110 เริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วง
หลังจากวันหยุดฤดูร้อนสิ้นสุดไปเนิ่นนาน
รายการแสดงนิทานภาพของดินแดนซิลเวอร์ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ตั้งแต่ในความพยายามครั้งแรก และมุ่งไปตามเส้นทางได้อย่างราบรื่นจริง ๆ
ในตอนนี้ การแสดงนิทานภาพแบบหลายตอนต่อเนื่องได้เริ่มขึ้นแล้ว โดยมีชื่อว่า「ตำนานอัศวินสีชาด: การก่อตั้งอาณาจักร」ที่จะออกอากาศวันละนิดละหน่อยทุกวัน
สมแล้ว ดูเหมือนจะเลือกหัวเรื่องได้ดีมาก ประวัติของโซมะ อัศวินสีชาด・วีรชนที่ไม่ธรรมดาที่ว่ากันว่ามีส่วนร่วมในการก่อตั้งอาณาจักรอาร์ตัวร์ ออกอากาศด้วยการปรับแต่งเรื่องราวให้มีพลังน่าทึ่ง ดราม่า และมีชีวิตชีวา
หากคุณเป็นประชาชนของอาณาจักรอาร์ตัวร์ เรื่องราวของอัศวินสีชาดเป็นที่รู้จักกันดียิ่งกว่าเรื่องราวการก่อตั้งอาณาจักรที่ออกอากาศไปก่อนหน้านี้เสียอีก เพียงแค่ชื่อเพียงอย่างเดียวก็ได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากมีการออกอากาศแปดครั้งต่อวัน ดังนั้นคุณสามารถเลือกช่วงเวลาที่อยากจะดูได้โดยไม่มีปัญหา
เช่น ที่ฉันกำลังดูอยู่ในตอนนี้
ฉันรู้จักแค่ชื่ออัศวินสีชาด แต่ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน หรือมีชีวิตแบบไหน ดังนั้นจึงค่อนข้างน่าสนใจมาก
ถึงจะน่าหงุดหงิดไปบ้างกับการรอคอย เนื่องจากเป็นการออกอากาศทีละเล็กทีละน้อยทุกวัน
แต่ก็รู้สึกไม่เลวเลยสำหรับการคาดหวังความสนุกของวันพรุ่งนี้
และ สถานีออกอากาศเมืองหลวง
แผนการสร้างชื่อซึ่งฮิลเดโทร่าเป็นกังวลยังไม่เข้าที่เข้าทาง แต่ก็มีสัญญาณแจ้งเกิด
「ทำอาหารกับเจ้าหญิง」ที่นำแสดงโดยเธอซึ่งเพิ่งเริ่มฉายไปเมื่อไม่นานนี้ ได้แทรกซึมอย่างรวดเร็ว
เมื่อวันก่อน เมนูที่ฮิลเดโทร่าได้ทำในรายการปรากฏขึ้นในเมนูของหอพัก และทำให้เกิดความตื่นเต้นแปลก ๆ ดังนั้นดูเหมือนว่าจะได้รับการตอบรับค่อนข้างดี
เนื่องจากห้องครัวเป็นสถานที่หลักในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ทำให้เป็นเรื่องที่ดีมากที่สามารถถ่ายทำที่นี่ในเมืองหลวงได้โดยไม่ต้องไปไหนไกล และดูเหมือนว่าฮิลเดโทร่าจะถ่ายทำทุกวันหลังเลิกเรียน
สถานีออกอากาศตั้งใจที่จะโปรโมต 「ทำอาหารกับเจ้าหญิง」อย่างชัดเจน
และฮิลเดโทร่าก็กำลังทำทุกวิถีทางเพื่อยกระดับรายการ
เธอต้องฝึกฝนมาอย่างหนัก
ที่น่าสนใจคือ ฉันรู้สึกได้ถึงความมั่นใจในทักษะการทำอาหารและทักษะการใช้มีดทำครัว คงเพราะมีแรงจูงใจที่ล้นเหลือ
คิดว่าเวลาผ่านไปได้ไม่ถึงหนึ่งเดือนนับจากที่เธอเริ่มทำอาหาร แต่ในตอนนี้เธอกำลังหั่นวัตถุดิบเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ในขณะที่คุยกับพ่อครัวได้โดยไม่แม้แต่จะมองมือตัวเอง
เป็นทักษะเชี่ยวชาญ ไม่ใช่ทักษะของมือใหม่อีกต่อไป
ม๊า อาจจะเป็นเพราะความสามารถในการเรียนรู้สูงของเธอเอง
「ทำอาหารกับเจ้าหญิง」พึ่งเริ่มต้น แต่ณ ตอนนี้ก็มองเห็นแต่ความเป็นไปได้ของความสำเร็จเท่านั้น
