นกขมิ้นอยู่ด้านหลัง

“ต้วนหลิงเทียนวันหน้าเจ้าอย่าได้เผลอตกอยู่ในมือข้าเชียว…หาไม่แล้วข้าจักให้เจ้าได้ตายถนาถ!”

เมื่อคิดถึง ‘ตัวการ’ ที่ทำให้มันต้องออกจากสำนักจันทร์จรัสแสง หวงเฉิงก็ขบเคี้ยวจนฟันกรามแทบแหลก กล่าวตะคอกออกด้วยอาฆาต

ในสายตาของมัน เรื่องราวทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของต้วนหลิงเทียน!

หากไม่ใช่เพราะเดิมพันกับต้วนหลิงเทียนมันคงไม่ต้องเสียคะแนนอุทิศ จนบังเกิดความเกลียดชังต่อต้วนหลิงเทียนกระทั่งลุกลามมาถึงขั้นนี้

มันไม่คิดเลยสักครั้ง ว่าต้นตอทั้งหมดเกิดจากความโลภที่ทำให้มันไปแทงเดิมพันกับต้วนหลิงเทียน!

ถึงแม้คราวนี้จะออกห่างมาจากหวงเฉิง แต่ต้วนหลิงเทียนก็ยังเหินบินด้วยความเร็วเต็มพิกัดเท่าที่ยันต์เต๋าเทพเคลื่อน 3 ดาวจะทำได้ จนกระทั่งหมดเวลาทำให้ความเร็วของเขาลดลงจนเป็นปกติ

“โชคดีนักที่ข้ามียันต์เต๋าเทพเคลื่อน 3 ดาวติดตัวไว้ 2 แผ่น…”

ต้วนหลิงเทียนบ่นพึมพำ

คิดถึงฉากเรื่องราวก่อนหน้า อดไม่ได้ที่เขาจะหวาดเสียวอยู่บ้าง

“แต่ตอนนี้ต่อให้เจ้ามียันต์เต๋าเทพเคลื่อนใบที่ 3 วันนี้เจ้าก็ต้องตาย!”

เสียงแหบห้าวหนึ่งปานจะก้องกังวานมาทุกสารทิศดังเข้าหูต้วนหลิงเทียน ทำให้หน้าต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนสี เร่งตะโกนถามออกไปทันที “ใครกัน!?”

ทันใดนั้นปรากฏร่างในชุดคลุมลมดำโผล่มาหยุดขวางเบื้องหน้าต้วนหลิงเทียนเอาไว้ปานภูตผี

ดวงตาของร่างในชุดคลุมลมสีดำอันเต็มไปด้วยความเย็นชาไร้อารมณ์ จ้องมาที่ต้วนหลิงเทียนเขม็ง “ข้าเป็นใครไม่สำคัญ เจ้าเพียงรู้ไว้ว่าข้ามาเพื่อเอาชีวิตเจ้าก็พอ…มิน่าแปลกใจเลยว่าไฉนเจ้ามีราคานัก ที่แท้กลับมีไพ่ตายซุกซ่อนเอาไว้มากมายเพียงนี้”

เสียงกล่าวท้ายประโยคของร่างในชุดคลุมลมดำ คล้ายจะพึมพำกับตัวบ่นความในใจออกมา

และหากฟังจากเสียงกล่าวของร่างในชุดคลุมลมดำแล้ว ท่าทางเรื่องราวระหว่างหวงเฉิงกับต้วนหลิงเทียนจะตกอยู่ในสายตาของมันหมดสิ้น

ตั๊กแตนจ้องจับจั๊กจั่น ไม่รู้ภัยนกขมิ้นอยู่ด้านหลัง!

มันคือ นกขมิ้น ที่อยู่ด้านหลัง!

“เจ้าเป็นมือสังหารงั้นสินะ?”

