ตอนที่ 103 ถ้าผมมีชีวิตรอด ผมจะอุทิศชีวิตให้เถาหยาง

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 103 ถ้าผมมีชีวิตรอด ผมจะอุทิศชีวิตให้เถาหยาง

ตอนที่ 103 ถ้าผมมีชีวิตรอด ผมจะอุทิศชีวิตให้เถาหยาง

“แล้วตอนนี้พวกเราจะทำยังไงดี”

อู๋เจิ้นพูดอย่างอ่อนแรง “ทำได้แค่รอ รอจนกว่าซอมบี้ข้างนอกจะออกไปเอง”

ภรรยามองไปที่ประตูกันขโมยที่กำลังสั่นสะเทือนและทรุดตัวลง

“ประตูบานนี้คงทนได้อีกไม่นาน”

ลูกชายในอ้อมแขนของเธอร้องไห้ออกมาด้วยความกลัว ในขณะนี้เครื่องมือสื่อสารของอู๋เจิ้นก็ดังขึ้น

เมื่อได้ยินเสียง ภรรยาของเขาก็รีบคว้าเครื่องมือสื่อสารเอาไว้ “รีบรับ บางทีครอบครัวเจียงอาจจะนึกถึงคุณนะ!”

อู๋เจิ้นไม่ได้มีความหวังใด ๆ แต่เมื่อเขาเห็นหมายเลขผู้โทรเข้า เขาก็หยุดมองอยู่ครู่หนึ่งแล้วกดรับ

“คุณซู?”

ซูเถาได้ยินเสียงคำรามของซอมบี้และเสียงกรีดร้องของมนุษย์จากปลายสายเธออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

“สถานการณ์ที่นั่นไม่ค่อยดี คุณเป็นยังไงบ้าง”

อู๋เจิ้นพูดอย่างขมขื่น “พวกเราติดอยู่ที่บ้าน ตอนนี้ยังไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต ผมแค่หวังว่าประตูบ้านของผมจะอยู่ได้นานกว่านี้”

ซูเถารู้สึกเสียใจเล็กน้อย เธอน่าจะให้คนไปรับเขาให้เร็วกว่านี้

อู๋เจิ้นรู้สึกหดหู่ใจมาก ราวกับเขากำลังจะกล่าวคำสั่งเสีย

“คุณซู ผมเกรงว่าผมคงผิดสัญญาในครั้งนี้ ผมขอโทษจริง ๆ ผมรบกวนคุณไปบอกลุงเหม่ยว่า มันเป็นความผิดของผมเอง ก่อนหน้านี้ผมควรจะเชื่อฟังเขา”

ซูเถาขัดจังหวะเขา “คุณยังไม่ตาย อย่าพูดคำที่น่าหดหู่แบบนั้น อีกอย่าง คุณสัญญากับฉันว่าจะมาหาเถาหยาง ถือว่าชีวิตของคุณอยู่ในความรับผิดชอบของฉัน ชีวิตของคุณก็เหมือนกับชีวิตของฉัน ฉันจะหาทางเอง สิ่งที่คุณต้องทำตอนนี้คือรักษาชีวิตของคุณ คุณต้องอยู่ให้ได้นานที่สุดจนกว่าจะมีคนไปช่วยคุณ คุณได้ยินฉันไหม”

หัวใจของอู๋เจิ้นตกตะลึง ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เขาได้ยิน เขาเงียบไปเป็นเวลานาน

ซูเถากล่าวต่อ “เถาหยางต้องการคุณ ต้องการคนแบบคุณ คุณต้องยืนหยัดนะคะ”

อู๋เจิ้นปาดน้ำตาบนใบหน้า เขาหายใจเข้าลึก ๆ เช็ดน้ำตาแล้วพูดเสียงดังฟังชัดว่า

“คุณซู ถ้าผมมีชีวิตรอดแล้วได้เข้าไปอยู่ที่เถาหยาง ผมจะอุทิศทั้งชีวิตให้กับเถาหยาง”

……

หลังจากที่ซูเถาวางสายเธอก็โทรหาหม่าต้าเพ่าทันที

หม่าต้าเพ่ารับสายทันที

“เถ้าแก่ซู จุดแวะพักถูกซอมบี้ปิดล้อมเมื่อวานนี้ มีผู้คนจำนวนมากเสียชีวิต พระเจ้า ผมหนีอย่างสุดชีวิต ผมกำลังตามหาคนให้คุณ ผมเพิ่งพบศพสองศพ! คุณรีบเหรอ อย่าเพิ่งรีบร้อน ให้เวลาผมอีกสักสองสามวัน”

ซูเถากล่าวว่า “ไม่ต้องรีบร้อนไป ตอนนี้คุณปลอดภัยหรือเปล่า?”