ถ้าหากไม่ได้ทำผิดพลาดอะไรใหญ่โต ก็น่าจะเติบโตเป็นรายการที่โด่งดังได้
และ ฉันในตอนนี้กำลังเดินเล่นอยู่ที่เมืองรอบปราสาทกับริโนกิส
การถ่ายทำในดินแดนลิสตันเป็นไปได้ด้วยดี
หรือให้พูดก็คือ เพราะตารางวันหยุดฤดูร้อนที่ยุ่งเหยิง เลยทำให้สถานการณ์ปัจจุบันของฉันค่อนข้างสงบ
เพราะอยู่ในระหว่างการจำแนกรายการที่ถ่ายทำเอาไว้ ฉันจึงมีเวลาเหลือเฟือพอสมควร
ค่อนข้างสะดวก
มีอยู่ช่วงหนึ่ง ฉันคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับการฆ่าเบนเดริโอ้ซึ่งวางตารางงานอย่างไร้เหตุผล แต่ถ้ากล้าบอกว่าเป็นการสร้างช่วงเวลาพิเศษนี้ ฉันคิดว่าฉันสามารถให้อภัยเขาได้
การฝึกของแกนดอล์ฟและลินเนตต์ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อสิ้นสุดช่วงวันหยุดฤดูร้อนได้เสร็จสิ้น จนถึงจุดที่พวกเขาสามารถใช้งานในการต่อสู้จริงได้
เพราะมีการสร้างรากฐานมาแต่เดิมอยู่แล้ว ดังนั้นจึงใช้เวลาไม่นาน พวกเขาก็เริ่มเชี่ยวชาญ「คิ」
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเติบโตของแกนดอล์ฟนั้นค่อนข้างน่าประทับใจ
ริโนกิสกับลินเนตต์มีงานประจำในฐานะสาวใช้ แต่แกนดอล์ฟสามารถนับได้ว่าเป็นกำลังสำหรับต่อสู้ที่มีค่ามากกว่าแค่การแบกสัมภาระ เพราะเขาสามารถใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกด้วยตัวเองได้
นับเป็นการคำนวณผิดพลาดที่น่ายินดี
ฉันอยากให้เขามีส่วนร่วมในการหาเงิน และบรรณาการให้ฉัน
――ในขณะที่กำลังคิดเรื่องพวกนี้อยู่ ฉันก็เข้าไปในตรอกด้านหลัง
จุดหมายคือ บาร์ของหนู
“――โย่ นานแล้วนะที่ไม่ได้มา”
วันนี้「ที่พักหนูเงาสนธยา」ในตรอกด้านหลังก็ยังเต็มไปด้วยพวกอันธพาลและขี้เมา แม้ตะวันจะยังคงสูงแสบตา
“สวัสดี อันเซล”
พวกเขารีบเว้นระยะทันทีที่เห็นการปรากฎตัวของฉัน ฉันนั่งข้างกันกับริโนกิสที่ที่นั่งเคาน์เตอร์ แล้วทักทายอันเซลที่ทำน้ำผลไม้ให้ทันที
“ที่คอยดูแลริโนะอยู่เสมอ ขอบคุณมาก”
ริโนะเป็นนามแฝงของริโนกิสในฐานะนักผจญภัย ยังไงก็ตามดูเหมือนว่าริโนะจะเป็นชื่อเล่นของเธอสมัยตอนที่ยังเป็นนักเรียนอยู่ด้วยเช่นกัน
“ข้าแค่ให้ยืมสถานที่เท่านั้น ไม่ได้ดูแลอะไรเป็นพิเศษด้วยซ้ำ”
――แน่นอนว่ามีอะไรมากกว่านั้น ฉันรู้โดยไม่ต้องถาม
ริโนกิสออกไปหาเงินมาแล้วหลายครั้ง ดูเหมือนชื่อของเธอจะขายดีในฐานะผู้มาใหม่ที่น่าคาดหวังภายในกิลด์นักผจญภัย
ฉันแน่ใจว่าต้องมีผู้คนมากมายที่ต้องการเชิญเธอเข้าร่วม คนที่ต้องการติดตามเธอ และคนที่พยายามค้นหาว่าเธอเป็นใคร
มือที่ติดตามมาทั้งต่างหยุดลงที่นี่
นั่นคือเหตุผลที่กระทั้งตอนนี้ นักผจญภัยมือใหม่ริโนะสามารถกลับมาเป็นริโนกิสได้เสมอ
และเรื่องนั้นเป็นไปได้ ก็ด้วยความร่วมมือของอันเซลและคนอื่น ๆ
ฉันแน่ใจว่าต้องมีเรื่องดิบเถื่อนเกิดขึ้นกับริโนกิสแน่ ๆ
“ว่ากันตามตรง ข้ารู้สึกกังวลที่เห็นเจ้ามาเองโดยตรงมากกว่า”
“――นั่นสิ การที่ลิลลี่มาเอง แปลว่ามีเรื่องที่อยากจะคุยจริงไหม?”