เสียงกล่าวพึมพำของชายในชุดคลุมลมดำ ต้วนหลิงเทียนย่อมได้ยินชัด สีหน้าเขาเปลี่ยนไปทันที

“เจ้านับเป็นคนฉลาด…น่าเสียดายที่โลกนี้มีคนฉลาดกว่าเจ้ามากมาย แต่สุดท้ายพวกมันก็ต้องตายด้วยมือข้า”

ชายในชุดคลุมลมดำยิ้มกล่าวเสียงเย็น “ไอ้หนูเจ้าทำได้แค่โทษชะตาของเจ้าเถอะ…หืม? เจ้ากลับมียันต์เต๋าม่านพลังทองทั้งเทพเคลื่อนระดับ 3 ดาวเหลืออยู่อีกงั้นหรือ…ดูเหมือนว่าไพ่ตายเจ้าจะเยอะกว่าที่ข้าคิด”

ต้วนหลิงเทียนไม่รอช้า เร่งหยิบยันต์เต๋าม่านพลังทองระดับ 3 ดาว รวมถึงยันต์เต๋าเทพเคลื่อนระดับ 3 ดาวออกมาทันที

“ไอ้หนู อย่าได้บอกข้าเชียวว่าเจ้าคิดว่าข้าเป็นเหมือนตัวสวะหวงเฉิงนั่น?”

ชายในชุดคลุมลมดำกล่าวเย้ย “เจ้าคิดว่าอาศัยยันต์เต๋าม่านพลังทองกับเทพเคลื่อนระดับ 3 ดาวนั่นแล้ว จะทำให้รอดพ้นเงื้อมมือข้าไปได้งั้นเหรอ…ข้าจะให้เจ้าดูว่าความคิดของเจ้ามันไร้สาระทั้งไร้เดียงสาเพียงใด”

แทบจะสิ้นคำกล่าวของร่างในชุดคลุมลมดำ ชุดคลุมบนร่างของมันก็เริ่มกระเพื่อมสะบัดอย่างรุนแรง มองไปคล้ายเมฆฝนปกคลุมเมือง

ขณะเดียวกันปรากฏคลื่นพลังอันน่ากลัวทั้งเสียงพลังปะทุของปราณแท้กังวานแผ่พุ่งออกจากร่าง หนึ่งกลับกลายเป็นเคียวมหึมาอีกหนึ่งเป็นสัตว์ร้ายปราดเปรียว

และคลื่นพลังขุมสุดท้ายกลับแผ่กำจายออกไปทั่วสารทิศ

คลื่นพลังขุมสุดท้ายนั้น แผ่ออกมาเป็นวงกว้างกินรัศมี 100 หมี่โดยยึดมันเป็นจุดศูนย์กลาง! แน่นอนว่าครอบคลุมร่างต้วนหลิงเทียนไว้ด้วยเช่นกัน!!

จากร่างมันไปถึงปลายขอบสุดรัศมี 100 หมี่ปรากฏกระแสพลังสีเขียวจางๆอบอวลไปทั่ว

“ปราณแท้ก่อเขตแดน!”

เมื่อเห็นฉากนี้ หน้าต้วนหลิงเทียนเปลี่ยนสีหนักข้อ “เจ้า…เจ้าเป็นสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่!”

ก่อนหน้าที่ชายในชุดคลุมลมดำไล่เขามาทัน เขาหลงคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะใช้ยันต์เต๋าเทพเคลื่อน 3 ดาว

ทว่าตอนนี้เขาพบแล้วว่าอีกฝ่ายเป็นถึงตัวตนขอบเขตสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ที่แท้จริง!

หากกล่าวกันว่าปราณแท้ก่อลักษณ์ศาสตราเป็นสัญลักษณ์ของสู่เซียนขั้นเชี่ยวชาญ และปราณแท้ก่อลักษณ์สรรพสัตว์เป็นเครื่องหมายของสู่เซียนขั้นสมบูรณ์แบบล่ะก็…

เช่นนั้นปราณแท้ก่อเขตแดนก็คือสิ่งที่บ่งบอกว่าผู้ใช้บรรลุถึงสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่แล้ว!

เขตแดนปราณแท้นั้น จะก่อตัวสร้างเขตแดนขึ้นมากินรัศมี 100 หมี่!

