ตอนที่ 129: ครั้งแรกของอเวเลีย (*R-18+)
ขณะที่พวกเขากําลังจูบกันอย่างล้ําลึก เอธานค่อย ๆ ผลักมังกรของเขาเข้าไปข้างในของเธอ
เขายังคงจูบและใช้มือที่สั่นเพื่อลูบไล้หน้าอกของเธอและบีบหัวนมของเธอ เพื่อให้เธอรู้สึกตื่นตัวในขณะที่เขาค่อยๆเข้าไปในถ้ําสีชมพูเปียกของเธอ
รอยเลือดเล็กๆ ออกมาจากที่ๆนั้นของอเวเลีย ขณะนั้นที่เอธานก็ช่วยให้เธอมีความสุขด้วยการจูบลึกๆ และใช้มือที่สั้นของเขาลูบไล้แตงอ่อนๆ ของเธอ
เขาค่อย ๆ เริ่มขยับสะโพก ในขณะที่มังกรของเอธานก็สํารวจโลกสีชมพูใหม่เอี่ยมของเธอ
อเวเลียรู้สึกถึงความเจ็บปวด แต่ก็ไม่มาก ในขณะที่เธอรู้สึกดีไปพร้อมๆกัน และหลังจากที่เอ ธานเริ่มขยับสะโพกของเขา เพื่อให้มังกรของเขาเต้นอยู่ในตัวเธอ เธอรู้สึกได้ถึงความสุขครั้งใหม่ที่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อน
“อ๊าาาา…เอธาน…รู้สึกดีจังเลย…” เธอรู้สึกทั้งดีและสะอึกเล็กน้อย เนื่องจากการฉีกขาดของส่วนลับของเธอ
เอธาน ลุกขึ้นนอนหงาย ในขณะที่เขาคว้าเอวของอเวเลียแล้วดึงเธอเข้าหา ก่อนที่จะขยับเธอขึ้นและลงโดยให้เข้ากับการเคลื่อนไหวของสะโพก
อเวเลียมีรอยยิ้มอันเบิกบานบนใบหน้าของเธอเมื่อหลับตา ขณะที่เธอรู้สึกดีกับมังกรของเอธานที่เคลื่อนไหวอยู่ภายในตัวเธอ
“อ๊าาาา..อ๊าา…”
ไม่นาน อเวเลียก็รู้สึกดีขึ้นและดีขึ้นอีก เมื่อเอธานทําต่อเพราะความเจ็บปวดเล็กน้อยนั้นได้หายไป และความสุขเข้ามาแทนที่แล้ว
เธอก้มลงจูบเอธาน ขณะขยับสะโพกอย่างแข็งขัน
ไม่นานเธอก็ถึงจุดสุดยอดและหลั่งออกมา
หลังจากนั้น เธอรู้สึกถึงบางสิ่งภายในอาณาจักรต้นกําเนิดของเธอ เมื่อพลังงานคริสตัลขาวปรากฏขึ้นที่นั่น อ่านนิยายได้ที่
เธอรู้อยู่แล้วว่ามันคืออะไร
เอธานลุกขึ้นอุ้มเธอออกจากเตียง
“นายกําลังทําอะไร” อเวเลียถาม เมื่อเห็นรอยยิ้มของเอธาน
“ฮิฮิ เธอยังไม่เคยสัมผัสมังกรที่อัพเกรดของฉันเลย ได้เวลาชิมมันแล้ว”
เมื่อได้ยินแบบนั้น อเวเลียก็มองไปที่เทียน่าที่เดินกะเผลกอยู่บนเตียงและตัวสั่นก่อนจะคิดว่า เธอคงจะรู้สึกดีแค่ไหนที่มีใบหน้าแบบนั้นและกลายเป็นคนเดินกะเผลกแบบนั้นกันนะ? :
เธอรู้สึกประหม่า แต่ก็ตื่นเต้นเช่นกัน เธอเอามือคล้องคอของเอธานเพื่อให้จับได้ดีขึ้น
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เอธานยิ้มและขยับมือไปที่ลําตัวด้านหลังของเธอ ก่อนที่จะป้อนมังกรของเขาเข้าไปในตัวเธอ ในขณะที่มันเริ่มสั่น
“อ้าาาาาาาาา…”
