บทที่ 100 เดิมพัน

บทที่ 100 เดิมพัน

เสิ่นโตวเดือดดาล แต่เขายังคงหวาดกลัวยันต์สองแผ่นนั้นอยู่

เขากล้ำกลืนมันไว้ ส่งสัญญาณให้ใครบางคนไปหาเก้าอี้บางส่วนมาให้

คุณชายลู่กวาดสายตา ก่อนกลับมาดูการต่อสู้บนลานประลองอีกครั้ง

บนลานประลอง เซียวเทียนถือกระบี่ยักษ์ไว้ในมือ สายตาจับจ้องเสิ่นซูเหยียนตรงหน้าราวกับจ้องคบเพลิง

จากร่างกายของเขา ปราณกระบี่แก่กล้าแผ่ซ่านออกไปรอบข้าง กระบี่ยักษ์สั่นไหวในพริบตา แรงกดดันอันยิ่งใหญ่ปกคลุมลานประลองทันที!

“เสิ่นซูเหยียน สามปีมานี้ข้าฝึกฝนทุกวัน เพื่อรอคอยวันนี้มาตลอด!”

“สามปีแห่งความอับอาย ข้าอยากชดใช้ทั้งหมดในวันนี้!”

คุณหนูเสิ่นที่เดิมสงบนิ่ง พอได้ฟังคำพูดของเซียวเทียน โทสะในใจก็ตีตื้นขึ้นมาถึงอก

เจ้านั่นคิดว่าตัวเองเป็นใคร?!

ตอนที่พรสวรรค์ยังไม่หายไป เขาก็พอดูมีอนาคตอยู่บ้าง

ตอนนี้พรสวรรค์ของเขาหายไปแล้ว ถึงจะไม่รู้ว่าใช้วิธีอะไรในการมีชีวิตรอดจนเข้าสู่ขั้นจักรพรรดิยุทธ์ แต่กล้ามาท้าข้าอย่างนั้นหรือ?!

เซียวเทียนคิดว่าตัวเองมีพรสวรรค์จริง ๆ จนใกล้เคียงกับคำว่าสัตว์ประหลาด สามารถเหนือกว่าสองระดับที่แตกต่าง และเอาชนะข้าได้อย่างนั้นหรือ?!

เสิ่นซูเหยียนยืนตัวตรง นางสะบัดมือขวา เจตจำนงกระบี่มหาศาลพลันแผ่ซ่านออกไปทันที รอบข้างนาง ปราณกระบี่พลุ่งพล่านอย่างบ้าคลั่ง พวกมันรวมตัวในมือของนางอย่างต่อเนื่อง หลังจากผ่านไปหลายอึดใจ กระบี่ยาวสามฉื่อก็ก่อตัวขึ้นในมือนาง

กระบี่ร่ำร้องออกมาทันทีที่ปรากฏขึ้น กระบี่ในมือของผู้คนจำนวนมากในพื้นที่คล้ายกับสัมผัสถึงกระบี่เล่มนี้ได้ และต่างพากันสั่นไหว

“ปราณกระบี่กลายเป็นกระบี่หรือ?”

เมื่อผู้คนที่อยู่ด้านข้างเห็นดังนี้ ก็อดถอนหายใจไม่ได้ “ข้าไม่คิดเลยว่าเสิ่นซูเหยียนจะเข้าถึงวิธีดังกล่าวด้วยอายุแค่นี้ได้ สมแล้วที่นางเป็นลูกสาวของเสิ่นโตว!”

“ตระกูลเสิ่นเลื่องชื่อในฐานะสำนักกระบี่แห่งแดนเหนือ พวกเขาเก่งในการใช้ปราณกระบี่แทนกระบี่ในมือ พวกเขาฝึกฝนจนประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ในศาสตร์ปราณกระบี่แทนกระบี่ จนสามารถออกคำสั่งแก่กระบี่ในโลกได้ ตอนนี้เสิ่นซูเหยียนอยู่เพียงขั้นจักรพรรดิยุทธ์ แต่สามารถทำให้กระบี่ของผู้คนจำนวนมากในพื้นที่สั่นสะท้านได้ พรสวรรค์การใช้กระบี่ของคนผู้นี้นับว่าหาได้ยากในโลก”

“ใช่แล้ว! ตอนนี้ดูท่าว่าเสิ่นซูเหยียนจะมีโอกาสชนะค่อนข้างมาก!”

เมื่อเห็นดังนี้ ร่องรอยความโล่งอกก็ปรากฏในดวงตาของเสิ่นโตว ด้วยระดับการฝึกฝนเช่นนั้น เสิ่นซูเหยียนสามารถนับว่าเป็นอันดับหนึ่งของรุ่นหลังในตระกูลเสิ่น

ขอเพียงเติบโตเช่นนี้ต่อไป ตระกูลเสิ่นจะต้องให้กำเนิดปรมาจารย์กระบี่ในอนาคตได้อย่างแน่นอน!