เฟรซ่าซึ่งทำงานเป็นพนักงานมานั่งข้างฉัน ฝั่งตรงข้ามกับริโนกิส
“เร็วกว่าและเป็นประโยชน์กว่าน่ะ”
อย่างที่เห็น ด้วยร่างกายตอนนี้ฉันจึงมาได้แค่ช่วงหลังเลิกเรียน
ฉันมีเวลาไม่มากนักเพราะใกล้จะถึงเคอร์ฟิวแล้ว ที่นี่ก็ห่างสถาบันพอสมควรด้วย
“อันเซล เฟรซ่า”
ในที่สุดมาถึงจุดที่ฉันได้ข้อสรุปแล้วว่าต้องการมือให้มากที่สุด ดังนั้นฉันจะบอกพวกเขาว่าฉันมาที่นี่เพื่ออะไร
“――จะบรรณาการให้ฉันได้ไหม? หนึ่งพันล้านครัมน่ะ”
“……รู้ไหม ข้ากลัวเวลาที่เจ้าพูดแบบนั้น กลัวจริง ๆ เจ้าจริงจังกับเรื่องนั้นใช่ไหม?”
“อะฮะๆๆๆ ไม่มีทางหรอก ลิลลี่เป็นเด็กตลก โฮร่า เลิกล้อเล่นแย่ ๆ ได้แล้ว……ไม่ใช่เรื่องควรเอามาล้อเล่นเลยนะ……”
ดูเหมือนว่าฉันจะพูดตรงเกินไป เลยลงเอยด้วยความกลัว
อันเซลมีใบหน้าที่ไม่ชอบใจมาก เฟรซ่ายิ้มแห้ง ๆ ด้วยดวงตาที่ไร้แสง
“ขอโทษด้วย ฉันคงรีบร้อนพูดเกินไป เดี๋ยวจะขออธิบานตั้งแต่ต้น”
“ไม่จำเป็น ต่อให้อธิบายยังไง คำตอบก็จะไม่เปลี่ยนแปลง”
“หนึ่งพันล้านเป็นไปไม่ได้……ถึงจะมีร้อยชีวิตยังไงก็ไม่พอ……”
“แค่ฟังก็พอ”
แน่นอนว่าถ้าจู่ ๆ คุณถูกบอกให้บรรณาการเงินหนึ่งพันล้านครัมให้ ก็ไม่มีปฏิกิริยาอื่นใดนอกจากความสับสน
สองคนนี้รู้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของฉัน ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรหากจะปฏิเสธ……ยังไงก็ต้องมีความกังวลใจกันอยู่แล้ว
สำหรับตอนนี้ พวกเขารับมือในสถานการณ์การโดนข่มขู่ในรูปแบบข้อเสนอ
ฉันไม่ได้ตั้งใจจะขู่
ถ้าพวกเขายืนยันปฏิเสธ ฉันก็จะเลิก
ถ้าเจ้าตัวไม่ให้ความร่วมมือโดยความสมัครใจของตัวเอง เรื่องก็ไม่มีทางออกมาดีได้
“ฉันไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าริโนะกำลังพยายามหาหนึ่งพันล้านครัมนะ? ฉันอยากให้ทั้งสองคนร่วมมือด้วย
แน่นอนว่าฉันจะจ่ายค่าตอบแทนสำหรับเรื่องนั้น”
“”ค่าตอบแทน?””
บางทีอาจจะตระหนักได้แล้วว่าไม่ใช่การข่มขู่ ดูเหมือนพวกเขาจะให้ความสนใจในที่สุด
“――ฉันจะฝึกทั้งสองคนให้แข็งแกร่งกว่าในตอนนี้เป็นร้อยเท่าไงล่ะ”
“……………”
“…………เอาจริงดิ?”