เสียงครวญครางดังก้องไปพร้อมกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อ
วันเวลาผ่านไป เมื่อพวกเขาอาศัยอยู่ในพื้นที่พิเศษนี้และฝึกฝนร่วมกัน
ถึงตอนนี้ เอธานก็ได้เติมเต็มอาณาจักรพลังงานของไมค์และเครินด้วยคริสตัลแล้ว
ในเมื่อเขามีความสามารถในการเสริมกําลงเพื่อน ๆ แล้วทําไมเขาถึงไม่ทําอย่างนั้นล่ะ? นี่คือ ความคิดของเขา
แม้ว่าภูมิหลังของเครินจะไม่มีใครรู้ แต่เธอก็สามารถไว้ใจได้
เหตุผลก็คือตอนที่เธอค้นพบความลับเหล่านี้ เธอสร้างสัญญาแห่งความตายว่า หากเธอเคยบอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้ วิญญาณของเธอก็จะกระจัดกระจายไป
ทุกคนตกใจมากที่เห็นเธอมาไกลขนาดนี้ แต่ไมค์ยิ้มและทําสัญญาแบบเดียวกัน
ไมค์และเครินยังได้รับคาถาจากมีมี่ เนื่องจากพวกเขาได้รับต้นไม้จีโนมที่ไม่เหมือนใคร
ต้นจีโนมของไมค์คือ [ เพดานที่มีมลทินของบาฮามุท] และต้นจีโนมของเครินคือ [ไข่มุกแห่งฟาร์ฮอไรซอน ]
เมื่อสร้างคอนเซปต์หลังจากสร้างอวตารต้นกําเนิดแล้ว ทั้งอวตารต้นกําเนิดและจิตวิญญาณของพวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้น
เพื่อสัมผัสถึงจิตวิญญาณของคุณและปลุกมันขึ้นมา อย่างแรกต้องมีแนวคิดระดับ S 3 แนวคิดแนวคิดระดับ SS 2 แนวคิด หรือแนวคิดระดับ SSS 1 แนวคิดก่อน
การปฏิบัติตามเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่งเหล่านี้อาจทําให้จิตวิญญาณของคุณแข็งแกร่งพอที่จะถูกสัมผัสโดยอวตารต้นกําเนิด แต่สถานการณ์ของเอธานนั้นแตกต่างออกไป เขาจําเป็นต้องสร้างอวตารต้นกําเนิดที่แข็งแกร่งมากๆก่อน เพื่อเปิดประตูสู่พื้นที่พิเศษนี้
แน่นอน จิตวิญญาณของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน แต่มันก็เล็กน้อย เมื่อเทียบกับจิตวิญญาณ ที่แข็งแกร่งของเขาที่มีอยู่แล้ว
เนื่องจากไมค์ได้สร้างแนวคิดระดับ SSS [ กรงเล็บของอัศวินอเวจี ] เขาสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณของเขาและตื่นขึ้นได้สําเร็จ และอาณาจักรวิญญาณของเขาก็ถูกเปิดออกเช่นกัน
หมายความว่าเขาบุกทะลุไปยังขั้นของ Soul Altar Plane (โซล อัลทาร์ เพลน ) เช่นกันหลังจากผ่านไป 2-3 วัน เนื่องจากไม่มีพลังงานขาดแคลนในพื้นที่พิเศษนี้
เป็นเวลา 1 เดือนแล้วที่พวกเขาติดอยู่ที่นี่ และเอธานก็พาทุกคนออกไปทีละคน และทําให้แรงดึงดูดเหล่านั้นเป็นโมฆะด้วยการใช้อาร์คเพื่อที่ว่า เมื่อพวกเขาออกไปจากพื้นที่พิเศษนี้ในอนาคต พวกเขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับแรงดูดแปลกๆนั้นอีกต่อไป