หม่าต้าเพ่าร้องไห้และพูดว่า “ผมไม่แน่ใจ เมื่อคืนผมมัวแต่เอาชีวิตรอด ผมซ่อนตัวอยู่ในที่หลบภัยใต้ดิน ผมไม่รู้สถานการณ์ข้างบน”

“ที่จุดแวะพักมีที่หลบภัยอยู่ใต้ดินเหรอ?”

“ใช่ ๆ มีอยู่ที่หนึ่ง ใหญ่มากนะ จุคนได้เกือบ 2,000 คน แค่จ่ายเงิน จ่ายค่าของก็สามารถเข้าไปได้แล้ว”

ซูเถาแสดงท่าทางว่าเธอรับรู้แล้ว แล้วเธอก็ถามต่อ

“ตอนนี้เราพักการตามหาคนเอาไว้ก่อน ฉันมีเรื่องด่วน คุณรู้จักพวกทหารรับจ้างเยอะใช่ไหม?”

เมื่อหม่าต้าเพ่าได้ยินสิ่งนี้ น้ำเสียงของเขาก็แสดงความภูมิใจเล็กน้อย

“รู้จักไม่น้อยเลย ผมรู้จักคนที่มาจากฉางจิงไม่น้อย และกัปตันของพวกเขาก็เป็นวีรบุรุษในวันสิ้นโลก”

ซูเถาถามว่า “พวกเขารับภารกิจยังไงเหรอ แล้วค่าตอบแทนคืออะไร”

“ภารกิจทางการของฐาน ภารกิจส่วนตัว พวกเขารับหมด ค่าตอบแทนที่พวกเขารับมักจะเป็นเงินหรือเสบียง และมีบางคนที่ต้องการคะแนนสมทบหรือสิ่งของหายากอื่น ๆ”

ซูเถาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นช่วยส่งคนไปช่วยฉันทำภารกิจช่วยเหลือคนจากโส่วอันมาที่ตงหยางหน่อย เดี๋ยวฉันจะส่งที่อยู่ให้คุณในภายหลัง ส่วนค่าตอบแทนฉันจะให้เป็นเสบียง”

ถ้าต้องการเงินเธอไม่มี ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลืออยู่แค่ 60,000 เหลียนปัง ซึ่งเธอต้องเก็บไว้ขยายห้องพัก

หม่าต้าเพ่าเอ่ยปากถามว่า “งานนี้เร่งด่วนหรือเปล่า”

“เร่งด่วนมาก คนกำลังตกอยู่ในอันตราย”

หม่าต้าเพ่าเกาหัวของเขา “เถ้าแก่ซู ซอมบี้กำลังคลั่ง ผมเกรงว่าจะไม่มีใครกล้า”

“แล้วถ้าเพิ่มค่าตอบแทนล่ะ อาหาร น้ำมันปรุงอาหาร น้ำ ขนม และเครื่องดื่มที่หายาก คุณสามารถให้คำมั่นสัญญากับพวกเขาได้ น่าจะมีคนที่ยอมรับภารกิจนี้”

หม่าต้าเพ่าพูดจาติดขัด “คุณ คุณพูดเหมือนเรื่องนี้มันทำได้ง่ายอย่างนั้น”

เถ้าแก่ซูคนนี้กล้ามาก ใจใหญ่จริง ๆ!

หลังจากนั้นเขาก็รับปากเธอ!

ซูเถาพูดเสียงแผ่ว “ฉันจะตอบแทนอย่างสาสม แต่ฉันต้องได้งานที่มีประสิทธิภาพ และคนของฉันต้องได้รับความช่วยเหลือภายในหนึ่งสัปดาห์”

“เถ้าแก่ซู ไม่ต้องกังวล ผมจะหาทีมทหารรับจ้างมาให้คุณ แล้วผมจะให้คำตอบก่อนเที่ยงวันพรุ่งนี้!”

ซูเถาวางขนมลงแล้วออกคำสั่ง

“หลังจากทำงานเสร็จ คุณไปที่ภูเขาผานหลิวโดยเร็วที่สุด ที่นั่นปลอดภัย ตอนนี้มีห้องพัก มีอาหาร มีครบทุกอย่าง”

หม่าต้าเพ่ารู้สึกปลื้มใจ “ขอบคุณคุณมาก ผมจะตั้งใจทำงานอย่างดีไม่ให้คุณผิดหวัง ไม่เช่นนั้นผมคงไม่มีหน้าไปกินข้าวในที่ของคุณหรอก”

หลังจากที่ซูเถาวางสาย เธอก็ได้รับข้อความจากเผยตง

“เจอตัวเซี่ยชิงแล้ว เธอกลายเป็นซอมบี้ และฉันฆ่าเธอไปแล้ว”

