บทที่ 87 หรูหรา
กู้ลั่วจิ่นเดินเข้ามาในบริษัทพร้อมกับเจียงหนิงเอ๋อ และทั้งคู่ก็แสดงความตกตะลึงในความหรูหราของบริษัท
ถึงแม้ว่าทั้งสองจะเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่กลุ่มบริษัทในเครือตระกูลของพวกเขาก็ไม่ได้หรูหราอะไร และในสักพัก พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเจ้านายผู้อยู่เบื้องหลังของบริษัทนี้เป็นอย่างไร
หลังจากแจ้งจุดประสงค์ที่มากับแผนกต้อนรับเสร็จ แผนกต้อนรับก็รีบเรียกคนส่งพวกเขาเข้าไปแผนกฝ่ายบุคคลทันที
ทั้งสองคนเดินตามพนักงานมาถึงแผนกฝ่ายบุคคล แล้วเจียงหนิงเอ๋อก็เข้าไปในห้องสัมภาษณ์ และกู้ลั่วจิ่นก็รอเธออยู่ด้านนอก
สำหรับงานนี้ จริง ๆแล้วเจียงหนิงเอ๋อมีความมั่นใจมาก คุณวุฒิทางการศึกษาของเธอค่อนข้างดี และก่อนหน้านี้มีประสบการณ์การทำงานในด้านนี้ ถึงแม้……ส่วนใหญ่จะเป็นประวัติการทำงานที่ใช้เส้น แต่อย่างน้อยหลังจากที่ฝ่ายบุคคลเห็นประวัติของเจียงหนิงเอ๋อแล้วก็รู้สึกพึงพอใจ
หลังจากนั้น ผู้สัมภาษณ์ก็สุ่มถามคำถามสองสามข้อ และก็บังเอิญเป็นคำถามที่เจียงหนิงเอ๋อได้เตรียมและเรียนรู้เพื่อการสัมภาษณ์ไว้ในก่อนหน้านี้ ดังนั้นการสัมภาษณ์นี้จึงเป็นไปอย่างราบรื่น และเธอก็ผ่านการสัมภาษณ์ในไม่ช้า
“ยินดีกับคุณหนูเจียงด้วย คุณผ่านการสัมภาษณ์อย่างราบรื่น”หัวหน้าแผนกฝ่ายบุคคล เวินหย่อนจับมือกับเจียงหนิงเอ๋อ และยิ้มแสดงความยินดีกับเธอ
หลังจากได้งานนี้ ในใจของเจียงหนิงเอ๋อก็มีความสุขมากเหมือนกัน ไม่พูดถึงว่าเธอจะชอบงานนี้จริงหรือไม่ แต่นี่ก็พิสูจน์ความสามารถของเธอแล้วประการหนึ่ง และประการที่สองคือเมื่อนึกถึงในอนาคตเธอจะได้ทำงานที่นี่ และไม่แน่ว่าวันไหนอาจจะต้องเผชิญหน้ากับเจียงหยุนเอ๋อด้วย ในใจของเธอก็อดไม่ได้ที่จะรอคอยงานนี้
“คุณหนูเจียง ต่อมาเราจะพาคุณไปที่แผนกออกแบบเพื่อทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม คุณคิดว่าอย่างไร?” เวินหย่อนเอ่ยปากพูดขึ้น
เจียงหนิงเอ๋อไม่ได้คัดค้านอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ และพยักหน้าตกลงในทันที
หลายคนพากันมาถึงแผนกออกแบบพร้อมกัน และเมื่อรู้ข่าวว่ามีคนสมัครตำแหน่งรองผู้จัดการแผนกออกแบบ หัวหน้าแผนกออกแบบอู๋เฉิงยี่ ก็ออกมากล่าวทักทายต้อนรับอย่างกระตือรือร้น:“คนนี้ก็คือคุณหนูเจียงหนิงเอ๋อ?สวัสดี ฉันเป็นหัวหน้าแผนกออกแบบ ฉันชื่ออู๋เฉิงยี่ คุณหนูเจียงมีความสามารถเช่นนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย อนาคตสวยงามและน่ารอคอยจริง ๆ!”