ในเดือนนี้ ไมค์และอเวเลียได้สร้างแท่นบูชาจิตวิญญาณ ตอนนี้พวกเขาต้องทําให้มันแข็งแกร่งขึ้นด้วยการให้พลังงานต้นกําเนิดและพลังงานวิญญาณทุกวัน เมื่อแท่นบูชาจิตวิญญาณของพวกเขาแข็งแกร่ง พวกเขายังจะได้รับการตอบรับจากพลังวิญญาณ ซึ่งจะเสริมความแข็งแกร่งให้กับจิตวิญญาณของพวกเขา
แต่ตอนนี้ ทุกคนหยุดพักการทําเรื่องนี้และโฟกัสไปที่เทคนิคจีโนมอย่างเต็มที่
ผ่านไปอีก 1 เดือน
ทุกคนทําสิ่งเดียวในเดือนนี้ นั่นคือการเติมเต็มกิ่งแรกของพวกเขาในต้นไม้จีโนมเหล่านั้น
เทียน่าฝึกฝนอยู่นานในเรื่องนี้ หลังจากที่เธอบุกทะลวงไปยังขั้น Sout Altar Plane และจุดไฟเพียงกิ่งเดียวในขณะที่อีกกิ่งหนึ่งนั้นเหลืออีกไม่ถึงครึ่งแล้ว
มีมีให้ยาสีขาว 2-3 หยดเพื่อเพิ่มความเร็วในการดูดซับพลังงานเฉพาะจากวังวนของพวกมัน แม้ว่าพวกเขาจะกินยานั้นได้เดือนละครั้งเท่านั้น เพราะมันจะท่วมท้นสมองและจิตสํานึกของพวกเขามากเกินไป
แต่เอธานนั้นเป็นข้อยกเว้น เนื่องจากเขาสามารถหลับใหลได้เดือนละ 2 ครั้ง และเขาถือว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องที่เขาเคยประสบกับมันนั่นคือสถานะการฝึกฝนขั้นรุนแรงมาแล้วครั้งหนึ่ง
วันนี้เอธานกําลังจะเติมเต็มกิ่งแรกให้เสร็จ และจุดไฟในที่สุด
พลังงานสีม่วงเข้มค่อยๆ ถูกดึงออกมาจากวังวนโดยใช้การเชื่อมต่อของเขากับมัน ยิ่งจิตสำนึกของเขามีพลังมากเท่าไร เขาก็ยิ่งดึงพลังงานได้มากเท่านั้น และน้ําจากทะเลสาบสีขาวก็สามารถกระตุ้นจิตสํานึกของพวกเขาได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็วในการสกัด
หลังจากผ่านไป 30 นาที ในที่สุดเขาก็ทํามันเสร็จ เมื่อมุมสุดท้ายของกิ่งก็เต็มเช่นกัน และกิ่งไม้นั้นก็สว่างขึ้นด้วยแสงสีม่วงเข้ม
ขณะที่มันเกิดขึ้น พลังงานวิญญาณของเขาและพลังงานต้นกําเนิดก็ถูกดูด เมื่อมันรวมตัวกันไปที่ต้นไม้และผสมกับก๊าซสีม่วงที่ปล่อยออกมาจากต้นจีโนม
หลังจากนั้น หยดสีม่วงเข้มก่อตัวขึ้นก่อนที่พวกเขาจะรวมตัวกันและก่อตัวเป็นเมฆ
เมฆแตกกระจายด้วยสายฟ้าสีม่วง และฝนเริ่มตกบนต้นไม้สีม่วง เมื่อของเหลวสีม่วงก่อตัวเป็นแอ่งน้ํารอบต้นจีโนม
เมฆหดตัวเมื่อฝนยังคงตก และหลังจากนั้นครู่หนึ่ง เมฆก็หายไปเมื่อเกิดสระน้ําเล็กๆรอบต้นจีโนม
เมื่อเมฆหายไป ประกายไฟสีม่วงบางส่วนก็เข้ามาในอวตารต้นกําเนิดของเขา ในขณะที่เขาได้รับข้อมูลบางอย่าง