และเขตแดนปราณแท้ของตัวตนสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่แต่ละคนก็ใช่ว่าจะเหมือนกัน

ยกตัวอย่างเช่นสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่บางคนนั้นมีเขตแดนแรงโน้มถ่วง ซึ่งภายในรัศมี 100 หมี่รอบตัวมันจะมีแรงโน้มถ่วงเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่ากลัว

แน่นอนว่าผู้เปิดใช้เขตแดนย่อมไม่ได้รับผลกระทบจากพลังอำนาจเขตแดนตัวเอง

สู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่บางคนก็มีเขตแดนวายุ ทันทีที่เปิดใช้เขตแดน จะบังเกิดสายลมรุนแรงพัดกระหน่ำ!

แน่นอนว่าสายลมที่บังเกิดจากเขตแดนของผู้ใช้ ตัวผู้ใช้ย่อมควบคุมใช้ออกได้ดั่งใจต่างแขนขา สามารถควบคุมสายลมให้กลับกลายเป็นคมมีด เชือดเฉือนสะบั้นสรรพสิ่งในเขตแดนให้แหลกเป็นชิ้นๆเพียงห้วงคิด!

นอกจากนี้ยังมีเขตแดนที่ทรงพลังอย่างเขตแดนกระบี่ ยามเมื่อเปิดใช้กเขตแดนกระบี่ ปรากฏกระบี่พลังมีสภาพนับหมื่นเล่มผุดโผล่!

แน่นอนว่ากระบี่ทุกเล่มนั้นล้วนตกอยู่ภายใต้การควบคุมของสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่เจ้าของเขตแดน!

นอกจากนั้นแล้วยังมีเขตแดนอีกมากมายหลากหลาย

“หาไม่แล้วไฉนเจ้าถึงคิดว่าข้าเลือกที่จะกล่าวออกไปว่าวันนี้เจ้าต้องตาย แม้จะมียันต์เต๋าระดับ 3 ดาวอยู่อีกเล่า?”

ชายในชุดคลุมลมดำแสยะยิ้มกล่าว

“เจ้าได้รับการจ้างวานให้มาฆ่าข้าด้วยราคากี่หินเซียน? เพียงเจ้าบอกมาข้ายินดีจะจ่ายหินเซียนให้เจ้า!”

ต้วนหลิงเทียนรู้สึกอับจนหนทางทันใด เมื่อค้นพบว่าศัตรูเบื้องหน้าเป็นถึงสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่

ดั่งที่อีกฝ่ายกล่าวบอกไว้

ยันต์เต๋าม่านพลังทอง 3 ดาว รวมทั้งยันต์เต๋าเทพเคลื่อน 3 ดาว ล้วนไร้ความหมายเมื่ออยู่ต่อหน้ามัน!

ความเร็วที่ยันต์เต๋าเทพเคลื่อน 3 ดาวมอบให้ แม้จะทัดเทียมกับสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ แต่นั่นก็เป็นแค่สู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ทั่วๆไป

ม่านพลังทองก็เช่นกัน

ยันต์เต๋า 3 ดาวนั้น คงบังเกิดผลเลิศล้ำยัก หากนำไปใช้กับตัวตนที่มีพลังฝึกปรืออยู่ในขอบเขตสู่เซียนขั้นสมบูรณ์แบบลงมา…

อย่างไรก็ตามต่อหน้าสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ตัวจริง พวกมันย่อมไม่นับเป็นอะไร

“ไอ้หนูธุรกิจของพวกเราล้วนมีกฏเกณฑ์…ยิ่งไปกว่านั้นหากเจ้าตายมิใช่ความมั่งคั่งทั้งหมดของเจ้าจะตกเป็นของข้าหรือไร เช่นนั้นข้ายังมีความจำเป็นอันใดที่ต้องทำลายกฏ?”

ชายในชุดคลุมลมดำแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียมไม่หยุด

ขณะเดียวกันนั้นเอง ศาสตรารูปเคียวอันประหนึ่งจันทร์สีเลือดกลางฟ้า ก็หันคมเคียวมาทางต้วนหลิงเทียน

ส่วนสัตว์ร้ายปราดเปรียวนั่นก็มองจ้องต้วนหลิงเทียนเขม็ง

ถึงแม้มันจะเป็นสัตว์ร้ายจากปราณแท้ก่อลักษณ์สรรพสัตว์ แต่มันก็สมจริงดั่งมีชีวิต!