คุณหนูเสิ่นชูกระบี่ขึ้น กระบี่นับไม่ถ้วนตกลงมาจากท้องนภาในทันที ปกคลุมทั่วทั้งลานประลองภายในหนึ่งอึดใจ!

“เซียวเทียน ข้าจะบอกเจ้าในวันนี้เองว่า คำว่าไม่เจียมตัวมันหมายความว่าอย่างไร!”

ทันทีที่สิ้นเสียง สายลมแรงกล้าพัดโหมกระหน่ำ หินหยกบนลานประลองถูกพัดปลิวไปทีละก้อน

เสิ่นซูเหยียนทะยานขึ้นไปพร้อมกระบี่ ปราณกระบี่ในมือพลันพวยพุ่ง เพียงหนึ่งอึดใจ ร่างของนางก็หายไปจากจุดเดิมมาอยู่บนท้องนภาเหนือเซียวเทียน

ปราณกระบี่พลันฟาดฟันลงมา เสียงปราณระเบิด ‘ชี่ ๆๆ’ ดังขึ้น ปราณกระบี่พลันปะทะลงมาหาใบหน้าของอดีตคู่หมั้นทันที

เซียวเทียนเงยหน้าขึ้น ร่องรอยของคลื่นพลังสีแดงพลันแผ่ซ่านจากดวงตา ปกคลุมรอบฝ่ามือเอาไว้

เขาเงื้ออาวุธยักษ์ด้วยแขนสองข้าง พลังทั้งหมดจมลงสู่กระบี่ จากนั้นพุ่งตัวสวนขึ้นไป

ตูม!

กระบี่ที่แตกต่างสองเล่มปะทะกัน จนเกิดเสียงสะเทือนเลื่อนลั่น!

ไป๋ชิวเอ๋อร์นั่งอยู่ข้างลู่หยวน นางเอื้อมมือไปหยิบองุ่นแล้วป้อนใส่ปากอีกฝ่าย มองเห็นกระบี่ในพื้นที่ทัดเทียมกัน แต่ลานประลองนั่นถูกปกคลุมด้วยเจตจำนงกระบี่อันสงบนิ่งของเสิ่นซูเหยียนอยู่ก่อนแล้ว ยิ่งเวลาผ่านไป มันก็เกิดการรวมตัว ค่อย ๆ หลอมให้ปราณกระบี่ในมือนางกลายเป็นศัสตราวุธที่ไร้เทียมทาน

เมื่อเห็นดังนี้ ไป๋ชิวเอ๋อร์ก็ถอนหายใจออกมา “ดูท่าว่าเสิ่นซูเหยียนกำลังจะชนะ”

เสิ่นโตวผู้อยู่ด้านข้างได้ยินดังนั้น เขาก็รู้สึกภาคภูมิใจขึ้นมา ใครบ้างจะไม่ถูกใจเวลามีคนมาชื่นชมลูกของตัวเอง

ถึงแม้เดิมทีเขาจะตัดสินว่าเคล็ดวิชาของเซียวเทียนไม่ได้ต่ำต้อย จนถึงขั้นอาจจะมีศักยภาพเหนือกว่าเสิ่นซูเหยียน แต่ตอนนี้เมื่อดูจากการต่อสู้จริงแล้ว ดูเหมือนฝ่ายบุตรสาวจะเหนือกว่า…

ลู่หยวนกลืนองุ่นที่ไป๋ชิวเอ๋อร์ป้อน จากนั้นยิ้มออกมา “ไม่ต้องห่วง เซียวเทียนจะชนะแน่นอน! อย่าว่าแต่เสิ่นซูเหยียนเลย ต่อให้มีนางรวมกันสิบคน ก็ยังไม่สามารถเอาชนะเซียวเทียนได้!”

ผู้นำตระกูลเสิ่นชะงักค้าง…

ขณะปลอบใจตัวเอง คาดไม่ถึงว่าลู่หยวนจะยืนยันว่าเสิ่นซูเหยียนจะพ่ายแพ้ เซียวเทียนคนนั้นถึงกับสามารถเอาชนะนางสิบคนได้จริงหรือ?

ช่างเป็นคำพูดที่เหลวไหลนัก!

เมื่อเห็นลู่หยวนกล่าวเช่นนั้น เสิ่นโตวก็อดที่จะถามไม่ได้ “บุตรศักดิ์สิทธิ์กล่าวเช่นนี้ มีอะไรมายืนยันหรือไม่?”

ริมฝีปากของคุณชายลู่สยายเป็นรอยยิ้ม สายตาดูมีเลศนัย ตอบเสียงดังว่า “ข้าขอประกาศ ณ ที่นี้เลยว่า การต่อสู้ในวันนี้ เซียวเทียนจะต้องชนะอย่างแน่นอน! ผู้นำตระกูลเสิ่นดูเหมือนจะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ข้ากล่าวใช่หรือไม่?”