สีหน้าของอันเซลและเฟรซ่าเปลี่ยนไป
พวกเขาจ้องมองมาที่ฉันด้วยสายตาจริงจังจนน่ากลัว จริงจังไปทุกจุด
สมกับที่เป็นคนในโลกมืด พวกเขาปรารถนาต่อคำพูดแบบนั้น
เมื่อพิจารณาถึงอนาคต ฉันเดาได้ว่าพวกเขาต้องเข้าใจในทันทีว่านั่นมีค่ามากกว่าเงินหนึ่งพันล้านครัม
“เอาจริงสิ ก่อนอื่นเลย ฉันคิดว่าริโนะแข็งแกร่งขึ้นประมาณห้าสิบเท่านับตั้งแต่ที่เธอเริ่มฝึกฝนมา”
เน๊ะ เมื่อถูกถาม ริโนกิสก็เอียงหัว
“ดิฉันไม่รู้ว่าห้าสิบเท่าไหม แต่ดิฉันคิดว่าตนเองแข็งแกร่งขึ้นมาจนถึงจุดที่ตัวดิฉันก่อนหน้านี้ไม่มีโอกาสเอาชนะเลยแม้แต่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ค่ะ”
อืม ต้องอย่างงั้นสิ สำหรับฉันจะห้าสิบเท่าร้อยเท่าก็เหมือนกันไม่มีปัญหา
“เดี๋ยวก่อน ลิลลี่เป็นนักศิลปะต่อสู้มือเปล่า เหมือนกับริโนะใช่ไหม? ข้าไม่ใช่คนประเภทที่จะต่อสู้ด้วยมือเหล่าหรอกนะ ถ้ายังงั้นยังจะสามารถฝึกให้ได้หรือเปล่า?”
“แน่นอน”
อันเซลสามารถดึงท่อไปป์ที่เป็นเมจิกเวพพอนส์ออกมาได้ ฉันจำได้ดีเพราะได้สู้ด้วยหลายครั้ง
“ให้เป็นเรื่องที่คุยกันเฉพาะแค่ตรงนี้…… ฉันคิดว่าลิลลี่ก็น่าจะรู้ตัวอยู่แล้ว ฉันมาจากโลกแห่งการลอบสังหาร ก็ได้เหรอ?”
“แน่นอน”
ฉันตอบกลับไปแบบเดียวกันให้เฟรซ่าที่ถามกับฉันด้วยการกระซิบเสียงต่ำ
แต่แรกแล้ว ประโยชน์หลักของ「คิ」คือการพัฒนาความสามารถทางกายภาพขั้นพื้นฐาน
“――งั้นเพื่อเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจ ฉันจะเซอร์วิสค่าตอบแทนล่วงหน้าให้สักนิดหน่อย ริโนะฝากร้านด้วยนะ”
“ค่ะ”
ในห้องด้านหลังของอันเซล ฉันพูดคุยเรื่อง「คิ」กับทั้งสองคนเล็กน้อย
“รู้จักอยู่”
“นั่นสิ พวกตัวอันตรายระดับสูงใช้กันอยู่”
โห๊? ว่าไงนะ มีคนใช่ได้สินะ
ฉันอยากรีบลุกแล้วพุ่งไปเจอพวกเขา
อันเซลกับเฟรซ่าแม้จะไม่รู้ว่า「คิ」คืออะไร แต่ดูเหมือนพวกเขาจะรู้ว่ามีใครบางคนที่สามารถแสดงพลังที่ไม่สามารถระบุได้ออกมา
ม๊า ถ้าเรียกว่าพลังที่ไม่อาจระบุตัวตนได้ ฉันคิดว่าฉันก็คงจัดอยู่ในประเภทนั้นเหมือนกัน
“แล้วข้าจะใช้ได้หรือเปล่า?”
“ได้สิ”
“เพื่อเป็นการยืนยัน ข้าแค่ต้องช่วยหารายได้หนึ่งล้านครัมใช่ไหม?”
“ฉันจะไม่พูดว่าจะบังคับให้ไปหาเงินมา โดยพื้นฐานแล้วจะเป็นรูปแบบให้ติดตามริโนะไป”
และคำตอบของทั้งสองคนคือ――
พิจารณาจากสีหน้าของพวกเขาแล้ว ดูเหมือนว่าไม่จำเป็นต้องถามด้วยซ้ำ
――ด้วยเหตุนี้ แผนการหาเงินพันล้านครัมสำหรับใช้เป็นทุนในการจัดงานแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับประเทศจึงเริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจัง เมื่อเข้าสู่ต้นฤดูใบไม้ร่วง
นานๆเจอร้านเอแคลร์ที่เป็นเอแคลร์ ไม่ใช่ชูครีมชื่อเอแคลร์ ซื้อมากินอร่อยดี แต่ถูกใจชูครีมใส่ครีมทะลักมากกว่า ฮา