“หินเซียนที่ข้าเสนอให้เจ้าไม่ได้อยู่กับข้า…ตราบใดที่เจ้ายินดีปล่อยข้าไป ข้าพร้อมกล่าวสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้า ว่าข้าจะมอบหินเซียนให้เจ้าตามจำนวนที่เจ้าต้องการ!”

ต้วนหลิงเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ กล่าวบอกชายในชุดคลุมลมดำ

ลำพังตัวเขาเอง ย่อมไม่หวาดกลัวความตาย

หากแต่เมื่อต้องเผชิญห้วงเวลาคับขันถึงตายแบบนี้ ที่เขานึกถึงล้วนไม่ใช่ตัวเขาเอง

หากเขาตายไปแล้วคู่หมั้นทั้ง 2 จะอยู่อย่างไร? ลูกน้อยทั้ง 2 ที่ไม่รู้ลืมตาดูโลกแล้วหรือยังมิใช่ต้องกำพร้าบิดาโดยที่ไม่มีโอกาสแม้แต่จะเห็นหน้าบิดาหรือ?

ดังนั้นเขาไม่อยากตาย

ตราบใดที่ยังมีความหวังหลงเหลือ เขาย่อมไม่ละทิ้งที่จะดิ้นรนหาทางรอด

เขาไม่ได้เหมือนตัวเขาในอดีตอีกต่อไปแล้ว

ในชีวิตที่แล้วแม้ความตายจะอยู่ตรงหน้า เขาก็สามารถเผชิญหน้ากับมันได้อย่างไม่ยี่หระ เพราะเขาเป็นดั่งหมาป่าเดียวดาย ที่เหลียวหลังมองไปไม่เห็นใคร ความตายจึงไม่นับเป็นอะไรกับเขา

ทว่าตอนนี้เขามีเรื่องที่ให้ห่วงหาและเป็นกังวลนัก

“ไอ้หนูเรื่องไร้สาระอย่าได้กล่าวให้มากความอีก…เจ้าคิดว่าพวกเราที่ทำการค้าเช่นนี้ จักไม่กล่าวคำสัตย์สาบานมาก่อนหรือไร?”

ชายชุดดำกล่าวเย้ย “ดังนั้นไม่ว่าเจ้าจะพล่ามอันใดต่อไปก็ไร้ประโยชน์ ต่อให้เจ้ายินดีมอบหินเซียนระดับ 1 แก่ข้าสัก 10,000 ก้อนก็มิมีความหมาย..เพราะหากข้าตระบัดสัตย์ผิดคำสาบาน ข้าก็จะถูกอัสนีลงทัณฑ์พิฆาตร่างตายตก”

ได้ยินวาจานี้ของร่างในชุดคลุมลมดำ สีหน้าต้วนหลิงเทียนเปลี่ยนไปอย่างมาก ลูกตาเขาเผยความไม่ยินยอมออกมา ขณะเดียวกันมือก็กำยันต์เต๋า 2 แผ่นแน่นจนยับยู่ยี่

วันนี้เขาต้องตายที่นี่จริงๆ?

ต้วนหลิงเทียนใจเสียไม่น้อย ในสมองยังเต็มไปด้วยความอื้ออึง

“สำแดง!”

“สำแดง!”

ไร้ซึ่งความลังเลใดๆ ต้วนหลิงเทียนกล่าวคำเปิดใช้ยันต์เต๋าออกมาสองครั้งติด ยันต์เต๋าเทพเคลื่อนทั้งม่านพลังทองระดับ 3 ดาวสำแดงพลังอำนาจทันที!

พริบตาทั่วร่างเขาก็ถูกปกคลุมไปด้วยม่านพลังสีทองปานเปลือกไข่ห่อหุ้ม

ขณะเดียวกันคลื่นพลังลึกลับก็ผสานหลอมรวมเข้ากับร่างเขา มอบความเร็วของตัวตนขอบเขตสู่เวียนขั้นยิ่งใหญ่ให้เขาทันที

เห็นชัดดีว่าตอนนี้แม้สถานการณ์จะสิ้นหวังและมีแต่ทางตายที่รอคอย แต่ต้วนหลิงเทียนก็ไม่เลิกที่จะดิ้นรน!