เมื่อได้ยินคำชมของอู๋เฉิงยี่ เจียงหนิงเอ๋อก็อดไม่ได้และโค้งริมฝีปากเบาๆ กับแสดงสีหน้าที่ยากจะปกปิดความภาคภูมิใจได้
เธอปิดปากและหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า:“ไม่กล้าไม่กล้า หัวหน้าอู๋ต่างหากเป็นทิศทางที่ฉันควรจะสู้”
รูปร่างหน้าตาของเจียงหนิงเอ๋อค่อนข้างสวยมาก และเมื่อกี้เวินหย่อนก็ส่งประวัติของเธอให้กับอู๋เฉิงยี่แล้วฉบับหนึ่ง ดังนั้น อู๋เฉิงยี่ยังคงพอใจกับเพื่อนร่วมงานคนใหม่คนนี้มาก และทัศนคติของเขากระตือรือร้นมาก
เมื่อได้ยินว่ารองผู้จัดการแผนกคนใหม่รับตำแหน่ง พนักงานในแผนกหลายคนก็ต่างวางมืองานของตัวเองลง และเดินไปทักทายกับเจียงหนิงเอ๋อ โดยต้องการทำความคุ้นเคยกับเธอก่อน
เมื่อถูกล้อมรอบไปด้วยผู้คนมากมายเช่นนี้ ในใจของเจียงหนิงเอ๋อยิ่งภูมิใจมากขึ้น และอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเจียงหยุนเอ๋อที่เดินออกไปอย่างรีบร้อน และไม่รู้ว่า……หากเจียงหยุนเอ๋อเห็นสถานการณ์ของเธอตอนนี้จะอิจฉาริษยามากแค่ไหน?คาดว่าเรื่องพวกนี้คงเป็นเรื่องที่เธอนึกไม่ถึงเลย!
คนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันคุณหนึ่งคำฉันหนึ่งคำ เริ่มโม้กันในแผนกอย่างรวดเร็ว จนลืมงานเดิมของพวกเขาไปอย่างสิ้นเชิง
ในเวลานี้เอง จู่ ๆก็มีคนมาเคาะประตูของห้องทำงาน ฝูงชนที่ส่งเสียงดังในห้องทำงานต่างก็สงบลงกะทันหัน และทุกคนก็หันไปมองกัน
ดีที่ไม่ใช่เจ้านาย แต่เป็นเพียงแค่พนักงานเล็ก ๆคนหนึ่ง เขายื่นอยู่ที่ประตูและพูดว่า:“ผู้จัดการทั่วไปบอกว่ามีประชุม ขอให้หัวหน้าแผนกทุกคนไปที่ห้องประชุม”
คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ตะลึง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังไม่คุ้นเคยกับผู้จัดการทั่วไปอย่างเจียงหยุนเอ๋อ แต่ว่าพวกเขาก็รู้ว่าเจ้านายของพวกเขาเป็นคนที่เข้มงวดคนหนึ่ง และไม่ปล่อยให้ใครก็ได้มาเป็นผู้จัดการทั่วไปง่ายๆอย่างแน่นอน ดังนั้นก็มีความหวาดกลัวต่อผู้จัดการทั่วไปคนใหม่ที่เพิ่งรับตำแหน่งเหมือนกัน
“งั้นเหรอ โอเค พวกเรารู้แล้ว จะรีบตามไป ขอบคุณมาก” เวินหย่อนหันกลับไปตอบรับ และพนักงานคนนั้นก็รีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว อาจจะเป็นเพราะจะไปแจ้งอีกแผนกหนึ่ง
เวินหย่อนและอู๋เฉิงยี่ต่างเตรียมตัวจะไปห้องประชุม และหันกลับมาบอกกับพนักงานทุกคนว่า:“โอเค พวกคุณกลับไปทำงานต่อเถอะ”
“งั้นฉัน……มาเริ่มงานอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้เหรอ?”เจียงหนิงเอ๋อถามขึ้นอย่างกะทันหัน
อู๋เฉิงยี่เหลือบมองไปที่เธอ และหัวเราะทันที และตบไหล่ของเธอเบาๆ แล้วพูดว่า:“คุณหนูเจียง ถึงแม้ว่าตอนนี้คุณยังไม่เริ่มงานอย่างเป็นทางการ แต่ก็ไม่ต่างกันมาก ไปประชุมพร้อมกับพวกเราเถอะ ถือว่าเป็นการคุ้นเคยเกี่ยวกับงานก่อน”
ถึงแม้ว่าเจียงหนิงเอ๋อเพิ่งจะสัมภาษณ์สำเร็จเมื่อกี้ และแม้แต่บัตรพนักงานก็ยังไม่มี แต่ในเมื่ออู๋เฉิงยี่พูดมาอย่างนี้ เธอก็คิดที่จะให้เกียรติเขา นอกจากนี้……ในใจของเธอก็แอบมีความสุข รู้สึกว่านี่เป็นเพราะคนอื่นชื่นชมในตัวเธอ
ในบริษัทอื่น ๆ ส่วนมากในสถานการณ์แบบนี้ พนักงานที่ยังไม่ได้เป็นพนักงานอย่างเป็นทางการจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการประชุมอย่างแน่นอน แต่เมื่อเธอถูกปฏิบัติเช่นนี้ เป็นเพราะคนพวกนี้ยอมรับในความสามารถของเธอแน่นอน
เจียงหนิงเอ๋อคิดในใจอย่างภาคภูมิใจ และรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็สดใสมากขึ้น:“ดีเลย…… แต่ว่า……นี่มันคงไม่เป็นไปตามกฎหรือเปล่า?ไม่เป็นไรจริง ๆใช่ไหม?”