เสิ่นโตวชำเลืองมองลานประลอง พบว่าปราณกระบี่รอบเซียวเทียนถอยมาอยู่ด้านข้าง กระบี่ยักษ์ในมือกำลังสั่นไหว ราวกับเสียหลักไปชั่วขณะ

เซียวเทียนแพ้แน่!

ผู้นำตระกูลเสิ่นหัวเราะคิกคัก “ข้าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่บุตรศักดิ์สิทธิ์ว่ามา ความพ่ายแพ้ของเซียวเทียนผู้นี้เป็นที่แน่ชัดแล้ว ผู้ชนะในวันนี้จะต้องเป็นลูกสาวของข้า!”

ลู่หยวนแสร้งทำเป็นเดือดดาล ตบเก้าอี้ดังฉาด เขาชี้ไปที่ลานประลองอย่างมีน้ำโห ถามเสียงดังว่า “ข้ากล้าเดิมพันด้วยอาวุธระดับจักรพรรดิว่าเซียวเทียนจะต้องชนะในวันนี้อย่างแน่นอน! เจ้ากล้าเดิมพันหรือไม่?”

เมื่อเห็นชายหนุ่มเดือดดาล เสิ่นโตวก็ยกยิ้มออกมา ไม่พยายามเก็บคำพูดของอีกฝ่ายมาคิดจริงจัง แต่หลังจากพินิจดูแล้ว หากเป็นการเดิมพัน เขาก็สามารถเอาอาวุธระดับจักรพรรดิกลับคืนมาได้ไม่ใช่หรือ?

ผู้นำตระกูลเสิ่นคล้ายกับเป็นกังวล ชำเลืองมองลานประลองอีกครั้ง เห็นเซียวเทียนถูกเสิ่นซูเหยียนต้อนจนมุม… นางกำลังจะชนะ

หากไม่เป็นเซียวเทียนพ่ายแพ้ จะกลายเป็นเขาที่แพ้เสียเอง!

เสิ่นโตวไม่ลังเลอีกต่อไป ถามทันทีว่า “บุตรศักดิ์สิทธิ์พูดความจริงอย่างนั้นหรือ?”

ลู่หยวนยกคิ้วกระบี่ขึ้น “คำพูดของข้าเหมือนกับทองคำ สิ่งที่พูดออกมาย่อมเป็นความจริง!”

หลังจากนั้น ชายหนุ่มก็ผายมือไปทางจงซื่อ “เอาอาวุธระดับจักรพรรดิมาให้ข้า!”

คนฟังตัวแข็งทื่อ การเดิมพันดังกล่าวคือการเดิมพันของเจ้า …แล้วทำไมข้าต้องมาเดิมพันด้วย?!

ลู่หยวนหันมองกลับไป ก่อนขมวดคิ้ว “เร็วสิ! จะให้ข้าพูดซ้ำหรือ?!”

จงซื่อเดือดดาลยิ่ง ก่อนจะหยิบกระบี่ระดับจักรพรรดิที่พกมาด้วยส่งให้อย่างไม่เต็มใจ “หากบุตรศักดิ์สิทธิ์แพ้ขึ้นมา ข้าจะฟ้องท่านประมุข!”

ชายหนุ่มรับกระบี่มาแทงลงกับพื้น เสียง ‘ฉึก’ ดังขึ้น กระบี่ยาวระดับจักรพรรดิถูกปักลงปฐพี

“ผู้นำตระกูลเสิ่น แล้วของเจ้าล่ะ?”

เสิ่นโตวยิ้มออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ กระบี่ยาวระดับจักรพรรดิเล่มนี้ดีกว่ากระบี่ระดับจักรพรรดิที่เขามอบให้เสียอีก วันนี้ได้กำไรแล้ว!

“บุตรศักดิ์สิทธิ์ ตระกูลเสิ่นของข้ามีหอกยาวระดับจักรพรรดิอยู่ มีนามว่าหอกพันมังกรเก้าสวรรค์ มันอยู่ในห้องโถงบรรพชน ขอเพียงบุตรศักดิ์สิทธิ์ชนะ ข้าจะขอให้คนไปเอามันมาทันที!”

ลู่หยวนพยักหน้า กล่าวเสียงดังว่า “ได้ ขอให้วิถีแห่งสวรรค์เป็นพยานต่อการเดิมพันในครั้งนี้! ทุกท่านในที่นี้ล้วนเป็นพยานเช่นกัน! ข้าขอให้คำมั่นด้วยการแปะมือ!”

ผู้นำตระกูลเสิ่นยังคงกังวลว่าอีกฝ่ายจะเล่นตุกติก เมื่อเห็นบุตรศักดิ์สิทธิ์พูดเช่นนี้ เขาย่อมตอบตกลง ก่อนแปะมือกับชายหนุ่มทันที การเดิมพันจึงเสร็จสิ้น

ลู่หยวนถอนมือกลับ มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มชั่วร้าย “ผู้นำตระกูลเสิ่น หอกพันมังกรเก้าสวรรค์นั้น บุตรศักดิ์สิทธิ์ขอรับไว้ก็แล้วกัน!”