ตอนที่ 115 คุณชื่ออะไร?

ตอนที่ 115 คุณชื่ออะไร?

เซี่ยเจ๋อหลี่ถือกระเป๋าเดินทางด้วยมือข้างหนึ่ง มืออีกหนึ่งข้างกุมมือฉินมู่หลานพลางเดินออกไปด้านนอก หลังจากทั้งสามคนลงจากรถไฟแล้วก็พบว่าเหยาอี้หนิงและเริ่นม่านลี่เองก็เพิ่งลงมาจากโบกี้ถัดไป

เดิมทีการพบหน้ากันของทั้งสองฝ่ายก็ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีอยู่แล้ว เป็นผลให้ขณะนี้ต่างฝ่ายต่างไม่ได้เอ่ยทักทายกัน

ฉินมู่หลานหาวอย่างเกียจคร้านพลางมองเซี่ยเจ๋อหลี่พร้อมกับกล่าว “อาหลี่ พวกเราตรงไปบ้านพ่อบุญธรรมกันเถอะค่ะ”

เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มพลางพยักหน้าและเอ่ย “ตกลง พวกเราไปที่นั่นกัน”

ฟู่ซวี่ตงที่อยู่ด้านข้างกลับเอ่ยเชิญชวนอย่างอดไม่ได้ “อาหลี่ น้องสะใภ้ พวกคุณไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่แล้วอยากจะไปบ้านผมไหม เมื่อถึงตอนนั้นพวกเราก็มากินอาหารด้วยกัน ถือว่าเป็นการกินข้าวด้วยกันก่อนสิ้นปี”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เซี่ยเจ๋อหลี่ครุ่นคิดและเอ่ย “ตกลง หากว่ามีเวลา พวกเราจะไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่บ้านนายด้วย”

เมื่อเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่ตอบรับ ฟู่ซวี่ตงพลันเอ่ยด้วยความดีใจเป็นอย่างมาก “งั้นก็ยอดเยี่ยมเลย”

เซี่ยเจ๋อหลี่ชำเลืองมองฟู่ซวี่ตงด้วยท่าทางขบขันเล็กน้อย จากนั้นเอ่ย “เอาล่ะ นายกลับบ้านไปก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวพวกเราก็จะนั่งรถไปบ้านพ่อบุญธรรมแล้ว”

“ตกลง งั้นฉันขอตัวกลับก่อน”

ฟู่ซวี่ตงโบกมือลาและเดินออกไปจากสถานีรถไฟ

ส่วนคู่สามีภรรยาเหยาอี้หนิงและเริ่นม่านลี่ยังไม่จากไป ทั้งสองคนกำลังรอให้พ่อบ้านของที่บ้านมารับพวกเขา ขณะนี้พวกเขาได้เห็นว่าฟู่ซวี่ตงเดินจากไปแล้ว ส่วนเซี่ยเจ๋อหลี่และฉินมู่หลานกลับยังอยู่ที่สถานีรถไฟ เห็นได้ว่าเซี่ยเจ๋อหลี่และภรรยาของเขาไม่ได้ไปบ้านตระกูลฟู่

เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ใบหน้าของเหยาอี้หนิงก็เต็มไปด้วยความสงสัยโนเวลพีดีเอฟ

“แปลก เซี่ยเจ๋อหลี่และภรรยาของเขาไม่ได้ไปบ้านตระกูลฟู่ เช่นนั้นพวกเขามาทำอะไรที่เมืองหลวง ใกล้จะปีใหม่แล้ว ทำไมพวกเขาถึงไม่กลับบ้านเกิด”

เริ่นม่านลี่เห็นสามีของตนเองให้ความสนใจเซี่ยเจ๋อหลี่และภรรยาของเขามาก ก็เอ่ยอย่างอดไม่ได้ “ทำไมคุณถึงให้ความสนใจมากขนาดนั้น ในเมื่อพวกเขามาเมืองหลวง ก็แน่นอนว่าต้องมีธุระบางอย่าง”