ยืนนิ่งรอความตายไม่ใช่ทางของเขา!

ทันใดนั้นร่างต้วนหลิงเทียนก็พุ่งเป็นเส้นแสงหนีไปทันที!

ชายชุดคลุมลมดำที่ยังลอยร่างที่เดิมมองร่างต้วนหลิงเทียนที่เปิดใช้ยันต์เต๋า 2 ใบเหินบินหนีไปไกลตาด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “ของเด็กเล่น!”

และแทบจะทันทีที่สิ้นคำของมันเขตแดนที่กินรัศมี 100 หมี่ก็สำแดงอานุภาพออกมาทันที!

เขตแดนที่เต็มไปด้วยไอพลังสีเขียวจางๆ ยามนี้กลับกลาบเป็นแดงฉานดั่งโลหิต ในสีแดงฉานยีงมีไอพลังสีดำผสมปนเป กลิ่นอายชั่วร้ายน่ากลัวถึงที่สุดกำจายออกมาตลบในบรรยากาศ!

ทันใดนั้นเองเบื้องหน้าร่างต้วนหลิงเทียนที่พุ่งออกไป ก็พลันปรากฏร่างหนึ่งก่อตัวขวางทางเอาไว้! รูปร่างดั่งมนุษย์แต่ตัวมหึมาปานยักษ์!!

แน่นอนว่ามันเป็นร่างเขื่องที่บังเกิดจากไอพลังทมิฬนั่น!

ร่างมหึมาปานยักษายืนตระหง่านขวางทางต้วนหลิงเทียนเอาไว้ดั่งกำแพงเหล็ก ปิดกั้นหนทางหลบหนีเขาสิ้น

“ฮึ่ม!”

ต้วนหลิงเทียนแค่นเสียสบถ ก่อนที่จะซัดยันต์เต๋าจู่โจม 2 ในมือออกไปทันที

สิ้นคำ ‘สำแดง’ รังสีพลังพิฆาตก็พุ่งออกไปจากยันต์ที่แตกสลาย ถล่มลงใส่ร่างมหึมา!

ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนใช้ออกทุกสิ่งที่มีโดยมีคิดจะเสียดายอะไร

เมื่อเกี่ยวข้องกับความเป็นตาย อะไรที่ช่วยให้รอดได้ล้วนไม่มีความหมายที่จะเสียดาย!

หากตายไปก็ไม่เหลืออะไรแล้ว

อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นว่าร่างเขื่องแม้จะถูกรังสีพลังพิฆาตจากยันต์เต๋าสายโจมตีระดับ 2 ดาวเข้าไปเต็มๆ แต่มันกลับไม่เป็นอะไรทั้งไม่มีรอยขีดข่วนแม้แต่น้อย หน้าต้วนหลิงเทียนก็เคร่งเครียดมืดดำทันที “ฉิบ! นี่มันตัวบัดซบอะไร!?”

ไร้อาการชะงักงันอะไร ต้วนหลิงเทียนเร่งเปลี่ยนทิศทางการเหาะ ฉีกออกข้างทันที

อย่างไรก็ตามร่างมหึมาพลันก่อตัวฉับไว ขวางเบื้องหน้าเขาเอาไว้เหมือนก่อนหน้า

หลังจากนั้นไม่ว่าต้วนหลิงเทียนจะเหาะสลับซับซ้อน และเปลี่ยนทิศทางมากเพียงใด ร่างเขื่องก็จะปรากฏขวางทางเอาไว้เสมอ

ร่างมหึมาปานอสุราที่ก่อตัวจากไอพลังทมิฬนั่น ทั้งทั่วกายยังฉาบคลุมไปด้วยไอพลังสีแดงฉาน ให้ความรู้สึกน่ากลัวทั้งมีพลังอำนาจสะกดข่มไม่ธรรมดา พาลให้ผู้คนไม่เว้นกระทั่งต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะใจสั่นเสียขวัญ

“ไอ้หนู เจ้าคิดจริงๆหรือว่าเจ้าจะหนีไปจากเขตแดนปีศาจโลหิตของข้าได้? เจ้ามันไร้เดียงสาเกินไปแล้ว!”

ชายในชุดคลุมลมดำยิ้มแสยะกล่าว