโดยไม่รู้ตัว ก็ทำให้ได้รับอิทธิพลร่วมกัน……」

 

นั่งลงบนโซฟาแล้วหันกลับไปโบกมือบอกว่าเข้าใจ

 

「ประการแรกความสามารถของพ่อหนุ่มนั้นต่างกับเทียแมตโดยสิ้นเชิงมันทำอะไรเขาไม่ได้ แต่ตอนนี้เขากำลังหลับไหลอยู่ แต่ว่าเดี๋ยวพอตื่นขึ้นมาก็จะสงบลงเอง」

 

ตาของจิฮัดเบิกกว้างเมื่อได้ยินเช่นนั้น

 

「……ท้ายที่สุดได้ตรวจร่างกายเขารึยัง?」

 

「แน่นอน จุดประสงค์ของข้าคือคอยจับตาดูพ่อหนุ่มนั่น」

 

จริงๆแล้วจิฮัดจำไม่ได้เลยว่าซอนเน่เข้าไปหาโนโซมุได้ยังไง เพราะไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของสถาบัน แต่ก็เข้าไปตรวจร่างกายได้เฉย

 

จิฮัดขมวดคิ้วกับคำพูดนั่น แต่ด้วยความกังวลไปก็เปล่าประโยชน์ เขาเลยถอนหายใจออกมา

 

ด้วยความสามารถพิเศษของตาแก่นี้ การเข้าไปคงจะง่ายมากเลยมั้ง

 

 

「ว่ากันว่าคอยจับตาดูโนโซมุอยู่ แต่ว่าไม่เข้าไปยุ่งกับเขาเลยงั้นเหรอ」

 

「หืม? ข้ามีสิทธิแบบนั้นเหรอ?」

 

จิฮัดหรี่ตาลงกับซอนเน่ที่ไม่ได้คิดอะไร และมองตาแก่ตรงหน้า

 

ในห้องที่ตอนเช้าเต็มไปด้วยแสงสว่างบรรยากาศนั้นหนักอึ้งจนอธิบายไม่ถูก

 

ไม่ มีเพียงจิฮัดเองที่กำลังกดดันและซอนเน่ที่ผ่อนคลาย

 

ดูเหมือนตาแก่จะไม่ได้อารมณ์เสีย  

 

「ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้าใจหากมองบุคลิกภาพของตาแก่แล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะมีเหตุผลอื่นงั้นเหรอ……」

 

「งั้นเหรอ ข้าไม่คิดว่าแบบนั้นนะ……」

 

「……งั้นเหรอ」

 

ซอนเน่ยังคงตีหน้ามึนและจิฮัดก็ยังจ้องเขม็ง

ในขณะที่ความเงียบครอบงำห้อง

 

「ว่าด้วยเรื่อง “ลิ่ม” คืนนี้เมื่อพระจันทร์ขึ้น……」

 

「เข้าใจแล้ว ตอนนั้นสินะ……」

 

เป็นจิฮัดที่ทำลายความเงียบ ต่อจากนั้นซอนเน่ก็ลุกขึ้นจากโซฟาและหันหลังกลับ

 

มันเป็นเรื่องยากที่จะคุยกันในที่แห่งนี้

 

หลายสัญญาณที่จับจ้องมาจากที่ไกลๆและพวกอาจารย์กับนักเรียนก็ฒากันแล้ว

 

วันนี้เป็นวันแห่งการเริ่มต้นอีกครั้ง

 

ผ่านไประยะหนึ่งแล้วจากเหตุการณ์ของ เคน โนทิสและสถาบันก็กลับมาสงบ

 

อย่างไรก็ตาม พายุรุนแรงยังคงพัดกระหน่ำอยู่ใต้ผิวน้ำ

 

พายุจะส่งผลแบบไหนมาสู่สถาบันแห่งนี้?

 

โนโซมุ เบลานี้ ถูกค้นพบว่าเป็นดราก้อนสเลเยอร์ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์

 

เพื่อนๆของเขารวมทั้ง ไอริสดิน่า ฟรานซิส และอดีตคู่รักของเขา ลิซ่า เฮาวด์

 

แถมยังมีคนจากภายนอกอย่างเม็กเลีย

 

และตาแก่ตรงหน้าเขา

 

ตอนนี้ บางสิ่งบางอย่างที่ยิ่งใหญ่กำลังถูกเดินไปข้างหน้า

 

ขณะยกไม้เท้าขึ้นซอนเน่ก็หายตัวไปพร้อมกับแสงสว่าง จิฮัดรู้สึกได้ถึงความเร่งรีบ

 

 

ป.ล.

แก้ไขเรื่องฟีโอนิดนึงแปลผิดไป นางไม่ใช่ผู้หญิงจริงๆนะ แค่ผู้แต่งบอกว่าตอนแรกจะให้บทนางเป็นผู้หญิง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ให้

ส่วนเรื่องอาการปวดหลังนั้น หมอให้พัก 5 วัน และกินยาตามกำหนด แต่ว่าไม่อยากพักอะ TwT

ภวพรวมของทวีปอาร์คมีล กว่าจะคลีนเสร็จโครตของโครตนาน 2 ชม.กว่าอะเฮือก