ใบหน้าของอู๋เฉิงยี่มีความลังเลเล็กน้อย เมื่อกี้เขาพูดเพื่อสุภาพเท่านั้น ไม่คิดว่าเจียงหนิงเอ๋อจะตอบตกลงจริง ๆ แต่ในเมื่อตอนนี้พูดไปเช่นนี้แล้ว ก็ไม่สะดวกที่จะกลับคำ และเขาก็พูดว่า:“ไม่เป็นไร คุณหนูเจียงก็ไปพร้อมกับพวกเราเถอะ”
เจียงหนิงเอ๋อหันศีรษะกลับไปส่งกะพริบตาให้กู้ลั่วจิ่น และในดวงตาของเขาไม่สามารถซ้อนความภาคภูมิใจของเขาได้
ทุกคนมาถึงห้องประชุม และในห้องประชุมก็นั่งกันอยู่หลายคนแล้ว เจียงหนิงเอ๋อสังเกตห้องประชุมอย่างละเอียด และรู้สึกว่าบริษัทนี้หรูหรายิ่งนัก แต่ว่า……มันเหมาะสมกับตัวตนของเธอจริง ๆ
เธอควรจะอยู่ในบริษัทแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?
ในห้องประชุม ผู้จัดการหัวหน้าทุกแผนกต่างเริ่มทักทายกัน เมื่อรู้ว่าแผนกออกแบบมีรองผู้จัดการคนใหม่ ทุกคนต่างก็ทักทายเจียงหนิงเอ๋ออย่างกระตือรือร้น
“ย๊า คุณหนูเจียงอายุยังน้อยขนาดนี้ อนาคตข้างหน้าสดใสแน่นอน”คนหนึ่งกล่าวอย่างชื่นชม
เจียงหยุนเอ๋อยิ้มและโบกมือ แต่ในใจของเธอไม่ต้องพูดถึงว่าภูมิใจมากแค่ไหน:“ไม่ไม่ ฉันยังมีข้อบกพร่องมากมาย”
ในเวลานี้เอง ประตูของห้องประชุมถูกเปิดออก เจียงหยุนเอ๋อเดินเข้ามาจากด้านนอก และออร่าของคนทั้งคนก็เปลี่ยนไป ราวกับเป็นนักธุรกิจชนชั้นสูง
เจียงหนิงเอ๋อตกตะลึงเล็กน้อยในตอนแรก อยากจะถามคนรอบข้างว่า ทำไมเจียงหนิงเอ๋อถึงมาอยู่ที่นี่ ต่อไปก็เห็นเธอนั่งลงในตำแหน่งของผู้จัดการทั่วไป
และที่น่ากลัวที่สุดก็คือ สำหรับการกระทำแบบนี้ของเธอ กลับไม่มีใครคัดค้านเลยสักคน นั้นก็หมายความว่า……เธอเป็นผู้จัดการทั่วไปของที่นี่จริง ๆ?
เจียงหนิงเอ๋อตกตะลึงไปอย่างสิ้นเชิง และในขณะนี้เอง เจียงหยุนเอ๋อก็บังเอิญหันมองมาที่เธอ และขมวดคิ้ว จากนั้นมองไปที่เวินหย่อนหัวหน้าแผนกฝ่ายบุคคลด้วยความสงสัย