“คุณ……”

เมื่อเห็นว่าเริ่นม่านลี่เริ่มโต้เถียงกับตนเองอีกครั้ง เหยาอี้หนิงพลันรู้สึกโกรธเคือง

แต่โชคดีที่พ่อบ้านของตระกูลเหยามาถึงแล้ว

“ลุงเหยา ทำไมคุณถึงมารับพวกเราล่ะ คุณส่งคนขับรถมารับก็พอแล้ว”

ลุงเหยาได้ยินเช่นนั้นพลันยิ้มพร้อมกับเอ่ย “คุณหญิงคิดถึงพวกคุณมากและรู้ว่าพวกคุณจะกลับมาวันนี้ ดังนั้นเลยรีบให้ผมมารับพวกคุณ พวกเราไปกันเถอะครับ”

“ครับ”

เหยาอี้หนิงรีบยิ้มพร้อมกับพยักหน้า

ลุงเหยาเป็นพ่อบ้านตระกูลเหยามาเนิ่นนานหลายปีแล้ว นับเป็นผู้อาวุโสภายในบ้าน อย่าว่าแต่เขาเลย กระทั่งแม่ของเขาก็ยังแสดงท่ากิริยาอ่อนโยนและยิ้มแย้มต่ออีกฝ่าย

ขณะเหยาอี้หนิงกำลังถือกระเป๋าเดินทางและเตรียมจะออกจากสถานีรถไฟ กลับพบว่าลุงเหยาไม่ได้เดินตามมา ทำให้เขาหันกลับไปมองด้วยความสงสัยอย่างอดไม่ได้

ขณะนี้ลุงเหยากำลังหันไปมองเซี่ยเจ๋อหลี่ด้วยสีหน้าตกตะลึง นัยน์ตาปรากฏความประหลาดใจอย่างไม่อาจสงบลงได้

เซี่ยเจ๋อหลี่ประสาทสัมผัสไว สัมผัสได้ในทันทีว่ามีคนกำลังจ้องมองเขาอยู่ จึงใช้สายตาดุจสายฟ้า[1]มองสบทันที ก่อนพบว่าเป็นชายชราผมขาวคนหนึ่ง เขาพลันขมวดคิ้วเล็กน้อย แน่ใจอย่างยิ่งว่าตนเองไม่รู้จักชายชราที่อยู่ตรงหน้าเลยสักนิด

ฉินมู่หลานเองก็สัมผัสได้เช่นกัน ดังนั้นจึงจ้องมองไปตามสายตาของเซี่ยเจ๋อหลี่ “อาหลี่ เจอคนรู้จักของคุณเหรอคะ?”

เซี่ยเจ๋อหลี่ส่ายศีรษะพร้อมกับเอ่ย “ไม่รู้จัก”

อย่างไรก็ตามทันทีที่คำพูดนี้จบลง ลุงเหยาได้เดินตรงเข้ามาหาพวกเขา

เหยาอี้หนิงเห็นสถานการณ์นี้ก็รู้สึกเพียงว่าหัวใจของเขาบีบตัวแน่น จึงรีบไล่ตามหลังไป “ลุงเหยา ทำไมคุณถึงไม่เดินออกไปแล้วล่ะครับ”

ลุงเหยาได้ยินคำพูดนี้แล้วก็กลับมารู้สึกตัว แต่กระนั้นยังไม่หยุดฝีเท้าและยังคงเดินไปหาเซี่ยเจ๋อหลี่ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

เหยาอี้หนิงเห็นสถานการณ์เช่นนี้ก็รีบเดินไล่ตามไป

แม้แต่เริ่นม่านลี่ก็ยังมองลุงเหยาด้วยความสงสัย ต้องรู้ว่าพ่อบ้านคนนี้อายุมากแล้ว เติบโตมาพร้อมกับนายท่านตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นจึงไม่มีใครภายในตระกูลเหยากล้ายั่วโมโหเขา แต่วันนี้เขากลับเดินเข้าไปหาเซี่ยเจ๋อหลี่และภรรยาด้วยสีหน้าคลุมเครือ หรือว่าลุงเหยารู้จักพวกเขา?