“ใต้หมวกของเธอมีจดหมายแสดงเจตจำนงของเธออยู่ เหมือนเธอจะให้คนอื่นช่วยเขียน”

“หนึ่งในนั้นคือ ถ้าเธอเป็นอะไรไป หวังว่าจะมีคนนำเถ้ากระดูกของเธอกลับไปที่อาคารสำนักงานของเถาหยาง”

“เถาจื่อ ขอโทษที่ทำให้เธอลำบาก”

ซูเถาวางเครื่องสื่อสารลง เธอรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก เธอลูบใบหน้าของตัวเองเพื่อดึงสติ

จวงหว่านเห็นเธอเป็นเช่นนั้นก็อายเกินกว่าที่จะพูดกับเธอเรื่องการเปิดห้องพัก เธอถอนหายใจแล้วพูดว่า

“ฉันนำชั้นวางหนังสือในห้องนิทรรศการออกมาชั้นหนึ่ง ถึงเวลาจะได้เอาหมวกของเย่เซี่ยชิงไปไว้ตรงนั้น”

ซูเถาพยักหน้าและกล่าวว่า “ห้องใหม่ถูกสร้างขึ้นแล้ว เป็นห้องเดี่ยวสองห้อง ห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่นหนึ่งห้อง อีกห้องเป็นห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น เราให้สิทธิ์กับทหารและครอบครัวของพวกเขาก่อน”

เธอสร้างมันก่อนที่เธอจะเดินทางมาที่อาคารสำนักงาน และตอนนี้เธอก็เหลือเงินไม่กี่พันเหลียนปัง

อีกไม่นาน ในเดือนหน้าก็จะได้รับค่าต่ออายุการเช่าจากผู้เช่าทั้งหมดในครั้งเดียว

เธอคำนวณดูแล้ว มันมากกว่า 500,000 เหลียนปัง

จวงหว่านพยักหน้าซ้ำ ๆ ทันที แต่ทันใดนั้นเธอก็นึกออกว่า

“ผักชุดแรกของเราที่วางขาย ขายหมดภายในวันเดียวหลังจากทำการตั้งขายบนชั้น เฉียนหลินทำบัญชีแล้ว เราถือว่าได้กำไรมากอยู่ คุณอยากไปดูไหม?”

ซูเถาดึงสติของเธอ

ตอนนี้เงินเท่านั้นที่จะทำให้เธอมีความสุขได้!

ไม่ดูก็ไม่รู้ แต่ว่ารายได้จากไร่ในช่วงครึ่งเดือนแรกสูงถึง 80,000 เหลียนปัง!

นี่เป็นเพียงรายได้เริ่มต้น

เฉียนหลินปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก เธอส่ายหัวแล้วพูดว่า

“ตอนนี้ผลผลิตยังไม่เพียงพอ ฉันตรวจสอบแล้วพบว่าหนึ่งในห้าของผู้เช่าของเราซื้อไม่ทัน อันที่จริงถ้ามันเป็นไปได้เราก็ยังหวังที่จะขยายพื้นที่เพาะปลูก”

ซูเถาก็อยากขยับขยายเหมือนกัน แต่ปัญหามันก็คือเถาหยางมีที่ดินไม่เพียงพอ

เธอเดาว่าถ้าเธอต้องการขยายพื้นที่เถาหยาง เธอจะต้องเดินไปบริเวณโดยรอบของเถาหยาง และต้องเก็บผลึกนิวเคลียสของซอมบี้ให้ครบ

ตอนนี้ซอมบี้กำลังออกอาละวาด เธอยังไม่กล้าออกไปข้างนอก อีกอย่างเธอก็ไม่รู้จะไปหาผลึกนิวเคลียสจากไหน

ซูเถาได้แต่ปลอบใจ “เอาแบบนี้ก่อนแล้วกันค่ะ ผักชุดต่อไป เราก็ให้ผู้เช่าที่ยังไม่ได้ซื้อมีสิทธิ์ก่อน”

เฉียนหลินได้ยินถึงความลำบากใจของเธอ ดังนั้นเธอจึงหยุดและไม่พูดถึงมัน เธอพูดอย่างกระฉับกระเฉงว่า

“เถ้าแก่ เดี๋ยวฉันจะโอนรายรับเดือนนี้ให้คุณ เดือนหน้า เป้าหมายรายได้จากพื้นที่เพาะปลูกของพวกเราต้องมี 200,000 เหลียนปัง”

+80,000 เหลียนปัง

เมื่อซูเถาเห็นการแจ้งเตือนว่ามีรายการบัญชีเข้า เธอดูที่เครื่องมือสื่อสารก็เหมือนว่าพลังของเธอจะถูกชาร์จเต็มแล้ว รู้สึกว่าเลือดของเธอสูบฉีดอีกครั้ง