แต่เซี่ยเจ๋อหลี่และฉินมู่หลานไม่ใช่คนชนบทที่มาจากซานตงหรอกหรือ ลุงเหยาจะไปรู้จักพวกเขาได้อย่างไร

ฝ่ายเซี่ยเจ๋อหลี่และฉินมู่หลานที่มองสถานการณ์อยู่ก็พอจะเข้าใจแล้ว

ชายชราตรงหน้านี้น่าจะมารับคู่สามีภรรยาเหยาอี้หนิงและเริ่นม่านลี่ ส่วนเรื่องที่ทำไมเขาถึงเดินมาหาสองคนนั้นพวกเขาเองก็ไม่รู้

ขณะนี้ลุงเหยาเดินมาถึงด้านหน้าของเซี่ยเจ๋อหลี่แล้ว จากนั้นมองสำรวจเขาอย่างละเอียด ยิ่งมองดูก็ยิ่งประหลาดใจ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “ขอถามหน่อยนะครับ…คุณชื่ออะไรหรือครับ?”

โดยไม่รอให้เซี่ยเจ๋อหลี่เอ่ยตอบ เหยาอี้หนิงที่รีบเดินมาจากด้านหลังก็เอ่ย “ลุงเหยา เขาชื่อเซี่ยเจ๋อหลี่ เป็นสหายร่วมรบของผม ด้านข้างนั้นคือภรรยาของเขา ทำไมเหรอครับ……หรือว่าคุณรู้จักพวกเขางั้นเหรอ?”

เมื่อลุงเหยาได้ยินเช่นนั้น เขาชำเลืองมองเหยาอี้หนิงอย่างอดไม่ได้และเอ่ยถาม “สหายร่วมรบของคุณเหรอ?”

“ใช่ครับ บ้านเกิดของเซี่ยเจ๋อหลี่คือซานตง ไม่รู่ว่าทำไมครั้งนี้เขาถึงมาเมืองหลวง”

เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินคำพูดนี้ เขาก็ชำเลืองมองเหยาอี้หนิงด้วยสีหน้าเย้ยหยันและไม่คิดจะเอ่ยปาก

ฉินมู่หลานที่อยู่ด้านข้างก็ไม่เอ่ยอะไรเช่นกัน เพียงแค่หันมองเซี่ยเจ๋อหลี่พร้อมกับกล่าว “อาหลี่ พวกเราไปกันเถอะค่ะ”

“เดี๋ยวก่อน……”

ลุงเหยาเห็นว่าทั้งสองคนกำลังจะจากไป ก็รีบเอ่ยยั้งไว้

เซี่ยเจ๋อหลี่และฉินมู่หลานต่างไม่ได้ให้ความสนใจ พวกเขายังคงเดินไปข้างหน้า แต่เพียงไม่นานนัก ฝีเท้าของพวกเขาก็หยุดลง

ใบหน้าอันหล่อเหลาและรูปร่างสง่างามของเจี่ยงสือเหิงพร้อมด้วยลุงเจี่ยงปรากฏแก่สายตา พวกเขายืนอยู่ที่นั่นด้วยรอยยิ้มและร้องตะโกนด้วยสีหน้าประหลาดใจ “มู่หลาน/คุณหนู พวกเธอมาแล้ว”

เมื่อฉินมู่หลานเห็นเจี่ยงสือเหิงมาที่นี่ เธอก็เอ่ยอย่างประหลาดใจ “พ่อบุญธรรม คุณมาได้อย่างไรกันคะ?”

เจี่ยงสือเหิงเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรักและเมตตาพลางลูบศีรษะของฉินมู่หลานโดยไม่รู้ตัว จากนั้นเอ่ย “รู้ว่าพวกเธอกำลังจะมา ดังนั้นก็เลยตั้งใจมารับพวกเธอไง โชคดีที่มารับพวกเธอได้ทันเวลา”

ลุงเจี่ยงเองก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเอ่ย “คุณหนู นายน้อยมีความสุขมากเมื่อเขารู้ว่าพวกคุณกำลังจะมาและสั่งให้ที่บ้านเตรียมอาหารที่คุณชอบกินไว้มากมาย ครั้งนี้พวกคุณจะต้องอยู่หลายวันหน่อยแล้ว”

“ได้เลยค่ะ”

ฉินมู่หลานยิ้มพลางพยักหน้า

เมื่อลุงเหยาเห็นเจี่ยงสือเหิงและลุงเจี่ยง ใบหน้าพลันเต็มไปด้วยความประหลาดใจ จากนั้นรีบก้าวเข้ามาทักทายและเอ่ย “ที่แท้คือเจ้าบ้านเจี่ยงนี่เอง ทำไมคุณถึงมาที่นี่ได้ล่ะ” ขณะกล่าวเขาจ้องมองไปทางเซี่ยเจ๋อหลี่และฉินมู่หลานอีกครั้งและเอ่ย “เจ้าบ้านเจี่ยงมารับสองคนนี้งั้นเหรอ?”

เจี่ยงสือเหิงเองก็แสดงท่าทางประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นลุงเหยา หลังจากพยักหน้าให้กับเขาเพียงเล็กน้อยแล้วก็ไม่ได้เอ่ยอะไรอีก

ลุงเจี่ยงเดินไปยังด้านหน้าพร้อมกับยิ้มและเอ่ย “ที่แท้ก็คือพ่อบ้านเหยานี่เอง พวกเรามารับคุณหนู ตอนนี้รับคุณหนูเสร็จแล้วและกำลังจะกลับบ้าน”

“คุณหนูเหรอ?”

ลุงเหยาจ้องมองฉินมู่หลานด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อกี้ได้ยินเหยาอี้หนิงกล่าวว่าสามีภรรยาคู่นี้เป็นคนชนบทมาจากซานตงไม่ใช่หรือ วันนี้หญิงสาวคนนี้กลับกลายเป็นคุณหนูแห่งตระกูลเจี่ยงไปได้อย่างไรกัน

เหยาอี้หนิงและเริ่นม่านลี่ที่ยืนอยู่ด้านหลังก็จ้องมองฉินมู่หลานด้วยใบหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อเช่นกัน

โดยเฉพาะเริ่นม่านลี่ที่ดูถูกดูแคลนสมาชิกในครอบครัวนั้นว่ามาจากชนบทมาโดยตลอด ทว่าตอนนี้กลับทราบว่าฉินมู่หลานไม่ใช่คนชนบทแต่เป็นคุณหนูของตระกูลภายในเมืองหลวง แต่อย่างไรก็ตาม…ตระกูลเจี่ยงนั้นใช่ตระกูลเจี่ยงที่หล่อนรู้จักหรือไม่ ตระกูลของพวกเขามีคุณหนูตั้งแต่เมื่อไรกัน

ไม่สิ ลุงเหยาเรียกผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านี้ว่าเจ้าบ้าน แน่นอนว่าไม่ใช่ตระกูลเจี่ยงที่เธอรู้จัก เป็นไปได้หรือเปล่าว่าเมืองหลวงนี้ยังมีตระกูลใหญ่ตระกูลอื่นที่ใช้สกุลเจี่ยง?

…………………………………………………………………………………………………………………………

[1]สายตาดุจสายฟ้า หมายถึง ดวงตาสว่างราวกับสายฟ้าซึ่งหมายถึงการมองด้วยความโกรธ และยังหมายถึงการมองการณ์ไกลอีกด้วย

สารจากผู้แปล

ลุงเหยาเห็นว่าพี่หลี่หน้าคล้ายคุณหนูของตระกูลที่หายสาบสูญไปหรือเปล่านะ?

ไหหม่า(海馬)